I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

GSDZ (盖世帝尊) ตอนที่ 49 ปลุกความทรงจำ

| GSDZ (盖世帝尊) | 958 | 2338 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

แปลไทย : XiaoeyuGao

เปลวเพลิงกำลังลุกไหม้อยู่ภายในเตาหลอมโอสถสีดำทองแดง ลวดลายบนเตาหลอมพลันเปลี่ยนไป ทำให้จิตใจ’เต้าหลิง’พลันสั่นระรัว ก่อนเผลอพูดออกมาว่า

“ นี่มันเกิดอะไรขึ้น ? ”

สายตาของมันจ้องไปยังลวดลายบนเตาหลอม รู้สึกยิ่งเปลวเพลิงร้อนแรงมากขึ้นเท่าไหร่ ลวดลายก็ยิ่งชัดเจนมากขึ้นเท่านั้น อีกทั้งด้านบนยังมีเงาปรากฏออกมา ราวกับบรรพบุรุษยุคดึกดำบรรพ์ มองดูเลือนรางอย่างยิ่ง

นอกจากนี้เงาที่น่ากลัวเหล่านี้ยังนั่งขัดสมาธิลอยอยู่ ราวกับกำลังหลอมโอสถทองคำ เหนี่ยวนำเปลวไฟทั้งห้าชนิด ดึงดูดพลังบริสุทธิ์โดยรอบ ลวดลายพลันน่ากลัวยิ่งขึ้นเรื่อยๆ ด้านในราวกับแฝงโลกเอาไว้ทั้งใบ ‘เต้าหลิง’ใจสั่นระรัว จ้องเขม็งไปยังลวดลายที่เลือนราง

มันกำลังเคลิบเคลิ้ม มองไปยังปรมาจารย์ที่กำลังหลอมโอสถทองคำชั้นยอด ด้วยวิธการหลอมโอสถชั้นยอดเยี่ยมของปรมาจารย์ต่างๆทำให้มันดูโง่เขลาไปในทันที…

ภายในห้องหลอมโอสถ เปลวเพลิงส่งเสียงดังชื่อชื่ออย่างต่อเนื่อง และแล้วเวลาก็ได้ล่วงเลยผ่านไปสองวัน เต้าหลิงยังคงอดหลับอดนอน ทว่าบุคลิกของมันยังคงไว้ซึ่งความสง่างาม ประดุจพระพุทธรูปล้ำค่า

วันที่สองนี้ทุกอย่างสำเร็จรุล่วงไปได้มาก มันยังคงมองเหล่าปรมาจารย์ชั้นยอดหลอมโอสถ เหมือนกับผ่านการหลอมโอสถมานับครั้งไม่ถ้วน เข้าใจถึงโอสถแต่ละชนิดได้อย่างลึกซึ้งถึงแก่นแท้ นัยน์ตามันฉายประกาย ตื่นตัวขึ้นมา ในใจเลื่อมใสศรัทธาเทคนิคการหลอมของเหล่าปรมาจารย์โอสถทั้งหลาย นี่สิผู้แข็งแกร่งที่แท้จริง

สายตามองสำรวจไปบนเตาหลอมโอสถ และพบว่าลวดลายบนเตาหลอมโอสถได้หายไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ทราบแน่ มันถอนหายใจออกมาก่อนพูดว่า

“ โชคดีจริงๆ ที่ได้ท่านทั้งหลายมาช่วย มิเช่นนั้นโอสถนี้คงใช้การไม่ได้แน่ ”

‘เต้าหลิง’จะไปเคยใกล้ชิดกับการหลอมโอสถได้อย่างไร มันหลงคิดว่าตนเองสามารถหลอมออกมาได้สำเร็จแล้ว ทว่ามันไม่คิดเลยว่าการหลอมโอสถจะยากถึงเพียงนี้ จะต้องเข้าใจในขั้นตอนอย่างถ่องแท้ ไม่ใช่เอาแต่พึ่งคัมภีร์โอสถโบราณแต่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น

วันที่สองนี้มันเอาแต่มองภาพของเหล่าปรมาจารย์ชั้นยอดหลอมโอสถ คนพวกนี้นับได้ว่าเป็นปรมาจารย์โอสถชั้นยอดที่มีแต่คนนับหน้าถือตา หากมันพูดออกไปว่าได้มีโอกาสเช่นนี้ คงทำให้เหล่านักหลอมโอสถอิจฉาตาร้อนกันเป็นแถว

“ เตาหลอมโอสถนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ จะต้องเป็นของล้ำค่าที่หาได้ยากยิ่ง เหล่าปรมาจารย์ทั้งหลายเมื่อครู่เดาว่าต้องเป็นเจ้าของเตาหลอมโอสถนี้แน่ และก็คงสลักลวดลายลงบนเตาหลอมเอาไว้ มีความเป็นไปได้สูงที่ว่านี่จะเป็นเตาหลอมของผู้แข็งแกร่งในสมัยก่อน ! ”

‘เต้าหลิง’คิดขึ้นในใจ จากภาพที่ปรากฏออกมาจากลวดลายเตาหลอม ก็รู้ได้ว่านี่เป็นของสืบทอดชั้นเยี่ยม มูลค่าของมันมิอาจประเมินค่าได้ !

“ ไม่รู้ว่าใครขโมยของสืบทอดจากวิหารหลักไป ของสืบทอดชิ้นนั้นจะต้องยอดเยี่ยมมากแน่ ! ”

‘เต้าหลิง’กำหมัด เตาหลอมโอสถนี้ เปลวเพลิงสีเคลือบ คัมภีร์โอสถโบราณ ของสามอย่างนี้ล้วนไม่ธรรมดา ไม่รู้เหมือนกันว่าของสืบทอดจากวิหารหลักจะเป็นอะไร ?

“ ช่างมันดีกว่า ยังไงก็ไม่ใช่ของข้า เรียกร้องไปก็ไม่มีประโยชน์ ของที่ข้าได้มาก็ถือว่ายอดเยี่ยมแล้ว ”

ครุ่นคิดครู่หนึ่ง สายตาของมันก็เหลือบมองไปยังเตาหลอม พลันตะโกนออกมาว่า

“ เปิดเตาหลอม ! ”

เสียงตูมดังขึ้น เตาหลอมโอสถที่ตั้งอยู่เงียบๆ พลันระเบิดเสียงดังลั่นออกมา

ฝาเตาเปิดออก เปลวเพลิงพุ่งออกมา ทะลวงมวลอากาศเป็นรูขนาดใหญ่ มือทั้งสองประสานอินอย่างรวดเร็ว ปรากฏเปลวเพลิงสีเคลือบก่อรูปขึ้นเป็นดอกบัวสีเคลือบดอกหนึ่ง กลีบบานออก เผยให้เห็นเปลวเพลิงโอสถดันโอสถสีดำทมิฬเม็ดหนึ่งลอยขึ้นสู่อากาศ  โอสถเม็ดปรากฏตัวออกมา

ราวกับวิญญาณก็มิปาน เหนี่ยวนำพลังงานฟ้าดินหลอมรวมเข้าไป ขั้นตอนนี้อันตรายที่สุด หากโอสถเม็ดรับพลังงานเอาไว้ไม่ไหว ก็จะระเบิดแตกออก ดอกบัวสีเคลือบกำลังหมุนโอสถเม็ด เปล่งปลั่งแสงสว่าง พลังงานฟ้าดินโดยรอบถูกเปลวเพลิงโอสถกลั่นออกมาเป็นพลังงานชั้นเยี่ยม ก่อนละลายกลายเป็นหมอกสีขาวพรั่งพรูเข้าไปในโอสถเม็ด

ใจ’เต้าหลิง’บีบรัดแน่น พลังจิตเอ่อทะลักออกมาอย่างบ้าคลั่ง สำรวจโอสถเม็ดอย่างละเอียด เวลานี้ไม่อยากจะให้มันเกิดข้อผิดพลาดใดใดทั้งสิ้น ราวสิบช่วงหายใจผ่านไป มันค่อยผ่อนลมหายใจออก เวลานี้โอสถเม็ดจ้วงหุนเสถียรภาพแล้ว จึงหยุดการดูดซับพลังงานโดยรอบ พลังงานทั่วห้องล้วนถูก’เต้าหลิง’ดูดมาจนแห้ง

“ สำเร็จแล้ว ! ”

‘เต้าหลิง’แสยะยิ้ม สีหน้าดูดีอกดีใจ มองไปยังโอสถเม็ดจ้วงหุนอย่างไม่วางตา ลูบไล้หลายต่อหลายครั้ง นี่เป็นโอสถเม็ดแรกที่มันหลอมขึ้น หากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไปเดาว่าคงทำให้แผ่นดินทั้งทวีปสั่นสะเทือน นี่เป็นครั้งแรกของการหลอมโอสถก็ทำได้ถึงขนาดนี้แล้ว

นี่คงทำให้ผู้คนจำนวนมากล้วนอิจฉาอย่างแน่นอน เพราะว่าโดยพื้นฐานแล้วจะต้องทดลองเป็นร้อยๆครั้งถึงจะทำการหลอมในระดับต้นได้  นี่คือประสบการณ์การหลอมโอสถที่’เต้าหลิง’ได้รับมา ในตอนที่มันมองดูปรมาจารย์หลอมโอสถนั้น มันก็ได้ประสบการณ์มามากมาย อีกทั้งยังเป็นประสบการณ์ชั้นสูง

‘เต้าหลิง’เก็บเตาหลอมโอสถลงไป ก่อนจะหยิบโอสถเม็ดแรกที่หลอมขึ้นเพื่อเตรียมหลอมรวมกันอย่างไม่ลังเล พลังจิตของมันเอ่อทะลักออกมา ห่อหุ้มโอสถเม็ดนี้เอาไว้  โอสถเม็ดหลอมละลายอย่างรวดเร็ว พลังวิญญาณชั้นยอดพุ่งทะลักออกมา เสริมและขยายความแข็งแกร่งให้แก่แหล่งต้นกำเนิดพลังจิต

มันรู้สึกได้ว่าจิตกำลังดูดซับพลังโอสถอยู่ ก่อนจะเริ่มแข็งแกร่งและรุนแรงขึ้น  ผ่านไปราวๆหนึ่งชั่วยาม คลื่นพลังจิตที่ขยายใหญ่ขึ้นเล็กน้อยมองสำรวจไปโดยรอบ จิตนี้ดูแข็งแกร่งกว่าเมื่อก่อนเท่าตัว ทำให้เต้าหลิงต้องตกตะลึง โอสถเม็ดนี้ยอดเยี่ยมจริงๆ

“ ดูความทรงจำหน่อยดีกว่า ”

สีหน้า’เต้าหลิง’ดูโศกเศร้า เปลือกตาปิดลง ภาพความทรงจำส่วนลึกค่อยๆแล่นเข้ามา ภาพเหล่านี้เป็นความทรงจำที่มันสูญเสียไปแล้ว ภาพย้อนมาถึงตอนที่มันยังเยาว์วัย กำลังนอนหลับสบายอยู่บนก้อนหินก้อนหนึ่ง  ที่นี่ราวกับดินแดนแห่งเซียน ทะเลสาบสีมรกตเงียบสงบ

ต้นไม้โบราณโดยรอบดูแข็งแกร่งประดุจมังกร สูงเสียบยอดเมฆ ขับพลังวิญญาณมหาศาลออกมา ราวกับมีชีวิตก็มิปาน บนท้องฟ้าปรากฏนกขนงามหลายตัวกำลังโลดแล่นอยู่อย่างสนุกสนาน สตรีชุดคลุมสีขาวนางหนึ่งลอยเข้ามา ลักษณะดูน่าเกรงขาม ราวกับหลอมรวมเป็นหนึ่งกับฟ้าดิน

นัยน์ตามองไปยังเด็กน้อยที่นอนหลับอยู่ด้วยความเอ็นดู ก่อนเดินเข้าไปแล้วอุ้มมันขึ้นมาอย่างเบามือ

“ นี่คือมารดาของข้ารึ ? ”

‘เต้าหลิง’เผลอพูดออกมา

“ เจ้ากระต่ายน้อยนอนหลับอีกแล้วรึ นี่ก็ขวบกว่าๆแล้ว ยังนอนไม่พออีก ”

ปรากฏชายหนุ่มรูปงามลักษณะองอาจห้าวหาญเดินเข้ามา ก่อนพูดยิ้มๆแกมตำหนิ

“ นี่มันเตี่ยนี่ ”

‘เต้าหลิง’ตกตะลึง ชายหนุ่มคนนี้กับเตี่ยที่มีสภาพน่าเวทนาไม่เหมือนกันเลยซักนิด ทว่าหน้าตาก็พอคลับคล้ายบ้าง มารดาของ’เต้าหลิง’กล่าวอย่างไม่พอใจว่า

“ นั่นก็ดีแล้วนี่ แบบนี้จะได้ไม่ต้องกังวลอะไร ภายภาคหน้าข้าไม่อยากให้ลูกน้อยของข้าต้องไปเจอกับคนจิตใจต่ำทรามในโลกแห่งยุทธ์ ”

“ ที่แท้ข้าก็นอนตั้งแต่เด็กเลยหรือนี่ ”

‘เต้าหลิง’เงียบกริบ ก่อนคิดได้ว่าภูมิหลังของตนเองจะต้องไม่ธรรมดาแน่ สถานที่แห่งนี้กว้างใหญ่เป็นอย่างมาก ราวกับโลกใบเล็กใบหนึ่ง เต็มไปด้วยวิหาร ดูศักดิ์สิทธิ์และน่าเกรงขาม  ผู้คนที่อยู่ในนี้ล้วนน่ากลัวเป็นอย่างมาก อบอวลไปด้วยพลังจำนวนมหาศาล

คลื่นพลังที่ปล่อยออกมาทำให้ท้องนภาสั่นสะเทือน ราวกับสามารถถล่มฟ้าถล่มดินลงมาได้ ปรากฏตาเฒ่ากลุ่มหนึ่ง มีชายวัยกลางคนโอบล้อมเอาไว้ ล้วนแข็งแกร่งอย่างยิ่ง ตาเฒ่าที่อยู่หน้าสุดราวกับบรรพบุรุษแห่งเต๋า ตรงกลางระหว่างคิ้วปรากฏอักษร ‘เต้า’ขึ้น โอบล้อมไปด้วยคลื่นพลังลึกลับ ทำให้ผู้คนล้วนตัวสั่นเทา

“ เซี่ยวเทียน เหตุใดเด็กคนนี้ถึงได้เอาแต่นอนตลอดเวลา ? ”

ตาเฒ่าร่างสูงใหญ่กล่าวขึ้น พลังที่ปล่อยออกมาราวกับมันเป็นสัตว์อสูรเฒ่าดึกดำบรรพ์ที่ดุร้าย ‘เต้าหลิง’น้อยดูสับสนยิ่ง กึ่งหลับกึ่งตื่น นัยน์ตาสีดำกระพริบปริบๆ มองไปยังตาเฒ่าโดยรอบแล้วหัวเราะออกมา ดูใสบริสุทธิ์เสียจริง

ตาเฒ่าโดยรอบล้วนกลัดกลุ้มเป็นอย่างมาก นี่ไม่ใช่เรื่องดีเลย ตามอายุของ’เต้าหลิง’ในตอนนี้ น่าจะเริ่มศึกษาคัมภีร์และตำราแห่งเต๋าได้แล้ว เพื่อสั่งสมประสบการณ์ เพื่อสร้างรากฐานที่ดี ภายภาคหน้าจะได้กลายเป็นอัจฉริยะที่มีชื่อเสียงโด่งดังระดับโลก และจะได้สามารถประมือกับพวกบุตรผู้ภาคภูมิแห่งสวรรค์ในแต่ละตระกูลได้

“ ข้าก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้น ”

สีหน้าของ’เต้าเซี่ยวเทียน’ดูกลัดกลุ้ม ไม่รู้ถึงสาเหตุจริงๆ

“ ดูท่าจะมีปัญญาแล้ว แม้แต่เจ้าที่เป็นผู้หยั่งรู้ปฐพีก็ยังจนปัญญา พวกข้าก็คงทำอะไรไม่ได้แล้ว  ”

ชายวัยกลางคนรูปร่างสูงใหญ่กล่าวเสียงค่อยต่อว่า

“ แล้วนี่เจ้าจะเรียกพวกข้ามาทำไม ? ”

ผู้คนโดยรอบต่างพยักหน้า รู้สึกประหลาดใจ ด้วยความสามรถของ’เต้าเซี่ยวเทียน’นั้น เหตุใดถึงได้มีเด็กที่ขี้เกียจเอาแต่นอนเช่นนี้ ? มันเป็นถึงผู้หยั่งรู้ปฐพีเชียวนะ ในโลกใบนี้จะมีผู้หยั่งรู้ปฐพีดินซักกี่คนกัน ! พอได้ยินคำเหน็บแนม ‘เต้าเซี่ยวเทียน’ก็ส่งเสียงหึดังขึ้นในใจ

คนคนนี้คือ’เต้าจวินซง’ มันกับ’เต้าเซี่ยวเทียน’นั้นไม่ถูกกัน ก่อนมันคิดขึ้นอย่างปีติ หากพรสวรรค์ของ’เต้าหลิง’ไม่ผ่านล่ะก็ ลูกชายของมัน’เต้าหย่งช่าง’จะต้องได้ทรัพยากรสำหรับการฝึกพลังทุกอย่างของ’เต้าหลิง’มาแน่  มันกล่าวออกไปด้วยใบหน้าเรียบว่า

“ ข้าได้ยินมาว่าตระกูลเต้าของพวกเรากับปรมาจารย์โอสถท่านหนึ่งแห่งวิหารยุทธ์ได้คบค้าสมาคมกัน ข้าอยากจะให้ปรมาจารย์โอสถท่านใดก็ได้ดูคุณสมบัติร่างกายของลูกชายของข้าหน่อย  ”

“ อะไรนะ? จะให้ปรมาจารย์โอสถดูคุณสมบัติร่างกายของมันรึ ? นี่เจ้าคิดว่ากำลังเล่นขายของอยู่รึ ? ”

สีหน้าของ’เต้าจวิ้นชง’ดูย่ำแย่ ปรมาจารย์โอสถเป็นบุคคลชั้นสูงแห่งยอดหอคอยสีทองในดินแดนหลอมโอสถ นี่มันไม่คุ้มค่ากับเด็กคนหนึ่งเลยจริงๆ

“ เซี่ยวเทียน คนระดับนั้นเราเอื้อมไปถึงหรอกนะ เจ้าต้องคิดให้ถี่ถ้วน ”

มีบางคนส่ายหน้า อย่างไรก็ไม่เห็นด้วยเด็ดขาด ตอนแรกปรมาจารย์โอสถก็เคยติดหนี้บุญคุณตระกูลเต้าอยู่ครั้งหนึ่ง ทว่าจะใช้บุญคุณที่ล้ำค่าขนาดนั้นไปกับเด็กคนหนึ่งอย่างนั้นหรือ ไม่ว่าอย่างไรพวกมันก็ไม่เห็นด้วย

“ เต้าหลิงน้อยก็เป็นคนในตระกูลเต้าของพวกเรา เป็นสายเลือดของตระกูลเต้า ภายภาคหน้าจะต้องเป็นเสาหลักให้แก่ตระกูลเต้าอย่างแน่นอน ข้าเชื่ออย่างนั้น  ”

ปรากฏสตรีชุดคลุมเดินเข้ามา รูปร่างของนางสวยงาม ไม่สอดคล้องกับอายุของนางแม้แต่น้อย ใช้มืออุ้ม’เต้าหลิง’เอาไว้ น้ำเสียงดูแข็งกระด้าง   ได้ยินดังนั้น เสียงคัดค้านเมื่อครู่ก็ค่อยๆลดน้อยลง ผู้คนกลุ่มหนึ่งมองไปยังสตรีชุดคลุมด้วยแววตาหวาดหลัว

‘เต้าเซี่ยวเทียน’จึงส่งสายตาขอบคุณไปให้ เดิมทีนางไม่ใช่คนของตระกูลเต้า เป็นเพียงสาวใช้ข้างกายของปู่’เต้าหลิง’นั้น ทว่านางมีพรสวรรค์สูงส่งตั้งแต่เยาว์ และยังได้ฝึกวิชาโบราณชนิดหนึ่ง อายุเพียงเท่านี้แต่นางก็สามารถประมือกับคนระดับสูงของตระกูลเต้าได้ คำพูดของนางมีอิทธิพลมากในตระกูลเต้า

‘เต้าหลิง’เหล่ตามอง ก่อนจะปีนขึ้นมาบนตัวนาง กำปั้นน้อยยืดออกไปจับที่ใบหน้าขาวใสบริสุทธิ์ของ’หลิงเยี่ยน’อย่างซุกซน ทั้งยังส่งเสียงคิคิดังออกมาอีกด้วย  ‘หลิงเยี่ยน’กระพริบตาปริบๆใส่ ก่อนหัวเราะกับมัน

เห็นภาพดังกล่าว กลุ่มคนที่คัดค้านเมื่อครู่พลันขมวดคิ้วขึ้น พวกมันรู้ดีว่า’หลิงเยี่ยน’เป็นคนที่ไม่ค่อยพูดซักเท่าไหร่ ทว่า ตอนนี้กลับสนิทสนมกับเด็กคนนี้ แล้วอย่างนี้จะทำไปอย่างไรได้เล่า    พลังของ’หลิงเยี่ยน’แทบไม่ต้องกังขาเลย อีกทั้ง’เต้าเซี่ยวเทียน’ก็ยังเป็นผู้หยั่งรู้ฟ้าดิน

ตำแหน่งของมันในตระกูลเต้าสูงส่งอย่างยิ่ง และอีกอย่างพวกมันก็มีเหตุผลที่ถูกต้อง

“ เช่นนั้นก็ดี เซี่ยวเทียนเจ้าไปพักเถอะ เดี่ยวข้าจะแจ้งข่าวไป ”

ตาแก่คนหนึ่งมองไปยังผู้คนโดยรอบที่ปิดปากเงียบ ก่อนกล่าวยุติการอภิปรายครั้งนี้ ‘เต้าเซี่ยนเทียน’พยักหน้า ยันกายขึ้นเดินไปยังบ้านพักของตน มารดาของเต้าหลิงที่รอคอยคำตอบอย่างร้อนรนก็รีบถามขึ้นว่า

“ เป็นอย่างไรบ้าง ? ทางตระกูลยอมรับหรือไม่ ? ”

“ อืม ยอมรับ ”

‘เต้าเซี่ยวเทียน’ยิ้มแล้วพูดขึ้นว่า

“ ดีที่หลิงเยี่ยนมาช่วยไว้ มิเช่นนั้นคนพวกนั้นคงไม่ยอมง่ายๆแน่  ”

“ หลิงเยี่ยน ข้าต้องขอบใจเจ้าจริงๆ ”

สายตามองไปยัง’หลิงเยี่ยน’ นางรู้สึกซาบซึ้งใจเป็นอย่างมาก

“ ไม่ต้องเกรงใจข้าหรอก ”

‘หลิงเยี่ยน’ยิ้มออกมา จากนั้นสายตาก็มองไปยัง’เต้าหลิง’น้อย ก่อนถอนหายใจแล้วพูดว่า

“ หวังว่าจะช่วยแก้ไขคุณสมบัติร่างกายของเจ้าได้นะ เจ้าตัวน้อยเจ้าต้องสู้นะ ”

‘เต้าหลิง’ส่งเสียงจึก ไม่อยากให้ใครมารบกวนการนอนของมัน มุมปากของ’หลิงเยี่ยน’ยกขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะส่ง’เต้าหลิง’น้อยคืนให้แก่มารดา

ที่มา:

(0 votes) 0/5
ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments