I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

GSDZ (盖世帝尊) ตอนที่ 48 อำนาจแห่งเหรียญ

| GSDZ (盖世帝尊) | 950 | 2360 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

แปลไทย : XiaoeyuGao

ชายหนุ่มชุดคลุมพุ่งทะยานลงมา ปลดปล่อยพลังออกมาเล็กน้อย ทำให้เลือดทั่วร่างของผู้คนส่วนหนึ่งล้วนเดือดพล่าน รู้สึกได้ถึงพลังที่บีบอัดเข้ามา

“ น้องชาย ลงไปนอนซะ !”

ชายหนุ่มชุดคลุมยิ้มเยาะ หมัดพุ่งไปยังหน้าอกของมัน คิดจะขยี้มันให้แหลก   ‘เต้าหลิง’กำหมัดแน่น ภายในร่างส่งเสียงเปรี้ยงดังออกมา ราวกับฟ้าร้องลั่นสนั่น ก่อนปล่อยหมัดเข้าปะทะกับหมัดของชายหนุ่มชุดคลุมส่งเสียงดังตูม โดยรอบสั่นสะเทือนก่อนระเบิดกระจายออก ปรากฏคลื่นลมขนาดใหญ่พุ่งออกมา

มีคนตกหวีดร้องออกมาด้วยความตกใจ ถูกคลื่นลมอัดเข้าใส่ ทั่วร่างสั่นสะท้าน ฝ่าเท้าเหยียดถอยออกไป ผู้คนโดยรอบพวกมันทั้งสองล้วนถูกผลักกระเด็นออกไปจนหมด

“ น่ากลัวมาก เจ้านี่อายุเท่าไหร่กัน มิอยากจะเชื่อว่าจะแข็งแกร่งขนาดนี้ ! ”

มีคนตกตะลึง คิดว่ามันจะต้องเป็นอัจฉริยะแน่   ในใจชายหนุ่มชุดคลุมก็ตกตะลึงไม่แพ้กัน สีหน้าดูย่ำแย่เล็กน้อย มิอยากจะเชื่อว่าจะสูสีกับเด็กหนุ่มอายุสิบสิบหกคนนี้ ใบหน้าดูข่มอารมณ์ไว้ไม่อยู่จริงๆ

“ หึ คิดว่าเจ้าเป็นอัจฉริยะแห่งสำนักซิงเฉินแล้วจะมาหาเรื่องร้านค้ามหาคลังสมบัติของพวกข้าได้อย่างนั้นรึ ข้าจะขยี้เจ้าซะ ! ”

ชายหนุ่มชุดคลุมคำรามลั่น หมัดของมันพุ่งทะยานเข้ามาอีกครั้ง หมัดนี้ดูดุดันยิ่งขึ้น พลันปรากฏเงาภูเขาขนาดใหญ่ลางๆขึ้นที่ด้านหลัง ก่อรูปออกมาบดขยี้ฟ้าดิน

“ แหลกไปซะ !”

จิตใจ’เต้าหลิง’บังเกิดโทสะ มาถึงก็ไม่ถามไถ่อันใดก็สอดมือเข้ามา นี่ทำให้มันโกรธแค้นเป็นอย่างมาก ภายในร่างของมันพรั่งพรูพลังมหาศาลออกมา หมัดพุ่งทะยานออกไปเปล่งปลั่งแสงสว่างสีทอง ทั่วทั้งร่างราวกับโลกใบเล็กที่เปิดออก มีอานุภาพยิ่งใหญ่เกรียงไกร ก่อนหมัดพุ่งฝ่าอากาศเข้าไปปะทะ

เสียงตูมดังสนั่น ดุดันราวกับมังกรวารีโลดแล่นท่ามกลางมหาสมุทร

กำปั้นสีทองพุ่งฝ่าอากาศเข้าไป เงาลางภูเขาขนาดใหญ่แตกร้าว ก่อนจะแตกกระจายออกเป็นคลื่นพลังที่ดุดัน พร้อมกับร่างของชายหนุ่มชุดคลุมปลิวลอยออกไป

“ อะไรกัน ? ”

ภายในคนกลุ่มที่ลงมาจากชั้นสองเมื่อครู่ ปรากฏชายวัยกลางคนคนหนึ่งร้องออกมาด้วยความตกใจ เจ้าเด็กนี่เป็นใครมาจากไหนกัน ? แม้แต่’หวังย่า’ก็ตัวสั่นตะลึงเช่นกัน ชายหนุ่มคนนี้เป็นยอดฝีมือขั้นซึมซับวิญญาณระดับสี่ชั้นฟ้า ทว่าตอนนี้กลับมิใช่คู่มือของ’เต้าหลิง’ เหตุใดพลังของมันถึงได้เพิ่มขึ้นรวดเร็วเช่นนี้ ?

ทว่าไหวพริบของนางรวดเร็วยิ่ง รีบวิ่งไปยังชายวัยกลางคนก่อนพูดว่า

“ ท่าน เจ้าคนนี้มันมาหาเรื่องถึงที่นี่ ทั้งยังทำร้ายผู้เฝ้าประตูจนบาดเจ็บไปถึงสองคน ! ”

‘เฉินลี่’พยักหน้า ก่อนเดินไปอย่างมั่นคง พลังของมันน่ากลัวยิ่ง ช่วงจังหวะหายใจเข้าออก โดยรอบล้วนสั่นไหว คนคนนี้แข็งแกร่งยิ่ง พลังที่ปล่อยออกมาทำให้ผู้คนรอบข้างล้วนหายใจติดขัด

“ น้องชาย เจ้ากล้ามากที่มาหาเรื่องถึงที่นี่ ! ”

‘เฉินลี่’คำรามดังลั่น ฝ่ามือพุ่งทะยานออกไป ใจอยากจะสั่งสอนมันให้หลาบจำ   ทว่าในขณะที่ฝ่ามือของมันกำลังยืดออกไปนั้น หางตาของมันก็เหลือบไปเห็นเหรียญสีเงินที่เกี่ยวอยู่ข้างเอวของมัน ด้านบนสลักชื่อร้านค้ามหาคลังสมบัติเอาไว้ มันซวนเซจนเกือบจะล้มลง นี่มันเหรียญผู้ยิ่งใหญ่มิใช่หรือ ?

‘เฉินลี่’ตกตะลึงอย่างยิ่ง เหรียญผู้ยิ่งใหญ่แห่งร้านค้ามหาคลังสมบัติ โดยปกติแล้วจะเป็นนักหลอมโอสถ ผู้แข็งแกร่งรุ่นอาวุโส หรือไม่ก็ชายหนุ่มอัจฉริยะจากตระกูลใหญ่ๆแต่ละตระกูลเท่านั้นถึงจะได้มันมา   เหรียญชนิดนี้เป็นสิ่งที่แม้แต่’หวังจวิ้นเฟย’ก็ไม่มีคุณสมบัติพอจะได้มันมา

มีแค่’กันเหยา’เท่านั้นที่ได้มันมา นี่มันเป็นใครกันแน่ ? ขาทั้งสองข้างของ’เฉินลี่’สั่นเทาพักหนึ่ง รู้สึกได้เลยว่าพลังของเด็กหนุ่มคนนี้คู่ควรกับเหรียญอันนี้จริงๆ มันไม่น่าจะมองพลาดไป นี่มันเป็นอัจฉริยะจากตระกูลไหนกัน ? ถึงได้มีเหรียญผู้ยิ่งใหญ่แห่งร้านค้ามหาคลังสมบัติ

“ ฮ่าฮ่า น้องชายท่านนี้ ข้าไม่เคยเห็นท่านมาก่อนเลย ”

ความชั่วร้ายบนใบหน้าของ’เฉินลี่’พลันมลายหายไปทันที มันชักมือกลับมา ก่อนเดินหัวเราะเข้าไปด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม กล่าวจบ ทุกอย่างเงียบสงัด คนจำนวนมากคิดว่าคงฟังผิดไป คนใหญ่คนโตแห่งร้านค้ามหาคลังสมบัติท่านนี้ มีสถานะที่สูงส่ง แม้แต่’หวังจวิ้นเฟย’ก็ยังไม่กล้าล่วงเกิน มิอยากจะเชื่อว่ามันจะใช้คำว่า ‘ท่าน’กับคนที่มาหาเรื่องถึงที่นี่

“ อะไรนะ? จะเป็นไปได้อย่างไร ? ”

‘หวังย่า’ทำท่าทางราวกับเห็นผี ก่อนรีบพูดต่อว่า

“ ท่านจะต้องจำผิดคนแน่นอน มันเป็นเด็กจนๆคนหนึ่งที่มาพาลหาเรื่องถึงที่นี่นะเจ้าค่ะ ”

“ หุบปาก ! ”

สีหน้าของ’เฉินลี่’พลันขึงขังทันที ชี้ไปที่นางก่อนตะโกนออกไปว่า

“ ใครเป็นคนรับนางเข้ามา รีบพานางไปให้พ้นหน้าข้าซะ ไป !  ”

‘เฉินลี่’บังเกิดโทสะ คุณค่าของเหรียญนี้ไม่สามารถประเมินค่าได้ ทั่วทั้งแดนลับมีแต่คนอยากได้มันกันทั้งนั้น เหรียญผู้ยิ่งใหญ่นี้สามารถให้ร้านค้ามหาคลังสมบัติสาขาต่างๆช่วยตาหาของล้ำค่าได้ทุกชนิดโดยไม่มีเงื่อนไขใดทั้งสิ้น และยังสามารถใช้อำนาจของร้านค้ามหาคลังสมบัติได้อีกด้วย

แม้แต่สาขาย่อยแห่งสำนักซิงเฉิน คนที่มีสถานะเยี่ยงนี้ก็ยังไม่มีซักคน   ศีรษะของ’หวังย่า’ส่งเสียงวิ้งวิ้ง ทั่วทั้งร่างพลันหนักอึ้ง ยังคงมึนงงอยู่เล็กน้อย นี่มันเกิดอะไรขึ้น ?   ปรากฏคนอ้วนยืนอยู่ด้านหลังของ’เฉินลี่’ใช้มือเช็ดเหงื่อเย็นๆที่หน้าผากของตน มันก็เห็นเหรียญที่แขวนอยู่ที่เอวของ’เต้าหลิง’เช่นเดียวกัน

ของสิ่งนี้มันเคยเห็นเมื่อนานมาแล้ว เป็นของคนใหญ่คนโต เด็กหนุ่มคนนี้มีเหรียญผู้ยิ่งใหญ่ เช่นนั้นภูมิหลังของมันจะต้องน่ากลัวมากแน่

“ งงอะไร? ยังรีบรีบไสหัวไปอีก ! ”

คนอ้วนตะโกนออกมาด้วยใบหน้าเคร่งเครียด นึกเสียใจจริงๆไม่น่ารับนางเข้ามาเลย แม้ว่านางจะเกี่ยวข้องกับ’หวังจวิ้นเฟย’อยู่เล็กน้อย ทว่ากับเหรียญผู้ยิ่งใหญ่นี้ยังห่างไกลกันอีกมาก สีหน้าของ’หวังย่า’ดูมึนงง อยากจะมุดซอกหนีไปจริงๆ นางเดินจากไปด้วยใบหน้าเหงาหงอย ทำให้ผู้คนโดยรอบตะตะลึง เด็กหนุ่มคนนี้เป็นใครกัน ?

“ เชิญท่านทางนี้ก่อน เมื่อครู่ต้องขออภัยที่ต้องรับท่านไม่ดีขอรับ ”

‘เฉินลี่’กล่าวประจบ ‘ เหรียญนี่มันดีขนาดนี้เลยหรือ ? ’

‘เต้าหลิง’ดูประหลาดใจเล็กน้อย มันไม่คิดเลยว่าเหรียญที่’จื่ออวี้’ให้มาจะมีอำนาจมากมายขนาดนี้ ‘เฉินลี่’เชิญ’เต้าหลิง’ขึ้นไปยังชั้นสอง มันยืนอยู่ด้านข้างอย่างนอบน้อมยิ่ง จนแทบมิกล้าหายใจแรงออกมาเลย   คนอ้วนที่อยู่ข้างเฉินลี่หน้าแดงยิ่งกว่า ก่อนจะหยั่งเชิงพูดขึ้นว่า

“ ท่านที่เคารพ พวกข้าไม่เคยเห็นท่านมาก่อนเลย มิทราบว่าท่านมาจากไหนหรือขอรับ ? ”

“ ข้าต้องบอกพวกเจ้าด้วยรึ ? ”

‘เต้าหลิง’มองไปยังมัน ก่อนกล่าวเสียงเรียบ   คนอ้วนตกใจสะดุ้งเฮือก ขาทั้งสองสั่นเทา รีบส่งสายตาขอความช่วยเหลือไปยัง’เฉินลี่’

“ เอ่อ ไม่ต้องหรอกขอรับ ไม่ทราบว่าท่านมาทำอะไรที่นี่หรือ พวกข้าทั้งสองจะช่วยจัดการให้อย่างเต็มที่เลยขอรับ ”

‘เฉินลี่’รีบพูดต่อ กลัวว่า’เต้าหลิง’จะไม่พอใจ

“ ข้าต้องการโอสถวิญญาณซักหน่อย รีบไปเอามาให้ข้าที ”

‘เต้าหลิง’บอกชื่อโอสถวิญญาณทั้งสองชนิดไป ทั่วทั้งใบหน้า’เฉินลี่’พลันเต็มไปด้วยความเคารพและยำเกรง นี่มันเหมือนกับวัตถุดิบของโอสถเสินหุนเลย ท่านนี้จะต้องเป็นสุดยอดนักหลอมโอสถรุ่นเยาว์แน่นอน      คนอ้วนรีบยกถาดอันหนึ่งเดินเข้ามา ปรากฏหญ้าจ้วงชนิดหนึ่งหุนสีดำทมิฬ อบอวลไปด้วยคลื่นพลังจิต

ดูค่อนข้างล้ำค่า ส่วนใบปี้อวี้กับหญ้าชิงหลิงก็ค่อนข้างเห็นได้บ่อยเหมือนกัน

“ ทั้งหมดเท่าไหร่ ”

‘เต้าหลิง’เหลือบมองก่อนเก็บของลงไป แล้วถามขึ้น   ‘เฉินลี่’เกาหัว ครุ่นคิดครู่หนึ่งก่อนพูดออกไปว่า

“ โอสถวิญญาณทั้งสามชนิดก็เจ็ดแสนเหรียญทอง ทว่าด้วยเหรียญของท่านจะได้รับส่วนลดพิเศษ พวกข้าเอาแค่ห้าแสนเหรียญทองก็พอขอรับ ”

มุมปาก’เต้าหลิง’บิดเบี้ยวเล็กน้อย เหรียญทองที่มีติดตัวอยู่ในตอนนี้พอจ่ายพอดีเลย หลังจากนี้ก็จะไม่มีเงินใช้แล้ว มันกระพริบตาปริบๆมองต่ำลง     ‘ จะต้องคิดวิธีหาเงินให้ได้ ไม่มีเงินก็ทำอะไรไม่ได้ซักอย่าง ถ้ายังต้องจ่ายเงินราวกับน้ำไหลแบบนี้ ’

‘เต้าหลิง’คิดขึ้นในใจ แร่หินกับพลังงานสีทองในตัวมันก็ล้ำค่าเป็นอย่างยิ่ง ไม่ควรเอาออกมาขายทิ้งเป็นอันขาด   จ่ายเงินเสร็จมันจากไปทันที คนอ้วนมองไปยังเงาที่ค่อยๆลับหายไป จนเกือบจะล้มลงกับพื้น มันถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ก่อนพูดขึ้นว่า

“ เฉินลี่ มันเป็นใครมาจากไหนกัน ถึงได้มีเหรียญผู้ยิ่งใหญ่ ”

“ เจ้าถามข้าแล้วข้าจะไปถามใคร ? ”

‘เฉินลี่’พูดอย่างใส่อารมณ์ ทว่าสำหรับพลังของเด็กหนุ่มคนนี้มันไม่สงสัยเลย อายุของมันก็ไม่เกินสิบสี่สิบห้า ไม่ยากจะเชื่อว่าจะจัดการกับชายหนุ่มชุดคลุมได้ในหมัดเดียว มันจะต้องเป็นผู้สืบทอดจากขุมพลังอำนาจใหญ่ๆซักแห่งแน่   ส่วนลึกสำนักซิงเฉิน ปรากฏห้องโถงขนาดยักษ์อยู่ห้องหนึ่ง

อุณหภูมิโดยรอบร้อนระอุ ทั่วทั้งห้องโถงล้วน แดงดุจเปลวเพลิง ที่นี่ก็คือเขตเฉพาะหลอมโอสถนั่นเอง ลักษณะใต้พื้นดินปรากฏเปลวไฟขับออกมา  ‘เต้าหลิง’มาถึงที่นี่ เพื่อขอยืมใช้เปลวเพลิงในการหลอมโอสถนั่นเอง และก็อยากจะรู้ด้วยว่าเปลวเพลิงโอสถของที่นี่จะรุนแรงขนาดไหน

“ เจ้าจะหลอมโอสถรึ ? ”

คนที่รับผิดชอบเฝ้าห้องหลอมโอสถนี้เป็นผู้อาวุโสท่านหนึ่ง นัยน์ตามองไปยังเด็กหนุ่มเบื้องหน้าด้วยแววตาเมินเฉย การหลอมโอสถไม่ใช่เรื่องง่าย มันเป็นนักหลอมโอสถรึ ?   ‘เต้าหลิง’พยักหน้า ผู้อาวุโสส่ายหน้าอย่างจำยอม ก่อนพูดว่า

“ จำเอาไว้นะ ห้องหลอมโอสถนี้เจ้าใช้ได้แค่สามวัน ถ้าอยากจะได้เวลาเพิ่มก็ต้องจ่ายเงินสนับสนุนมา ”

“ ข้าทราบแล้ว ”

‘เต้าหลิง’พยักหน้า เข้าใจดีว่าห้องหลอมโอสถนี้จะใช้งานตลอดไม่ได้ ทว่าเวลาสามวันนี้ก็เพียงพอแล้ว หากหลอมไม่สำเร็จก็มีแต่จะต้องซื้อโอสถเม็ดเสินหุนมาเท่านั้น อีกไม่นานห้องโถงซิงเฉินก็จะเปิดแล้ว จะต้องเพิ่มความแข็งแกร่งในช่วงเวลานี้ให้ได้มากที่สุด     ปรากฏเส้นทางเปลวเปลวเพลิงหนึ่งเส้นทาง

มันเดินมาถึงประตูห้องบานหนึ่ง อุณหภูมิด้านในร้อนแผดเผากว่าด้านนอกมาก ด้านหน้าปรากฏปล่องไฟขนาดใหญ่อันหนึ่งกำลังขับเปลวเพลิงออกมา   มันใช้มือลูบไปที่คาง ก่อนพลิกฝ่ามือ ปรากฏเตาหลอมโอสถขึ้นกลางฝ่ามือ เป็นสีดำทองแดง นี่เป็นของสืบทอดที่มันได้รับจากวิหารชั้นเก้านั่นเอง

“ เตาหลอมโอสถนี้จะต้องล้ำค่าแน่ ”

‘เต้าหลิง’มองไปยังมันอยู่หลายครั้ง ข้างเต้าหลอมโอสถปรากฏลวดลาย อบอวลไปด้วยกลิ่นไอชนิดหนึ่ง จะต้องเป็นเตาหลอมโอสถชั้นยอดอย่างแน่นอน   อีกด้านหนึ่งปรากฏเปลวเพลิงสีเคลือบออกมา จุดขึ้นที่เตาหลอมโอสถ เตาหลอมโอสถสีทองแดงพลันขยายตัวขึ้น หมุนอยู่กลางอากาศรอบหนึ่งก่อนจะตกลงบนปล่องไฟ

‘เต้าหลิง’เดินเข้ามาใกล้ก่อนนั่งขัดสมาธิลงด้านหน้าเตาหลอม ฝ่ามือปรากฏเปลวเพลิงสีเคลือบออกมา คลื่นพลังลึกลับเอ่อทะลัก เปลวเพลิงด้านในปล่องไฟพลันถูกดึงออกมา ก่อนโหมซัดสาดเผาไหม้อยู่ภายในเตาหลอมโอสถ   แขนเสื้อของมันสั่นไหว เตาหลอมโอสถเปิดออก ขับเปลวเพลิงที่เปี่ยมล้นออกมา

‘เต้าหลิง’กระพริบตามองพักหนึ่ง ก่อนหยิบโอสถวิญญาณออกมา มันเป็นใบไม้สีเขียวมรกตใบหนึ่ง อัดแน่นไปด้วยพลังชีวิต และชื่อของมันก็คือ ‘ใบปี้อวี้’

“ ไม่รู้ว่าเปลวเพลิงนี้อยู่ในระดับไหนเหมือนกัน หวังว่าจะไม่แย่มากนะ ”

สายตา’เต้าหลิง’จ้องไปยังเปลวเพลิงโอสถที่กำลังลุกไหม้ ก่อนคิดขึ้นในใจ เปลวเพลิงโอสถนี้มันได้มาจากวิหารชั้นเก้าหอคอยทงหลิง ไม่น่าจะใช่เปลวเพลิงธรรมดา   ประมาณห้านาทีผ่านไป ด้านในเตาหลอมโอสถปรากฏโอสถเหลวสีเขียวมรกตสองหยด จิตใจ’เต้าหลิง’ดูมีชีวิตชีวาขึ้น

พลังจิตเอ่อทะลักออกมา ก่อนทำการสำรวจภายในโอสถเหลวนี้ และทำการคัดฤทธิ์ยาที่เสียออก กลั่นออกมาเป็นโอสถวิญญาณเหลวเม็ดนี้

“ ตามที่คัมภีร์โอสถโบราณแนะนำมา ขั้นแรกของการหลอมโอสถจะต้องกลั่นโอสถวิญญาณเหลวให้บริสุทธิ์เสียก่อน ยิ่งระดับความบริสุทธิ์สูงมากท่าไหร่อัตราการหลอมสำเร็จและคุณภาพก็จะดียิ่งขึ้นเท่านั้น  ”

‘เต้าหลิง’พึมพำกับตนเบาๆ ตรวจสอบขั้นตอนอย่างละเอียด โอสถวิญญาณเหลวก็เป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญ หากล้มเหลวขึ้นมา ก็จะไม่มีโอสถวิญญาณให้ทดลองอีก

ในขณะเดียวกันภายในร่างของ’เต้าหลิง’ก็เอ่อพลังงานธาตุไม้ออกมา ทั้งยังแฝงไว้ด้วยพลังชีวิตที่เปี่ยมล้นถึงขีดสุด ก่อนหล่อเลี้ยงโอสถเหลวเม็ดนี้อย่างต่อเนื่อง

ในขณะที่พลังงานธาตุไม้จำนวนมากกำลังหล่อเลี้ยงโอสถวิญญาณเหลวอยู่นั้น เปลือกตา’เต้าหลิง’พลันกระตุก มันรู้สึกราวกับว่าฤทธิ์ยาของใบปี้อวี้กำลังรุนแรงขึ้น !

นัยน์ตา’เต้าหลิง’ดูสงสัยและประหลาดใจ ก่อนคิดขึ้นในใจว่า

“ ดูท่าพลังงานจากหอคอยทงหลิง จะไม่ได้อ่อนแออย่างที่ข้าคิดเอาไว้แล้ว พลังงานธาตุไม้นี้น่าจะเป็นพลังระดับสูงสุดๆ ”

การหลอมโอสถครั้งแรกนี้ ‘เต้าหลิง’ดูระมัดระวังเป็นอย่างมาก การหลอมโอสถวิญญาณชนิดนี้ใช้เวลาไปสองชั่วยาม จนออกมาเป็นพลังงานก้อนหนึ่งสีเขียวมรกตประดุจหยก ราวกับหินหยกที่มีเปลวเพลิงแล่นไหลอยู่ด้านใน เปล่งปลั่งแสงสว่างล้ำค่า

‘เต้าหลิง’สำรวจอย่างละเอียด ก่อนพยักหน้า และนำโอสถวิญญาณอย่างที่สองโยนเข้าไป เพื่อเริ่มกำเนินการหลอมต่อ   ในขณะที่กำลังหลอมหญ้าจ้วงหุนอยู่นั้น เวลาก็ล่วงเลยผ่านไปนานพอสมควร พลังจิตของมันนั้นยังอ่อนแออยู่มาก ระหว่างหลอมก็จะมีเวลาพักหนึ่งครั้ง

จนใช้เวลาราวครึ่งวันใหญ่ๆถึงจะหลอมโอสถวิญญาณทั้งสามออกมาเป็นของเหลวได้   หญ้าจ้วงหุนนั้นเป็นโอสถหลัก ส่วนอีกสองชนิดที่เหลือเป็นโอสถเสริม ปรากฏโอสถวิญญาณเหลวสีดำทมิฬก้อนหนึ่งลอยขึ้น อบอวลไปด้วยคลื่นพลังจิต

‘เต้าหลิง’ปิดเปลือกตาพักผ่อนร่างกาย พอพักฟื้นจนกลับมาเต็มที่อีกครั้ง เปลือกตาทั้งสองของมันก็เปิดออก เปลวเพลิงสีเคลือบห่อหุ้มโอสถเหลววิญญาณเอาไว้ ก่อนหลอมรวมเข้ากับโอสถ

‘เต้าหลิง’ปิดฝาเตาหลอม ขณะนี้ก็เป็นช่วงของการบ่มเพาะโอสถแล้ว พลังทั่วร่างขับออกมา ระเบิดพลังงานธาตุไม้ที่หลับใหลอยู่ภายในร่างออกมาอย่างถึงที่สุด ก่อนเอ่อทะลักเข้าสู่ภายในเตาหลอมโอสถอย่างบ้าคลั่ง

การบ่มเพาะโอสถนี้ ตามจริงแล้วก็คือการนำพลังฟ้าดินชั้นยอดแล่นไหลสู่โอสถ ทำการหล่อเลี้ยงโอสถ  ขั้นตอนนี้ค่อนข้างยาก ถือเป็นบททดสอบความอดทนได้ดีเลยทีเดียว

ทั่วร่าง’เต้าหลิง’เปล่งปลั่งแสงสว่าง ยิ่งพลังที่มันใช้แล่นเข้าสู่เตาหลอมโอสถมากเท่าไหร่ เตาหลอมโอสถก็จะยิ่งเกิดการเปลี่ยนมากขึ้นเท่านั้น บนเตาหลอมโบราณปรากฏลวดลายออกมา ราวกับเสียงที่ดังมาจากยุคดึกดำบรรพ์

ที่มา:

(0 votes) 0/5
ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments