ตอนที่แล้วตอนต่อไปเทพปีศาจหวนคืน บทที่ 10 พายุอาจเกิดขึ้นจากท้องฟ้าที่สว่างสดใส
Tr. Coffee Prince
ซ่า ซ่า ซ่า
ฝนตกลงสู่พื้นดินและหลังคาบ้านที่มุงด้วยไม้อย่างหนักหน่วง
พื้นผิวของบ่อน้ำหน้าบ้านหลังหนึ่งเกิดระลอกคลื่นกระเพื่อมขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ฝูงปลาแหวกว่ายอย่างมีชีวิตชีวา พืชน้ำกวัดแกว่งไปตามแรงลม ท้องฟ้ามืดครึ้มพร้อมกับม่านฝนที่บดบังทัศนวิสัยเอาไว้ทั้งหมด
ในห้องที่มืดสลัว หน้าต่างยังคงเปิดอยู่ ฟางหยวนเฝ้ามองไปยังฝนที่ตกหนักและถอนหายใจออกมา
“นี่ก็ผ่านมา 3 วัน 3 คืนแล้ว”
3 วันก่อนหน้าเขาเดินถือไหสุราออกไปนอกหมู่บ้านในช่วงค่ำคืนเช่นเดิมแต่เมื่อเขาไปถึง ฝนก็ได้ร่วงหล่นลงมาอย่างรุนแรงและชะล้างกลิ่นอายสุราออกไปจนหมด ดังนั้นหากเขายังคงดื้อด้านค้นหาต่อไปในสภาพเช่นนั้น นอกจากจะไร้ประโยชน์แล้ว มันยังอาจทำให้ชาวบ้านเกิดข้อสงสัยขึ้นมาได้ แม้ว่าก่อนหน้านี้เขาจะแสร้งเป็นคนขี้เมาเพื่อปิดบังแรงจูงใจที่แท้จริงของเขาเอาไว้ แต่เขาก็รู้ว่าไม่ควรประมาทกับความฉลาดของผู้คนรอบข้าง เพราะมันมีเพียงคนโง่เท่านั้นที่คิดว่าคนอื่น…โง่
ภายใต้เงื่อนไขนี้ ฟางหยวนจึงต้องหยุดค้นหาอย่างช่วยไม่ได้
ราวกับถูกกลั่นแกล้งเพราะเมื่อฝนเริ่มตก มันก็จะตกอย่างต่อเนื่อง บางครั้งหนัก บางครั้งเบา แต่ก็ไม่เคยหยุดพัก
“ข้าเกรงว่าข้าคงไม่สามารถหาวิญญาณสุราร่ำร้องได้ในระยะเวลาสั้นๆ เพื่อความปลอดภัยข้าควรเริ่มปรับแต่งวิญญาณแสงจันทร์เสียก่อน ในระหว่างนี้หากได้พบวิญญาณสุราร่ำร้องก็ถือเป็นเรื่องที่ดี แต่หากไม่ ข้าก็ต้องยอมรับสภาพ เพราะมันเป็นเรื่องธรรมดาที่พายุอาจเกิดขึ้นจากท้องฟ้าที่สว่างสดใส บางสิ่งที่คาดไม่ถึงสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ในโลกใบนี้ผู้ใดจะสามารถทำทุกสิ่งได้โดยปราศจากอุปสรรคขวากหนาม ไม่มีเส้นทางใดที่โรยด้วยกลีบดอกไม้ ไม่มีสิ่งใดที่สมบูรณ์แบบ มิใช่หรือ?”
จิตใจของฟางหยวนสงบนิ่งและเยือกเย็นเป็นอย่างมาก เมื่อประสบการณ์อันยาวนานของเขาช่วยชะล้างความหุนหันพลันแล่นของเด็กหนุ่มไปจนหมดสิ้น
เขาปิดประตูหน้าต่างและนั่งไขว้ขาอยู่บนเตียงเพื่อเริ่มทำสมาธิ
ในวินาทีถัดมา ทะเลวิญญาณของเขาจึงปรากฏขึ้นในใจของเขาอย่างแจ่มชัด มันเป็นกลุ่มก้อนพลังงานขนาดเล็กที่อยู่ในร่างกายในขณะเดียวกันก็ดูกว้างใหญ่ไร้ที่สิ้นสุด แสงสีขาวละมุนที่เคลือบคลุมอยู่ภายนอกดูบอบบางและอ่อนโยนแต่มันกลับสามารถรองรับท้องทะเลภายในได้อย่างน่าประหลาด
ท้องทะเลสีครามประกายทองแดงสูงขึ้นมาประมาณ 4 ใน 10 ส่วน พื้นผิวทะเลสงบนิ่งไร้ระลอกคลื่น
นี่คือทะเลวิญญาณของผู้ใช้วิญญาณระดับที่ 1 ขั้นต้น น้ำทั้งหมดคือพลังงานที่ประกอบไปด้วยพลังปราณ พลังชีวิต และจิตวิญญาณของฟางหยวน
มันถือเป็นรากฐานสำคัญของผู้ใช้วิญญาณและเป็นแห่งอาหารให้แก่วิญญาณที่สร้างพันธะสัญญากับพวกเขา
เมื่อเขาถอนจิตออกมาจากทะเลวิญญาณ ฟางหยวนเปิดเปลือกตาขึ้นก่อนจะหยิบผลึกรูปจันทร์เสี้ยวที่ทอแสงสีฟ้าอ่อนและให้ความรู้สึกสงบเยือกเย็นออกมา
เพียงแค่คิดน้ำในทะเลวิญญาณก็เริ่มเกิดการเคลื่อนไหว มันไหลเวียนอยู่ในร่างกายของฟางหยวนก่อนจะถูกส่งออกมายังวิญญาณแสงจันทร์บนฝ่ามือของเขา และเมื่อผลึกจันทร์เสี้ยวรับรู้ถึงพลังงานดังกล่าว แสงจันทร์สีฟ้าจึงได้ส่องสว่างขึ้นราวกับพยายามที่จะต่อต้านพลังงานเหล่านั้น
วิญญาณเป็นพลังงานพื้นฐานแห่งสวรรค์พิภพและแบกความลับต่างๆของโลกวิญญาณเอาไว้ พวกมันถูกพิจารณาว่าเป็นกลุ่มก้อนพลังงานที่มีชีวิตอิสระของตนเองภายใต้สรวงสวรรค์แห่งนี้ นอกจากนั้นวิญญาณแต่ละดวงยังเกิดขึ้นมาด้วยวัตถุประสงค์บางประการของพวกมันเอง ดังนั้นเมื่อฟางหยวนพยายามที่จะปรับแต่งมัน เป็นธรรมดาที่มันจะต่อต้านขัดขืนเมื่อรู้สึกถึงสิ่งแปลกปลอมและอันตราย
กระบวนการปรับแต่งวิญญาณเป็นขั้นตอนที่ไม่ใช่เรื่องง่าย
อย่างไรก็ตามพลังงานจากทะเลวิญญาณสีคราวประกายทองแดงของฟางหยวนก็ค่อยๆแทรกซึมเข้าไปในผลึกจันทร์เสี้ยวสีฟ้าอ่อนทีละเล็กทีละน้อย
แต่ในเวลาไม่ถึง 3 นาที ใบหน้าของฟางหยวนกลับเริ่มซีดลงเรื่อยๆ พลังงานจากทะเลวิญญาณไหลเข้าไปยังผลึกจันทร์เสี้ยวอย่างต่อเนื่องทำให้เขารู้สึกถึงความอ่อนล้าที่พุ่งเข้าโจมตีหัวใจของเขาอย่างรุนแรง
1…2…3…4…5…
สิบนาทีต่อมาหยดน้ำในทะเลวิญญาณของฟางหยวนก็ลดลงไปแล้วถึง 1 ใน 10 ส่วน ในขณะที่บนพื้นผิวของผลึกจันทร์เสี้ยวปรากฏจุดแสงสีครามประกายทองแดงขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ชัดเจนว่าพลังต่อต้านของวิญญาณแสงจันทร์ดวงนี้ค่อนข้างแข็งแกร่ง โชคดีที่ฟางหยวนคาดการณ์ไว้ก่อนหน้าแล้ว เขาจึงไม่รู้สึกแปลกใจ และเพียงส่งพลังงานจากทะเลวิญญาณของเขาเข้าไปอย่างดื้อรั้นเท่านั้น
1…2…3…4…5…
ผ่านไปอีกยี่สิบนาที ครั้งนี้ทะเลวิญญาณของเขาลดลงไปกระทั่งเหลือเพียง 1 หรือ 2 ใน 10 ส่วน แต่จุดแสงสีครามประกายทองแดงยังกินพื้นที่บนผลึกจันทร์เสี้ยวไปเพียง 1 ใน 12 ส่วนเท่านั้น
“การปรับแต่งวิญญาณไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับข้าในตอนนี้” ฟางหยวนถอนหายใจเมื่อจ้องมองไปยังผลึกจันทร์เสี้ยวที่อยู่บนฝ่ามือและหยุดส่งพลังงานเข้าไป
อย่างไรก็ตามแม้ว่าฟางหยวนจะหยุดส่งพลังงานเข้าไปในผนึกจันทร์เสี้ยวแล้วก็ตาม แต่วิญญาณแสงจันทร์ยังไม่หยุดที่จะต่อต้านพลังงานแปลกปลอมที่แทรกซึมอยู่ในร่างกายของมันและพยายามที่จะผลักดันจุดแสงสีครามประกายทองแดงเหล่านั้นให้หลุดออกไปตลอดเวลา
ฟางหยวนตระหนักได้อย่างชัดเจนว่าพลังงานจากจุดแสงหลั่งไหลออกมาอย่างต่อเนื่องทีละเล็กทีละน้อย
จากความเร็วของมัน ฟางหยวนประมาณการณ์ว่าในระยะเวลาหกชั่วโมงมันจะถูกขับไล่ออกมาอย่างหมดจด ในเวลานั้นมันจะไม่ต่างจากการการเริ่มต้นใหม่เลยแม้แต่น้อย
“ทุกครั้งที่ปรับแต่งวิญญาณ มันก็เหมือนกับสงครามการต่อสู้ของกองทัพสองฝ่าย หากฝ่ายใดทุกทำลายลงก่อน อีกฝ่ายก็จะได้รับชนะ แม้ว่าข้าสามารถกำจัดศัตรูได้ 1 ใน 12 ส่วน แต่ข้ากลับเสียไพร่พลไปถึง 3 ใน 4 ส่วน ปกติแล้วขั้นตอนการปรับแต่งวิญญาณ ผู้ใช้วิญญาณจำเป็นต้องได้รับกำลังเสริมอย่างต่อเนื่องเพื่อมอบความพ่ายแพ้ให้แก่กองทัพของฝ่ายตรงข้าม”
ในขณะที่ไตร่ตรองเหตุการณ์เหล่านี้ เขาก็ได้หยิบหินสีเทาขาวออกมาหนึ่งก้อน
ผู้ใช้วิญญาณมีสองวิธีในการฟื้นฟูทะเลวิญญาณของพวกเขา วิธีที่หนึ่ง ฟื้นตัวตามธรรมชาติ โดยปกติแล้วผู้ที่มีพรสวรรค์นภาที่ 3 เช่น ฟางหยวน ทะเลวิญญาณของเขาจะฟื้นตัวขึ้น 1 ใน 10 ส่วนภายในเวลา 2 ชั่วโมง ดังนั้นเขาจึงต้องใช้เวลา 6 ชั่วโมงในการเติมเต็มทะเลวิญญาณ 3 ใน 4 ส่วนที่เขาสูญเสียไปได้อีกครั้งหนึ่ง
สำหรับวิธีที่สอง ก็คือ การดูดซับพลังงานจากหินวิญญาณ
หินวิญญาณจะสะสมพลังงานธรรมชาติเอาไว้ภายในและเป็นสมบัติที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ เมื่อผู้ใช้วิญญาณดูดซับพลังงานจากมัน ทะเลวิญญาณของพวกเขาก็จะถูกเติมเต็มได้อย่างรวดเร็ว
ดังนั้นเพียงครึ่งชั่วโมงผ่านไปทะเลวิญญาณของฟางหยวนก็กลับมาเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังงานอีกครั้ง อย่างไรก็ตามแม้ว่าพลังงานจากหินวิญญาณจะยังคงเหลืออยู่ แต่ทะเลวิญญาณของฟางหยวนก็ไม่สามารถรับมันเพิ่มได้อีกเนื่องจากถูกยับยั้งโดยพรสวรรค์นภาที่ 3 ของเขา
จากจุดนี้มันจึงทำให้เห็นถึงความสำคัญของพรสวรรค์ได้อย่างชัดเจน เพราะเมื่อพรสวรรค์ของคนผู้หนึ่งยิ่งสูง ทะเลวิญญาณของพวกเขาก็จะยิ่งเก็บกับพลังงานไว้ได้เป็นปริมาณที่มากขึ้นและยังฟื้นตัวได้รวดเร็วยิ่งขึ้นอีกด้วย
ในกรณีของฟางหยวน เขาจะต้องดูดซับพลังจากหินวิญญาณอย่างต่อเนื่องตลอดขั้นตอนในการปรับแต่งวิญญาณ เนื่องจากอัตราการฟื้นฟูทะเลวิญญาณของเขาไม่สามารถเอาชนะความเร็วในกการต่อต้านของวิญญาณแสงจันทร์ได้
อีกด้านหนึ่งในส่วนของฟางเจิ้ง เขามีพรสวรรค์นภาที่ 1 ดังนั้นทะเลวิญญาณของเขาจึงมีความสามารถฟื้นตัว 1 ใน 10 ส่วนทุกๆ 1 ชั่วโมง ในกรอบเวลาเดียวกันเขาจึงสามารถเอาชนะความเร็วในการต่อต้านของวิญญาณแสงจันทร์ได้โดยไม่จำเป็นต้องดูดซับพลังงานจากหินวิญญาณแม้แต่น้อย
นี่คือเห็นผลที่ฟางหยวนตระหนักได้ว่าเขาไม่มีโอกาสชนะตั้งแต่การแข่งขันได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว เขารู้ดีว่ามันไม่ใช่บางสิ่งที่เกี่ยวข้องกับความแข็งแกร่งที่แท้จริง แต่สิ่งสำคัญปัจจัยแรกก็คือ พรสวรรค์ ส่วนปัจจัยที่สอง ก็คือ หินวิญญาณ หากผู้ใดมีหินวิญญาณจำนวนมาก แน่นอนว่าพวกเขามิลังเลที่จะใช้มัน
“ข้ามีหินวิญญาณอยู่เพียงหกก้อน มันไม่สามารถเทียบได้เลยกับโม่เป่ยและซื่อเฉิน พวกเขามีสมาชิกในครอบครัวที่ให้การสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง ในด้านพรสวรรค์ ข้าอยู่ในนภาที่ 3 ขณะที่ฟางเจิ้งอยู่ในนภาที่ 1 ไม่ว่ากรณีใดข้าก็ไม่มีโอกาสชนะการแข่งขันครั้งนี้ เมื่อมันเป็นการแข่งขันที่ไม่มีโอกาสชนะ แล้วเหตุใดข้าจึงไม่ใช้พลังงานไปกับการค้นหาวิญญาณสุราร่ำร้อง หากได้มันมา มันย่อมดีกว่าวิญญาณแสงจันทร์อย่างแน่นอน หือ? เสียงฝนเริ่มเบาลงแล้ว? เช่นนั้นคงจะถึงเวลาที่ข้าต้องออกไปอีกครั้งแล้ว”
ฟางหยวนเก็บผลึกจันทร์เสี้ยวก่อนจะลุกขึ้นจากเตียง แต่ขณะที่เขากำลังเปิดหน้าต่างออกไป เสียงเคาะประตูกลับดังขึ้นอย่างกะทันหัน จากนั้นเสียงหวานๆของสาวใช้เฉินซุ้ยจึงดังขึ้นมาจากหน้าประตูห้องในทันที “นายน้อยฟางหยวนของข้า ข้านำอาหารและสุรามาให้ท่านเจ้าค่ะ”
ติดตามความเคลื่อนไหวที่เร็วกว่าได้ที่เฟสบุ๊ค นิยายฆ่าเวลา >>
(0 votes) 0/5