ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปเทพปีศาจหวนกลับ บทที่ 15 ประวัติศาสตร์จะถูกเขียนขึ้นโดยผู้เหลือรอด
TL. Coffee Prince
เสียงของบางคนกังวานก้องขึ้นภายในถ้ำอย่างไม่คาดคิด
เมื่อเสียงดังขึ้นอย่างกะทันหัน เส้นขนบนแผ่นหลังของฟางหยวนจึงได้ลุกชันขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้
เขาถูกสะกดรอยตาม?
เป็นไปได้หรือไม่ว่าการออกมานอกหมู่บ้านบ่อยๆของเขาจะดึงดูดความสนใจของบางคน?
หรือเขาจะเป็นคนของลุงกับป้า?
แต่ในจังหวะนี้ภาพของผู้ใช้วิญญาณเจียงหยาผู้ที่ฟางหยวนได้พบมาก่อนหน้ากลับปรากฏขึ้นในใจของเขา
ระยะเวลาเพียงสั้นๆ แต่ความคิดมากมายกลับโลดแล่นอยู่ในหัวของฟางหยวน ทั้งความน่าจะเป็นและวิธีการแก้ปัญหารูปแบบต่างๆ
ฟางหยวนรับรู้ได้อย่างชัดเจนถึงจิตสังหารที่แฝงมากับถ้อยคำเหล่านั้นและมันก็ทำให้เขาลอบคร่ำครวญอยู่ภายในใจ เขาพึ่งกลายเป็นผู้ใช้วิญญาณระดับหนึ่ง เขายังไม่มีกระทั่งวิญญาณสักดวงที่เขาจะใช้ได้ ความสามารถของเขาในขณะนี้เป็นศูนย์อย่างสิ้นเชิง แล้วเขาจะต่อสู้ได้อย่างไร?
‘อ่อนแอเกินไป! อ่อนแอเกินไป!’ เขาตะโกนกับตัวเองอยู่ภายในใจ
“เจ้าถูกโจมตีด้วยวิญญาณพิษไร้พ่ายของข้า หากปราศจากยาต้านพิษ ภายในเจ็ดวันเจ้าจะกลายเป็นบ่อเลือดและตกตายไปในที่สุด”
ฟางหยวนก้มหน้าตั้งใจฟังก่อนจะกล่าวเสียงต่ำ “เจ้าต้องการวิญญาณสุราเช่นนั้นหรือ? ข้าสามารถมอบให้เจ้าได้”
เขาค่อยๆลุกขึ้นยืนอย่างระมัดระวัง แต่ในจังหวะนี้กลับมีอีกเสียงหนึ่งดังขึ้น มันเป็นเสียงที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัวและสั่นสะท้านอย่างไม่หยุดหย่อน “ข้าจะมอบให้เจ้า ข้าสามารถมอบให้เจ้าได้ แต่ข้าขอร้อง โปรดไว้ชีวิตข้าด้วย ท่านนักบวชผู้สูงส่ง”
“หือ?” ฟางหยวนขมวดคิ้วก่อนที่จะหันกลับไปและได้พบกับภาพเคลื่อนไหวอันเลือนรางที่ปรากฏอยู่บนกำแพงด้านหนึ่งอย่างไม่คาดคิด
บนกำแพงหินปรากฏผู้ใช้วิญญาณที่ปลดปล่อยกลิ่นอายอันแหลมคมออกมายืนอยู่บนยอดเขา ที่เท้าของเขามีผู้ใช้วิญญาณอีกหนึ่งที่กำลังหมอบกราบอยู่ที่นั่น พื้นดินรอบตัวพวกเขากลายเป็นหลุมเป็นบ่อ ก้อนหินน้อยใหญ่กระจัดกระจายออกไปด้วยพลังอำนาจบางอย่าง ชัดเจนว่าการสู้รบพึ่งจะจบสิ้นลง
ไม่ไกลจากพวกเขามีกลุ่มผู้สูงอายุยืนเฝ้าดูฉากที่น่าสังเวชเหล่านี้อยู่อย่างเงียบๆ
ผู้ใช้วิญญาณที่ได้รับชัยชนะยืนอยู่กลางฉากละครและเงยศีรษะหัวเราะเสียงดังขึ้นไปบนท้องฟ้า “ฮ่าฮ่าฮ่า ผู้ใช้วิญญาณระดับห้าที่เยาว์วัย เดิมทีข้าก็คิดว่าเจ้าต้องเป็นวีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ แต่ข้าไม่เคยคิดเลยว่าเจ้าจะเป็นน่าสมเพชถึงเพียงนี้ ฮืม…”
ผู้ใช้วิญญาณที่หัวเราะเสียงดังมีดวงตาเรียวเล็กและสวมเสื้อคลุมสีแดงที่ปลายแขนมีขนาดกว้างใหญ่อย่างหลวมๆ บริเวณหน้าอกของเขาเปิดกว้างเผยให้เห็นมัดกล้ามอย่างชัดเจน แต่สิ่งที่สะดุดตาที่สุดของเขากลับเป็นศีรษะล้านเตียนที่กำลังสะท้อนแสงอยู่ในขณะนี้
“นักบวชปีศาจสุราดอกไม้!” ฟางหยวนตระหนักถึงตัวตนของคนผู้นี้ได้ในทันที
“เมื่อเปรียบเทียบกับท่านนักบวชผู้สูงส่ง ข้าก็เป็นได้เพียงผายลมเท่านั้น ข้ารู้เท่าไม่ถึงการณ์และพลั้งลงมือกับท่านผู้มีเมตตาไปก่อนหน้าราวกับคนตาบอด แต่เพื่อเห็นแก่หมู่บ้านที่ต้อนรับท่านเป็นอย่างดีก่อนหน้านี้ โปรดไว้ชีวิตข้าด้วย” ร่างกายของผู้ใช้วิญญาณที่กำลังหมอบกราบอยู่บนพื้นสั่นเทาอย่างไม่หยุดหย่อนพร้อมกับน้ำตาที่ไหลลงมาอาบย้อมใบหน้าของเขาทั้งหมด ในขณะเดียวกันก็อ้อนวอนร้องขอความเมตตาจากอีกฝ่ายหนึ่งอย่างไร้เกียรติใดๆทั้งสิ้น
ฟางหยวนหรี่ตามองและตระหนักได้ว่าชุดของชายผู้นั้นเป็นเครื่องแบบของหัวหน้าหมู่บ้านแสงจันทร์บรรพกาล ชัดเจนว่าเขาก็คือหัวหน้าตระกูลรุ่นที่สี่นั่นเอง
สำหรับกลุ่มชายชราที่ยืนอยู่ห่างออกไป พวกเขาก็ต้องเป็นกลุ่มผู้อาวุโสในปีนั้นอย่างไม่ต้องสงสัย
“ฮ่าฮ่าฮ่า ต้อนรับข้าอย่างดีเช่นนั้นหรือ? เจ้ากล้าพูดเช่นนี้ได้อย่างไร? เจ้าไม่มีความละอายใจอยู่บ้างเลยหรือ? เดิมทีข้าตั้งใจมาทำการค้าขายแลกเปลี่ยนอย่างตรงไปตรงมาโดยใช้หินวิญญาณแลกซื้อกล้วยไม้จันทราของพวกเจ้าอย่างยุติธรรม แต่เป็นพวกเจ้าที่เก็บงำความคิดชั่วร้ายเอาไว้และทำเป็นต้อนรับขับสู้ข้าเป็นอย่างดีก่อนจะลอบวางยาพิษในสุราของข้า แต่พวกเจ้าประเมินข้าต่ำเกินไป ข้าเดินทางไปทั่วโลก ข้ายังได้รับสมญานามว่า สุราดอกไม้ เช่นนั้นแล้วข้าจะได้รับผลกระทบจากพิษอันต่ำตมของพวกเจ้าได้อย่างไร?”
นักบวชปีศาจสุราดอกไม้ยังคงเย้ยหยันต่อ “หากพวกเจ้าเพียงให้ความร่วมมือกับข้าอย่างตรงไปตรงมาตั้งแต่คราแรก สิ่งเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้น แต่พวกเจ้ากลับละโมบต้องการชื่อเสียงโดยการกำจัดข้า ดังนั้นนี่จึงถือเป็นบาปกรรมที่พวกเจ้าได้ก่อขึ้นด้วยตัวของพวกเจ้าเอง และหากจะโทษ พวกเจ้าก็โทษได้เพียงตนเองเท่านั้น”
“นายท่าน โปรดไว้ชีวิตที่ไร้ค่าของข้าด้วย” หัวหน้าตระกูลรุ่นที่สี่ยังคงกรีดร้องอ้อนวอนขอชีวิตอยู่ด้วยความตื่นตระหนก เขาคลานเข้าไปกอดเท้าทั้งสองข้างของนักบวชปีศาจสุราดอกไม้เอาไว้
“นายท่าน ครอบครัวของข้ามีวิญญาณใบไม้ผลิที่สามารถสร้างหินวิญญาณจำนวนมากขึ้นมาได้ นอกจากนั้นภายในถ้ำใต้ดินพวกเรายังมีกล้วยไม้จันทราอยู่อีกมากโข ข้าจะมอบให้ท่านทั้งหมดและข้าก็ยินดีที่จะกินวิญญาณทาสเพื่อกลายเป็นทาสรับใช้ผู้ซื่อสัตย์และอุทิศชีวิตทั้งหมดเพื่อนายท่านตลอดไป ดังนั้นได้โปรดเมตตาข้าด้วย”
ฟางหยวนจ้องมองฉากเหตุการณ์ที่น่าเวทนานี้อยู่อย่างเงียบๆ มันเป็นบางสิ่งที่ต่างไปจากเรื่องเล่าขานที่เขาเคยได้ยินมาอย่างสิ้นเชิง
นักบวชปีศาจสุราดอกไม้จ้องมองชายที่หมอบคลานอยู่เบื้องล่างก่อนที่เพลิงโทสะในดวงตาของเขาจะค่อยๆจางหายไป “ฮืม…วิญญาณทาสเป็นสิ่งมีค่า พวกมันเป็นวิญญาณระดับห้า แล้วเจ้าคิดว่าข้าจะมีมันเช่นนั้นหรือ? แต่เอาเถอะ เมื่อเจ้าได้ถูกพิษของข้าเข้าไปแล้ว หากเจ้าไม่ได้รับยาถอนพิษจากข้า เจ้าก็จะต้องตายอย่างแน่นอน ดังนั้นในกรณีนี้ตระกูลของเจ้าจะต้องมอบกล้วยไม้จันทราให้ข้าสามพันต้นพร้อมกับหินวิญญาณอีกสามพันก้อนเพื่อแลกกับยาถอนพิษชั่วคราวทุกครั้งที่ข้ามาที่นี่”
“ขอบพระคุณนายท่าน ขอบพระคุณนายท่าน” หัวหน้าตระกูลรุ่นที่สี่ตะโกนออกมาเสียงดังพร้อมกับโขกศีรษะลงกับพื้นอย่างไม่หยุดยั้ง
“หยุดทำตัวงี่เง่าได้แล้ว คนที่ทำตัวน่ารังเกียจเช่นนี้ข้าเกลียดชังที่สุด! สิ่งที่เรียกว่าผู้ใช้วิญญาณอัจฉริยะนักสู้ชั้นแนวหน้าระดับห้าไม่คู่ควรที่จะเป็นชื่อของเจ้า การดูแลข้าให้ดีจะเป็นวิธีเดียวที่ทำให้เจ้ารอดชีวิต…อา…..” ทันใดนั้นนักบวชปีศาจกลับกรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดพร้อมกับใบหน้าที่กลายเป็นน่าเกลียด
เขาใช้เท้าเตะร่างของหัวหน้าตระกูลรุ่นที่สี่ออกไปในขณะเดียวกันร่างกายของเขาก็โยกคลอนพร้อมกับก้าวเดินโซเซอย่างยากลำบากไปเบื้องหน้าสองสามก้าว “เจ้ายังมีวิญญาณซ่อนอยู่เช่นนั้นหรือ?”
หัวหน้าตระกูลรุ่นที่สี่พ่นเลือดออกมาจากปากหลังจากถูกเตะเข้าที่หน้าอก อย่างไรก็ตามเวลานี้รอยยิ้มของปีศาจร้ายจึงได้ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา “ฮ่าฮ่าฮ่า ทุกคนมีสิทธิลงโทษปีศาจเช่นเจ้าด้วยกันทั้งสิ้น ความสามารถพิเศษของวิญญาณแสงจันทร์ก็คือซ่อนตัว แม้ว่ามันจะอยู่ในระดับสี่ มันก็ยังสามารถทำลายทะเลวิญญาณของเจ้าได้อย่างไม่มีปัญหา และหลังจากต่อสู้กันมาอย่างยาวนาน วิญญาณของเจ้าก็คงจะเหลืออยู่ไม่มาก เช่นนั้นแล้วเจ้าจะสามารถต่อต้านวิญญาณแสงจันทร์ของข้าได้อย่างไร? เพียงแค่ยอมจำนนและกลายเป็นทาสของข้า ตราบเท่าที่เจ้าดูแลข้าอย่างดี เจ้าจะสามารถมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า”
นักบวชปีศาจสุราดอกไม้เต็มไปด้วยความโกรธแค้นในขณะที่คำรามออกมาเสียงดัง “ไปลงนรกซะ!”
โดยยังไม่ทันกล่าวจบประโยค นักบวชปีศาจสุราดอกไม้ก็ได้พุ่งตรงไปยังหัวหน้าตระกูลรุ่นที่สี่ด้วยความเร็วราวกับสายฟ้าฟาดก่อนที่จะใช้หมัดของเขาชกไปยังหน้าอกข้างซ้ายของหัวหน้าตระกูลรุ่นที่สี่ในทันที
หัวหน้าตระกูลรุ่นที่สี่ไม่ได้คาดคิดว่านักบวชปีศาจจะใช้วิธีรุนแรงเช่นนี้ แม้นักบวชปีศาจจะถูกทำลายทะเลวิญญาณ แต่เขาก็ไม่ยินดีที่จะประนีประนอมใดๆทั้งสิ้นเช่นนั้นหรือ?
ภายใต้พลังอำนาจอันมหาศาล หัวใจของหัวหน้าตระกูลรุ่นที่สี่ถูกทำลายลงอย่างง่ายดาย ในขณะเดียวกันร่างกายของเขาก็ถูกผลักให้บินกลับหลังไปราวกับว่าวสายป่านขาดก่อนจะล้มลงกระแทกพื้นในที่สุด
เลือดจำนวนมากพุ่งออกมาจากปากของเขาพร้อมกับเศษชิ้นส่วนอวัยวะภายในที่ปะปนออกมาเป็นจำนวนนับมิถ้วน
“เจ้ามันบ้า พวกเราสามารถพูดคุย…..” หัวหน้าหมู่บ้านรุ่นที่สี่จ้องมองไปยังนักบวชปีศาจสุราดอกไม้และพยายามกล่าวบางคำออกมาอย่างยากลำบาก แต่เขากลับไม่สามารถกล่าวได้จนจบประโยคก่อนที่จะแน่นิ่งไปพร้อมกับศีรษะที่พับลง
เขาตายแล้ว!
“ท่านหัวหน้า”
“ผู้ที่มุ่งสู่เส้นทางแห่งปีศาจล้วนเป็นคนบ้าทั้งสิ้น!”
“ฆ่าเขา!! แก้แค้นให้หัวหน้าตระกูลของพวกเรา”
“เขาถูกโจมตีโดยวิญญาณแสงจันทร์ของท่านหัวหน้า ทำให้เขาไม่สามารถใช้ทะเลวิญญาณได้อีกต่อไป อย่างไรเขาก็จะต้องตายเร็วๆนี้”
เหล่าผู้อาวุโสเฝ้ามองเหตุการณ์อยู่ห่างๆด้วยความโกรธแค้น
“ฮ่าฮ่า ต้องการตายเช่นนั้นหรือ?” นักบวชปีศาจสุราดอกไม้เงยศีรษะหัวเราะขึ้นสู่ท้องฟ้าอีกครั้ง จากนั้นจึงพุ่งตรงไปยังเหล่าชายชราโดยพลัน แต่ก่อนที่เขาจะได้โจมตี ใบหน้าของเขากลับเปลี่ยนสีและใช้มือกุมไปที่ท้องน้อยของตนเองอย่างช่วยไม่ได้ “บัดซบ!”
“ข้าจะกลับมาคิดบัญชีกับพวกเจ้าทีหลัง” นักบวชปีศาจคำรามออกมาพร้อมกับจ้องมองเหล่าผู้อาวุโสด้วยดวงตาแห่งความอาฆาตแค้นก่อนจะเคลื่อนที่ด้วยความเร็วปานสายฟ้าหายเข้าไปในป่าอย่างไร้ร่องรอย
ติดตามความเคลื่อนไหวที่เร็วกว่าได้ที่เฟสบุ๊ค นิยายฆ่าเวลา >>
(0 votes) 0/5