ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป” อืม . . . . . อย่างน้อย เจ้าก็รู้ว่าอะไรควรทำ “
” แต่ข้าหวังว่า เจ้าจะสามารถทำสิ่งที่เจ้าได้พูดไว้ได้ ไม่เช่นนั้นก็น่าจะรู้ว่าผลจะเป็นยังไง “
” คอยเฝ้าที่อยู่ รอเวลาที่เจ้านายของเจ้าเรียกใช้ จากนั้นเจ้าค่อยไปทำหน้าที่ “
วิชา เกราะเต่าทมิฬ มองจิตชั่วร้ายอย่างเย็นชา แล้วจากนั้นก็กระจายหมอกจากร่างของมัน กลืน ‘ชูเฟิง’ จากนั้นพวกเขาก็หายไป
จิตชั่วร้ายที่ถูกเต่าทมิฬจ้องก็ได้แต่ยืนสั่นด้วยความกลัว จากนั้นมันก็ค่อยๆหลับตาลง จากนั้นก็จมลงในความทรงจำที่ผ่านมาของมัน
เวลาผ่านไปนานเท่าไหรจนตัวมันก็ยังจำไม่ได้ ไม่รู้ กี่ปี กี่เดือน กี่วัน แต่มันก็ยังจำได้ดีว่า ภายใต้การนำทัพของมันเคยนำเหล่าพวกพ้อง จิตชั่วร้ายสร้างความกลหลไปทั่วอาณาจักรและช่วงชิงทุกสิ่งทุกอย่าง
ภูเขาที่พวกมันผ่านราบเป็นหน้ากอง แม่น้ำต่างเหือดแห้ง เปลวเพลิงแห่งสงครามปุทุอยู่ทั่วทุกที่ พวกมันมักจะทำในสิ่งที่ตัวเองต้องการ และไม่มีใครสามารถขวางทางพวกมันได้ แต่ละที่ ที่พวกมันผ่านหญ้าแม้แต่ต้นเดียวก็ยังไม่มี ชีวิตที่ผ่านมาล้วนแต่เต็มไปด้วยการฆ่าฟัน
อย่างไรก็ตาม พวกมันก็ได้สร้างความหวาดกลัวให้กับผู้คน แค่ได้ยินชื่อของพวกมัน ก็ทำให้หน้าของผู้ที่ได้ยินซีดเผือดทันที กล่าวได้ว่า พวกมันคือ ผู้ทำลายอาณาจักรที่ไร้พ่าย
พวกมันที่มาไกลขนาดนี้ จึงไม่คิดว่าจะมีคนที่สามารถหยุดพวกมันได้ แต่สิ่งที่มันจำอย่างไม่เคยลืมเลย ก็คือการโจมตีเพียงแค่ครั้งเดียวก็สามารถจมกองทัพของพวกมันได้ ภายในพริบตาเขาก็สามารถฆ่าจิตชั่วร้ายไปนับไม่ถ้วน
ผู้ชายคนนั้นแข็งแกร่งอย่างมาก มากเกินจะบรรยายออกมา การโจมตีของเขาไม่เหมือนใครๆ กล่าวได้ว่า เขาคือ เทพแห่งสงคราม
นอกจากนี้ ยังมีผู้ติดตามทั้ง 4 ที่แสนจะโหดร้าย หนึ่งในนั้นก็คือสัตว์เทพพิทักษ์ ไอเต่าทมิฬ
” ฟู่ววว “
จู่ๆ จิตชั่วร้ายก็ถอนหายใจออกมาและล้มเลิกที่จะถามหาอิสรภาพ มันยอมเชื่อฟังและกลับเข้าไปในปราสาทโบราณ เพราะ ไม่กล้าที่จะขัดขืนคำสั่งของเต่าทมิฬ
ในเวลาเดียวกัน ‘ชูเฟิง’ รู้สึกได้ว่าร่างกายของเขากำลังลอยอยู่ในอากาศพุ่งไปอย่างรวดเร็ว เมื่อเท้าของเขาแตะพื้น หมอกก็สลายไป เขากลับมายังทางที่เขาเจอรูปแบบ ลวงตาก่อนหน้านี้ ขณะนั้น เต่าทมิฬกำลังจ้องมองเขา
” อาวุโส . . . . “
ในตอนนั้น ในหัวของ’ชูเฟิง’เต็มไปด้วยคำถาม แต่เขาก็ไม่รู้ว่าจะเรื่มจากตรงไหนดี
” เจ้าคงสงสัยมากสินะว่าทำไมข้าถึงให้เจ้าปลดปล่อยจิตชั่วร้าย ? “
เต่าทมิฬยิ้มและกล่าว
” อื้มม “
ชูเฟิงหยักหน้า
” โอ้ว . . . . . . นั้นเป็นแค่คำถามเล็กๆเท่านั้น ข้าเดาว่าที่เจ้าสงสัยที่สุดคงจะเป็นเรื่อง สมบัติที่ถูกซ่อนไว้ในที่แห่งนี้ใช่ไม๊ “
” อาวุโส ท่านรู้สถานที่ซ่อนมันเอาไว้ด้วยหรอ “
‘ชูเฟิง’ รีบปลี่เข้าไปถามใกล้ๆ
” ฮ่าๆ แน่นอน ว่าทุกสิ่งทุกอย่างถูกทิ้งไว้ที่เบื้องหลังโดยอดีตเจ้านายของข้า แม้แต่ที่นี่เขาก็เป็นคนสร้างขึ้น “
” แต่น่าเสียดายที่ข้าไม่สามารถบอกเจ้าเรื่องเขาได้มากเพราะว่าพวกเราได้ให้สัญญาว่าจะไม่บอกความลับที่ซ่อนให้แก่ใคร “
เต่าทมิฬแสยะยิ้มเบาๆและกล่าว
นั้นถึงกับทำให้ ‘ชูเฟิง’ต้องพูดไม่ออก เพราะเนื่องจากตอนแรกเขาดูเหมือนจะมีความหวังโดยคำพูดของเต่าทมิฬ ‘ชูเฟิง’จึงได้แต่คิดในใจว่า ‘ ถ้าไม่บอกได้ แล้วทำไมมาถามตูฟ่ะ ประมาณว่าอยากรู้หรือไม่ นี้มันคิดจะล้อข้าเล่นหรือไง ? ‘
เห็นดวงตาของ ‘ชูเฟิง’ เต่าทมิฬก็ได้แต่ยิ้มและพูดเสริมอีกว่า
” ข้าสามารถบอกได้ว่ามันสมบัติที่ซ่อนไว้มันเป็นยังไง มันเป็นสิ่งที่ทรงพลังอำนาจ จนสามารถทำให้คนเป็นบ้า ครอบครัวเกิดความแตกแยก กระทั้งทำให้คนรักหันมาฆ่ากัน มันเปลี่ยนฝนที่ตกให้กลายเป็นโลหิต สายลมเต็มไปด้วยกลิ่นเหม็นคราว สุดท้ายบอกได้ว่ามันสามารถทำลายได้ทั้งแผ่นดิน “
” ถึงบอกเจ้าไปในตอนนี้เจ้าก็ไม่มีปัญญาเอามันมาได้หรอก ดังนั้น เจ้าอย่าพึ่งรู้เลยดีกว่า “
” แต่เจ้าก็นับว่าโชคดีอย่างมาก เพราะมาเจอกับข้า ไม่เฮงมากก็น้อยล่ะว่ะ อย่างเช่นข้าช่วยเจ้า จากจิตชั่วร้าย ทำให้จิตชั่วร้ายที่เป็นหมาเฝ้าบ้านอยู่ในนี้ แต่เจ้าก็สามารถใช้งานมันได้ในอนาคต เมื่อเจ้าก้าวเข้ามาที่นี้อีกครั้ง อย่างน้อยเจ้าก็ยังปลอดภัย “
” น่าเสียดายหลังจากที่ร่างข้าปรากฏ มันก็ทำให้พลังข้าลดลงอย่างมาก ตอนนี้ที่ข้ามีก็แค่ชื่อ ตอนแรกข้าก็ปอดๆเหมือนกันแต่ก็เนียนๆไป แต่เนื่องจากข้าเป็นผู้พิทักษ์ที่นี่ดังนั้นมันคงไม่กล้าขัดคำสั่งของข้า ดังนั้นเจ้ายังจะคิดเรื่องสมบัตินั้นอีกไม๊ “
หลังจากได้ยินคำพูดของเต่าทมิฬ ‘ชูเฟิง’ ก็ตกใจอย่างมาก แม้แต่เต่าทมิฬที่เป็นผู้พิทักษ์ยังเอ่ยเช่นนี้ แล้วพวกมันจะร้ายกาจแค่ไหน
แค่จิตชั่วร้ายส่งแรงกดดันออกมาเขาก็ถึงกับขั้นหายใจไม่ออก ไม่เพียงแค่นั้นมันยังสามารถตัดการเชื่อมต่อของเขาและ’ต้านต้าน’ได้อีก แต่นั้นคือความน่ากลัวเล็กๆน้อยๆของมัน
หากมันเอาจริงจะเปนยังไง ?
ตอนนั้น ‘ชูเฟิง’ ก็ได้รู้ตัวว่าเขานั้นมัน อ่อนแอ แค่ไหนเป็นครั้งแรก แม้ว่าเรื่องของเขาจะสามารถสั่นสะเทือนอาณาจักร หรือแม้เขาจะเป็นสัตว์ประหลาดในสายตาผู้อื่น เมื่อเผชิญหน้ากับผู้ที่ทรงพลังอำนาจอย่างแท้จริง มากสุดเขาก็เป็นได้แค่มดตัวเพียงเดียว
หากน้อยสุดก็เป็นได้แค่ไรฝุ่นตอนนั้น ‘ชูเฟิง’ อยากจะรู้จริงๆ ว่าใครคือเจ้านายของสถานที่แห่งนี้ เขาทำยังไงถึงได้แข็งแกร่งขนาดนี้ หรือว่าเขาอาจจะคือ จักรพรรดิแห่งทักษะที่’ต้านต้าน’เคยพูดถึง
อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่ยังไม่ก้าวเข้าสู่อาณาจักรแก่นแท้ในเวลานี้ แล้วเขาต้องใช้เวลาเท่าไหร่ถึงจะเทียบจักรพรรดิแห่งทักษะในตำนานได้ ?
‘ชูเฟิง’สามารถสัมผัสได้ถึงพรสวรรค์ที่อยู่ในตัว จักรพรรดิแห่งทักษะ ซึ่งมันทำให้เขาประทับใจอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็น ความเร็วในการทะลวงระดับพลังวิญญาณ พลังอำนาจการต่อสู้ที่เหนือกว่าจินตนาการหากเขาเอาแต่อาศัยสิ่งเหล่านั้น เขาคงจะไม่สามารถสัมผัสอาณาจักรเทพแห่งสงครามได้
แม้เขาที่เป็นสัตว์ประหลาดในสายตาผู้อื่น ที่ถูกมองว่าเป็นอัจฉริยะอย่างแท้จริง แต่สำหรับ’ชูเฟิง’เขาคือคนสามัญธรรมดาๆทั่วไป แม้แต่ หญิงสาวชุดม่วงยังแกร่งกว่าเขาเลยโลกใบนี้แสนกว้างใหญ่
อาณาจักรทั้ง 9 เป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น มันค่อนข้างยากสำหรับที่ ‘ชูเฟิง’ จะเติบโตเป็นอัจฉริยะในโลกทั้งใบ แต่เพื่อจะก้าวไปสู่เวทีที่กว้างใหญ่
ดังนั้น เขาจะต้องแข็งแกร่งขึ้นกว่านี้ มากกว่านี้ เป็นคนที่สุดยอดกว่านี้
” แต่ไม่ว่าเจ้าจะได้รับสมบัติในที่แห่งนี้หรือไม่มันก็ขึ้นอยู่กับตัวเจ้า ข้าจะช่วยเจ้าเท่าที่ข้าสามารถช่วยได้ สิ่งที่ข้าให้เจ้าได้มากที่สุดคือการถ่ายทอดความสามารถของข้าให้แก่เจ้า “
ในตอนนั้นเต่าทมิฬทำสีหน้าอย่างจริงจังหลังจากที่ร่างกายของมันเริ่มกลายเป็นควันเหมือนกับพยัคขาว ในสุสานจักรพรรดิที่หุบเขาพยัคฆ์ฯมันก็ค่อยๆเข้ามาแนบกับร่างของ ‘ชูเฟิง’ เพื่อส่งพลังให้กับ’ชูเฟิง’เพื่อดึงมันออกมาใช้
” แต่ท่านอาวุโสไม่ได้เป็นไรกับข้า เหตุใดถึงได้ช่วยข้ามากมายขนาดนี้ “
นั้นคือสิ่งที่เขาสังสัยมากที่สุดในใจของ ‘ชูเฟิง’
” ข้าก็มีเหตุผลของข้า ไม่งั้นทำไมเจ้าพยัคฆ์ขาวทันได้เลือกเจ้า เหตุผลพวกเราก็เหมือนๆกัน แต่สำหรับเหตุผลนั้น สักวันเจ้าคงได้รู้ “
ทันทีที่ ควันสีดำที่เป็นภาพของเต่าทมิฬ เข้าไปภายในร่างของ ‘ชูเฟิง’ เวลานั้น ข้อมูล รายละเอียดมกมาย ก็ค่อยๆหลั่งไหลเข้ามาภายในหัวของเขา
ที่มา: