I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Isekai Mahou wa Okureteru! ตอนที่ 50 คำทำนายของเทพธิดา ดูเหมือนว่ามันจะไม่ใช่เรื่องดีเท่าไหร่ (2)

| Isekai Mahou wa Okureteru! | 1674 | 2356 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้ว

“คุณก็รู้ใช่มั้ยครับ”

“กะ-ก็ใช่ แต่ว่า”

ใช่แล้ว มันเป็นคำสัญญาที่ยากจะปฏิเสธ  ‘เอลเลีย’ มองท่าทางอ้ำอึ้งนั้นพลางถอนหายใจ

“ไม่ว่าคุณจะตัดสินใจยังไง ทุกอย่างก็ต้องดำเนินไปตามนั้นอยู่ดี”

จากนั้น ‘คริส’ ก็เริ่มสงเสียงเอะอะใส่ร้ายพวกเขาอีกครั้ง

“พวกคุณได้ยินรึเปล่า! ผู้หญิงคนนี้ไม่ยอมทำตามความประสงของเทพธิดา”

เสียงวิพากษ์วิจารณ์ดังมาจากรอบตัว มีหลายคนตะโกนด่าด้วยเสียงเอ็ดตะโร  ‘เฟลเมเนีย’ มองไปรอบๆด้วยในหน้าขมขื่น ขณะที่ ‘เลฟิลเลีย’ หน้าซีดเผือด

“……..สารเลว”

เสียงก่นด่าหลังไหลเข้ามาไม่ขาดสาย เพียงเพราะคิดไม่เหมือนกัน คนเหล่านี้ก็ทำราวกับว่าพวกเขาไม่ใช่คนยังไงยังงั้น เพียงเพราะไม่เชื่อในเทพธิดาของพวกเขาเนี่ยนะ ไร้เหตุผลเกินไปแล้ว

“….. ‘ซุยเมย์คุง’  อย่าไปฟังพวกเขานะ”

‘เลฟิลเลีย’ บอกกับเขาเบาๆ จากนั้นก็เป็น ‘เฟลเมเนีย’ พูดขึ้นบ้าง

“ ‘ซุยเมย์โดโนะ’  ที่นี่……”

น่าแปลกจริงที่ผู้กล้าไม่สังเกตเห็นเรื่องนี้เลย ทั้งที่ ‘ซุยเมย์’ ตระหนักถึงมันได้อย่างชัดเจน

“ที่นี่ไม่ใช่สถานที่ที่เราควรจะอยู่นะคะ  เราควรจะรีบออกไปกันได้แล้ว”

“ไม่ ไม่ได้หรอก นั่นมันก็ไม่ต่างจากการหนีปัญหา”

“ถ้าอย่างนั้นจะทำยังไงต่อไปคะ?”

ชายหนุ่มจ้องตากับคนที่ถูกเรียกว่าผู้กล้า การบีบบังคับ ‘เลฟิลเลีย’ แบบที่ไม่เหลือหนทางอื่นไว้ให้แบบนี้ จะให้อภัยไม่ได้  ‘คริส’ ยังคงเดินหน้าต่อไปโดยปล่อยให้ผู้กล้าเผชิญหน้ากับพวกเขา

เธอเดินไปรอบห้องพร้อมกับพูดจาทำลายชื่อเสียงของเขาไปด้วย นั่นหมายความว่านับจากนี้ เขาเองก็ไม่มีหนทางที่จะทำอย่างอื่นต่อไปอีกแล้วเช่นกัน

“เป็นวิธีการที่สมกับเป็นผู้กล้าดีนะ การทำลายชื่อเสียงคนอื่นเนี่ย”

“มันช่วยไม่ได้ ยังไงคุณก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของผมอยู่แล้ว”

“……”

“ในโลกแห่งดาบและเวทมนตร์นี้ ผมคือคนที่ได้รับพรจากเทพธิดา คุณเข้าใจอยู่แล้วนี่”

“โฮ่ ตอนนี้ฉันเข้าใจแจ่มแจ้งเลยล่ะ”

“ดูเหมือนว่าคุณจะเป็นคนที่พูดด้วยดีๆไม่ได้สินะ”

‘เอลเลียต’ ชักดาบออกมา

“เดี๋ยวก่อน!”

“หืม!?”

ทันใดนั้นก็มีเสียงตะโกนดังเข้ามาเพื่อหยุดการต่อสู้ระหว่าง ‘เอลเลียต’ และ ‘ซุยเมย์’  เสียงแหลมสูงแบบนั้น ดูเหมือนว่าจะเป็นคนที่ ‘ซุยเมย์’ พบที่วิหารในตอนนั้น  ‘คริส’ อยู่ตรงนั้นและเผชิญหน้ากับเธอ

“เธอเป็นใคร?”

“ฉันคือซิสเตอร์ ‘คลาริสซ่า’  และคำพยากรณ์ของเทพธิดานำพาฉันมาที่นี่”

“โปรดยั้งมือก่อนนะค่ะ”

‘คลาริสซ่า’ เดินมาขวางระหว่าง ‘เอลเลียต’ และ ‘ซุยเมย์’  ก่อนจะมองหน้าทั้งคู่  ‘คริส’ เอ่ยถามทันที

“คำพยากรณ์ที่ว่านั่นคืออะไรงั้นเหรอ? มันเกี่ยวอะไรกับพวกเรา?”

“ค่ะ คำพยากรณ์ที่ว่า ถูกส่งมาถึงพวกคุณโดยตรง”

“ฉันกับเขาเหรอ?”

“ค่ะ เด็กสาวผมแดงไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับพวกคุณ งานของคุณทั้งสองคนคือคลี่คลายคดีเงามืดที่ทาบทับอยู่เหนือเมืองหลวงในตอนนี้”

คำพูดที่ไม่คาดคิดนั้นเรียงเสียงอืออึงจากทุกคน คราวนี้ ‘ซุยเมย์’ เป็นฝ่ายเอ่ยถามซิสเตอร์บ้าง

“ซิสเตอร์ อะไรคือเงามืดที่ทาบทับเมืองหลวงงั้นเหรอ?”

“มันเป็นเรื่องร้ายแรงที่ไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลได้ค่ะ จะเปิดเผยได้ก็ต่อเมื่อจับคนร้ายได้แล้วเท่านั้น”

“นั่นหมายความว่าจะให้ผมจบปัญหากับหมอนี่ไว้แค่นี้ใช่มั้ย?”

“ใช่ค่ะ กรุณายอมรับด้วยเถอะนะค่ะ ต่อให้คุณต่อสู้กันไปมันก็ไม่ได้ประโยชน์อะไรขึ้นมาหรอก”

คำพูดของซิสเตอร์ทำให้เอลเลียตลดดาบลงเงียบๆ

“….เอาล่ะ ถ้าพูดขึ้งขนาดนั้นแล้วล่ะก็ ผมจะวางดาบลงก็ได้”

‘ซุยเมย์’ จับจ้องการกระทำนั้นอย่างไม่ละสายตา  ‘เอลเลียต’ ที่เก็บดาบแล้วหันมามอง ‘ซุยเมย์’ อีกครั้ง

“อยากจะพูดอะไร?”

“ผมจะไม่ลืมหรอกนะว่าคุณพูดจาดูหมิ่นเกี่ยวกับเทพธิดา ‘อาร์ชูน่า’ ไว้ว่ายังไงบ้าง สักวันผมจะต้องกลับมาตัดสินกับคุณแน่”

“คนนอกรีต”

‘เอลเลียต’ ยอมรับแต่โดยดี ต่างจาก ‘คริส’ ที่เดินเข้ามาหาเรื่อง ‘ซุยเมย์’

“ ‘ซุยเมย์ ยาคางิ’  ใช่มั้ย”

“ใช่”

“ผมจะจำไว้ ไปกันเถอะ ‘คริส’ ”

‘เอลเลียต’ กล่าวทิ้งท้าย ก่อนจะเดินนำ ‘คริส’ ออกนอกสมาคมไป ขณะที่ ‘ซุยเมย์’ กำลังยืนมองอยู่นั้น  ‘คลาริสซ่า’ ก็เดินเข้ามาหา

“ไม่พบกันนานนะค่ะ”

“ไม่คิดเลยนะเนี่ยว่าซิสเตอร์ซิสเตอร์จะกล้าเข้ามาห้ามถึงที่นี่”

“ฉันก็เหมือนกันค่ะ ฉันมาที่นี่เพื่อพูดกับคุณ คุณสุภาพบุรุษและผู้กล้า”

เขาค่อนข้างประหลาดใจที่เธอรู้ว่าเขาเป็นใครทั้งๆที่ไม่เคยเห็นฝีมือเขาเลยสักครั้ง

หรือว่า…..?  ‘ซุยเมย์’ นึกถึงการกระทำของ ‘คลาริสซ่า’ ก่อนหน้านี้ เธอบอกกับเขาว่าได้เดินทางมาเพื่อเยี่ยมชมวิหารฟีรัสเฟเรีย รวมถึงเรื่องที่ไม่ควรจะเปิดเผยออกมา

“ซิสเตอร์ อย่าบอกนะว่าที่พูดมาก่อนหน้านี้……”

“เรื่องเดียวกับที่จะพูดตอนนี้นั่นแหละค่ะ”

“…..?”

ซิสเตอร์เข้ามากระซิบกับเขาว่า

“ล้อเล่น”

ก่อนจะหัวเราะออกมา

“โอ๊ะ…..?”

“ถึงแม้ว่าผู้กล้าจะถอยไปในตอนนี้ ความจริงก็ยังไม่เปลี่ยนแปลงหรอกนะค่ะ”

เธอพูดพลางหัวเราะคิกคัก แต่ก็ไม่ได้พูดเพื่อเข้าข้างผู้กล้าแต่อย่างใด

“งั้นแปลกว่าฉันจะต้องเสียเธอไปงั้นเหรอ?”

“โอ้ ฉันพูดแบบนั้นเหรอคะ?”

“ไม่ใช่งั้นเหรอ……”

แม้ว่าจะไม่รู้เกี่ยวกับอนาคตและคำพยากรณ์ แต่เขาก็พอจะคาดเดาได้ว่าซิสเตอร์คนนี้จะต้องไม่ใช่คนธรรมดา ไม่มีทางที่คนธรรมดาจะทำอะไรแบบนี้ได้

“ขอถามอีกครั้งนะ คุณเป็นซิสเตอร์ของโบสถ์แห่งความรอดจริงๆเหรอ?”

“ค่ะ”

“แล้ว…”

เมื่อ ‘ซุยเมย์’ กำลังจะพูดต่อ  ‘คลาริสซ่า’ ปิดปากเขาไว้แล้วส่ายหน้า ก่อนจะกระซิบบอกกับเขาเบาๆ

“คำพยากรณ์ของเทพธิดาก็ไม่ได้ถูกไปซะทุกอย่างหรอกค่ะ มันเป็นเพียงแนวทางที่จะนำไปสู่จุดที่ดีกว่า แต่เมื่อเผชิญหน้ากับคนที่ตั้งใจจริง มันก็ไม่ได้มีประโยชน์อะไรเลย”

“อ่ะ…..”

คิ้วของ ‘ซุยเมย์’ ขมวดอย่างงงวยกับคำพูดที่น่าแปลกเหล่านั้น  ‘คลาริสซ่า’ ขยิบตาให้เขาอย่างล้อเลียน

“คุณมีทุกอย่างที่ต้องการอยู่แล้วค่ะ แต่เดินตามหัวใจไปก็พอ”

หลังจากนั้นซินเตอร์ก็หันหลังและวิ่งจากไป ★ หลังจากที่ ‘คลาริสซ่า’ เข้ามาหยุดการต่อสู้ระหว่าง ‘ซุยเมย์’ และ ‘เอลเลียต’ ไว้ ตอนนี้พวกเขาไปออกมาเดินอยู่บนทางเดินใกล้บ้าน ‘ เฟลเมเนีย’ ทำหน้าน่ากลัว

“ไร้สาระมากค่ะ”

“อืม”

ความตั้งใจของ ‘ซุยเมย์’ ที่จะต้องจับตัวคนร้ายให้ได้เร็วๆนี้ ถูกคำพูดของ ‘คลาริสซ่า’  ดักทางไว้แล้ว เขาจึงไม่อยากจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้อีก

“…..ฉันต้องขอโทษเกี่ยวกับปัญหาพวกนี้ด้วยนะค่ะ”

“……? อย่าพูดแบบนั้นสิ ‘เลฟิลเลีย’ ! ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องนั้นหรอก ยังไงซะเกมนี้คุณก็ชนะแล้วนะ”

‘ซุยเมย์’ พูดรัวๆ  ‘เฟลเมเนีย’ ซึ่งสังเกตเห็นความผิดปกตินั้น  ‘ซุยเมย์’ นั้นไม่ได้ตอบคำถามเธอ แต่กลับจ้องมองพื้นดิน เธอจึงเรียกเขาด้วยนำเสียงเป็นห่วง

“ซุยเมย์โดโนะ?”

“…..โอ้ ใช่ๆ อย่างน้อยเหตุการณ์ร้ายนี่ก็ช่วยให้เรื่องราวผ่านไปได้สักพัก เมื่อกี้เธอว่าไงนะ?”

แม้ว่าปัญหาที่ ‘ซุยเมย์’ กำลังเผชิญอยู่นั้นจะถูกแก้ไขด้วยคำโกหกของคลาริสซ่าไปแล้ว แต่คำพยากรณ์ของเทพธิดาเกี่ยวกับ ‘เลฟิลเลีย’ ก็ยังคงเป็นปัญหาอยู่ดี

ไม่มีใครรับประกันได้ว่าต่อไปจะไม่เกิดปัญหาขึ้นอีก ในระหว่างที่ ‘ซุยเมย์’ กำลังจมอยู่ในห้วงความคิด ก็มีคนดึงแขนเสื้อของเขา

“ ‘ซุยเมย์คุง’  ฉันทำผิดรึเปล่า?”

“ไม่หรอก ต่อให้ย้อนเวลากลับไปได้ ผมก็จะทำแบบนี้อยู่ดีนั่นแหละ”

“ถ้าอย่างนั้น….คุณจะขัดขวางเหรอคะ?”

‘ซุยเมย์’ พยักหน้าให้กับคำพูดของ ‘เฟลเมเนีย’

“ใช่แล้ว แต่ว่า…..”

“ไม่ต้องห่วงค่ะ ‘ซุยเมย์คุง’  ตอนนี้เรามี ‘เฟลเมเนีย สติงเรย์’ อยู่ด้วย ฉันเองก็จะช่วยอีกแรง”

“จะช่วยขัดขวางผู้กล้างั้นเหรอ?”

“แน่นอนค่ะ แต่ไม่ขอรับประกันความสำเร็จนะ”

“ช่วยไม่ได้ ก็อีกฝ่ายเป็นถึงผู้กล้านี่นา”

สำหรับคนที่อาศัยอยู่ในเมืองนี้ คงไม่มีใครโง่พอที่จะช่วยพวกเขาต่อต้านผู้กล้าที่มาช่วยกู้โลกหรอก ถ้าไม่มีความร่วมมือแล้ว มันก็ค่อนข้างจะเป็นปัญหาอยู่

เขาควรจะใช้วิธีไหนดีนะ ขณะที่ ‘ซุยเมย์’ กำลังจมอยู่ในห้วงความคิด  ‘เลฟิลเลีย’ ก็ยกมือขึ้น

“ลองไปถามคนแถวนี้ดูดีมั้ย?”

“ไม่  ‘เลฟิลเลีย’  ถามไม่ได้”

“แล้ว?……คุณจะหาคนร้ายได้ยังไงล่ะ?”

“ขอคิดดูก่อน”

‘ซุยเมย์’ ส่ายศีรษะให้กับคำพูดของ ‘เลฟิลเลีย’  วิธีการของเธอไม่สามารถใช้กับที่นี่ได้

“…….?”

“ณุ้สึกมั้ยว่าแถวนี้มีแมวจรจัดเยอะมาก”

“แมวจรจัด ทำไมเหรอคะ?”

“อืม ถ้าเราไม่สามารถขอความช่วยเหลือจากมนุษย์ได้ เราก็ต้องขอความร่วมมือจากแมวแทนไงล่ะ”

‘ซุยเมย์’ เริ่มอธิบายแผนการให้ทั้งสองคนฟัง

ที่มา:

ตอนที่แล้ว
comments