I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Isekai Mahou wa Okureteru! ตอนที่ 50 คำทำนายของเทพธิดา ดูเหมือนว่ามันจะไม่ใช่เรื่องดีเท่าไหร่ (1)

| Isekai Mahou wa Okureteru! | 1479 | 2365 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

ผมมารับ ผู้ชายคนนั้น คนที่เรียกตัวเองว่าผู้กล้า  ‘เอลเลีย’ ตกล่าวว่าเขาได้รับการดลใจจากเทพธิดาให้เดินทางมารับ ‘เลฟิลเลีย’

“เอาล่ะ หลังจากที่ผมแนะนำตัวไปแล้ว พอจะบอกชื่อของคุณได้รึเปล่าเอ่ย?”

“เลฟิลเลีย กราคิส……”

“ ‘เลฟิลเลีย กราคิส’  เป็นชื่อที่ดีครับ ยินดีที่ได้รู้จักอีกครั้ง”

‘เอลเลียต’ ยิ้มกว้างพร้อมกับยื่นมือขวาออกมา ทำท่าราวกับของความรักยังไงยังงั้น

“ตอนนี้ จากคำพยากรณ์ของเทพธิดา ‘อาร์ชูน่า’  คุณจะไปกับเรารึเปล่าครับ?”

“คือว่า…”

คำพูดและพฤติกรรมของ ‘เอลเลียต’  ถือเป็นการข่มขู่คุกคามอย่างที่สุด และมีคนหนึ่งที่ทนฟังต่อไปไม่ได้ แน่นอนว่าเขาไม่ใช่ใครที่ไหน  ‘ซุยเมย์’ นั่นเอง

“ขอโทษนะ”

“คุณเป็นใคร?”

“เขาคือ ‘ยาคางิ ซุยเมย์’ คนที่อยู่กับเธอไง….มีอะไรอยากจะพูดกับผู้กล้างั้นเหรอ??”

คำถามที่ดูเหมือนจะเจือไปด้วยความไม่พอในนั่นดังออกมาจาก ‘คริส’  ผู้ทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงของ ‘เอลเลียต’

“เป็นคำถามที่ดี  แต่ว่าผู้กล้าจริงหรือปลอมนี่ มีอะไรมาพิสูจน์ล่ะ?”

“ต้องการจะพูดอะไรกันแน่?”

“ฉันก็เคยต่อสู้กับปีศาจมานิดหน่อย ฉันพอมั่นใจว่ารู้เรื่องของพวกมันอยู่บ้าง”

เขาพูดเพื่อจะลองเชิง ‘เอลเลียต’  เมื่อมองไปรอบๆมีหลายคนที่พยักหน้าเห็นด้วย เพราะว่าก่อนหน้านี้มีหลายคนที่ได้ยินพนักงานตอนรับของสมาคมพูดคุยกับเขา แต่กับผู้กล้าที่ไม่มีใครรู้จักคนนี้ ภาษีมันก็ต่างกันอยู่

ยังไงก็ตาม ถ้าสังเกตดูให้ดี ก็รู้แล้วล่ะว่าเด็กผู้ชายคนนี้ไม่ได้พูดภาษาของโลกนี้อยู่ แต่เพราะพรของเทพธิดาทำให้คนอื่นๆไม่สังเกตเห็นเรื่องนี้ก็จริง แต่ไม่ใช่คนที่มาจากโลกเดียวกับเขา  ‘เลฟิลเลีย’ พูดขึ้นด้วยใบหน้าเคร่งเครียด

“….. ‘ซุยเมย์คุง’  หลังจากที่รู้คำทำนายของเทพธิดาแล้วทำไมถึงยังสงสัยเรื่องของผู้กล้าอีกล่ะ”

“ใช่แล้ว เอลเลียตคือผู้กล้าที่ถูกจักรวรรดิอัญเชิญมาอย่างแน่นอน”

‘คริส’ กล่าวอย่างหนักแน่น และเอลเลียตที่วางมือบนหน้าอกของตนก่อนจะหลับตาลง

“อย่างที่ได้ยินนั่นแหละ มันเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้อีกแล้ว”

“เข้าใจแล้ว งั้นก็ หมอนี่เป็นผู้กล้า”

“แล้ว….”

“แต่ว่าเรื่องของเธอเนี่ย จะไปหรือไม่ไปมันก็เป็นคนละเรื่องกัน”

“หือ?”

“ยิ่งไปกว่านั้นก็คือ ทำไมเราต้องทำตามคำทานายของเทพธิดาด้วย?”

คำถามที่ ‘ซุยเมย์’ ถามออกไปนั้นท้าทายความเชื่อของคนในโลกนี้เป็นอย่างมาก และ ‘คริส’ ก็เป็นคนตอบคำถามนั้น

“เพราะว่าเทพธิดานั้นหวังดีกับมนุษย์ไงล่ะ คำสั่งของเทพธิดาจึงถือเป็นเด็ดขาด”

นี่คือความคิดของคนที่อาศัยอยู่ในโลกซึ่งถูกปกครองโดยเทพธิดา ไม่ความความคิดหรือเหตุผลใดก็ตามที่เอื้อประโยชน์ให้กับเทพธิดา สิ่งนั้นก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ชอบธรรมขึ้นมาทันที แต่…..

“แล้วความเห็นของเขาล่ะ?”

“ก็ต้องเหมือนกับอยู่แล้ว”

‘เอลเลียต’ ที่ถูกพามาที่นี่เพื่อความตั้งใจของเทพธิดา ‘อาร์ชูร่า’ ก็ยังเห็นด้วยงั้นเหรอ……

จักรวรรดินี่ใช้วิธีไหนล้างสมองกันนะ เขาจะปล่อยให้ ‘เลฟิลเลีย’ ตกไปอยู่ในวังวนนี้ไม่ได้เป็นอันขาด นั่นคือความตั้งใจของ ‘ซุยเมย์’

“ถ้าอย่างนั้นความตั้งใจของนายคืออะไร ปราบราชาปีศาจ?”

“ถึงแม้ว่าจะไม่มั่นใจนัก แต่นั่นคือภารกิจที่ผมจะต้องทำ”

อ่า เขาเข้าใจดีเลยล่ะ

“แล้ว…”

“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเรื่องที่เราจะต้องพาเธอไปยังงั้นเหรอ?”

“มันต้องเกี่ยวอยู่แล้วสิ”

“มนุษย์น่ะไม่สามารถจินตนาการถึงการเปิดเผยของเทพธิดาได้หรอกนะ เหตุการณ์ในอดีตก็มีให้เห็นอยู่แล้วนี่”

“แต่คำพยากรณ์มันก็เป็นแค่แนวทางเท่านั้น ใช่ว่ามันจะถูกทั้งหมดสักหน่อย”

“ถึงจะอย่างนั้นก็เถอะ แต่ความจริงที่ว่าฉันได้รับการช่วยเหลือจากคำพยากรณ์นั่นก็เป็นเรื่องจริงนะ”

“บางทีมันอาจจะเป็นละครฉากเล็กๆของเทพธิดาก็ได้ใครจะไปรู้”

‘ซุยเมย์’ ที่พยายามกล่อม ‘เอลเลียต’ อย่างจริงจัง ถูก ‘คริส’ ขัดขึ้น

“ถ้าอย่างนั้น…..”

“……..?”

“สิ่งที่คุณพูดมาทั้งหมดนั่น คุณตั้งใจที่จะให้ ‘เอลเลียต’ ที่เป็นผู้กล้าปฏิเสธเทพธิดา ‘อาร์ชูน่า’ สินะคะ?”

“นั่นมันก็…..”

‘คริส’ มองด้วยสายตาอันคมกริบที่ทกให้ ‘เลฟิลเลีย’ รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมา แต่ความกังวลเกี่ยวกับคำพูดของเทพธิดา ‘อาร์ชูน่า’ กลับมีมากกว่า  ‘เฟลเมเนีย’ ยื่นมือเข้ามาช่วยด้วยการพูดกับ ‘คริส’ ทันที

“แน่นอนว่าคำพูดของเทพธิดา ‘อาร์ชูน่า’ นั้นเป็นสิ่งที่ไม่ควรเพิกเฉย แต่ว่า ทั้งหมดนั้นมันก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของ ‘เลฟิลเลีย’ นะคะ”

“แต่ได้ยินมาว่าตอนนี้กองทัพปีศาจกำลังรุกรานราชอาณาจักรแอสเทลอยู่ไม่ใช่เหรอคะ?”

“เรารับมือได้ค่ะ”

“แล้วถ้ามันเกิดขึ้นอีก….”

“สถานการณ์ก็ยังไม่เปลี่ยนหรอกค่ะ คุณน่าจะพอได้ยินเรื่องราวของผู้กล้าของเรามาบ้างใช่รึเปล่า?”

ระหว่าง ‘เฟลเมเนีย’ และ ‘คริส’ เกิดประกายสายฟ้าขึ้นอย่างชัดเจนขนาดที่มองเห็นด้วยตาเปล่าได้เลย แต่ความจริงที่ ‘เฟลเมเนีย’ เอ่ยนั้น ทำให้ ‘คริส’ ถึงกับเม้มปากเป็นเส้นตรง  ‘เอลเลียต’ พูดขึ้น

“ยังไงซะเธอก็ต้องไปกับผม”

“มั่นใจจริงนะ”

“และคุณก็ต้องปล่อยให้เป็นแบบนั้น”

‘ซุยเมย์’ หน้าบึ้งขึ้นมาทันที เขาหรี่ตาไปที่ ‘เอลเลียต’ อย่างโมโห

“หืม?”

“เธอแข็งแกร่ง และเราต้องการเธอ”

“โฮ่….”

“บางทีคุณอาจจะไม่อยากให้เอไป แต่ต้องขอโทษด้วยจริงๆ ที่ผมต้องพาผู้หญิงของคุณไป การเอาชนะราชาปีศาจ มันสำคัญกว่าความรักระหว่างชายหญิงนะ เพื่อโลก เพื่อผู้คน มันจำเป็นจะต้องมีคนเสียสละ”

มุมปากของ ‘ซุยเมย์’ บิดเบี้ยวเล็กน้อย เขาพยายามจะโต้ตอบ แต่ก็ตัดใจ ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงแบบเดียวกับในตอนแรก

“คิดอย่างนั้นเหรอ?”

“ใครๆในโลกนี้ก็คิดแบบนี้กันทั้งนั้น”

“ไม่ ฉันไม่ได้หมายถึงคนในโลกนี้ ฉันหมายถึงนายนั่นแหละผู้กล้า นายคิดแบบนั้นเหรอ?”

‘เอลเลียต’ ตอบกลับอย่างอ้ำอึ้งว่า

“เรื่องนั้นเวลาจะช่วยหาคำตอบให้เอง”

‘ซุยเมย์’ จ้อง ‘เอลเลียต’ เขม่ง

“ถ้าอย่างนั้นก็ขอปฏิเสธ”

“เอ๊ะ นั่นไม่ใช่หน้าที่ของคุณสักหน่อย”

“ ‘เลฟิลเลีย’ เป็นของฉัน ทำไมฉันถึงจะไม่มีสิทธิปฏิเสธล่ะ?”

“แต่ว่าโลกนี้น่ะ”

‘เอลเลียต’ พยายามพูดถึงโลกนั้นทำให้ ‘ซุยเมย์’ ยิ่งหงุดหงิดมาขึ้นไปอีก

“นั่นมันไม่ใช่เรื่องของฉันสักหน่อย”

“ซุยเมย์คุง!”

“ซุยเมย์โดโนะ!”

ตามปกติแล้ว ‘ซุยเมย์’ จะพยายามหลีกเลี่ยงที่จะสร้างความวุ่นวายให้กับตัวเอง แต่คำตอบที่เขาให้กับ ‘เอลเลียต’ ทำให้ ‘เฟลเมเนีย’ และ ‘เลฟิลเลีย’ ร้องออกมาด้วยความตกใจ

“…..หรือว่าคุณจะไม่ใช่คนในโลกนี้”

“ยังไงมันก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรนี่”

“คุณ…….”

สายตาของ ‘เอลเลียต’ แสดงออกถึงความงงงัน แต่ ‘ซุยเมย์’ ไม่ปล่อยให้เขาพิจารณามันไปมากกว่านั้น  ‘คริส’ ตะโกนขึ้น

“ได้ยินกันรึเปล่า ผู้ชายคนนี้กำลังดูหมิ่นเทพธิดาอยู่”

เสียงอืออึงดังขึ้นรอบๆเก้าอี้ของ ‘เฟลเมเนีย’ และ ‘เลฟิลเลีย’  คำพูดของ ‘ซุยเมย์’ ที่ถูกสาวกของโบสถ์แห่งความรอดเอาไปขยายความเกินจริงนั้น ทำให้ผู้คนโดยรอบมองเขาด้วยสายตาโกรธเกรี้ยว

คำพูดของ ‘คริส’ ซึ่งเป็นสาวกของเทพธิดานั้นดึงดูดความสนใจของทุกคนในสมาคม แม้แต่พนักงานต้อนรับไมไม่ได้สนใจก่อนหน้านี้ยังหันมามอง บรรดาผู้ศรัทธาในโบสถ์แห่งความรอดพากันจ้อง ‘ซุยเมย์’ อย่างกับจะเข้ามาฉีกเขาเป็นชิ้นๆ เสียงร้อง

“วายร้าย”

“คนอวดดี”

“ไร้ยางอาย”

ถูกส่งตรงมาให้ ‘ซุยเมย์’ โดยเฉพาะ แต่ชายหนุ่มยังคงนั่งนิ่งโดยที่สีหน้าไปเปลี่ยนไปสักนิด เพราะเขาเข้าใจดีถึงผมที่จะตามมาหากว่าเขาแสดงท่าทีอะไรออกไป

“…….ผมไม่รู้หรอกนะว่าเทพธิดาของคุณน่ะจะคิดยังไง แต่การกระทำของคุณนี่มันดูหมิ่นเทพธิดากว่าผมอีกนะ”

“คำพูดของคุณมาสร้างปัญหาเองนะ”

ชายหนุ่มแสยะยิ้มและ…

“งี่เง่า”

“ห๊ะ?”

คำพูดตรงไปตรงมาของ ‘ซุยเมย์’ ทำให้ ‘เอลเลียต’ รู้สึกสับสน เขาล่ะสายตาจาก ‘ซุยเมย์’ มามอง ‘เลฟิลเลีย’  ก็พบว่าเธอกำลังทำสีหน้าบูดบึ้งอยู่ หรือเทพธิดาจะส่งเขามาเป็นอุปสรรคความรักของคนอื่นกัน

“ดูหน้า ‘เลฟิลเลีย’ สิ ดูสิว่าเธออยากจะไปตามคำทำนายของเทพธิดารึเปล่า?”

“ถึงจะพูดแบบนั้นก็เถอะ……”

“อะไร? มีอะไรก็พูดออกมาสิ”

เสียงของ ‘ซุยเมย์’ พึมพำ ผู้กล้าโง่ๆ ดังก้องอยู่ในสมองของ ‘เอลเลียต’

“……..ตะ-แต่ผมเป็นผู้กล้านะ”

“รู้แล้วน่า จะพูดซ้ำๆทำไม”

คำพูดของ ‘ซุยเมย์’ ที่แสดงทัศนคติของเขาออกมาอย่างชัดเจน มันยากมากหากจะเปลี่ยนแปลงความคิดของเขา  ‘เอลเลียต’ จึงหันมากล่อมเป้าหมาย ‘เลฟิลเลีย’ แทน

“คุณรู้ความสำคัญของคำพยากรณ์ของเทพธิดาใช่มั้ย”

“ฉัน ฉัน……”

‘เลฟิลเลีย’ อ้ำอึ้ง ไม่ได้ตอบรับหรือปฏิเสธ

ที่มา:

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments