ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปคืนที่ดาวเต็มท้องนภา ในความมืดมนก็ยังมีแสงระยิบระยับ จันทราที่ส่องสว่าง ทำให้เขามองทุกอย่างได้อย่างชัดเจน แต่เมื่อเมฆาเลื่อนเข้ามาบดบังผืนฟ้า แสงจันทราที่สาดส่องกลับหายวับไปกลับตาพื้นที่บริเวณนั้นมีต้นไม้หนามแหลมคมตั้งตระหง่านอยู่เหมือนกับ
” เขี้ยวของหมาป่า “
ที่โผล่ขึ้นมาจากดิน ในความเงียบที่สมบูรณ์ ‘ชูเฟิง’ ได้ยินเสียงของลมที่พัดผ่านหูเขาไป แต่จู่ๆเขาต้องย้ายความสนใจไปที่เสียงภายในหลุมอุโมงค์
” บ้าจริง!!! ท่านแน่ใจนะว่าข้าต้องเข้าไปที่นั้น ได้ยินอะไรนั้นไมํมันคือเสียงกรีดร้องของ ผีร้าย ชัดๆ “
‘ชูเฟิง’ อึดอัดเป็นอย่างมาก นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเคยได้ยินที่แสนเศร้าร้องโหยหวนออกมาจากหลุมอุโมงค์ มันเป็นเสียงดังขึ้นมาจากนรกชัดๆ เหมือนกับเขาโกรธแค้นและกรีดร้องออกมา มันช่างน่ากลัวจริงๆ
” มีไรที่เจ้าต้องกลัว อย่าลืมว่าตัวเจ้าคือ ผู้เชื่อมต่อโลกวิญญาณ!!! ชะตาถูกกำหนดให้ข้องเกี่ยวกับ พวกผีๆสางๆหรือเหล่าวิญญาณอยู่แล้ว และเจ้าก็ต้องดูดแหล่งพลังวิญญาณพวกมันมาให้กับเรา เข้าใจ !!! “
‘เทพธิดา’ ตำหนิ
” จริงเหรอ . . . . . . ที่ท่านพูดมา เป็นเรื่องธรรมดาของผู้เชื่อมต่อโลกวิญญาณที่จะต้องปล้นสุสานเช่นนั้นหรอ “
‘ชูเฟิง’ ถึงกับตะลึง
” แล้วเจ้าคิดว่าพวกแหล่งกำเนิดวิญญาณจะได้พลังวิญญาณมายังไงล่ะ เนื่องจากพวกเขาออกมาโลกภายนอกและจับต้องสิ่งของเหมือนคนบนโลกนี้ไม่ได้ แต่ภายในสุสานเต็มไปด้วยศพผู้คนมากมายที่ต้องการค้นหาสมบัติ มันเป็นทางลัดที่ดีที่สุดแล้วในตอนนี้ “
” เส้นทางการต่อสู้นั้นแสนจะยากลำบาก มีแต่คนโง่ที่ไม่ใช้ทางลัดสู่ความแข็งแกร่ง “
‘เทพธิดา’ เยาะเย้ย
” จากที่ท่านพูดมาก็จริง แต่ในนั้นมันเป็น ผี นะ ผี “
หัวใจของ ‘ชูเฟิง’ ถูกบีบแน่น แม้ว่าผีจะเป็นแค่เรื่องเล่า ด้วยประสบการณ์ที่ผ่านๆมา เขาพบเพียงว่า ในโลกใบนี้ มีเหล่าสัตว์ร้าย สัตว์อสูร ปีศาจ คนที่ถูกธาตุไฟเข้าแทรกจนเป็นวิญญาณร้าย โดยการ สังหารผู้คนมากมาย นั้นแหละที่เรียกว่าปีศาจ ก็ประมาณนั้น แต่ไม่นึกเลยไอที่เรียกว่า ผี จะมีอยู่เช่นกัน
” สิ่งที่เจ้ากลัวที่เรียกว่า ผี เจ้าก็เคยพบมันมาก่อน “
‘เทพธิดา’ พูด
” ข้านี่น่ะเคยเห็นผีมาก่อน “
‘ชูเฟิง’ ทบทวนหลังจากที่นางพูด ยังไงก็ตามเขาก็นึกไม่ออกว่าเขาไปเจอผีตอนไหน
” ตอนที่เจ้าอยู่ในสุสานพันกระดูก เจ้าก็เคยพบคนแก่ๆคนหนึ่งแล้วไม่ใช่หรอ “
‘เทพธิดา’ บอก
” อะไรน่ะ เขาเป็นผีงั้นหรอ เป็นไปได้ยังไง เขาแข็งแกร่งมากเลยนะ!!! “
‘ชูเฟิง’ สับสนอย่างมาก ไม่นึกว่าก่อนเลยว่าชายชราที่เขาพบเมื่อตอนนั้นจะเป็นผี แม้ว่าเขาจะไม่ได้ปล่อยออร่าใดๆออกมา ‘ชูเฟิง’ รู้สึกได้ถึงความแข็งแกร่งของเขา แล้วเขาเป็นผีไปได้ยังไง
” เมื่อพวกเขาก้่าวถึงขอบเขตของการต่อสู้ จิตของพวกเขาจะแข็งแกร่งอย่างมาก ต่อให้พวกเขาตายหรือร่างกายดับสูญแต่วิญญาณของเขาจะสามารถเดินทางไปที่ไหนก็ได้นั้นแหละเรียกว่า ผี “
” ยิ่งถ้าเป็นผู้เชื่อมต่อโลกวิญญาณแล้วล่ะก็ พวกเขาจะกลายเป็นวิญญาณที่แข็งแกร่งเป็นอย่างมาก พวกเขาสามารถรวมวิญญาณเข้ากับจิตใต้สำนึกได้ และสามารถควบคุมการกระทำทุกอย่างได้อย่างสบายๆ เหมือนกับสิ่งมีชีวิตอีกรูปแบบหนึ่งนั้นเอง “
” แม้ว่าจะไม่ค่อยจะพบเห็นได้มากนัก แต่การคงอยู่คงพวกนั้นมันอันตรายเกินไป ชายชราคนนั้นจำได้มั๊ย ว่าเขาเคยดูดพลังวิญญาณของ สมาชิกนิกาย ดาบฯ และปลดผนึกพลังวิญญาณบางอย่างในตัวของเจ้า “
‘เทพธิดา’ เล่ารายละเอียนในวันนั้นให้เขาฟัง แม้ว่า ‘ชูเฟิง’ จะหมดสติ แต่นางก็มองเห็นทุกอย่างที่ชายชราคนนั้นทำหลังจากที่ได้ฟังนางพูด ‘ชูเฟิง’ ก็พลันนึกขึ้นได้ว่า ก่อนที่เขาจะมีอำนาจพลังวิญญาณ มันถูกผนึกไว้ แต่หลังจากที่เขาตื่นผนึกมันก็คลาย นั่นหมายความว่าจริงๆแล้วเขามีอำนาจพลังวิญญาณมาตั้งแต่เกิด
” ปกติแล้วพื้นที่เหล่านั้นที่มีจิตที่แข็งแกร่งเฝ้าอยู่จะเรียกว่าสุสานโบราณ แต่เนื่องจากสุสานพันกระดูกมีกองกระดูกมากมาย และดูจากกระดูกพวกนั้นคงไม่พ้นฝีมือของชายแก่ เป็นไปได้ว่ามัน คือ สุสานปีศาจ “
‘เทพธิดา’ อธิบาย
” อะไรคือสุสานปีศาจ “
‘ชูเฟิง’ สับสนอย่างมากเมื่อได้ยินชื่อที่น่าเกรงขามของมัน
” เจ้าโง่ เจ้ารู้อะไรบ้างเนี่ย ยังไงก็เถอะ เพื่อที่เจ้าจะมีคุณสมบัติกลายเป็น ผู้เชื่อมต่อโลกวิญญาณ เราจะอธิบายทุกอย่างให้เจ้าฟัง จะได้ไม่ต้องทำให้เราขายหน้า “
” จำไว้ ว่าหลุมฝังศพคนทั่วไปจะเรียกว่า สุสาน แม้ว่าอาจมีกลไกอยู่บ้างเพื่อซ่อนสมบัติไว้ แต่ก็มีคนทั่วไปสามารถทำลายกลไกพวกนั้นได้เพื่อไปหาสมบัติ แต่ผู้เชื่อมต่อโลกวิญญาณนั้นไปหาสุสานเพื่อหาร่างของเจ้าของสุสาน เหมือนกับที่สุสานจักรพรรดิ์ปราชญ์นภา “
” มันเป็นสุสานที่มีจิตใต้สำนึก ที่เรียกว่า สุสานโบราณ ซึ่งไม่เกี่ยวกับระยะเวลาที่ถูกฝัง มันเป็นการจัดหมวดหมู่ของแต่ล่ะประเภทของสุสาน สุสานโบราณนั้นอันตรายเป็นอย่างมาก มันซ่อนกลไกกับดักที่คนปกติไม่สามารถตรวจพบได้ แม้ว่ามันจะดูอันตราย แต่กับดักเหล่านั้นมีแต่ผู้เชื่อมต่อโลกวิญญาณเท่านั้นที่ตรวจพบมันได้ ดังนั้น สุสานโบราณจึงเป็นสถานที่มีค่าสำหรับพวกเขา “
” สำหรับสุสานปีศาจ ไม่ใช่แค่พลังวิญญาณของเขาที่ไม่ธรรมดา เป็นไปได้มากว่าพวกเขาจะอันตรายแบบสุดๆ ไม่มีใครรู้ว่าพวกเขาเป็นตัวอะไร พวกเขาอาจจะเป็นคนหรืออสูร ไม่รู้ว่าพวกเขาเป็นหรือตาย”” แต่ส่วนใหญ่พวกเขาจะแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก หลังจากที่พวกเขาตายพวกเขายังสามารถสร้างหายนะได้อีก หรือบางที่ อาจจะเป็นอสูรวิญญาณที่มีชีวิตอยู่ก็ได้ และอาจจะถูกปิดผนึกไว้ที่ไหนสักแห่ง สุสานปีศาจจึงเป็นสถานที่อันตรายสุดๆ คนที่เข้าไปมากกว่าครึ่งไม่อาจรอดกลับมาได้ หรือพวกเขาอาจจะทำพลาดไปปลดผนึกมันออกมา จนสร้างหายนะให้กับโลกเลยก็ได้ “
ที่’ชูเฟิง’จะได้ไปเจอ ก็คือ สัตว์เทพหนึ่งใน 4 จัตุรทิศ ที่ถูกผนึกไว้ในสุสานปีศาจ
” พยัคฆ์ขาว “
” นั้นแหละคือ สุสานปีศาจ เป็นสถานที่สำหรับ ผู้เชื่อมต่อโลกวิญญาณที่เก่งสุดๆเท่านั้นจึงจะกล้าเข้าไป หากคนธรรมดาสุ่มสี่สุ้มห้าเข้าไปได้เกิดหายนะกันแน่ๆ “
” ถ้าเป็นที่ท่านว่า ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไม จู่เก่อ หลิวหยุน ถึงได้สนใจสุสานพันกระดูกนักหนา “
‘ชูเฟิง’ ในที่สุดก็เข้าใจ ว่าสุสานจำเป็นต่อ ผู้เชื่อมต่อโลกวิญญาณมากแค่ไหน
” สุสานพันกระดูกช่างน่าสนใจจริงๆ มันคือ สุสานปีศาจอย่างแน่นอน ถ้าหากมันอันตรายขนาดนั้น จะมีสมบัติขนาดไหนรออยู่น้าาา ไม่ต้องพูดถึงแค่เรื่องสมบัติ จะเป็นยังไงหากเราได้ดูดแหล่งพลังวิญญาณของชายชราผู้นั้น พลังวิญญาณของเราคงจะสูงทะลุเผดาน น่าเสียดายที่ความสามารถของเจ้าที่มีเพียงน้อยนิด หากทะลึ่งเข้าไปมั่วๆมีกี่ชีวิตก็ไม่พอให้ตายหรอก “
” แต่นั้นมันเป็นเรื่องเก่า ดูเหมือนชายชรานั้น จะสนใจในตัวเจ้าไม่ใช่น้อยไม่งั้นเขาคงไม่ทิ้งแผนที่ไว้บนร่างกายของเจ้า เราจำเป็นต้องตรวจสอบความลึกลับที่ซ่อนอยู่ในแผนที่ หากเจ้าไม่เข้าใจ เจ้าก็ไม่มีวันเปิดสุสานปีศาจได้หรอก “
” หากในอนาคตเราสามารถพบสุสานพันกระดูกและเข้าไปได้ ตาแก่นั้นคงต้องขอยืมแรงเจ้าไม่ผิดแน่ ยังน้อยๆเราคงจะได้อะไรตอบแทนกลับมาบ้าง ตราบใดที่เขาใช้ประโยชน์จากเรา เราจะให้เขาจ่ายคืนด้วยเช่นกัน “
” สุสานปีศาจอันตรายสำหรับเจ้าเกินไป แม้ว่าเจ้าจะมีแผนที่แต่ก็มิอาจเข้าไปได้ ดังนั้นตอนนี้ก่อนที่จะไปที่นั้น เราต้องผ่านสุสานโบราณแห่งนี้ไปซะก่อน “
ขณะที่นางพูดนางก็เต็มไปด้วยความตื่นเต้น จากนั้นพวกเขาก็ตัดสินใจเข้าไปยังสุสานโบราณ ภายในนั้นคงมีศพผู้เชี่ยวชาญอยู่แน่ๆและ แหล่งพลังวิญญาณนั้นก็เป็นสิ่งที่นางปรารถนามากที่สุด
” ในเมื่อเรามาถึงที่นี่ เราก็ไม่ควรกลับไปมือเปล่าใช่มั้ยล่ะ “
‘ชูเฟิง’ พยักหน้าและก่อนที่เขาจะลงเข้าไปในหลุม เขาได้ใช้ทักษะ ธนูร้อยแปลง เปลี่ยนเป็นกรีซสองเล่มในมือ พร้อมกับค่อยๆใต่ลงไปอย่างช้าๆในตอนนั้น ‘ชูเฟิง’ ไม่ได้ใต่ลงไป เร็วหรือช้าแต่อย่างใด ขณะที่เขาใต่ลงไปเลื่อยๆ เสียงของผู้หญิงร้องไห้โหยหวนก็ดังขึ้นเลื่อยๆ ‘ชูเฟิง’ ไม่กล้าจะหันหน้าลงไปมอง เขารู้สึกหนาวไปถึงกระดูกขนของเขาลุกชัน บรรยากาศรอบๆก็แสนจะหนาวเหน็บ
” ไม่ต้องกลัวไป ก็บอกแล้วมันเป็นแค่กลุ่มก้อนพลังวิญญาณ บางทีอาจจะเป็นผู้เชี่ยวชาญที่เคยมีชีวิตอยู่ แต่หลังจากที่เขาตายเขาก็ไม่สามารถทำอะไรเจ้าได้ ใช้ทักษะ การสร้างรูปแบบอำนาจพลังวิญญาณควบคุมมันสิ หากเจ้ารู้สึกกลัว “
‘เทพธิดา’ เตือน ‘ชูเฟิง’ อย่างจริงจัง
” อ่า “
‘ชูเฟิง’ พยักหน้า แต่มันก็ทำให้ใจเขาเต้นแรงอยู่ดีขณะที่ใต่ลงไป ในที่สุดเขาก็หย่อนตัวลงกับพื้นด้านล่างภายในหลุมมันเป็นถ้ำขนาดใหญ่ แม้ว่ามันจะมืดสนิท ‘ชูเฟิง’ สัมผัสได้ถึงความกว้างใหญ่ ‘ชูเฟิง’ นำเข็มทิศขึ้นมา แล้วใส่พลังวิญญาณเข้าไป ทันใดนั้น แสงกว่างก็ปรากฏขึ้น
” นี่มัน !!! “
หลังจากที่เขามองเห็นวิสัยทัศน์รอบๆ ‘ชูเฟิง’ สีหน้าเปลี่ยนไปอย่างมากเพราะฉากที่อยู่ตรงหน้าเขา
โปรดติดตามตอนต่อไป . . . . . . . . .
ที่มา: