ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปรอบๆผนังถ้ำ มีแต่หินตะปุ่มตะป่ำ พร้อมกับลวดลายแปลกๆสลักอยู่
มันดูเหมือนสัญลักษณ์อะไรบางอย่าง ซึ่งให้ความรู้สึกที่บอกไม่ถูก แต่เขารู้สึกได้ถึงความอึดอัด
ห่างไปไม่ไกลจากที่เขายืน มีกองกระดูกอยู่มากมาย แม้ว่าจะไม่เท่ากับทะเลกองกระดูกในสุสานพันกระดูกก็ตาม
แต่มันก็ทำให้เขาต้องตกตะลึง
” นั้นมัน แหล่งพลังวิญญาณหนิ รีบๆเลย ดูดพวกมันมาให้หมด “
‘เทพธิดา’แสนจะรีบร้อน และกล่าวตื่นเต้นดีใจราวกับได้พบสมบัติ
” เดี๋ยวก่อน มันมีผีเฝ้าอยู่นะ!!! “
หัวใจของ’ชูเฟิง’ตอนนั้นแทบจะวาย เขาพบกับ ผีตนหนึ่ง
นางเป็นหญิงที่ดูงดงาม สวมกีเพ้าผ้าไหม ผมยาวๆของนางปกคลุมด้านหลัง
เสื้อผ้ารวมๆของนางช่างให้บรรกาศที่ดูยิ่งใหญ่ นางกำลังจ้องมองมาที่ ‘ชูเฟิง’
พร้อมกับร้องไห้เสียงดัง ออกมาจากปากของนาง
นั่นคือสิ่งที่เรียกว่าผี ไม่ผิดแน่ มันเป็นจิตที่เกิดขึ้นหลังจากที่ตาย
เพราะร่างกายของนางโปร่งใส ดูยังไงก็ไม่ใช่คนแน่ๆ
แต่หลังจากที่สังเกตุใบหน้าของนาง ‘ชูเฟิง’ ก็ตกใจเป็นอย่างมาก
เขารู้สึกว่าหน้าของนางคุ้นๆ ผู้หญิงคนนั้นน่าตาดูคล้ายกับ’ซูรู่’และ’ซูเหม่ย’เป็นอย่างมาก
” ท่านเป็นใคร ? “
หลังจากเขาใช้ความคิด ‘ชูเฟิง’ ก็รีบถามออกไป
* ฟิ้วว *
ขณะที่’ชูเฟิง’กล่าวเขาเต็มไปด้วยความกลัว จากนั้นนางก็ลอยออกไป ความเร็วของนางทำให้นางหายตัวไปในพริบตา
” นางไม่มีจิตสำนึก นั้นเป็นสัญชาตญาณทีหลงเหลือเท่านั้น ไม่ว่าเจ้าจะถามอะไรนางไปนางก็คงตอบเจ้าไม่ได้เพราะนางไม่มีความทรงจำ “
” นางน่าจะตายไปได้นานแล้ว จิตของนางจึงค่อยๆเลือนหาย พลังวิญญาณของนางก็แสนจะอ่อนแอ นางไม่มีทางทำร้ายเจ้าได้ ไม่ต้องกังวลไป “
” ตอนนี้มาช่วยเราดูดกลืนแหล่งพลังวิญญาณมากมายเหล่านี้ซะก่อน มันจำเป็นต่อเราอย่างมาก แหล่งพลังวิญญาณพวกนี้ช่างแข็งแกร่งไม่ธรรมดา หากเราดูดพลังจากพวกเขามาทั้งหมดพลังวิญญาณของเราจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก ไม่แน่เราอาจจะเข้าสู่อาณาจักรกำเนิดวิญญาณเลยก็ได้!!! “
ที่เทพธิดาเคยพูดไว้ นางเพิ่มพลังวิญญาณได้น่ากลัวสุดๆ
หลังจากที่ปล่อยให้ ชูเฟิง ดูดกลืนแหล่งพลังวิญญาณจาก เขา – วิญญาณ 200 ตัวที่เขาฆ่าไป
ก่อนหน้านี้นางที่ไม่มีพลังวิญญาณแม้แต่น้อย แต่หลังจากที่ชูเฟิงดูดกลืนแหล่งพลังวิญญาณ
นางก็มีพลังวิญญาณไม่ได้ด้อยไปกว่า ‘ชูเฟิง’ ตอนนี้นางอยู่ในระดับ 8 ห้วงวิญญาณ
หากดูดกลืนแหล่งพลังวิญญาณจากกองกระดูกเหล่านี้เข้าไป นางอาจจะเข้าสู่อาณาจักรกำเนิดวิญญาณ
” อืม . . . . . . “
‘ชูเฟิง’พยักหน้าโดยไม่พูดใดๆสักคำ จากนั่นเขาก็เริ่มดูดแหล่งพลังวิญญาณจากกองกระดูกพวกนั้น
จากนั้นพวกมันก็กระจายออกจากกัน พลังงานที่ไม่อาจมองเห็นก็ปรากฏขึ้นมาให้เห็นด้วยตาเปล่า
ด้วยการตรวจพบของอำนาจพลังวิญญาณ
ครั้งแล้วครั้งเล่า แหล่งพลังวิญญาณก็ค่อยๆเพิ่มเข้ามาภายในตัวของ ‘ชูเฟิง’
และพลังทั้งหมดถูกเก็บไว้กับเทพธิดา ภายในโลกวิญญาณนางกำลังนั่งไขว้ขา
เพื่อกลั่นพลังวิญญาณของนางที่เพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ
” รีบๆไปหาศพที่มีพลังวิญญาณในอาณาจักรแก่นแท้วิญญาณตอนที่มีชีวิตอยู่ให้เจอ เราสามารถปรับแต่งพลังวิญญาณให้เจ้าได้ และแน่นอนว่าเราสามารถทะลวงผ่านอาณาจักรกำเนิดวิญญาณได้เช่นกัน “
หลังจากเขาดูดกลืนแหล่งพลังวิญญาณจากกองกระดูกเข้าไป
นางก็เข้าถึงระดับ 9 ห้วงวิญญาณ นางเต็มไปด้วยความตื่นเต้นดีใจ
นางเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ได้มากมายจากสุสานโบราณแห่งนี้
” แม่นางคนนี้น่ากลัวจริงๆ “
‘ชูเฟิง’พูดอะไรไม่ออก ปกติความเร็วของการเพิ่มพลังวิญญาณของเขาก็นับได้ว่าไม่ธรรมดา
แต่เมื่อเทียบกับนางแล้ว เขาถึงกับต้องอึ้ง แค่เพียงครึ่งวัน
จากคนที่ไร้พลังวิญญาณกับเข้าสู่ ระดับ 9 ห้วงวิญญาณ มันช่างน่ากลัวอะไรเช่นนี้
ตึบ . . . .ตึบ . . . . . .
ภายใต้ของความตะลึงเท้าของชูเฟิงก็ยังคงขยับต่อไป เขาถือเข็มทิศโลกวิญญาณไว้ในมือ
และเดินลึกเข้าไปตามเสียงของผู้หญิงคนนั้นเพื่อหาร่างของนาง
ขณะที่เขากำลังค้นหา เขาก็อดถามนางไม่ได้
” กระดูกเหล่านั้นมันมาจากไหน ? พวกเขาคงน่าจะตายกันตั้งนานแล้วใช่ไม๊ ? “
” ทำไมถึงได้ถามขึ้นมาล่ะ ไม่ว่าพวกเขาจะเต็มใจหรือไม่เต็มใจที่จะตาย เมื่อบุกรุกสุสานโบราณก็ต้องมีสภาพเช่นนี้ “
เทพธิดาอธิบาย
หลังจากที่ได้ยินคำพูดของนาง ‘ชูเฟิง’ ถึงกับตกใจ แม้ว่ากระดูกเหล่านี้
จะกลายเป็นแหล่งพลังวิญญาณให้กับพวกเขา ‘ชูเฟิง’ รู้สึกได้ว่าพวกเขาคือผู้เชี่ยวชาญอาณาจักรกำเนิดวิญญาณ
ครั้งยังมีชีวิต ขนาดฝีมืออย่างพวกเขายังมีจุดจบเช่นนี้ นั้นหมายความว่า สุสานโบราณแห่งนี้อันตรายไม่ใช่น้อย
แต่ปัจจุบันเขามีเข็มทิศโลกวิญญาณไว้ในมือ เขาสามารถคาดเดาเหตุการณ์ที่อันตรายและหลบเลี่ยงมันได้
เขายังคงนึกถึงหญิงงามคนนั้นไม่ตก เขามีลางสังหรณ์ว่าผู้หญิงคนนั้นอาจจะเกี่ยวข้องกับซูรู่และซูเหม่ย
” นางคงจะไม่ใช่มารดาของแม่นางสองคนนั้นใช่มั้ย งั้นก็หมายความว่า ที่นี่คือสุสานของภรรยาท่านเจ้าเมืองสินะ ? “
หลังจากที่คิดไปคิดมา ‘ชูเฟิง’ คิดว่ามันไม่น่าจะใช่
ถ้าหากเป็นสุสานมารดาของ’ซูรู่’และ’ซูเหม่ย’ และ ภรรยา ของ ซู เฮิน ก็คงต้องมีป้ายวิญญาณชื่อของนาง
หรืออะไรที่ดูอลังการให้สมกับเป็นหลุมฝังศพของภรรยาเจ้าเมืองสักหน่อย
แต่นี้เพียงแต่ไม่มีป้ายวิญญาณ นางยังร้องไห้โหยหวนอีกเหมือนกับเสียใจอะไรสักอย่าง
คำถามต่างๆผุดขึ้นมามากมาย ขณะที่เขาเดินอยู่ภายในถ้ำ ด้วยการนำของเข็มทิศโลกวิญญาณ
เขาได้ยินเสียงที่น่าขนลุก ร้องไห้ดังขึ้นมา เมื่อ ‘ชูเฟิง’เดินเข้าไปใกล้ๆขณะตัวสั่นงึกๆงักๆ
จากนั้นเขาก็พบกับร่างของผู้หญิงคนนั้นกองอยู่ข้างๆนางกระดูกของนาง
มีเสื้อผ้าขาดๆเก่าๆสวมอยู่ แม้ว่ามันจะขาดรุ่งริ่ง เขาก็ยังมองออกว่ามันคือ กีเพ้าที่ทำจากผ้าไหม
นี้ก็ชัดเจนแล้ว ว่ามันคือร่างของหญิงงามคนนั้น
” ไม่เลวหนิ!!! ร่างของนางคือผู้เชี่ยวชาญอาณาจักรแก่นแท้วิญญาณไม่ผิดแน่ แม้จะแค่ระดับ 1 ก็ตาม นี่ก็นับว่าไม่เลว หากดูดกลืนร่างของนางเราสามารถทะลวงผ่านอาณาจักรกำเนิดวิญญาณได้อย่างแน่นอน “
เทพธิดาทำเสียงร่าเริงดังขึ้นมา
” ไม่ได้ ข้าจะไม่ยอมให้ร่างของนางกลายเป็นแหล่งพลังวิญญาณ “
‘ชูเฟิง’ ปฏิเสธนางและกล่าว แม้ว่าเขาจะไม่แน่ใจ เขาก็รู้สึกว่าหญิงงามคนนี้คงจะเป็นมารดาแท้ๆของ’ซูรู่’และ’ซูเหม่ย’
เมื่อเป็นเช่นนั้น เขาจึงไม่ต้องการทำลายร่างมารดาของสหาย
” เจ้ามันบ้าหรือว่าโง่กันแน่ นางก็แค่กลายเป็นแหล่งพลังวิญญาณของเรา ไม่ได้ทำลายร่างของนางไปจริงๆสักหน่อย อีกอย่างนางก็ตายมาตั้งนาน จิตของนางก็ไม่มีสามัญสำนึกและเริ่มอ่อนแอลงเรื่อยๆ ในอีกไม่ช้านางก็จะหายไป “
” หากเราได้กลืนแหล่งพลังวิญญาณของนาง เราก็จะสามารถทะลวงเข้าสู่อาณาจักรกำเนิดวิญญาณได้ และเจ้าก็จะได้รับผลประโยชน์ไปด้วยเช่นกัน ในตอนนั้นเจ้าจะสามารถเอาชนะผู้เชี่ยวชาญอาณาจักรกำเนิดวิญญาณระดับ 3 ได้เลยทีเดียว เจ้าอยากพลาดโอกาสดีๆเช่นนี้ไปงั้นหรอ ? “
เมื่อเทพธิดาพูดออกมาแบบนั้น ‘ชูเฟิง’ ก็รู้สึกสบสนขึ้นมา อาณาจักรกำเนิดวิญญาณ
เมื่อก่อนนางบอกว่าเป็นแค่พลังของนางคนเดียว แต่นี้เขาสามารถเข้าสู่อาณาจักรกำเนิดวิญญาณด้วยเช่นนั้นหรอ
มันสามารถดึงดูดความสนใจเขาได้เป็นอย่า่งดี ด้วยกระแสที่ล่อตาล่อใจ
ถ้าหากเขาสามารถเข้าสู่อาณาจักรกำเนิดวิญญาณได้จริงๆ ไม่ต้องพูดถึงระดับ 3 กำเนิดวิญญาณ
แม้แต่ระดับ 4 กำเนิดวิญญาณ เขาก็สามารถต่อกรได้ไม่ยาก
ด้วยเหตุผลนั้นก็พอที่จะถึงดูดเขาได้
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อนึกถึุงการต่อสู้ในอีก 1 ปี ข้างหน้า ดังนั้นเขาจำเป็นต้องแข็งแกร่งให้เร็วที่สุด
โปรดติดตามตอนต่อไป . . . . . . . . . .
ที่มา: