ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป” เสื้อคลุม . . . . . ผู้เชื่อมต่อฯชุดเทางั้นหรอข้าไม่เคยเข้าทดสอบมันมาก่อน เพราะไม่ใช่สิ่งที่ผู้เชื่อมต่อโลกวิญญาณทั่วๆไปจะเข้าร่วมได้ การได้รับเสื้อคลุมสีเทาสำหรับผู้เชื่อมต่อโลกวิญญาณถือเป็นเกียรติสูงสุด แล้วเหตุใดถึงต้องนำไปขายล่ะ “
‘จูเก่อ หลิวหยุน’ ส่ายหน้า
” หากมีใครต้องการที่จะขาย ตัวอย่างเช่น หากมีผู้เชื่อมต่อฯชุดเทาอยากจะขายชุดของพวกเขา จะได้ราคาสักเท่าไหร่ ? “
‘ชูเฟิง’ สงสัยอย่างมากเพราะเขามีเสื้อคลุมสีเทาอยู่ในกำมือ
” นั่นก็ค่อนข้างที่จะบอกได้ยากนะ เพราะคนธรรมดาทั่วไปไม่ค่อยสนใจเสื้อคลุมสีเทาซะด้วยสิ หากใครอยากซื้อมันก็คงเป็น ผู้เชื่อมต่อโลกวิญญาณ “
” ก็ขึ้นอยู่กับความยากง่ายในการสอบในการตัดสินว่าใครสมควรได้รับ สำหรับราคาของเสื้อคลุมสีเทาคงเหมาะสมถ้าเอาลูกแก้วแก่นแท้วิญญาณเป็น ฐาน คงสักประมาณหนึ่งพันลูกแก้วแก่นแท้ฯ “
‘จูเก่อ หลิวหยุน’กล่าว
” หนึ่งพันลูกแก้วแก่นแท้ฯ !!! “
‘ชูเฟิง’ถึงกับตกใจ ขณะที่มีความสุขไม่นึกเลยว่ามันมีค่ามากขนาดนี้ลูกแก้วแก่นแท้วิญญาณหนึ่งเม็ด เท่ากับ ลูกแก้ววิญญาณ 1,000 เม็ด หากได้ลูกแก้วแก่นแท้ 1,000 เม็ด นั่นหมายความว่า เขาจะได้ลูกแก้ววิญญาณ 1,000,000 เม็ด !!!
ถึงแม้ว่า สายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ของ’ชูเฟิง’จะต้องใช้มันเป็นจำนวนมาก ใครจะรู้ว่าจะเป็นยังไงหากเขาใช้ลูกแก้ววิญญาณถึงหนึ่งล้าน เม็ด
” ลูกแก้วแก่นแท้ 1000 เม็ดไม่ใช่จำนวนน้อยๆ ลูกแก้วแก่นแท้ 1000 นั่นคือทุกอย่างที่ข้ามี ที่เตรียมมันไว้สำหรับเจ้า “
” ลูกแก้วแก่นแท้ 1000 เม็ด . . . . . . สำหรับผู้เชื่อมต่อโลกวิญญาณไม่สามารถจ่ายเงินจำนวนมากมายขนาดนั้น ในการซื้อชุดคลุมสีเทาได้หรอก หากพวกเขาต้องการจริงๆก็คงอาจจจะต้องพึ่งพาความสามารถของตัวเอง ในการได้รับมันมา “
จินตนาการของ’ชูเฟิง’ที่ไปถึงไหนต่อไหน ทีแรกเขาคิดที่จะวางแผนขาย เสื้อคลุมสีเทา แต่เมื่อ’จูเก่อ หลิวหยุน’ พูดมาแบบนั่นเหมือนกับเดินตกถังน้ำเย็น ร่วงดังโคร่มมมแต่หลังจากที่คิดทบทวน ลูกแก้วแก่นแท้ 1000 เม็ด มันก็มากจริงๆนั่นแหละ ไม่ว่าสำหรับใคร หากไม่ใช่คนที่มีฐานะร่ำรวยมหาศาล ก็คงต้องพึ่งพาความสามารถของตัวเองเมื่อเขารู้มูลค่าเกี่ยวกับเสื้อคลุมสีเทา
‘ชูเฟิ’ง ก็รู้ได้ว่าผู้หญิงชุดม่วงในวันนั้นคงจะไม่ธรรมดา ด้วยอายุของนางเพียงเท่านี้แต่สามารถเป็นผู้เชื่อมต่อโลกวิญญาณชุดเทา ช่างน่าประทับใจจริงๆถ้าหากนางยังไม่ออกไปตอนนั้น ‘ชูเฟิง’ก็อาจใช้อำนาจพลังวิญญาณจับนางไว้ แต่ยังไงทักษะเร้นลับ อย่างพยัคฆ์ขาวคงไม่ปล่อยให้เขาทำแน่ๆ
” อาจารย์ ที่ท่านกล่าวว่ามันมีระดับยากง่าย หมายความว่าจากที่ผ่านขั้นหนึ่ง ก็ต้องไปขั้นที่สองต่อ งั้นหรอ “
‘ชูเฟิง’ ถามอีกครั้ง
” ถูกต้อง มันมีขั้นที่สอง หลังจากที่ผ่านขั้นที่สองไม่เพียงแต่ จะได้รับเสื้อคลุมชุดสีขาว ยังได้จะรับรางวัลอื่นอีกด้วย “
” แต่ยังไงก็ตาม มันก็ไม่สามารถผ่านเข้าโดยคนปกติ แม้แต่ข้า ก็ยังไม่สามารถที่จะผ่านเข้าไปได้ “
‘จูเก่อ หลิวหยุน’ พูดไปส่ายหัวไป
” โอ้. . . . หากข้าจำไม่ผิดนั้นมัน จูเก่อ หลิวหยุน ไม่ใช่หรอ!!! “
ในตอนนั่นจู่ๆก็มีเสียงแปลกดังเข้ามาเมื่อมองหา ก็พบชายชราที่สวมเสื้อคลุมสีขาวกำลังเดินเข้ามาทาง ‘ชูเฟิง’ กับ ‘จูเก่อ หลิวหยุน’
ขณะที่เขาเดิน ขาของเขาดูกะเผลก เหมือนคนพิการมีชายหนุ่มเดินตามด้านหลังชายชรา เขาดูอายุมากกว่า ‘ชูเฟิง’ บนใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความหยิ่งผยอง สายตาที่จ้อง ‘ชูเฟิง’ เต็มไปด้วยการสบประมาท เหมือนกับว่า ตัวเองวิเศษกว่าคนอื่นๆ
” นั่นมัน ชีซิ่ง หนิ ไม่เห็นเจ้าตั้งนาน ยังไม่ตายอีกหรอ “
หลังจากเห็นชายชราที่เดินขากะเผลก ‘จูเก่อ หลิวหยุน’ ทำน่าผิดปกติ
” ฮ่าๆๆ ก็พูดไปเรื่อย!!! ตาเฒ่า จูเก่อ ข้าได้ยินมาว่าเจ้าไปเป็นแขกอาวุโสของสำนักมังกรฟ้างั้นหรอ ? “
‘ชีซิ่ง’ยิ้มพร้อมพูดถากถาง
‘จูเก่อ หลิวหยุน’ ยิ้มเบาๆ พร้อมกับยอมรับมัน แต่ เขาไม่คิดว่า ‘ชีซิ่ง’ ยังจะพูดคำต่อไป ขณะที่เสียงดังมากขึ้น
” จุ๊ จุ๊ จุ๊ ไม่ว่าเจ้าจะแก้ตัวยังไง เจ้ามันก็เป็นแค่ ผู้เชื่อมต่อโลกวิญญาณ ระดับต่ำที่เป็นแค่แขกอาวุโสของสำนัก # 2 “
” บางทีอาจเป็นเพราะความสามารถของเขาไม่พอ ที่จะทำให้สำนักชั้นนำยอมรับ “
ชายหนุ่มด้านหลัง ‘ชีซิ่ง’ พูดขึ้นมา
” หากเจ้ายังกล้าเห่าแม้แต่คำเดียว เชื่อไม๊ว่าข้าจะทำลายเจ้า !!! “
หลังจากได้ยินคำพูดนั่น ‘ชูเฟิง’ ก็พูดขึ้นมาพร้อมกับชี้หน้าชายหนุ่มคนนั้น
” โห แล้วเจ้าเด็กคนนี้มาจากไหน ถึงได้ไร้ความเคารพ อย่าบอกนะ ตาแก่ จูเก่อ ว่าเขาคือลูกศิษย์ของเจ้า “
‘ชีซิ่ง’ มอง ‘ชูเฟิง’ ขณะที่สายตาเต็มไปด้วยความดูถูก
” ชีซิ่ง อย่าได้พูดมาก แม้ว่าข้าจะเคยแพ้เจ้าในปีนั่น แต่ไม่ได้หมายความว่าข้าต้องกลัวเจ้า “
ใบหน้าของ ‘จูเก่อ หลิวหยุน’ เริ่มหงุดหงิด
” ตาแก่ จูเก่อ เอาไรมาคิด หรือว่าเจ้าอยากจะแพ้ให้ข้าอีกครั้ง ? “
‘ชีซิ่ง’ แสยะยิ้มและกล่าว
” งั้นก็มาลองกันเลยตอนนี้ ? “
‘จูเก่อ หลิวหยุน’ ปล่อยออร่ากระจายออกมารอบๆตัว
” อ่าๆ เราสองคนสู้กันไปก็ไม่ได้อะไร แต่ทำไมเราไม่ทำให้มันน่าสนใจยิ่งขึ้นล่ะให้ลูกศิษย์ของเราสู้กันเป็นไง “
ตอนนั้น ‘ชีซิ่ง’ มอง’ชูเฟิง’ ด้วยหน้าตาที่น่ารังเกียจ รอยยิ้มที่แก่เกินวัยแขวนไว้อยู่มุมปากของเขาเขาบอกได้ว่า ‘ชูเฟิง’ เป็นผู้เชื่ยวชาญ อาณาจักรกำเนิดวิญาณระดับ 1 ที่ไม่มีแม้แต่ความกดดัน ซึ่งเทียบกับลูกศิษย์ของเขาไม่ได้เลย
‘จูเก่อ หลิวหยุน’ ไม่ได้ตอบ เขาเพียงมองหน้า ‘ชูเฟิง’ เนื่องจาก ลูกศิษย์ของ ‘ชีซิ่ง’ มีพลังวิญญาณอยู่ในอาณาจักรกำเนิดวิญญาณระดับ 5 แม้ว่าเขาจะมีพลังวิญญาณเท่ากับ’อู๋ จิ่ว’ แต่เนื่องจากเขาเป็น ผู้เชื่อมต่อโลกวิญญาณ และ ศิษย์หลักจากสำนัก #1 จะให้เอาไปเปรียบกับ ‘อู๋ จิ่ว’ ได้ยังไง
‘จูเก่อ หลิวหยุน’ จึงมองหน้าให้ ‘ชูเฟิง’ เป็นคนตัดสินใจ
” ท่านอาจารย์ ได้โปรด ให้ข้าได้สอนบทเรียนแก่เขาด้วย “
‘ชูเฟิง’ กล่าว
” ไม่เป็นไร เฟิงเอ๋อ ไปแลกเปลี่ยนทักษะกับเขาก็พอ “
‘จูเก่อ หลิวหยุน’ พยักหน้าอย่างพึงพอใจ เขาชอบ’ชูเฟิง’ตรงที่เขาไม่สนใจใครหน้าไหนนี้แหละ
” แลกเปลี่ยนงั้นหรอ มือเท้าไม่มีตา หากเอ็นขาดกระดูกหักขึ้นมา ก็อย่าได้โทษใคร “
‘ชีซิ่ง’ มั่นใจอย่างมากในฝีมือลูกศิษย์ของเขา
” ที่ข้าบอกกับลูกศิษย์แบบนั่นก็เพราะกลัวว่าลูกศิษย์ของเจ้าจะบาดเจ็บสาหัส “
‘จูเก่อ หลิวหยุน’ ก็มั่นใจ ‘ชูเฟิง’ ไม่แพ้กัน
” หืมมม งั้นมาดูกันว่าลูกศิษย์ของใครที่มีความสามารถ หยางจือ ไปให้เขาได้ลิ้มลองกับความเจ็บปวด “
‘ชีซิ่ง’ กล่าว
” ทราบ ท่านอาจารย์ “
ชายหนุ่มที่ ชื่อ ‘หยางจือ’ ก้าวเดินออกไปในพื้นที่ลานกว้าง พร้อมกับ กวักมือเรียก ‘ชูเฟิง’ ตามไป – -“
ในตอนนั้น ‘ชูเฟิง’ ก็เดินไป จากนั้น ‘ชีซิ่ง’ ก็ใช้รูปแบบอำนาจพลังวิญญาณ สร้างเป็นลานประลองล้อมรอบพวกเขาไว้ในนั้น
” ชีซิ่ง เจ้ากำลังจะทำอะไร ? “
เห็นแบบนั้น ‘จูเก่อ หลิวหยุน’ ตะโกนด้วยความโกรธ
” ตาแก่ จูเก่อ เจ้าจะกังวลอะไร ที่นี้เป็นทรัพย์สินของนิกายโลกวิญญาณ ข้าใส่รูปแบบอำนาจพลังวิญญาณเข้าไปเพราะไม่อยากให้เด็กทั้งสองพังข้าวของบริเวณนี้ “
‘ชีซิ่ง’ ตลบตะแลงคำโต เขามอง’หยางจือ’ขณะที่ส่งสายตาเหมือนบอกบางอย่าง ‘หยางจือ’ เข้าใจได้ทันที จากนั้นเขาก็ยิ้มพร้อมกับหันไปจ้อง ‘ชูเฟิง’ อย่างดุร้าย
เอ้า แทง แทง แทง เปิดขายตั๋วข้าง หยางจือ ใบละ 10 บาท 5 ใบ 50 10 ใบ 100 ไม่มีโปรโมชั่น
ไม่แทงก็ไม่เป็นไร นั่งให้กำลังใจกันกันก็พอ . . . . . . . .
ตอนหน้า สู้กันนัวเนีย คงจะค้างกันเลยล่ะสิถ้า
ที่มา: