I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Martial God Asura ตอนที่ 113 – โกง

| Martial God Asura | 2540 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
                

สำนักอันดับ # 2 คือไร ก็คือสำนักที่ ต้อยต่ำ ตกต่ำ ปลายแถว สำนัก # 1 ก็คือ สำนักที่ รุงเรือง รุ่งโรจน์ ชั้นแนวหน้า

ความงดงามของสองพี่น้อง คนหนึ่งงดงามในแบบสาวใหญ่ที่ดูแสนจะมีเสน่ห์ อีกคน คือสาวน้อยผู้อ่อนหวานไร้เดียงสา ทั้งสองต่างมีความงดที่แตกต่างกันไปเมื่อนางทั้งสองปรากฏตัว

หญิงสาวทั้งหลายที่ว่างามต่างดูหมองลงไปทันที แม้แต่ ‘เฉิน หว่านชิง’ ที่งดงามแบบเย็นชาก็ยังไม่อาจเทียบกับพวกนางได้ทุกสายตาของเหล่าชายหนุ่มต่างจดจ้องนางทั้งสอง ไม่เพียงแค่ความงามของพวกนางเท่านั้น สถานะของพวกนาง ก็ยังทำให้พวกเขาต้องตกใจ

พวกนางดูเหมือนมีอำนาจเป็นอย่างมากในเมือง วิหค เพลิง พลังวิญญาณของพวกนางก็ไม่ธรรมดาแม้แต่องครักษ์ของเมืองแห่งนี้ทีอยู่ในอาณาจักรกำเนิดวิญญาณก็ไม่อาจเทียบพวกนางได้

สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือการแสดงออกขององครักษ์ต่างนอบน้อมและสุภาพกับนางทั้งสองเป็นอย่างมากราวกับว่าพวกเขาอยู่ภายใต้บังคับบัญชา ซึ่งทำให้คนที่ยังไม่รู้ต่างสงสัยกันเป็นอย่างมาก ว่าพวกนางสองพี่น้องมีสถานะอะไรกันแน่ในเมือง วิหค เพลิง ?

” นางทั้งสองคือลูกสาวของเจ้าเมือง วิหค เพลิง ซูรู่และซูเหม่ย”

ในตอนนั้นมีใครคนหนึ่งที่รู้จักนาง ตะโกนบอกว่าพวกนางคือใครเมื่อได้ยินเช่นนั้น ทำให้ทุกคนต่างพากัน งง ว่าทำไมแม่นางผู้งดงามทั้งสองที่มีสถานะที่ไม่ธรรมดาจะไปเข้าสำนักมังกรฟ้า หากนางจะเข้าสำนัก หลิง – หยุน ก็ทำได้ไม่ยาก แล้วทำไมถึงไปอยู่สำนัก # 2

ทุกคนต่างตั้งคำถามขึ้นมามากมาย พร้อมกับแสดงความเจ็บใจ แต่คนที่ดูเจ็บใจมากที่สุดก็คือชายอ้วน ในเวลานั้น ‘ซูรู่และซูเหม่ย’ กำลังเดินหน้าตรงเข้ามาหาพวกเขา

” ท่านใช่ไม๊ที่ดูถูกศิษย์ของสำนักมังกรฟ้า ? ท่านคงไม่เห็นสำนักของเราอยู่ในสายตาเลยสินะ “

‘ซูรู่’ ยิ้มเบาๆ แต่ในดวงตาของนางเหมือนกับมีใบมีดที่แหลมคม พุ่งออกมาทิ้มแทง ขณะในชายอ้วน ไม่รู้ว่าจะอธิบายแก้ตัวกับนางยังไงในเวลานั้น

ชายอ้วนใบหน้าเปลี่ยนเป็นสีเขียวด้วยความกระอักกระอ่วน เขากะว่าจะใช้ ‘ชูเฟิง’ เยาะเย้ย ‘เฉิน ฮุ้ย’ ให้ขายหน้า แต่ไม่คิดมาก่อนเลย ว่าลูกสาวทั้งสองของเจ้าเมือง วิหคเพลิง จะมาจากสำนักมังกรฟ้า ซึ่งหนึ่งในนั้นยังเป็นอาวุโสของสำนักอีก เวรกรรมแท้ๆ

” เราถามท่านอยู่นะ “

เห็นชายอ้วนอ้ำๆอึ้งๆไม่ตอบ ‘ซู่รู่’ ตะโกนพร้อมระเบิดแรงดันวิญญาณออกมา พลังของอาณาจักรแก่นแท้วิญญาณทำให้ชายอ้วนคนนั้นถอยหลังกระเด็นออกไป จากนั่งเขาก็นั่งลงบนพื้นพร้อมกับหวาดกลัวและตกใจ

” อาณาจักรแก่นแท้วิญญาณระดับ 1 !!! ด้วยอายุเพียงแค่นี้ ? “

ณ ตอนนั้นทุกคนต่างตกใจกันอย่างมาก ขนาด ‘เฉิน หว่านชิง’ ที่ชอบทำหน้าไร้อารมณ์ยังถึงกับ ตาสว่าง เป็นเพรา ‘ซูรู่’ ที่มีอายุเพียง 20 ปี แต่กลับมีความสามารถขนาดที่เป็นอาวุโสอีกทั้งยังก้าวเข้าสู่อาณาจักรแก่นแท้วิญญาณ หากเป็นนางคงไม่มีทางทำได้เป็นแน่

” จำไว้ด้วย อย่าได้ดูถูกสำนักของเรา แม้ว่าตอนนี้เราจะเป็นสำนัก # 2 แต่สำนักของเราก็เคยเป็น สำนัก # 1 ครั้งหนึ่งที่สำนักมังกรฟ้าอยู่จุดสูงสุด แม้แต่อาณาจักรทั้ง 9 ยังมิกล้าดูถูกสำนักของเรา “

‘ซูรู่’ กวาดสายตามองทุกคนรอบๆพร้อมกับกล่าวด้วยความภาคภูมิในตอนนั้น ณ. ใจกลางเมือง ต่างเต็มไปด้วยความเงียบสงัด ไม่มีใครกล้าโต้แย้งที่นางพูด เพราะที่นางพูดมันเป็นเรื่องจริง

แม้ว่าตอนนี้ ภายในอาณาจักร มังกรฟ้า จะเป็นสำนัก หลิง – หยุน ที่แข็งแกร่งที่สุด แต่ถ้าหากเทียบกับ สำนัก # 1 ในอาณาจักรอื่นๆ อีก 8 อาณาจักร  สำนัก หลิง – หยุน นั้นไม่อาจเทียบกับพวกเขาได้เลย

แม้ว่าสำนักมังกรฟ้าในตอนนี้จะเป็นแค่สำนัก # 2 แต่ผู้ก่อตั้งของสำนักมังกรฟ้าขึ้นตรงกับราชวงค์เจียง ผู้ก่อสำนักแม้แต่ประมุขของอาณาจักรยังต้องเกรงใจ เพราะเขาถูกเรียกว่าเป็นบุคคลที่แข็งแกร่งที่สุดใน อาณาจักรทั้ง 9

ด้วยความแข็งแกร่งของเขา เพียงได้ยินชื่อ ก็ต่างพากันขี้หดตดหายด้วยการหายตัวไปของเขา จึงทำให้ประวัติศาสตร์ที่รุ่งเรืองของสำนักต้องสิ้นสุด แม้ว่าตอนนี้จะเป็นเช่นนั้น แต่ไม่มีใครปฏิเสธได้ว่าครั้งหนึ่ง สำนักมังกรฟ้าเคยเป็นสำนักที่แกร่งที่สุด

” รู่เอ๋อ เจ้ากำลังจะทำอะไร ? “

ในตอนนั้น จู่ๆมีเสียงดังระเบิดขึ้นมาในอากาศ เสียงของเขาเหมือนกับเสียงฟ้าคำราม มันดังก้องอยู่ในหูของทุกๆคนเมื่อเห็นใบหน้าของเขา เจ้าเมืองทั้ง 20 คน และเหล่าองค์รักษ์ขุนนาง ต่างพากันคุกเข่าลงกับพื้น และกล่าว

” คารวะ ท่านเจ้าเมือง ซู เฮิน !!! “

เจ้าเมือง วิหคเพลิง ซู เฮิน บิดาของ’ซูรู่และซูเหม่ย’ ในที่สุดก็ปรากฏตัว ความสูงของเขา 230 ซม. ร่างกายดูแข็งแกร่งและใหญ่โต ขณะนั้นเขาสวมคลุมทองคำที่เป็นชุดโปรดของเขา ขณะที่เขาก้าวมาแต่ละก้าว พื้นดินก็สั่นไหว

เมื่อเห็นคนผู้นั้น เขาบอกได้เลยว่าไม่ธรรมดา แม้แต่ศิษย์จากสำนักแนวหน้ายังไม่กล้าสบตา แม้แต่จะอ้าปากพวกเขายังไม่คิดจะทำ เพราะ ‘ซู เฮิน’ กล่าวได้ว่าเป็นบุคคลที่แกร่งที่สุดในอาณาจักรมังกรฟ้าในตอนนี้

ความแข็งแกร่งของเขาไม่สามารถคาดเดาได้อีกอย่างสถานะของเขาก็สูงกว่าเมืองและสำนักต่างๆ แม้แต่ผู้นำของสำนักก็ยังไม่กล้าที่จะหยาบคายกับเขา ดังนั้นจึงไม่ต้องพูดถึงเหล่า ลูกศิษย์ เลย

” ทุกท่านโปรดวางใจ ซู เฮิน ยิ้มและกล่าวกับทุกคนอย่างเป็นมิตร ขณะที่เดินไปหา ซูรู่ และกล่าว “

“นี่แม่นางน้อย เจ้าพูดเช่นนั้น กับผู้อาวุโสได้ยังไง “

” ท่านพ่อ จะโทษท่านพี่ก็ไม่ได้ ก็ดูพวกเขาพูดสิ . . . .  . “

‘ซูเหม่ย’ พยายามช่วย ‘ซูรู่’ อย่างรวดเร็ว

” เห้อ!!! ข้าจะไม่เอาเรื่องก็ได้ แต่อย่าให้มันเกิดขึ้นอีก “

‘ซู เฮิน’ โบกมือและกล่าวเพียงไม่กี่คำ จากนั้นก็ขอโทษกับเจ้าเมืองอ้วนๆคนนั้น ในความเป็นจริงนี่ก็เหมือนเป็นการ

” ตบหัวแล้วลูบหลัง “

จริงๆแล้วเขาเห็นที่ ‘ซูรู่’ ทำทุกอย่าง เหตุผลที่เขาไม่ห้ามนางในตอนนั้น ก็เพราะว่าเขาต้องการให้นางสั่งสอนเหล่าเจ้าเมืองในถิ่นของเขาหลังจากนั้นพวกเขาก็ยังไม่คำตอบว่าทำไม ‘ซูรู่และซูเหม่ย’ ถึงได้เข้าสำนักมังกรฟ้า

ภายในหัวใจพวกเขาเต็มไปด้วยความอยากรู้แต่ไม่มีใครกล้าพูดอะไรใดๆเกี่ยวกับสำนักมังกรฟ้าอีกเลย หากพูดอะไรผิดหูพวกนางไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นณ ตอนนั้น เจ้าเมืองต่างๆ พาเหล่าอัจฉริยะที่ตนพามาเข้าไปยังสถานที่เตรียมตัว

ก่อนจะเริ่มการประลอง ทุกคนในตอนนั้นต่างมีท่าทีสุภาพต่างจากก่อนหน้านี้ แต่จู่ๆ ‘ซูเหม่ย’  ก็ดึง ‘ชูเฟิง’ เข้ามาด้านข้าง

” ชูเฟิง ในการประลองครั้งนี้เจ้าจะต้องจับ เขา – วิญญาณ ในป่าต้องสาปมาให้ได้ในนั้นเต็มไปด้วยสัตว์ร้ายและที่ร้ายกว่านั้นคือ เขา – วิญญาณ “

” เขา – วิญญาณ  เป็นสัตว์อสูรที่มีพลังวิญญาณระดับ 1 กำเนิดวิญญาณ แต่นั้นก็ขึ้นอยู่กับรูปร่างของมัน หากมันมีขนาดใหญ่ความแข็งแกร่งของมันก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน หากเจ้าพบกับตัวที่มีเขาสีม่วงอยู่บนหน้าผาก นั้นหมายความว่าเจ้าพบตัวที่อยู่ในระดับ 9 กำเนิดวิญญาณ “

” การประลองครั้งนี้คือการล่า เขา – วิญญาณ เจ้าจะต้องนำ เขา ของมันกับมาเพื่อเป็นหลักฐาน หากใครฆ่าได้มากที่สุดติด 10 อันดับ หลังจากกลับมาที่นี่และเมื่อจบการแข่งขัน ตัวแทนเมืองไหนที่ได้รับชัยชนะจะได้การยกเว้นภาษีในปีนี้ และยังได้รับลูกแก้ววิญญาณอีกจำนวนอีก 5000 ” ซูเหม่ยเข้าไปกระซิบใกล้ๆหูของชูเฟิง”

จากที่ได้ยินมา เขารู้แค่ว่าผู้ชนะจะได้รับลูกแก้ววิญญาณ 5000 เม็ด แต่เรื่องไม่ต้องจ่ายภาษีนั้นเขาไม่รู้มาก่อน ไอแก่ ‘เฉิน ฮุ้ย’ นี่มันได้รับผลประโยชน์มากกว่าข้าอีกงั้นหรอ

” ชูเฟิงถึงกับพูดไม่ออก”

“เจ้ามัวคิดอะไรอยู่ เร็วๆเข้ารีบหยิบมันไป “

‘ซูเหม่ย’ ยัดม้วนกระดาษใส่ในมือของ ‘ชูเฟิง’

” นี่ . . . . . . . “

‘ชูเฟิง’ แอบเลื่อนมันดูเล็กน้อย เขาก็พบว่ามันคือ แผนที่

” นี่คือแผนที่  ที่บอกจุดหมายของ เขา – วิญญาณ ที่มันอาศัยอยู่ เจ้าเดินไปตามวงกลมสีดำขนาดใหญ่ มันจะเป็นประโยชน์ต่อการล่า เขา – วิญญาณ “

” แต่จำไว้นะว่าอย่าไปที่จุดสีแดง พื้นที่สีแดงเหล่านั้นมันมีหมอกประหลาด หากมันปรากฏออกมาเจ้าได้ตายแน่ๆ มันน่ากลัวพอๆกับสุสานพันกระดูกของสำนักมังกรฟ้าเลยทีเดียว “

‘ซูเหม่ย’ พูดด้วยเสียงต่ำตอนนั้น ‘ชูเฟิง’ ก็พอเข้าใจถึงเจตนาของ ‘ซูเหม่ย’ จากนั้นเขาก็เปิดถุงจักรวาลออกพร้อมกับเก็บแผนที่ และยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆหูของ ‘ซูเหม่ย’ และพูดพร้อมกับหัวเราะ

” นี่นับว่าโกงหรือเปล่า ? “

โปรดติดตามตอนต่อไป . . . . . . .

ที่มา:

ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
comments