” เจ้านับว่ากล้าหาญมาก จริงๆแล้วเจ้าเป็นคนแรกที่กล้าพูดกับข้าเช่นนี้ หลังจากที่ได้เห็นความแข็งแกร่งของข้า “
‘ติง โฉ่ว’ ยิ้มโดยสีหน้าไม่ได้เปลี่ยนไป เหมือนกับว่าเขาดีใจซะมากกว่า แต่เขารู้อยู่แล้วว่าคนๆเป็นคนไม่สนใจโลก ภายนอกเขาเหมือนคนอวดดี แต่ความซ่อนความคิดบางอย่างเอาไว้
” นั้นเพราะว่าฝ่ายตรงข้ามของท่านก่อนหน้านี้ ไร้ความสามารถ หรืออาจเป็นเพราะสำนัก หลิง – หยุน ไร้ผู้เยี่ยมยุทธ”
‘ชูเฟิง’ ยิ้มพร้อมกับดูถูก
” ทั่วทั้งอาณาจักรมังกรฟ้า มีเจ้าเป็นคนแรกที่กล้าพูดว่าสำนัก หลิง-หยุน ของข้าไร้ผู้เยี่ยมยุทธ “
‘ติง โฉ่ว’ ขมวดคิ้วลงเหมือนดาบภายในดวงตาของเขาแสนจะตื่นเต้น เหมือนกับว่าคำพูดนั้นของ’ชูเฟิง’ จุดประกาย ไฟแห่งการต่อสู้ของเขา
” ข้าแค่พูดความจริงเท่านั้น!!! “
‘ชูเฟิง’ยักไหล่ เหมือนกับไม่แยแสท่าทีของเขา
” งั้นเจ้าเชิญลงมือ ตราบที่เจ้าสามารถเอาชนะข้าได้ ผู้ชนะเลิศปีนี้ก็ย่อมตกเป็นของเจ้า แต่มาดูสิว่าเจ้าจะลงเอย แบบ เฉิน หว่านชิง หรือทำให้ข้าได้สนุกมากกว่านั้น !!! “
‘ติง โฉ่ว’ ยกมือขึ้นพร้อมกับกวักเรียก ‘ชูเฟิง’
” ได้ตามที่ท่านต้องการ !!! “
* ฟรึบบบบ *
‘ชูเฟิง’ เริ่มใช้ทักษะลับ กำหนดลมปราณ ขณะนั้นปราณของเขามีแสงสีต่างๆปล่อยออกมาเหมือนสายรุ้ง จากนั้นเขาก็ก้าวออกไป เพียงเสี้ยว วิ จู่ๆเขาก็โผล่มาตรงหน้าของ ‘ติง โฉ่ว’ ความเร็วของเขาเรียกได้ว่าเร็วสุดๆ จน ‘ติง โฉ่ว’ รีบกระโดดถอยออกไปด้านหลัง
‘ชูเฟิง’ ยังคงตามเขาไปอย่างติดๆ ทุกทักษะทุกท่าทางไม่อาจบอกได้ว่าที่เขาใช้คืออะไร แต่มันดูแข็งแกร่งอย่างมาก การโจมตีที่รวดเร็วเหมือนสายฟ้าความหนักแน่นที่เหมือนกับขุนเขา หมัดของเขาเปรียบดั่งโลหะ ขาของเขาเหมือนแส้ที่สบัด ด้วยการโจมตีผสานของทั้งสองอย่างทำให้ ติง โฉ่ว ถูกกดดัน
” ทำไมคนๆนี้ถึงได้แข็งแกร่งขนาดนี้ล่ะ เขาอยู่แค่อาณาจักรห้วงวิญญาณไม่ใช่หรอ แต่ฝีมือของเขาไม่ด้อยไปกว่าอาณาจักรกำเนิดวิญญาณเลยด้วยซ้ำ “
การโจมตีของ ‘ชูเฟิง’ ‘ติง โฉ่ว’ และคนอื่นๆรอบๆบริเวณ ต่างอุทานออกมาด้วยความแปลกใจ
แม้แต่เจ้าเมืองต่างๆ ยังขมวดคิ้วขึ้นขณะที่ตาสว่าง พวกเขารู้อยู่แล้วว่า’ชูเฟิง’แข็งแกร่ง แต่ไม่คิดว่าเขาจะแข็งแกร่งถึงขนาดนี้
” ท่านยังคิดจะซ่อนมันไว้อีกไม๊!!! ” .
ขณะนั้น ‘ชูเฟิง’ ยังคงระดมการโจมตีใส่ ‘ติง โฉ่ว’ เมื่อเผชิญกับสถานการณ์เช่นนั้นเขาไม่อาจรับมือได้อย่างง่ายดาย เขาได้แต่ถูกกดดันอย่างต่อเนื่องโดยถูกบังคับให้ถอยออกไปเรื่อยๆโดยไม่สามารถต่อต้าน ‘ชูเฟิง’ ได้
เนื่องจากการโจมตีของ ‘ชูเฟิง’ ที่แสนจะประหลาด ขนาดเขาไม่ได้รับการโจมตีจาก ‘ชูเฟิง’ โดยตรง เขายังรู้สึก มึนงง จากบางส่วนของร่างกาย ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าที่จะเอาร่างไปรับการโจมตีของ ‘ชูเฟิง’ ไม่เช่นนั้นคงแย่แน่ๆ
* ฟรึบบบ *
จู่ๆ ‘ชูเฟิง’ ก็เหวี่ยงหมัดหนักๆ โดยใส่แรงไปที่มือของเขาจนเกิดลมหมุนรอบๆ ขณะที่มันมุ่งเข้าตรงใบหน้า ของ ‘ติง โฉ่ว’ โดยไม่มีที่ให้หลบ
” ปุ้งงงง. . . “
เมื่อเจอแบบนั้น ‘ติง โฉ่ว’ ได้แต่กัดฟันพร้อมกับมีสีหน้าแสนเย็นชา จากนั้นอากาศรอบๆก็เกิดระเบิดพลังที่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่าขึ้นมา พลังในร่างกายของเขาปะทุออกมาเหมือนกับการระเบิดของภูเขาไฟ มันเป็นพลังวิญญาณทีแข็งแกร่งอย่างมากหมุนรอบๆตัวเขาจนทำให้ ‘ชูเฟิง’ ถูกผลักกลับไป
ขณะที่ ‘ชูเฟิง’ ถูกผลักกลับไป ‘ติง โฉ่ว’ รีบเข้าโจมตี โดยเหวี่ยงหมัดรัวๆใส่ ‘ชูเฟิง’ เพื่อเริ่มการตอบโต้
” เขาก็ใช้ทักษะลับงั้นหรอ!!! “
‘ชูเฟิง’ ถูกสวนกลับภายในพริบตา ‘ซูรู่’ ขมวดคิ้วลงเล็กน้อย นางเห็นได้ชัดว่า ‘ติง โฉ่ว’ ใช้ทักษะลับ และปล่อยแรงดันวิญญาณ ของระดับ 3 กำเนิดวิญญาณออกมา
” หึๆๆ รู่เอ๋อ อย่างที่ข้าบอก ว่าชูเฟิงไม่สามารถเอาชนะ ติง โฉ่ว ได้ แต่ที่เขาทำได้ถึงขนาดนี้ ด้วยพลังระดับ 8 ห้วงวิญญาณ ก็นับว่าเขา สร้างปาฏิหาริย์แล้ว “
” หากพวกเขาทั้งสองอยู่ในอาณาจักรวิญญาณที่เท่ากัน ชูเฟิง ก็อาจจะสามารถเอาชนะ ติง โฉ่ว ได้ แต่น่าเสียดาย พวกเขาอยู่คนระดับกัน ” ซูเฮิน ลูบเคราที่คางของเขา พร้อมกับยิ้มและกล่าว
” ชิส์!!! ท่านพ่อ ผลยังไม่ออกมา อย่าพึ่งมั่นใจไปหน่อยเลย ” ซูรู่กัดริมฝีปากและยังคงจ้องมองทั้งคู่ที่อยู่บนเวทีฯ
” อืม . . . . . . ที่จริง ข้าก็อยากจะเอาใจช่วยเขานะที่ชูเฟิงสามารถทนได้นานขนาดนี้ เขารักษาเวลาได้นานกว่า เฉิน หว่านชิง ซะอีก เท่านี้ก็น่าประทับใจแล้ว ดังนั้นเราจะต้องดึงเขาเอาไว้กับเรา “
‘ซูเฮิน’กล่าวอย่างจริงจัง แม้ว่าเขาจะคิดว่า ‘ชูเฟิง’ ไม่อาจเอาชนะ แต่ด้วยพรสวรรค์ที่เขามี ไม่ว่าเขาจะแพ้หรือชนะ ยังไงเขาก็ยังอยากได้ ‘ชูเฟิง’ ไว้ใกล้ๆตัว
” เป็นไงล่ะ นี้โทษฐาน ที่เจ้าทำตัวเอง !!! “
‘ติง โฉ่ว’ ใช้ทักษะลับ ความแข็งแกร่งของมันทำให้พลังของเขาเพิ่มขึ้นหลายเท่าเข้าปกคลุมแขน ขา จากนั้นเขาก็เข้าโจมตีใส่ ‘ชูเฟิง’
” นี่ท่านเอาจริงแล้วงั้นเหรอ!!!”
‘ชูเฟิง’ยิ้มแปลกๆพร้อมกับปัดการโจมตีของ ‘ติง โฉ่ว’ ด้วยมือข้างเดียว จากนั้นเขาใช่มืออีกข้างกระจายออกไป มันปรากฏเป็นฝ่ามือนับไม่ถ้วนกระหนาบใส่ ‘ติง โฉ่ว’
” วิชาอะไร ? ! “
‘ติง โฉ่ว’ แสนจะประหลาดใจกับการเปลี่ยนแปลงที่ฉับพลัน เพราะ ‘ชูเฟิง’ นั้นใช้ ฝ่ามือ ลวงตา เข้าใส่โดยที่เขาไม่สามารถมองออกว่าอันไหนจริง อันไหนหลอก จึงไม่กล้าบู่มบ่าม
” แค่ทักษะ ระดับ 3 ยังกล้าเอามาใช้ต่อหน้าข้างั้นเหรอ!!!”
หลังจากที่ตกใจอยู่พักหนึ่ง ‘ติง โฉ่ว’ จู่ๆเขาก็คิดอะไรบางอย่างได้ จากนั้นเขาก็ตะโกนออกมา ทันใดนั้นพลังวิญญาณในร่างกายของเขาก็ไหลออกมาวนรอบๆร่างกายของเขาโดยปล่อยออกมาจากจุดศูนย์กลาง ปราณที่เขาปล่อยออกมาเป็นสีแสงทองเจิดจ้า โดยร่างกายของเขาเปลี่ยนเป็นโลหะสีทอง
ถ้าจะอธิบายให้ถูกก็คือ ‘ติง โจว’ นั้นได้ใช้ ทักษะของ สำนัก หลิง – หยุน ที่ชายคนก่อนหน้านี้ เคยใช้ มันเป็นทักษะระดับ 4
” วิชา เกราะทอง “
แต่เมื่อ ‘ติง โฉ่ว’ นำมันออกมาใช้ มันแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง บอกได้เลยว่าเขาดูแกร่งกว่าอย่างมาก
” เจ้าหนู!!! ดูสิว่าเจ้าจะมีปัญญาทำลายเกราะทองของข้าหรือเปล่า !!! “
‘ติง โฉ่ว’ เหวี่ยงหมัดเข้าไปในดง ฝ่ามือ ลวงตา ของ’ชูเฟิง’ จนทำให้เกิดการปะทะกันอย่างรุนแรง
* ปั้งงง *
หมัดและฝ่ามือปะทะกันอย่างแรงจนทำให้เกิดเสียงโลหะปะทะกัน คลื่นพลังงานขนาดใหญ่กระจายออกมาผลักทั้งคู่กระเด็นกลับไปหลายก้าวในตอนนั้น ทุกคนต่างคิดว่า ‘ชูเฟิง’ ได้รับบาดเจ็บสาหัส เพราะว่า ‘ชูเฟิง’ นั้นรนหาที่ ด้วยพลังของทักษะระดับ 3 จะไปเทียบกับ ทักษะ ระดับ 4 ของ ‘ติง โฉ่ว’ ได้ยังไง
ในตอนที่ทุกคนคิดว่า ‘ชูเฟิง’ เสียท่าให้กับ ‘ติง โฉ่ว’ จู่ๆร่างของ’ชูเฟิง’ก็โผล่ออกมา เหมือนกับ เสือร้าย ที่กำลังจ้องเหยื่อ
” เกราะทองงั้นหรอก็แค่เหล็กชิ้นหนึ่ง ข้า ชูเฟิง จะทำลายมันให้ดู “
การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นกับร่างกายของ’ชูเฟิง’ ในตอนนั้น มังกรสายฟ้าได้ทะยานรอบๆตัวของเขา ขณะที่มันถูกพื้น มันเกิดปะกายแสงอย่างรุนแรง จนเกิดเป็นรอย เสียงของมันดังคำรามออกมา เป็นเสียงของสายฟ้า ลักษณ์ของมันสุดแสนจะน่ากลัว
” นั้นมันทักษะระดับ 5 หนิ แม้ว่าจะเป็นทักษะระดับ 4 แต่ดูจากพลังของมันเป็นทักษะระดับ 5 ไม่ผิดแน่ “
สีหน้าของ ‘ติง โจว’ เปลี่ยนไปอย่างมาก เขาไม่เคยนึกว่าก่อนว่า ‘ชูเฟิง’ จะมีทักษะที่แข็งแกร่ง อย่างทักษะระดับ 5 อยู่ ทักษะระดับนี้ไม่ใช่คนทั่วๆไปที่จะสามารถเข้าใจ . . . . .
โปรดติดตามตอนต่อไป . . . . . . .
ที่มา:
ตอนที่แล้ว
ตอนต่อไป