ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป” ช้าก่อน!!! พวกท่านกำลังมุ่งหน้าไปยังหุบเขา – พยัคฆ์ขาวงั้นหรอ “
‘ชูเฟิง’รีบพูด
ตั้งแต่เขาถูกแม่น้ำมังกรสะบั้นพัดมา เขาก็ไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ส่วนไหน เขาจึงไม่รู่ว่าจะไปหุบเขา – พยัคฆ์ขาวได้ยังไง
หุบเขาพยัคฆ์ขาว นับว่าเป็น หุบเขาที่มีชื่อเสียงมากที่สุด ไม่ใช่ว่าจะแอบเข้าไปได้ง่ายๆ
ชื่อของ หุบเขา – พยัคฆ์ขาว เทียบได้กับ เมือง วิหคเพลิง เมือง เต่าทมิฬ หรือ สำนักมังกรฟ้า หุบเขาพยัคฆ์ขาว ยังมีความลับมากมายที่ถูกซ่อนไว้ หากเป็นคนแปลกหน้าเข้ามาเป็นธรรมดาจะต้องถูกสงสัย
” ท่านก็กำลังจะไป หุบเขา – พยัคฆ์ขาวเหมือนกันงั้นหรอ “
หญิงสาว ทำหน้าไม่อยากจะเชื่อ
” ถูกต้อง ข้าอยากทราบว่าท่านจะพาข้าไปด้วยได้มั๊ย “
‘ชูเฟิง’ มีรอยยิ้มอย่างเปิดเผย
เขาพบว่า นอกจาก 3 คนนั้น ที่หยุดรถอยู่บริเวณใกล้เครียง ในรถนั้นก็ไม่มีใครอยู่ข้างในแล้ว
เพราะว่าการ เดินไปด้วยตัวเอง ขณะที่บาดเจ็บสาหัส คงจะไม่ไหว หากฝืนไปมีหวังร่างกายของเขาคงได้บอกลาโลก พลังวิญญาณในร่างกายก็แสนจะเบาบาง เขาจึงไม่มีทางเลือกจึงขอติดรถพวกนางไป เผื่อจะได้พักฟื้นร่างกาย
” พวกเราไปที่เดียวกัน งั้นเจ้าก็มากับพวกเราสิ!!! “
หญิงสาว พยักหน้าตกลงและตอบ
” คุณหนู แต่ . . . . . . “
แต่ชายชรากับชายตัวใหญ่ ทำท่าทางลำบากใจ
” ไม่เป็นไรหรอก รถม้าของเรามีที่ว่างพอ พวกเจ้าดูสภาพเขาสิ จะให้เดินไปหุบเขา – พยัคฆ์ขาว เช่นนั้นหรอ เขาต้องใช้เวลาอีกนานเท่าไหร่ “
หญิงสาว ยิ้มเบาๆฟังจากทำพูดของนางนางเป็นคนที่อ่อนโยนอย่างมาก
เห็นหญิงสาวตัดสินใจเช่นนั้น ชายชรากับชายตัวใหญ่มองหน้ากัน โดยที่ไม่ได้พูดอะไรต่อเขาเพียงพยักหน้า ตกลง
” ขอบคุณท่านมาก!!! “
‘ชูเฟิง’ ค่อยๆดันตัวเองขึ้น พร้อมกับลากตัวเองไปยังรถม้า เขารู้ว่ากลุ่มคนพวกนี้ต้องคุ้นเคยกับเส้นทางอย่างแน่นอน หากไปกับพวกเขาคงไม่มีทางพลาด
” ท่านหญิงหวัง พวกท่านกำลังไปทำอะไรที่หุบเขา – พยัคฆ์ขาว งั้นหรอ “
‘ชูเฟิง’ ที่นั่งอยู่บนรถม้าซอกแซกถาม
หลังจากได้ข้อมูลของนางมาส่วน เขาจึงรู้ว่าชื่อของนางคือ ‘หวัง หลิน’ ต้นกำเนิดของนางอยู่ในหมู่บ้านเล็กๆในช่วงของหุบเขา – พยัคฆ์ขาว นอกจากนั้น ‘ชูเฟิง’ ยังรู้ว่านางเป็นผู้ใช้พลังวิญญาณ ที่อยู่ในระดับ 2 ห้วงวิญญาณ
” อย่าเรียกแบบนั้นเลย เรียกข้าว่า หวัง หลิน ก็ได้ “
นางยิ้มพร้อมกับกล่าวต่อ
” แน่นอนว่าเราไปยังหุบเขา – พยัคฆ์ขาว เพื่อเข้าร่วมการสอบ เป็น ผู้รับใช้ “
” สอบเป็นผู้รับใช้ ? “
‘ชูเฟิง’ ทำสีหน้า งงๆ
” ท่านไม่รู้เหรอ ว่าเร็วๆนี้จะมีการสอบเป็นผู้รับใช้ การสอบจะจัดขึ้นในทุกๆเดือนที่ หุบเขา – พยัคฆ์ขาว โดยเชิญเหล่าผู้มีความสามารถจากภายนอก ที่อายุไม่เกิน 17 ปี มีพลังวิญญาณไม่ต่ำกว่าระดับ 2 ห้วงวิญญาณ นั้นคือเงื่อนไข “
แม่นาง ‘หวัง หลิน’ เริ่มสาธยายเรื่องราวต่างๆ ให้ ‘ชูเฟิง’ฟัง จากที่ ‘ชูเฟิง’ ได้ยินที่นางเล่ามาเขาพอจะเข้าใจได้ว่าหุบเขา – พยัคฆ์ขาว ต้องการหาบุคคลมาเป็นกำลังให้กับเมืองของตน
คนที่อายุไม่เกิน 17 ปี มีพลังวิญญาณไม่ต่ำกว่าระดับ 2 ห้วงวิญญาณ จึงจะสามารถผ่านเข้าไปในหุบเขา-พยัคฆ์ขาวและเข้าร่วมการสอบได้ พวกเขาจะมีสถานภาพเป็นผู้รับใช้ และยังได้รับสิทธิ์ในการฝึกฝนทักษะต่างๆ แม้แต่ ทักษะลับ แม่นาง ‘หวัง หลิน’ ก็เป็นหนึ่งคนในนั้นที่ต้องการพัฒนาความสามารถ
” ท่านคงลำบากมากเลยสินะ “
‘ชูเฟิง’ หัวเราะและกล่าว เขาตัดสินใจว่าจะเข้าร่วมการสอบเป็นผู้รับใช้ ดีกว่าแอบลอบเข้าหุบเขา – พยัคฆ์ขาว
” ตะกูลยอมทำทุกอย่างให้คุณหนูเข้าสู่ระดับ 2 ห้วงวิญญาณได้เมื่อครึ่งปีที่แล้ว “
” แล้วทำไมคนบ้านนอกอย่างเจ้าถึงได้อยากรู้? “
ก่อนที่’หวังหลิน’จะพูดต่อ ชายตัวใหญ่ที่กำลังขับรถมาพูดแทรกเข้ามา พร้อมมอง ‘ชูเฟิง’ อย่างดูถูก
ตั้งแต่ เขาเห็น’ชูเฟิง’ ลอยมาติดอยู่ข้างแม่น้ำ ด้วยสภาพที่เสื้อขาดรุ่งริ้ง ไม่ว่าจะดูยังไง เขาก็เป็นคนบ้านนอกธรรมดาๆที่หลงเข้ามาจากที่อื่น แต่ในส่วนลึกในหัวใจของพวกเขา รู้สึกเหมือน’ชูเฟิง’จะมาทำอะไรบางอย่าง
” แค่ก แค่ก “
‘หวังหลิน’ รู้สึกว่าบรรยากาศมันแปลกๆ นางจึง ไอ สองครั้ง แล้วถาม
” แล้วเจ้าล่ะ ชูเฟิง มีธุระอะไรถึงได้มายังหุบเขา – พยัคฆ์ขาว “
เมื่อเผชิญกับคำถามของ ‘หวังหลิน’ ‘ชูเฟิง’ยิ้มอย่างใจเย็นพร้อมกับตอบนางไปมั่วๆ
” ข้าก็มาที่นี่ด้วยเหตุผลเดียวกับพวกท่าน “
” ท่านว่าไงนะ ? “
เมื่อ ‘ชูเฟิง’ พูดแบบนั้น ทั้งสามคนถึงกับอึ้ง
” ท่านหมายความว่าไง ? “
เขาพูดมันอีกครั้ง
‘หวังหลิน’ ชายชรา พร้อมกับชายตัวใหญ่ที่ขับรถม้า จ้องมอง ‘ชูเฟิง’ อย่างใจจดใจ่จ่อ ความสงสัยปรากฏขึ้นเต็มใบหน้าของพวกเขา เหมือนกับไม่อยากจะเชื่อว่า’ชูเฟิง’จะมีคุณสมบัติในการมาสอบ
แม้ว่าหุบเขา – พยัคฆ์ขาวจะเปิดการทดสอบให้กับคนทั่วไป แต่นั้นไม่ได้หมายความว่าทุกคนจะมีคุณสมบัติ เพราะรู้จักกันดีว่าต้องใช้เงินจำนวนมาก ในการเปิดทาง แล้วคนที่ดูท่าทางยาจกแบบ’ชูเฟิง’ จะไปสอบได้ยังไง
” ไม่เชื่อข้า ก็ตามใจ “
‘ชูเฟิง’ ยักไหล่โดยที่ไม่ได้อธิบายใดๆ
เห็นว่า ‘ชูเฟิง’ ไม่อธิบาย ชายชรา กับ ชายตัวใหญ่ นึกว่าตอนแรกเขาจะพูดจาโอ้อวด แต่สุดท้ายพวกเขาก็คิดไม่ผิด ว่า’ชูเฟิง’นั้นเป็น ยากจก ขณะทีมีแค่ ‘หวัง หลิน’ ที่เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งกับคำพูดของ’ชูเฟิง’
ขณะนั้น บนรถม้าเป็นการเดินทาง ที่แสนจะอึดอัด มีแค่ ‘หวังหลิน’ ชายชรา และ ชายตัวใหญ่ที่สนทนากัน สามคน แทบจะไม่มีใครพูดกับ’ชูเฟิง’อีกเลย
การเดินทางยังทางดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง เมื่อดวงตะวันลับขอบฟ้าหายไปยังทิศตะวันตก ในที่สุดพวกเขาก็เดินทางมาถึง หุบเขา – พยัคฆ์ขาว
หุบเขา – พยัคฆ์ขาว แสนจะกว้างใหญ่ เหตุผลที่มันถูกเรียกว่า หุบเขา ในความเป็นจริง มันเป็นเมืองที่ถูกสร้างขึ้นโดยมีภูเขาที่สวยงามล้อมรอบตั้งอยู่ที่ใจกลาง สถานที่อยู่อาศัย อาคาร บ้านเรือน ถูกสร้างโดยอิฐสีขาวลึกลับ แม้แต่พระราชตำหนักก็ด้วยเช่นกัน ในช่วงรอบๆของภูเขาเต็มไปด้วยสีเขียวมรกต มันดูงดงามมากทีเดียวเมืองแห่งนี้
” นี่มัน หุบเขา – พยัคฆ์ขาวงั้นหรอ ช่างเป็นเมืองที่วิเศษจริงๆ “
‘ชูเฟิง’ มองหุบเขา – พยัคฆ์เขารู้ถึงออร่าของผู้คนจำนวนมาก หลังจากที่ผ่านความเป็นความตายมา เขารู้สึกยินดีอย่างมากที่ยังมีชีวิตอยู่
” ไอ้บ้านนอก ! ! ! “
ชายตัวใหญ่ มอง’ชูเฟิง’พร้อมกับดูถูกจากก้นบึ้งในหัวใจ
รถม้าวิ่งไปตามถนน จนพวกเขามาถึงหน้าประตูเมืองขนาดใหญ่ของหุบเขา – พยัคฆ์ขาว ด้านหน้าของประตู มีเต็นท์ชั่วคราว ที่ตั้งไว้เป็นจุดลงทะเบียนการเข้าสอบเป็น ผู้รับใช้
ในเวลานั้น ท้องฟ้าค่อยๆมืด สนิท จนบริเวณเต๊นท์นั้นไม่มีใครต่อแถว การลงทะเบียนกำลังจะสิ้นสุด ‘หวัง หลิน’ และคนอื่นๆ จึงรีบวิ่งเข้าไปอย่างรวดเร็ว หลังจากที่ลงหลังม้า
” ช้าก่อน!!! “
แต่ก่อนที่’หวัง หลิน’ และคนอื่นๆจะเข้าไป ชายหนุ่มคนหนึ่งก็ได้ขวางทางพวกเขาเอาไว้
เขามีอายุประมาณ 20 ปี สวมชุดสีขาว ตรงกลางหน้าอกเขียนคำไว้สามคำ ผู้รับใช้ พลังวิญญาณอยู่ในระดับ 3 ห้วงวิญญาณ ในสายตาของ’ชูเฟิง’ มองว่าเขาอ่อนแอแบบสุดๆ
ไม่แปลกจากที่ ‘ชูเฟิง’ คิดแบบนั้น เพราะหุบเขา – พยัคฆ์ขาว จะส่งต่อทักษะที่ร้ายกาจให้กับคนในตะกูลจากรุ่นสู่รุ่น บรรดาเหล่าผู้รับใช้ก็เหมือนกับศิษย์ของสำนัก จะมีน้อยคนที่แข็งแกร่งจริงๆ
โปรดติดตามตอนต่อไป . . . . . . . . . . . .
ที่มา: