I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Martial God Asura ตอนที่ 119 – การเดินทางที่ไม่สูญเปล่า

| Martial God Asura | 2540 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
                

* หวี่…. หวี่…..หวี่…… *

ในความมืดลูกแสงเหล่าพุ่งผ่าอากาศเข้ามา จนดูเป็นกลุ่มดาวหางสีเขียวเข้ม

พวกมันบินเข้ามาอย่างรวดเร็วพร้อมกับส่งเสียงแปลกๆออกมานี่มันไม่ใช่หิ่งห้อยแต่อย่างใด

พวกมันเป็นแค่กลุ่มแมลงสีเขียวเข้ม พวกมันมีลักษณะคล้ายยุงบินอยู่ในอากาศ

ลำตัวของมันยาวมีดวงตาสีแดง ยิ่งมองมันในความมืดยิ่งทำให้พวกมันดูน่ากลัว

แมลงแค่ตัวเดียวมีพลังวิญญาณเท่ากับผู้เชียวชาญอาณาจักรกำเนิดวิญญาณ

แต่นี้มีนับพันๆตัว มันจึงเป็นกองทัพอาณาจักรกำเนิดวิญญาณที่แสนจะน่ากลัว

พวกมันพุ่งเข้ามาด้านหน้าของ ‘ชูเฟิง’

” วิ่ง ! ! ! ! ! “

‘เทพธิดา’ตะโกนเตือน ขณะที่เธอสลับพลังวิญญาณกับ ‘ชูเฟิง’ เพื่อยกระดับพลังวิญญาณให้เขา

‘ชูเฟิง’ไม่รอช้าเขาเปลี่ยนเป็นผู้เชียวชาญอาณาจักรกำเนิดวิญญาณและใช้ทักษะ ท่อง นภา และหนีไปอย่างรวดเร็ว

* ชูว่ววว *

ในตอนนั้นแสงสายฟ้าถูกปล่อยออกมาจากฝ่าเท้าของ’ชูเฟิง’

ขณะที่สัญลักษณ์ผนึกอสูรร้ายเปลี่ยนเป็นสีแดงไล่ตามผนังขณะเขาวิ่งหนี

* ปุบ ปุบ ปุบ *

ในเวลาเดียวกันแมลงสีเขียวก็พุ่งตาม’ชูเฟิง’ไป สัญลักษณ์จู่ๆก็เปล่งแสงสีแดงออกมา

จากนั้นพวกมันทั้งหมดก็ระเบิด โดยไม่เหลือแม้แต่ร่องรอย

” สัญลักษณ์ผนึกอสูรร้ายแข็งแกร่งยิ่งนัก “

‘ชูเฟิง’ถึงกับตะลึง ถ้าไม่ใช่เพราะสัญลักษณ์นี้ช่วยขวางไว้พวกเขาคงจะหนีไม่รอด

” อย่าหยุดวิ่งนะ!!! “

ขณะที่’ชูเฟิง’กำลังจะหยุดการเคลื่อนไหว ‘เทพธิดา’ตะโกนออกมาด้วยความตกใจ

* บูมมม *

เสียงดังก้องกังวาลดังขึ้นมา เมื่อ’ชูเฟิง’เหลือบหันไปมองเขาก็ถึงกับยืนอึ้ง

ใจกลางทะเลสาบ มีคลื่นลูกใหญ่ยกขึ้นมา จากนั้นก็มีบางอย่างค่อยๆโผล่ขึ้นมา

มองเขาที่สำคัญก็คือภายในคลื่นลูกนั้น มันมีแสงสีครามและสีเขียวมรกตจ้องเข้ามาอย่างจะกินเลือดกินเนื้อ

มันเป็นดวงตาขนาดใหญ่มหึมาแค่เหลือบไปมองเท่านั้นมันทำให้ร่างกายของ’ชูเฟิง’สั่นอย่างมาก

ความกลัวเข้ามาปกคลุมภายในใจของเขา โดยไม่มีความคิดที่จะต่อต้านใดๆ

แค่ดวงตาที่มันจ้องมาก็ทำให้คน แทบจะล้มทั้งยืนโดยที่ไม่เหลือความกล้าหาญใดๆ

ไม่ต้องคิดให้เสียเวลา ‘ชูเฟิง’ รู้อยู่แล้วว่าสิ่งนั้นมันคืออะไร มันคือ อสูรร้าย ที่’เทพธิดา’พูดถึง

ที่สำคัญ’ชูเฟิง’แทบไม่อยากจะคิดก็คือ ขนาดตัวของมัน แค่ดวงตาก็มีขนาดมหึมาแล้ว

ร่างของมันล่ะจะใหญ่ขนาดไหน’ชูเฟิง’รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติแล้ว

เขาจึงต้องรีบทำอะไรสักอย่างเพื่อรักษาชีวิต ดังนั้นเขาจึงใช้ความเร็วของทักษะ ท่องนภา

เพื่อจะหนีสิ่งที่น่ากลัวนั้นให้เร็วที่สุดคลื่นขนาดใหญ่ขยายออกมาพร้อมกับเสียงดังมันวิ่งเข้ามาตามสัญลักษณ์สีแดง

ที่ถูกน้ำท่วม มันแข็งแกร่งเกินไป ถ้าเขาไม่เร็วกว่านี้ล่ะก็ คงไม่มีทางหนีรอดไปได้

” มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย ทำไมผนึกอสูรร้ายถึงไม่ทำงาน “

‘ชูเฟิง’วิตกอย่างมากเมื่อสัญลักษณ์ผนึกอสูรร้ายถูกคลื่นขนาดใหญ่กลบไว้ หากอสูรร้ายจับเขาได้ เขาต้องตายอย่างแน่นอน

” คลื่นพวกนี้อยู่ได้ไม่นานหรอกหากมันลดระดับลงมันต้องถูกผนึกขวางไว้อย่างแน่นอน หายห่วงได้เลยเมื่อพวกมันเห็นผนึกคงจะไม่กล้าเขามาใกล้ เจ้าจะไม่เป็นอะไรตราบใดที่เจ้าไม่ถูกคลื่นนี้ลากกลับเข้าไป “

‘เทพธิดา’กล่าวในตอนนั้นคลื่นขนาดใหญ่ก็ค่อยๆไล่เขาเข้าไปเลื่อยๆ จนมันกระแทกด้านหลังของ’ชูเฟิง’อย่างแรง

” อย่าดูถูกข้านัก ! ! ! “

เมื่อเขาไม่สามารถหนีคลื่นนั้นพ้น เขาก็ต้องจมอยู่ใต้น้ำ

ขณะนั้น ‘ชูเฟิง’ จึงพูดกับตัวเองพร้อมกับดีดเท้าพุ่งไปด้านหน้าโดยใช้พลังจากคลื่นที่ซัดมา

เพื่อเปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาส

” โฮกกก~ ~ ~ ~ ~ “

ตอนที่’ชูเฟิง’หลุดออกมา เขาก็ได้ยินเสียงคำรามที่น่ากลัวดึงขึ้น โชคดีที่มันยังอยู่อีกไกล

ถ้ามันดังขึ้นมาใกล้ๆ นั้นหมายถึงจุดจบของ ‘ชูเฟิง’

” อสูรร้ายนั่นมันน่ากลัวเกินไป!!! “

อสูรร้ายตนนั้นไม่กล้าเข้ามาในสัญลักษณ์ผนึก เพราะคลื่นเหล่านั้นค่อยๆลดระดับลงไปจนหายไป

เมื่อมองพื้นที่ไร้คลื่น ‘ชูเฟิง’ ถึงกับถอนหายใจหากเขาไม่เชื่อที่นางเตือนก่อนหน้านี้และสุ่มสี่สุ่มห้าพุ่งเข้าไป

โดยที่ไม่มีผนึกพวกนี้ช่วยไว้ เขาคงถูกมันฉีกออกเป็นชื้นๆ และถูกดูดกลืนแหล่งพลังวิญญาณออกไป

โดยที่ตายแบบไม่เหลืออะไรไว้เลย

” อสูรร้ายแม้ว่ามันจะน่ากลัว แต่มันก็ยังอ่อนหัดนัก  ดูให้ดีๆสิตอนที่คลื่นเพิ่มขึ้นมาบางส่วนของกองกระดูกก็โผล่ขึ้นมาด้วย มันอาจจะมีของบางอย่างที่เจ้าต้องการอยู่ก็ได้ “

‘เทพธิดา’กล่าว

” นั้นก็จริง!!! “

ในตอนนั้น’ชูเฟิง’กำลังเดินเหยียบบนพื้นที่กำลังเปียกโดยอาศัยแสงจากเข็มทิศโลกวิญญาณค้นหา

และแล้วชูเฟิงก็พบเหมือนกับที่นางกล่าวมา ภายใต้กองกระดูกที่ถูกคลื่นซัดขึ้นมา

ไม่เพียงแต่จะมีลูกแก้ววิญญาณอยู่เท่านั้น มันยังมีลูกแก้วแก่นแท้วิญญาณปะปนขึ้นมาด้วย

พวกมันกระจายอยู่เต็มพื้นระยิบระยับ

” พลังของคลื่นลูกนั้นรุนแรงมาก บางทีเจ้าควรจะใช้อำนาจพลังวิญญาณตรวจหาลูกแก้ววิญญาณดีๆ บางทีเจ้าอาจจะพบลูกแก้วแก่นแท้วิญญาณเพิ่มก็ได้ ดูให้ดีๆล่ะ “

‘เทพธิดา’ในตอนนั้นก็มีความสุขกับ’ชูเฟิง’ไปด้วย แม้ว่าเหล่าโอสถวิญญาณทั้งหลายจะไร้ประโยชน์กับนาง

แต่ว่ามันสำคัญกับ’ชูเฟิง’ ตั้งแต่เข้ามานางก็ได้รับประโยชน์จากที่แห่งนี้ไปแล้ว

เป็นธรรมดาที่นางไม่อยากให้’ชูเฟิง’กลับไปมือเปล่า

” อืม . . . . . . “

‘ชูเฟิง’ไม่รอช้า เขาจึงเริ่มค้นหาอย่างละเอียดบริเวณรอบๆ หลังจากผ่านไป 4 ชม

‘ชูเฟิง’ก็ได้ ลูกแก้ววิญญาณมา 3000 เม็ดและลูกแก้วแก่นแท้วิญญาณอีก 7 เม็ด

ลูกแก้วแก่นแท้วิญญาณเท่ากับลูกแก้วธรรมดา 1000 เม็ด นั้นหมายความว่าเขาได้ลูกแก้ววิญญาณมาทั้งหมด 10000 เม็ด

แล้วถ้าหากชนะการประลองรอบนี้เขาจะได้ลูกแก้ววิญญาณอีก 5000 เม็ด

รวมกันแล้วเขาอาจจะเข้าสู่อาณาจักรกำเนิดวิญญาณเลยก็ได้ แม้ว่าการเสี่ยงตายครั้งนี้จะได้สมบัติไม่มากเท่าไหร่

แต่อย่างน้อยๆ ก็เป็นการเดินทางที่ไม่สูญเปล่าเมื่อเขาไม่พบอะไรอย่างอื่น

‘ชูเฟิง’ จึงรีบออกไปทางที่เข้ามาตอนแรก จากนั้นเขาก็เริ่มไต่ขึ้นไปจากหลุมแห่งนี้

และแล้ว เขาก็พบว่าตอนนี้ ดวงอาทิตย์ส่องขึ้นมากลางหัวของเขาแล้ว

” บ้าเอ๊ยนี่มันเที่ยงแล้วหนิ!!! แบบนี้แย่แน่ๆ ข้าลืมเวลากำหนดการประลองไปซะสนิท “

‘ชูเฟิง’ทำไรไม่ถูก ตอนที่เขาอยู่ในสุสานปีศาจ เขามัวแต่ห่วงเรื่องสมบัติ

จนลืมเรื่องเวลาไปซะสนิท เขาไม่นึกว่ามันจะใช้เวลานานขนาดนั้น หลังจากที่เขาออกมา

หากเขาไม่รีบ เขาอาจจะตกรอบเลยก็ได้แม้ว่า ‘ชูเฟิง’ จะได้ลูกแก้ววิญญาณมา 10000 เม็ดในสุสาน

แต่เพื่อการเพิ่มพลังวิญญาณให้เร็วที่สุด ลูกแก้ววิญญาณอีก 5000 เม็ด ก็นับว่าจำเป็น

ดังนั้นเขาไม่ปล่อยมันไปแน่ๆหลังจากที่คิดว่าจะทำยังไง ชูเฟิง รีบใช้อำนาจพลังวิญญาณปลกคลุมปากหลุมสุสานปีศาจ

ด้วยหญ้าสีเขียว เพื่อไม่ให้คนทั่วไปพบเห็น จากที่เตรียมการเสร็จ ‘ชูเฟิง’ วิ่งแบบไม่คิดชีวิตกลับไปยังเมืองวิหคเพลิง

ในความจริงแล้ว การประลองรอบนี้จะจบลงเมื่อตอนบ่าย ภายในเมืองวิหคเพลิง

ผู้เข้าร่วมการประลองทั้งหลายกำลังเล่าเรื่องที่พวกเขาไปเผชิญมา

ภายในเมือง มี 5 คนแล้ว ถูกรับเลือกให้เป็นผู้ชนะ ด้านนอกเมืองก็มีคนรายล้อมยังกับกองภูเขา

แม้แต่คนที่มีตำแหน่งสูงๆยังเข้ามาเพื่อดูการประลองภายในเมืองว่าจะเป็นเช่นไร

 

 

โปรดติดตามตอนต่อไป . . . . . .

ที่มา:

ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
comments