ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป* หวี่…. หวี่…..หวี่…… *
ในความมืดลูกแสงเหล่าพุ่งผ่าอากาศเข้ามา จนดูเป็นกลุ่มดาวหางสีเขียวเข้ม
พวกมันบินเข้ามาอย่างรวดเร็วพร้อมกับส่งเสียงแปลกๆออกมานี่มันไม่ใช่หิ่งห้อยแต่อย่างใด
พวกมันเป็นแค่กลุ่มแมลงสีเขียวเข้ม พวกมันมีลักษณะคล้ายยุงบินอยู่ในอากาศ
ลำตัวของมันยาวมีดวงตาสีแดง ยิ่งมองมันในความมืดยิ่งทำให้พวกมันดูน่ากลัว
แมลงแค่ตัวเดียวมีพลังวิญญาณเท่ากับผู้เชียวชาญอาณาจักรกำเนิดวิญญาณ
แต่นี้มีนับพันๆตัว มันจึงเป็นกองทัพอาณาจักรกำเนิดวิญญาณที่แสนจะน่ากลัว
พวกมันพุ่งเข้ามาด้านหน้าของ ‘ชูเฟิง’
” วิ่ง ! ! ! ! ! “
‘เทพธิดา’ตะโกนเตือน ขณะที่เธอสลับพลังวิญญาณกับ ‘ชูเฟิง’ เพื่อยกระดับพลังวิญญาณให้เขา
‘ชูเฟิง’ไม่รอช้าเขาเปลี่ยนเป็นผู้เชียวชาญอาณาจักรกำเนิดวิญญาณและใช้ทักษะ ท่อง นภา และหนีไปอย่างรวดเร็ว
* ชูว่ววว *
ในตอนนั้นแสงสายฟ้าถูกปล่อยออกมาจากฝ่าเท้าของ’ชูเฟิง’
ขณะที่สัญลักษณ์ผนึกอสูรร้ายเปลี่ยนเป็นสีแดงไล่ตามผนังขณะเขาวิ่งหนี
* ปุบ ปุบ ปุบ *
ในเวลาเดียวกันแมลงสีเขียวก็พุ่งตาม’ชูเฟิง’ไป สัญลักษณ์จู่ๆก็เปล่งแสงสีแดงออกมา
จากนั้นพวกมันทั้งหมดก็ระเบิด โดยไม่เหลือแม้แต่ร่องรอย
” สัญลักษณ์ผนึกอสูรร้ายแข็งแกร่งยิ่งนัก “
‘ชูเฟิง’ถึงกับตะลึง ถ้าไม่ใช่เพราะสัญลักษณ์นี้ช่วยขวางไว้พวกเขาคงจะหนีไม่รอด
” อย่าหยุดวิ่งนะ!!! “
ขณะที่’ชูเฟิง’กำลังจะหยุดการเคลื่อนไหว ‘เทพธิดา’ตะโกนออกมาด้วยความตกใจ
* บูมมม *
เสียงดังก้องกังวาลดังขึ้นมา เมื่อ’ชูเฟิง’เหลือบหันไปมองเขาก็ถึงกับยืนอึ้ง
ใจกลางทะเลสาบ มีคลื่นลูกใหญ่ยกขึ้นมา จากนั้นก็มีบางอย่างค่อยๆโผล่ขึ้นมา
มองเขาที่สำคัญก็คือภายในคลื่นลูกนั้น มันมีแสงสีครามและสีเขียวมรกตจ้องเข้ามาอย่างจะกินเลือดกินเนื้อ
มันเป็นดวงตาขนาดใหญ่มหึมาแค่เหลือบไปมองเท่านั้นมันทำให้ร่างกายของ’ชูเฟิง’สั่นอย่างมาก
ความกลัวเข้ามาปกคลุมภายในใจของเขา โดยไม่มีความคิดที่จะต่อต้านใดๆ
แค่ดวงตาที่มันจ้องมาก็ทำให้คน แทบจะล้มทั้งยืนโดยที่ไม่เหลือความกล้าหาญใดๆ
ไม่ต้องคิดให้เสียเวลา ‘ชูเฟิง’ รู้อยู่แล้วว่าสิ่งนั้นมันคืออะไร มันคือ อสูรร้าย ที่’เทพธิดา’พูดถึง
ที่สำคัญ’ชูเฟิง’แทบไม่อยากจะคิดก็คือ ขนาดตัวของมัน แค่ดวงตาก็มีขนาดมหึมาแล้ว
ร่างของมันล่ะจะใหญ่ขนาดไหน’ชูเฟิง’รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติแล้ว
เขาจึงต้องรีบทำอะไรสักอย่างเพื่อรักษาชีวิต ดังนั้นเขาจึงใช้ความเร็วของทักษะ ท่องนภา
เพื่อจะหนีสิ่งที่น่ากลัวนั้นให้เร็วที่สุดคลื่นขนาดใหญ่ขยายออกมาพร้อมกับเสียงดังมันวิ่งเข้ามาตามสัญลักษณ์สีแดง
ที่ถูกน้ำท่วม มันแข็งแกร่งเกินไป ถ้าเขาไม่เร็วกว่านี้ล่ะก็ คงไม่มีทางหนีรอดไปได้
” มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย ทำไมผนึกอสูรร้ายถึงไม่ทำงาน “
‘ชูเฟิง’วิตกอย่างมากเมื่อสัญลักษณ์ผนึกอสูรร้ายถูกคลื่นขนาดใหญ่กลบไว้ หากอสูรร้ายจับเขาได้ เขาต้องตายอย่างแน่นอน
” คลื่นพวกนี้อยู่ได้ไม่นานหรอกหากมันลดระดับลงมันต้องถูกผนึกขวางไว้อย่างแน่นอน หายห่วงได้เลยเมื่อพวกมันเห็นผนึกคงจะไม่กล้าเขามาใกล้ เจ้าจะไม่เป็นอะไรตราบใดที่เจ้าไม่ถูกคลื่นนี้ลากกลับเข้าไป “
‘เทพธิดา’กล่าวในตอนนั้นคลื่นขนาดใหญ่ก็ค่อยๆไล่เขาเข้าไปเลื่อยๆ จนมันกระแทกด้านหลังของ’ชูเฟิง’อย่างแรง
” อย่าดูถูกข้านัก ! ! ! “
เมื่อเขาไม่สามารถหนีคลื่นนั้นพ้น เขาก็ต้องจมอยู่ใต้น้ำ
ขณะนั้น ‘ชูเฟิง’ จึงพูดกับตัวเองพร้อมกับดีดเท้าพุ่งไปด้านหน้าโดยใช้พลังจากคลื่นที่ซัดมา
เพื่อเปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาส
” โฮกกก~ ~ ~ ~ ~ “
ตอนที่’ชูเฟิง’หลุดออกมา เขาก็ได้ยินเสียงคำรามที่น่ากลัวดึงขึ้น โชคดีที่มันยังอยู่อีกไกล
ถ้ามันดังขึ้นมาใกล้ๆ นั้นหมายถึงจุดจบของ ‘ชูเฟิง’
” อสูรร้ายนั่นมันน่ากลัวเกินไป!!! “
อสูรร้ายตนนั้นไม่กล้าเข้ามาในสัญลักษณ์ผนึก เพราะคลื่นเหล่านั้นค่อยๆลดระดับลงไปจนหายไป
เมื่อมองพื้นที่ไร้คลื่น ‘ชูเฟิง’ ถึงกับถอนหายใจหากเขาไม่เชื่อที่นางเตือนก่อนหน้านี้และสุ่มสี่สุ่มห้าพุ่งเข้าไป
โดยที่ไม่มีผนึกพวกนี้ช่วยไว้ เขาคงถูกมันฉีกออกเป็นชื้นๆ และถูกดูดกลืนแหล่งพลังวิญญาณออกไป
โดยที่ตายแบบไม่เหลืออะไรไว้เลย
” อสูรร้ายแม้ว่ามันจะน่ากลัว แต่มันก็ยังอ่อนหัดนัก ดูให้ดีๆสิตอนที่คลื่นเพิ่มขึ้นมาบางส่วนของกองกระดูกก็โผล่ขึ้นมาด้วย มันอาจจะมีของบางอย่างที่เจ้าต้องการอยู่ก็ได้ “
‘เทพธิดา’กล่าว
” นั้นก็จริง!!! “
ในตอนนั้น’ชูเฟิง’กำลังเดินเหยียบบนพื้นที่กำลังเปียกโดยอาศัยแสงจากเข็มทิศโลกวิญญาณค้นหา
และแล้วชูเฟิงก็พบเหมือนกับที่นางกล่าวมา ภายใต้กองกระดูกที่ถูกคลื่นซัดขึ้นมา
ไม่เพียงแต่จะมีลูกแก้ววิญญาณอยู่เท่านั้น มันยังมีลูกแก้วแก่นแท้วิญญาณปะปนขึ้นมาด้วย
พวกมันกระจายอยู่เต็มพื้นระยิบระยับ
” พลังของคลื่นลูกนั้นรุนแรงมาก บางทีเจ้าควรจะใช้อำนาจพลังวิญญาณตรวจหาลูกแก้ววิญญาณดีๆ บางทีเจ้าอาจจะพบลูกแก้วแก่นแท้วิญญาณเพิ่มก็ได้ ดูให้ดีๆล่ะ “
‘เทพธิดา’ในตอนนั้นก็มีความสุขกับ’ชูเฟิง’ไปด้วย แม้ว่าเหล่าโอสถวิญญาณทั้งหลายจะไร้ประโยชน์กับนาง
แต่ว่ามันสำคัญกับ’ชูเฟิง’ ตั้งแต่เข้ามานางก็ได้รับประโยชน์จากที่แห่งนี้ไปแล้ว
เป็นธรรมดาที่นางไม่อยากให้’ชูเฟิง’กลับไปมือเปล่า
” อืม . . . . . . “
‘ชูเฟิง’ไม่รอช้า เขาจึงเริ่มค้นหาอย่างละเอียดบริเวณรอบๆ หลังจากผ่านไป 4 ชม
‘ชูเฟิง’ก็ได้ ลูกแก้ววิญญาณมา 3000 เม็ดและลูกแก้วแก่นแท้วิญญาณอีก 7 เม็ด
ลูกแก้วแก่นแท้วิญญาณเท่ากับลูกแก้วธรรมดา 1000 เม็ด นั้นหมายความว่าเขาได้ลูกแก้ววิญญาณมาทั้งหมด 10000 เม็ด
แล้วถ้าหากชนะการประลองรอบนี้เขาจะได้ลูกแก้ววิญญาณอีก 5000 เม็ด
รวมกันแล้วเขาอาจจะเข้าสู่อาณาจักรกำเนิดวิญญาณเลยก็ได้ แม้ว่าการเสี่ยงตายครั้งนี้จะได้สมบัติไม่มากเท่าไหร่
แต่อย่างน้อยๆ ก็เป็นการเดินทางที่ไม่สูญเปล่าเมื่อเขาไม่พบอะไรอย่างอื่น
‘ชูเฟิง’ จึงรีบออกไปทางที่เข้ามาตอนแรก จากนั้นเขาก็เริ่มไต่ขึ้นไปจากหลุมแห่งนี้
และแล้ว เขาก็พบว่าตอนนี้ ดวงอาทิตย์ส่องขึ้นมากลางหัวของเขาแล้ว
” บ้าเอ๊ยนี่มันเที่ยงแล้วหนิ!!! แบบนี้แย่แน่ๆ ข้าลืมเวลากำหนดการประลองไปซะสนิท “
‘ชูเฟิง’ทำไรไม่ถูก ตอนที่เขาอยู่ในสุสานปีศาจ เขามัวแต่ห่วงเรื่องสมบัติ
จนลืมเรื่องเวลาไปซะสนิท เขาไม่นึกว่ามันจะใช้เวลานานขนาดนั้น หลังจากที่เขาออกมา
หากเขาไม่รีบ เขาอาจจะตกรอบเลยก็ได้แม้ว่า ‘ชูเฟิง’ จะได้ลูกแก้ววิญญาณมา 10000 เม็ดในสุสาน
แต่เพื่อการเพิ่มพลังวิญญาณให้เร็วที่สุด ลูกแก้ววิญญาณอีก 5000 เม็ด ก็นับว่าจำเป็น
ดังนั้นเขาไม่ปล่อยมันไปแน่ๆหลังจากที่คิดว่าจะทำยังไง ชูเฟิง รีบใช้อำนาจพลังวิญญาณปลกคลุมปากหลุมสุสานปีศาจ
ด้วยหญ้าสีเขียว เพื่อไม่ให้คนทั่วไปพบเห็น จากที่เตรียมการเสร็จ ‘ชูเฟิง’ วิ่งแบบไม่คิดชีวิตกลับไปยังเมืองวิหคเพลิง
ในความจริงแล้ว การประลองรอบนี้จะจบลงเมื่อตอนบ่าย ภายในเมืองวิหคเพลิง
ผู้เข้าร่วมการประลองทั้งหลายกำลังเล่าเรื่องที่พวกเขาไปเผชิญมา
ภายในเมือง มี 5 คนแล้ว ถูกรับเลือกให้เป็นผู้ชนะ ด้านนอกเมืองก็มีคนรายล้อมยังกับกองภูเขา
แม้แต่คนที่มีตำแหน่งสูงๆยังเข้ามาเพื่อดูการประลองภายในเมืองว่าจะเป็นเช่นไร
โปรดติดตามตอนต่อไป . . . . . .
ที่มา: