ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป” ตะกูล ชิงหลง งั้น ชื่อของอาณาจักร ก็ตั้งจากชื่อตะกูลในยุคนั้นสินะ “
‘ชูเฟิง’ ถาม
” ถูกต้อง ชื่อของอาณาจักรทั้ง 9 ถูกตั้งมาจากตะกูลในยุคนั้น “
” ตะกูลทั้ง 9 มีความแกร่งแกร่ง ไล่เลี่ยกัน จึงไม่มีใคร คิดจะทำสงครามกัน แต่นั้นก็ประมาณ 200 ปี ของยุคนั้น แต่หลังจากนั้นก็เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เพราะมีเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึงเกิดขึ้น “
‘ซูเหม่ย’กล่าว
” เหตุการณ์ อะไรงั้นหรอ ? “
‘ชูเฟิง’ ถามด้วยความอยากรู้
” ในปีทอง มี ทารกคนหนึ่ง ถือกำเนิดในตะกูล ชิงหลง วันนั้นมีแสงปกคลุมทั่วทั้งผืนฟ้า สัตว์เทพทั้ง 4 ปรากฏขึ้นในท้องฟ้าจนทำให้ทั่วทั้งดินแดนสั่นสะเทือน “
” ทารกคนนั้น ฉลาดเกินกว่าทารกธรรมดา ตามตำนานเล่ากันว่า หนึ่งเดือนจากที่เขาเกิด เขาสามารถพูดได้ ในเดือนที่สอง เขาสามารถเดินได้ พอได้หนึ่งขวบ เขาเริ่มฝึกฝนทักษะทั้ง 4 จากสัตว์เทพ และทำความคุ้นเคยกับคัมภีร์โบราณทั้งหมด ในตอน 5 ขวบ “
‘ซูเหม่ย’กล่าว
” เจ้าเด็กนั้นอัจฉริยะเกินไปแล้ว !!! “
‘ชูเฟิง’ตกใจอย่างมาก กับการเจริญเติบโตของทารกคนนั้นที่เกินกว่าคนทั่วๆไป
” นั้นยังไม่เท่าไหร่ ที่สำคัญคือตอนที่เขา 7 ขวบ โครงสร้างของร่างกายของเขานับว่าวิเศษที่สุด ขณะนั้นร่างกายของเขาเทียบได้กับคนที่มี อายุ 12 ดังนั้น เมื่อตอนที่มีอายุ 7 ขวบ เขาจึงเริ่มใช้พลังวิญญาณ “
” แต่สิ่งที่น่ากลัวที่สุดก็คือเวลาที่เขาใช้พลังวิญญาณนี่แหละ เขาเข้าสู่อาณาจักรกำเนิดวิญญาณตอน 9 ขวบ เข้าสู่อาณาจักรแก่นแท้ ตอนอายุ 11 และ ทะลวงอาณาจักรวิญญาณสวรรค์ ตอนอายุ 13 และก้าวข้ามประมุขของทั้ง 9 อาณาจักร “
” เขาเข้าสู่อาณาจักรวิญญาณสวรรค์ตอนอายุ 13 และอยู่เหนือทั้ง 9 อาณาจักรงั้นหรอ ? “
เป็นอีกครั้งที่ ‘ชูเฟิง’ ตกใจ จนถึงตอนนี้ มีแค่ไม่กี่คนที่ก้าวถึงจุดสูงสุดของอาณาจักรวิญญาณสวรรค์ แต่ที่น่ากลัวก็คือเด็กคนนั้นมีอายุแค่ 13ชูเฟิง อายุ 15 แต่มีพลังวิญญาณอยู่ในระดับ 8 ห้วงวิญญาณ ยังถูกมองว่าเป็นอัจฉริยะ แต่นี้เขาสามารถทะลวงอาณาจักรวิญญาณสวรรค์ ตอนที่อายุ 13 นั้นนับว่าสุดยอดจนแทบไม่น่าเชื่อ หาก ‘ชูเฟิง’ เทียบกับคนๆแล้ว เขากลายเป็นคนธรรมดาไปเลย
“ถูกต้อง เขาแกร่งมาก เจ้าเทียบเขาไม่ได้หรอก เมื่อตอนเขาอายุ 15 เขาสร้างโลกที่สมบูรณ์ของการฝึกฝนพลังวิญญาณ ”
” สร้างโลกที่สมบูรณ์ของการฝึกฝนพลังวิญญาณ ? “
” เขาอาจจะเหมือนเทพที่ลงมาจุติเลยแหละ พลังของเขาสามารถเคลื่อนย้ายเขาได้ทั้งลูก ทำให้พื้นดินกลายเป็นมหาสมุทร แค่เพียงขยับมือ เขาก็สามารถทำลายเมืองทั้งเมืองได้ ยิ่งเป็นสิ่งมีชีวิตแล้ว ก็เหมือนกับการ เหยียบมด นั้นแหละ เขาเปรียบดั่งเทพของโลกนี้อย่างแท้จริง ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนตกอยู่ในกำมือของเขา เหมือนกับผู้คุมชะตากรรม ผู้คนต่างเรียกเขาว่า เทพแห่งสงคราม “
” เทพแห่งสงคราม หลังจากที่เข้าสู่อาณาจักรวิญญาณสวรรค์แล้วเขายังทำให้ทั้งดินแดนเต็มไปด้วยผู้ใช้พลังวิญญาณงั้นหรอ “
‘ชูเฟิง’ ประหลาดใจอย่างมาก ได้แต่ถามออกไปด้วยความอยากรู้
” เขามีนามว่าอะไร ? “
” เขามีนามว่า ชิงหลง เทียน “
‘ซูเหม่ย’ตอบ
” ชิงหลง เทียน “
‘ชูเฟิง’จะจดจำชื่อของเขาไว้ไม่มีลืม เขาคืออัจฉริยะที่แท้จริง และเป็นบุคคลที่ร้ายกาจที่สุด
” ชิงหลง เทียน เป็นคนที่แกร่งที่สุดที่เคยปรากฏในอาณาจักรทั้ง 9 แต่เพราะเรื่องนี้เกิดขึ้นมานานมากแล้ว และอีกทั้งยังมีการเปลี่ยนแปลงต่างๆที่เกิดขึ้นกับ อาณาจักรทั้ง 9 จึงแทบจะไม่มีใครรู้เรื่องนี้ “
” แต่ที่แปลกกว่านั้นคือ หลังจากที่ ชิงหลง เทียน ได้ทำให้ทั่วทั้งดินแดนเต็มไปด้วยผู้ใช้พลังวิญญาณ เขาก็หายตัวไป หลายคนต่างสงสัยว่าทำไมเขาถึงหายตัวไป บางก็พูดกันว่า ที่เขาออกไปเพราะเขาไม่สนใจอาณาจักรทั้ง 9 อีกต่อไป “
” ส่วนบางคนก็พูดกันว่าการต่อสู้ของเขาไปฝืนกฏสวรรค์ โดยทำลายสมดุลกฏของการต่อสู้ ดังนั้นเขาจึงถูกสวรรค์ลงทัณฑ์ และได้ ตาย ไปในที่สุด และชื่อของเขา ก็ถูกเรียกขานกันต่อๆกันมาว่า เทพแห่งสงคราม นั่นก็เป็นชื่อที่เหมาะสมดี “
” เขาตายแล้วจริงๆหรอ คนที่แข็งแกร่งขนาดนั้นจะตายได้ยังไง ? “
‘ชูเฟิง’ แทบไม่อยากจะเชื่อ ว่าคนที่แข็งแกร่งขนาดนั้นจะตาย หรือว่าบางคนพูดเอง เออเอง ?
” เขาได้ตายอย่างแน่นอน ตาม ตำนานบอกต่อกันมาว่า ตอนนั้นเขารู้ว่าตัวเองเหลือเวลาไม่นาน ดังนั้น ก่อนที่เขาจะตายจึงได้สร้างสุสานให้ตัวเองขึ้นมา สุสานแห่งนั้นมีทางเข้าอยู่ในอาณาจักรมังกรฟ้า แต่ทางเข้าทั้งหมดมีอยู่ 4 ทาง ทางเข้าของมันก็ถูกตั้งตามชื่อ ได้แก่ มังกรฟ้า青龍 ชิงหลง พยัคย์ขาว 白虎 ไป๋หู่ วิหคเพลิง 朱雀 จูเชว่ และ เต่าทมิฬ 玄武 เสวียนอู่”
” 4 ทางเข้าพวกนี่มัน “
‘ชูเฟิง’ เข้าใจในทันที เขาเคยพบกับ สองทางเข้าที่ไปสู่สุสานแห่งนั้นมาแล้ว ทางเข้าแห่งที่หนึ่งอยู่บนเทือกเขาโอสถวิญญาณของสำนักมังกรฟ้า ทางเข้าแห่งที่สองคือหลุมที่เขาพึ่งลงไปในตอนที่ไปล่า เขา – วิญญาณ ที่เมือง วิหคเพลิง
แต่ยังไงก็ตาม มันยังมีอีกสองแห่ง นั้นหมายความว่า ยังมีทางเข้าสุสานที่น่ากลัวอีกสองแห่งภายในอาณาจักรมังกรฟ้าที่เขายังไม่เคยพบ
” ใช่แล้ว หนึ่งในทางเข้า อยู่ในป่าต้องสาปของเมืองวิหคเพลิงแห่งนี้ “
” นอกจากนั้น ยังมี ทางเข้า อีกทางในภูเขาแห่งหนึ่งของสำนักมังกรฟ้า และ หุบเขา – พยัคฆ์ขาว และ เมือง เต่าทมิฬ ของตะกูล กง ลู่หยุน ที่เป็นเจ้าเมืองที่นั้น “
‘ซูเหม่ย’อธิบาย
” หมายความว่า กง ลู่หยุน และ พวกเจ้า ไปสำนักมังกรฟ้าเพื่อชิงสุสานของ ชิงหลง เทียน สินะ ? “
” สุสานของ ชิงหลง เทียน เต็มไปด้วยกลไกมากมาย ไม่ใข่สิ่งที่พวกเราสามารถเข้าไปได้หรอก แต่ ตะกูล ซู ของข้าพบความจริงว่า ทำไมผู้ก่อตั้งสำนักมังกรฟ้า ถึงได้กลายเป็นบุคคลที่ร้ายกาจที่สุดในอาณาจักรเมื่อหลายปีก่อน มันเป็นเพราะว่าเขาสามารถเข้าไปในสุสานของ ชิงหลง เทียน และได้รับสมบัติบางอย่าง “
” เมื่อเขาประสบความสำเร็จในการฝึกฝนทักษะบางอย่าง เขาก็ออกมาจากภูเขา และได้กลายเป็นที่รู้จักทั่วทั้งอาณาจักรมังกรฟ้า จากนั้นเขาก็ได้สร้างสำนักมังกรฟ้าขึ้นมาบนหุบเขามังกรฟ้า เพื่อเป็นการแสดงความเคารพต่อ ชิงหลง เทียน “
” แม้ว่าชื่อเสียงของสำนักมังกรฟ้าจะลดลงอย่างมากจนผู้คนไม่สนใจ แน่นอนว่าพวกเราเข้าไป เป็นเพราะทักษะของผู้ก่่อตั้งมังกรฟ้าที่เขาเคยฝึกฝน และยังมีความเป็นไปได้ว่ามันยังอยู่ภายในสำนักมังกรฟ้า “
” นี้คือเหตุผลที่พวกเราสองพี่น้องเลือกที่จะเข้าสำนักมังกรฟ้า สำหรับ กง ลู่ หยุน ที่เข้ามายังสำนักแห่งนี้ข้าแน่ใจว่าเขากับตะกูลคงจะรู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้เช่นกัน และที่เขาเลือกจะอาศัยอยู่ในสำนักมังกรฟ้าแทนที่จะเป็นเมืองเต่าทมิฬก็คงเพราะเหตุผลเดียวกับพวกเรา “
‘ซูเหม่ย’ อย่างจริงจัง
” เป็นเช่นนี้เอง!!! “
เมื่อ’ชูเฟิง’ รู้ความจริงทุกอย่างเขาสุดแสนจะตื่นเต้น ไม่เคยนึกเลยว่า ทางเข้าสุสานปีศาจทั้ง 4 จะตั้งอยู่ในอาณาจักร มังกรฟ้าตอนนี้เขายังไม่ได้สำรวจรอบๆเขาของสำนักมังกรฟ้าและในป่าของเมืองวิหคเพลิง แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาจะปล่อยให้มันหลุดมือไป หลังจากที่เขาบุกสุสานของเมืองวิหคเพลิงแล้ว บางทีเขาอาจจะไปบุกสุสานที่เหลืออีก 2 แห่ง
” อย่าให้ความลับนี้หลุดออกไปล่ะ หาก สำนักหลิง – หยุน หรือ เจ้าเมือง กิเลนฯ รู้เรื่องนี้ละก็ หายนะได้เกิดแน่ๆ “
” มันอาจจะกระทบไปถึง ราชวงค์เจียงเลยก็ได้ หากพวกเขารู้เรื่องนี้ มีหรือพวกเขาจะไม่ลงมือ จากนั้นก็คงมีการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ และพวกเราคงจะไม่ได้รับผลประโยชน์อะไรทั้งสิ้น “
‘ซูเหม่ย’ เตือน
” ไม่ต้องห่วง ข้าจะไม่บอกใครเกี่ยวกับเรื่องนี้ “
‘ชูเฟิง’ ยกมือให้สัญญาพร้อมกับ หัวเราะและกล่าวอีกครั้ง
” นี่หรือว่าเจ้าจะตกหลุมรักข้าจริงๆ ถึงได้ยอมบอกความลับที่สำคัญเช่นนี้กับข้า ไหนๆก็ไหนๆและ เรามาทำอะไรกันสนุกๆดีกว่า “
” เจ้านี่ . . . . . . มัน ไร้ยางอายที่สุด!!! ใครมันจะคิดเรื่องแบบนั้น “
หลังจากที่ ‘ชูเฟิง’ พูดเช่นนั้น ใบหน้าของซูเหม่ยจากสีขาว กลายเป็น สีแดงทันที นางรีบผลักประตูออกแล้ววิ่งหนีไป จากนั้นก็ชี้มาที่’ชูเฟิง’ และกล่าว
” นั้นเป็นห้องของเจ้า ถ้าไม่มีเรื่องอะไร ก็อย่างวิ่งไปมามั่วซั่วล่ะ “
” ฮ่าๆๆ แม่นาง คนนั้นถึงกับหน้าแดงทีเดียว “
เห็นท่าทางของ’ซูเหม่ย’ ‘ชูเฟิง’ หัวเราะและกล่าว
” นี่เจ้าง่าว เจ้านี้มันโชคดีจริงๆ “
ในเวลานั้น จู่ๆก็มีเสียง’เทพธิดา’ ดังขึ้นมา เสียงของนางบ่งบอกว่านางเต็มไปด้วยความตื่นเต้น
” ข้ารู้ ทางเข้าสองสุสานปีศาจแล้วเราจะไปลุยเลยดีไม๊ “
‘ชูเฟิง’ยิ้มและถาม
” ฮ่าๆๆๆ สุสานปีศาจงั้นหรอ สุสานพวกนั้นมีทางเชื่อมต่อกันยาวถึงครึ่งหนึ่งของอาณาจักรมังกรฟ้าเลยนะ “
‘เทพธิดา’กล่าวอย่างเหยียดหยัน
” ท่านหมายความว่าไง ? “
” ถ้าหากมันมี สัตว์เทพทั้ง 4 เฝ้าอยู่จริงๆ เราไม่เรียกว่า สุสานปีศาจแล้ว เราจะเรียกมันว่า สุสานจักรพรรดิ์ “
แปลยากสุดๆ!!!!
โปรดติดตามตอนต่อไป . . . . . . . .
ที่มา: