I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

My Wife is a Beautiful CEO ตอนที่ 70 อย่านอบน้อมมากเกินไป

| My Wife is a Beautiful CEO | 921 | 2367 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

“ไปคุยอื่นกันเถอะ แล้วฉันจะบอกนาย”

หยางเฉินยังคงพูดด้วยภาษาเวียดนามชายคนนั้นได้ยินก็ประกายตาวูบวาบ พยักหน้าพลางชี้ทางหยางเฉิน

ทันใดนั้นหลินคุนที่ฟังไม่เข้าใจก็เอ่ยถามอย่างฉับพลัน

“คุณหลง หมายความว่ายังไงกัน ฉันเป็นนายจ้างคุณนะ เกิดอะไรขึ้น ทำไมไม่จับมัน ฉันจ้างแกมานะโว้ยย !!”

“หุบปาก !!”

ชายแซ่หลงหันกระบอกปืนชี้ไปที่หลินคุน พร้อมกล่าวขึ้นด้วยเสียงเย็นเหยียบว่าเรา

“เราทำงานให้คุณ แต่วิธีการนั้นคุณไม่สามารถสั่งพวกเราได้”

หลินคุนหวาดกลัวจนสุดขั้วหัวใจ พร้อมหลั่งเหงื่อเย็น ไม่กล้าพูดอะไรแม้ซักคำหยางเฉิน ไม่สนใจหลินคุนแม้แต่น้อย เขาเดินตามชายคนนั้นไปที่มุมหนึ่ง หลังจากแน่ในแล้วว่าไม่มีใครได้ยิน หยางเฉินก็พูดภาษาเวียดนามอีกครั้ง

“ทำไมกลุ่มฉลามหลาก ยังกล้าเข้ามาในจีนอีก ไม่กลัว สะพานเหล็กอัคคีเหลือง หรือไง”

ได้ยินคำว่า ฉลามหลาก และ สะพานเหล็กอัคคีเหลือง ชายคนนั้นพลันจ่อปืนไปที่หัวหยางเฉินอย่างรวดเร็ว กล่าวด้วยเสียงกร้าวว่า

“แกเป็นอะไรกับพวก สะพานเหล็กอัคคีเหลือง ทำไมถึงรู้จักพวกเราได้!!”

หยางเฉินยิ้ม ส่ายหัวพลางกล่าวว่า

“ถ้าฉันมาจากสะพานเหล็กอัคคีเหลืองจริงๆ ล่ะก็ ป่านนี้นายไม่ได้ยืนพูดอยู่ตรงนี้หรอก”

“แล้วแกเป็นใคร !!”

ชายคนนั้นยังไม่ลดการป้องกันลง คนตรงหน้าทำให้มันรู้สึกอึดอัดอย่างแปลกประหลาด หยางเฉินคิดอยู่ครู่หนึ่ง ลังเลเล็กน้อย ก่อนหยิบของบางอย่างออกจากกระเป๋าเสื้อกระเป๋าเสื้อเล็กๆ ไม่มีทางเก็บของอย่างปืนไว้ได้ ชายคนนั้นจึงไม่มีท่าทีคุมคามแต่อย่างใด มันเพียงรอหยางเฉินอย่างเงียบๆ

“นายจำนี่ได้หรือเปล่า”

สิ่งที่หยางเฉินนำออกมาคือแหวนวงหนึ่ง ขนาดเท่าแหวนแต่งงาน วัสดุคล้ายทำจากแพตตินั่ม ความมันเงาของมันลดลงไปมาก ไม่มีเพชรตกแต่งใดๆ มีเพียงลวดลายเป็นภาษาอันแปลกประหลาด แต่ทันใดนั้น อารมณ์ปรารถนาก็วูบขึ้นอย่างโหยหาของรัก……

ชายหนุ่มรีบสบัดหน้าอย่างรวดเร็วพยายามสลัดภาพหนังเรื่องโปรดออกจากหัว กลับมาสู่ตรงหน้า อีกครั้ง สิ่งที่ชายคนนี้แสดงออกมาทำให้เลือดภายในกายของมันแข็งตัวมันเคยเห็นแหวนวงนี้มาก่อน

ในกลุ่มของพวกมันแหวนวงนี้คล้ายเป็นตำนาน อย่างไรก็ตาม มันไม่เคยคิดว่าในชีวิตนี้จะได้เห็นแหวนวงนี้ ภาษาที่จาลึกบนแหวนเป็นภาษาลาตินของโรมันโบราณ แต่ด้วยความลึกลับของมันแล้ว ความหมายของคำที่จาลึกในแหวนนี้เป็นชื่อเรียกที่มันไม่มีวันลืมไปตลอดชีวิต

เพราะว่าบุคคลที่เป็นเจ้าของแหวน จะได้รับพลังอำนาจอันมหาศาล และเป็นที่เคารพเทิดทูนอันสูงสุดเมื่อมองท่าทีของชายตรงหน้า เขาก็นำแหวนกลับกระเป๋าเสื้อ ไม่มีใครเชื่อว่าสิ่งของชิ้นนี้จะหลับไหลอยู่ในกระเป๋าเสื้อทุกๆวัน

“เอาล่ะ ไม่ต้องทำหน้าอย่างนั้น ฉันเชื่อว่า’ฉลามหลาก’คงไม่ได้ถูกตั้งขึ้นโดยคนโง่เง่า”

หยางเฉินพูดพลางเดินไปตบไหล่ร่างกายของมันพลันสั่นสะท้าน เมื่อเห็นรอยยิ้มที่อบอุ่นของหยางเฉิน นั่นทำให้ร่างกายมันรู้สึกเย็นเหยียบไปถึงขั่วกระดูก เหงื่อเย็นไหลซึมแข่งขาอ่อน คุกเข่าลงกับพื้น โขกศีรษะกล่าวว่า

“ข้าพเจ้า หลงซานอี้คารวะองราชา”

หยางเฉินเลิกคิ้วขึ้นกล่าวว่า

“นายคือหลงซานอี้ ? งั้นหลงซานหวงเป็นพี่ชายงั้นหรือ?”

“ใช่แล้วครับองค์ราชา”

หลงซานอี้ไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าขึ้นหยางเฉินถอนหายใจกล่าวว่า

“ยืนขึ้น ที่นี่คือเมืองจีน ไม่ใช่อาณาจักรของข้า ไม่ต้องมากพิธี”

เมื่อเห็นหยางเฉินไม่มีทีท่าโกรธเคือง หลงซานอี้ก็ลุกขึ้นถอยไปสามก้าว ดวงตาเต็มไปด้วยความเคารพ

“ฉันไม่ต้องการให้นายเรียก ราชา เรียกชื่ออื่นเถอะ”

“ครับท่าน”

หลงซานอี้ ตะโกนออกมาด้วยเสียงอันดัง

“ทำไมฉลามร้ายถึงปรากฏอยู่ที่นี่ ถึงแม้ฉันจะไม่ได้ห้าม แต่หลงซานหวงพี่ชายของนายก็เป็นคนระมัดระวังตัว และไม่มีทางทำอะไรเสี่ยงอันตราย”

หลงซานอี้ตอบอย่างนอบน้อมว่า

“พวกเราเคลื่อนไหวเฉพาะพื้นที่ปลอดภัยเล็ก ๆ เท่านั้น ด้วยการเคลื่อนไหวเพียงพื้นที่พวกนี้ พวกสะพานเหล็กอัคคีเหลืองจะไม่สนใจพวกเรามากครับ และงานของหลินคุนก็เพียงเคลื่อนไหวในพื้นที่เล็กๆ และไม่เสี่ยง พวกเราเลยรับงานนี้ครับท่าน”

“เขามีเงินจ่ายพวกนายงั้นหรือ”

หยางเฉินเอ่ยถาม

“ได้ยินว่าเขาขายหุ้นทั้งหมด จึงสามารถจ้างวานพวกเราทำภารกิจง่ายๆ เช่นนี้ครับ”

แต่เมื่อพูดว่า ภารกิจง่ายๆ ออกไป กับบุคคลตรงหน้าแล้ว หลงซานอี้รู้สึกว่าพรั้งปาก มันต้องการจะถอนคำพูด แต่มันไม่รู้จะแก้ตัวว่าอย่างไรหยางเฉินเหมือนไม่ได้ใส่ใจ หยางเฉินเพียงรู้สึกว่าเป็นเรื่องขำขัน หลินคุนขายหุ้นทั้งหมดเพื่อจ้างลูกน้องของเขาให้มาจับกุมเขาเสียเอง มันช่างโชคร้ายจริงๆ

“หลงซานอี้ นายนำพี่น้องของนายกลับไปได้แล้ว ฉันจะจัดการต่อเอง…..”

“ผ่าบาท พระองค์อยากให้พวกเราฆ่าหลินคุนหรือไม่ กระหม่อมกลัวว่ามือท่านจะแปดเปื้อน”

นัยตาหลงซานอี้เปลี่ยนเป็นแหลมคม เขาอยากจะยิงหัวมันให้ระเบิดออก โทษฐานทำให้พวกเขากลายเป็นตัวตลกในโลกของทหารรับจ้างมันต้องการส่งเทพแห่งความตายลงนรก ? บ้าหรือยังไง? นรกเป็นดินแดนอันรื่นเริงของพระองค์

หยางเฉินส่ายหัว

“แค่มัดตัวมันไว้ก็พอ แล้วพวกนายก็ออกไปได้แล้ว ฉันจัดการต่อเอง อยู่ที่นี่นานๆ รังแต่จะทำให้พวกสะพานเหล็กไม่พอใจ “

“ตามพระประสงค์ พระเจ้าค่ะ”

หลงซานอี้ไม่ได้พูดอะไรอีกเพราะนี่เป็นคำสั่งของเหนือหัว หลินคุนเวลานี้อารมณ์ไม่ดีเป็นอย่างมาก ทหารที่มันจ่ายเงินมหาศาลจ้างมา กลับเล็งปืนมาที่มัน ถ้าไม่ใช่เพราะมันยังต้องใช้ประโยชน์จากทหารรับจ้างพวกนี้อยู่ล่ะก็ ในขณะนั้นเอง หลินคุนก็เห็นหลงซานอี้เดินกลับมา มันรีบเปลี่ยนเป็นยิ้มแย้มกล่าวว่า

“คุณหลง คุณจับกุมสารเลวผู้นั้นหรือยังครับ”

หลงซานอี้ไม่ได้ตอบ เขาพูดคุยกับลูกน้องเป็นภาษาเวียดนามสองสามคำ พวกมันพยักหน้า และทันใดนั้นก็จับหลินคุนมัดในทันใดความแข็งแกร่งของหลินคุนไม่อยู่ในสายตาพวกมัน หลังจากมัดจนเป็นดักแด้แล้ว พวกมันก็โยนหลินคุนกลิ้งไปกับพื้น

“ความโง่เขลาของแกจะพาตัวแกไปลงนรกในอีกไม่ช้า”

หลงซานอี้เดินไปหาหลินคุนพลางพูดขึ้นด้วยภาษาอังกฤษ จากนั้นจึงแตะเขาจนสลบไปเมื่อทุกอย่างเรียบร้อยลงแล้ว หลงซานอี้ก็ผิวปากขึ้น เหล่าลูกน้องต่างพากันปรากฏตัวำความเคารพ พร้อมกับตะโกนสโลแกนออกมาเสียงดังจากนั้นก็พากันสลายตัวไปดั่งหมอกควัน

สองสาวเห็นเหตุการณ์เป็นอย่างนี้ก็งุนงงเป็นอย่างมาก แต่ทันใดนั้นพวกเธอก็เห็นหยางเฉินยิ้มแย้มเดินออกมาด้วยท่าทีสบายๆ

“หยางเฉิน นี่หมายความว่ายังไงกัน”

โมเชี่ยนหนี่รู้สึกไม่ถามไม่ได้ เหตุการณ์อันตรึงเครียดเมื่อครู่กลับกลายเป็นลักษณะนี้ได้อย่างไร

“คุณโมครับ ช่วยรอผมแก้มัดซะก่อนแล้วเราค่อยมาพูดกันช้าๆ ได้มั้ยครับถึงแม้ว่าคุณจะไม่กลัวเจ็บ แต่ผมกลัวว่าภรรยาที่รักจะเจ็บซะก่อน”

หยางเฉินมองหลินรั่วซีพลางแก้เชือกที่มัดอย่างชำนาญทันใดนั้นหลินรั่วซีประกายตาเจิดจ้า กล่าวว่า

“นายแก้มัดเร็วกว่าคนมัดเสียอีก”

หยางเฉินได้ยินดังนั้นก็ตกตะลึง ยิ้มอย่างเชื่องช้า คิดในใจว่า ปกติน่าหลังจากหญิงสาวทั้งสองเป็นอิสระแล้ว พวกเธอก็มองหยางเฉินอย่างสับสน ชายตรงหน้านี้ทำลึกลับเสียจริง เขาจัดการกับสถานการณ์เมื่อครู่นี้ได้อย่างไร

“ผมรู้ว่าพวกคุณมีเรื่องอยากถาม แต่ตอนนี้ไปรอที่รถก่อนเถอะ ผมจะพาไปส่งที่โรงพยาบาล และค่อยๆ เล่าเรื่องทั้งหมดให้พวกคุณฟังเอง”

“แล้วเขา……….”

หลินรั่วซีกัดริมฝีปากมองไปยังหลินคุนที่นอนหมดสติอยู่หยางเฉินกล่าวขึ้นอย่างเคืองๆว่า

“คุณแน่ใจนะว่าต้องการช่วยคนผู้นี้อยู่”

หลินรั่วซีหลับตาลงอย่างทุกข์ทน และทันใดนั้นก็ลืมตาขึ้นสบัดหน้าเดินออกไปอย่างไม่แยแส

“ไปกันเถอะ”

ที่มา:

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments