I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Nine Yang Sword Saint ตอนที่ 001 กำเนิดเก้าหยาง

| Nine Yang Sword Saint | 1862 | 2338 วันที่แล้ว
ตอนต่อไป

Chapter 001 กำเนิดเก้าหยาง

 

หยางติงเทียน อยู่ในสถานที่ ที่ไม่คุ้นเคยในเวลานี้ มันเป็นถ้ำที่ลึกมาก รอบผนังถ้ำนั้นถูกปกคลุมไปด้วยน้ำแข็งที่เย็นเยียบ ทั้งหมดนั้นดูอร่ามเป็นประกายราวการแกะสลักด้วยจิตรกร

 

แต่หลายนาทีก่อนหน้านี้ เขายังอยู่ในหอพักอาจารย์หญิงของมหาวิทยาลัยสุ่ยมู่ กับแฟนสาวสุดเซ็กซี่เร้าร้อนของเขา ขณะที่กำลังอีรุงตุงนังกับอาจารย์สาวหลี่บี้จิ้งอยู่บนเตียงกันอย่างบ้าคลั่ง และแล้วความร้อนมันก็ระเบิดออกมาทั่วทั้งร่างกายเดือดพล่านความร้อนแผดเผาเจ็บปวดทรมาณจนเขาหมดสติ

 

เขาตื่นขึ้นมาอีกครั้งในถ้ำที่แปลกประหลาดแห่งนี้.

 

หยางติงเทียน ปีนี้เขามีอายุ 20 ปีเป็นยังนักศึกษา ด้วยเหตุที่ว่าพ่อของเขาเป็นแฟนตัวยงของ กิมย้ง ดังนั้งจึงตั้งชื่อเขาว่า “หยางติงเทียน”

 

เขานั้นเป็นคนที่หล่อมาก เก่งฉลาด ไหวพริบดีแต่ชั่วร้ายเล็กน้อย แต่อย่างไรก็ตามเขามีสิ่งที่มีลักษณะเลวร้ายอย่างหนึ่งอยู่และนั่นก็คือร่างกายแห่งไฟหยาง มันมีความแข็งแกร่งรุนแรงเป็นอย่างมาก ตั้งแต่เด็กเขากลัวความร้อนแต่ไม่กลัวความหนาว ในสภาพอากาศ -10 องศาหรือต่ำกว่านั้น เขาสามารถที่จะอยู่ภายในนั้นโดยเพียงแค่สวมใส่เสื้อผ้าเพียงชั้นเดียวได้ เขาก็ยังเป็คนกินจุมากแต่มันก็ไม่ได้ทำให้เขาอ้วน เหมือนเช่นกับว่ามันมีหลุมลึกไร้ก้นภายในร่างกายของเขา

 

แน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้ไม่ใช่สิ่งเลวร้าย พ่อแม่ของเขาพาเขาไปพบหมอมานับไม่ถ้วนและการตรวจสอบหลายต่อหลายครับก็ได้นำไปสู่ข้อสรุปเดียวกันนี้ว่า: “แม้ว่าเด็กคนนี้จะผอมบางไปบ้าง แต่เขาก็ยังเป็นคนมีสุขภาพที่ดี”

 

เมื่อตอนที่เขาอายุได้แปดขวบได้มีนักบวชลัทธิเต๋าที่เดินทางไปทางทิศตะวันตกได้พบกับหยางติงเทียนเข้า เขากล่าวด้วยใบหน้าที่หวาดกลัวว่า ” หยางเก้าชีพจร อาตมาไม่เคยคิดว่าเรื่องนี้มันมีจะมีอยู่จริง หยางเก้าชีพจร มันเป็นเหมือนตำนาน”

 

หลังจากนั้นนักบวชลัทธิเต๋าบอกกับหยางติงเทียนเกี่ยวกับ ร่างกายหยางเก้าชีพจร ตัวของเขามีร่างกายที่มีเส้นชีพจรเก้าหยางที่สมบูรณ์และเขาไม่สามารถที่จะมีปฏิสัมพันธ์กับหญิงใดได้ตลอดชีวิต ไม่สามารถแม้แต่ช่วยตัวเองได้ นอกจากนี้มันยากมากที่เขาจะอยู่รอดได้เกิน 25 ปี เขาจะต้องถูกไฟหยางเผาไหม้ทั้งขณะที่ยังมีชีวิตอยู่

 

ในเวลานั้นครอบครัวของ หยางติงเทียน คิดว่า นักบวชลัทธิเต๋านั้นเป็นคนพูดจาเลอะเทอะหลอกลวงและก็ไม่ได้ใส่ใจในคำพูดเหล่านั้น

 

ในขณะที่เขาค่อยๆโตขึ้น มันก็มีหลายเหตุให้เขามีความมั่นใจได้มากขึ้น หยางติงเทียนในวัยหนุ่ม เขาค้นพบว่าขณะที่เขาดู ไม่ว่าจะเป็นในผู้หญิงเซ็กซี่ตัวจริงๆหรือเป็นภาพจากวิดีโอ ตราบใดที่มันเกิดราคะตัณหาอารมณ์พุ่งพลาน มันก็เหมือนจะมีไฟสุมอย่างรุนแรงเกิดขึ้นภายในร่างกายของเขาซึ่งมันส่งผลทำให้อุณหภูมิร่างกายสูงขึ้นมาในทันที

 

และสถานการณ์เช่นนี้มันได้ทวีความรุนแรงมากขึ้น เมื่อหยางติงเทียน อายุได้ 18 ปีเขาตกหลุมรักแฟนสาวและด้วยการสัมผัสเพียงครั้งที่นุ่มนวล ในไม่กี่นาทีต่อมา ตัวของหยางติงเทียนก็มีอุณภูมิขึ้นสูงถึง42 องศาและมันก็ได้ทำให้เขาเป็นลมไปในตรงนั้น มันทำให้เขาอับอายมาก ในความรักครั้งแรกซึ่งมันเป็นอะไรที่น่าขันพิลึก แล้วเธอคนนั้นก็ได้เรียกรถพยาบาลเพื่อช่วยชีวิตเล็กๆ ของเขาไว้

 

จากนั้นหยางติงเทียน นึกถึงคำของนักบวชลัทธิเต๋า ที่ว่าเขานั้นเป็นคนทีร่างกายหยางเก้าชีพจรและไม่สามารถมีปฏิสัมพันธ์กับผู้หญิงและไม่แม้แต่ช่วยตัวเองได้

 

ความพยายามในครั้งแรกของเขาในการสำเร็จความใคร่ มันพิสูจน์ได้ว่าผลที่เกิดขึ้นนั้น มันเป็นไปตามคำบอกเล่าของนักบวชลัทธิเต๋า

 

ดังนั้นก่อนอายุยี่สิบปีหยางติงเทียน ไม่สามารถมีปฏิสัมพันธ์กับผู้หญิงเขาต้องรักษาความบริสุทธิ์ของเขาไว้ ในที่ในสุดคืนนี้เขาก็ไม่สามารถต้านทานความต้องการของตัวเองได้อีกต่อไป แฟนสาวของเขามันน่าสนใจเกินไป มันร้อนเร้าอารมณ์ และเซ็กซี่เป็นอย่างมาก หยางติงเทียนจึงได้ตัดสินใจที่จะทำลายแนวป้องกันของตัวเอง ในตอนเย็นของวันเกิดของเขาในขณะที่กำลังมึนเมาจากยาเสพติด เสน่ห์ดึงดูดอันรัญจวญใจจากผู้หญิงของเขาและภายใต้การกระตุ้นของอารมณ์ที่เกิดจากคนสองคน ในที่สุดก็ยากจนเกิดทัดทานความระอุพล่านของตัณหาราคะ ความรุ่มร้อนอันบ้าคลั่งเกิดขึ้นวนรอบไปบนเตียง

 

ผลลัพธ์ที่ได้นั้นแสดงให้เห็นว่าคำพูดของนักบวชลัทธิเต๋านั้นเป็นจริง เขามีร่างกายหยางเก้าชีพจรและร่างกายของเขาจะระเบิดออกมาหลังจากที่มีอะไรกับผู้หญิง ความจริงของเรื่องนี้พิสูจน์ให้เห็นว่าพ่อของเขาที่ให้ชื่อเขาว่าหยางติงเทียน นั้นมองกาลไกลอย่างแท้จริง เขานั้นเป็นเหมือนดวงอาทิตย์ … ดวงอาทิตย์ที่อยู่เหนือสวรรค์

 

หยางติงเทียน ถูกเผาไหม้จนสูญเสียสติ เขาตกอยู่ภายใต้ความมืดอันไม่มีที่สิ้นสุด เมื่อเขาตื่นขึ้นมาเขาพบว่าตัวเองอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่คุ้นเคย ถ้ำลึกที่ถูกล้อมรอบไปด้วยน้ำแข็งหนาวจัด

 

“สถานที่นรกสาปแช่งนี้ มันเป็นที่ไหนกัน?” ร่างของหยางติงเทียน หดตัวลงเล็กน้อย ปกติเขาจะไม่รู้สึกแม้เศษเสียวของความหนาวเย็น แต่นี้มันเป็นที่น่าตื่นตาตื่นใจอย่างแท้จริง! ตั้งแต่เด็กจนโตแล้วเขาไม่เคยรู้จักสิ่งที่เรียกว่า ‘ความหนาว’ แต่ในขณะนี้เขากำลังรู้สึกหนาว

 

“หรือสถานที่นี้อาจเป็นถ้ำน้ำแข็งที่ขั้วโลกเหนือกัน?” หยางติงเทียนแอบคิดว่า ‘สถานที่แห่งนี้มันเป็นเหมือนขั้วโลกเหนือ เพราะตอนที่ผมอยู่ที่บ้านของผมทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือซึ่งมันก็มีอุณภูม – 20 ถึง -30 องศา ผมก็ยังไม่ได้รู้สึกหนาว หากเป็นกรณีนี้มันควรมีอย่างน้อย -50 ถึง -60 องศา เป็นแน่”

 

หยางติงเทียน เปลือยกายเกลือกคลานลงจากพื้นน้ำแข็ง [hayena: ตัดฉากกลับไปตอนบนเตียงมันคงถอดเสื้อผ้ากันแล้ว มาถึงตอนนี้ถึงได้ล้อนไอ้จ้อน นะว่าป๊ะ? ]จากนั้นก็เริ่มสำรวจถ้ำน้ำแข็ง มันเป็นเรื่องยากมากสำหรับเขาที่จะเข้าใจว่าทำไมเขาถึงไม่ตายจากการเผาไหม้ที่เกิดขึ้นเองและไม่คาดฝันว่าเขาจะมาปรากฎอยู่ที่ถ้ำน้ำแข็งที่นี่ โชคดีที่เขามีร่างกายหยางเก้าชีพจรมิฉะนั้น กลัวว่าเขาคงจะหนาวตายไปภายในไม่กี่นาที

 

ถ้ำนี้ลึกมากเขาสามารถมองเห็นท้องฟ้าได้แค่จุดแสงเล็กๆเท่านั้น เมื่อเขามองขึ้นไปจาก ณ จุดนี้ แสงอาทิตย์น่าจะส่องลอดเข้ามาหลังจากเกิดการสะท้อนหลายๆครั้งกับถ้ำ มันเลยทำให้ถ้ำสว่างขึ้น

 

หยางติงเทียนคาดเดาว่าถ้ำน่าจะมีความลึกอย่างน้อยก็ 1,000 เมตร กำแพงน้ำแข็งที่สูงชันตรงหน้าเขา แต่เขาไม่มีแม้เครื่องมือใดๆ ดังนั้นการปีนป่ายขึ้นไปจึงแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย

 

นอกจากนี้ด้านล่างของถ้ำมันไม่ได้ใหญ่มาก มันมีเพียงพื้นที่เล็กๆแค่ 100 ตารางเมตร หยางติงเทียน เสร็จสิ้นการเดินสำรวจภายในไม่กี่นาที เขาต้องการที่จะหาทางออก หาประตูที่ซ่อนอยู่หรือสิ่งอื่นที่คล้ายคลึงกัน แต่หลังจากค้นหามาเป็นเวลานานแล้วเขาก็ค้นพบว่าทุกตารางนิ้วมันคือน้ำแข็งเย็นเฉียบ มันไม่มีอะไรอยู่เบื้องหลังน้ำแข็งเหล่านั้น ไม่มีแม้แต่หิน ทุกนิ้วจากด้านสู่ด้านมันเป็นน้ำแข็ง

 

“สวรรค์! แล้วนี่ผมจะออกไปจากที่นี่ได้ยังไง? สถานที่นรกแห่งนี้ไม่มีอะไรกิน ผมคงจะต้องหิวตายภายในเวลาไม่กี่วัน “หยางติงเทียน นั่งลงบนพื้นน้ำแข็งในภาวะหมดอาลัยตายอยาก ร่างกายเขาเปลือยเปล่าและไม่มีกระทั่งโทรศัพท์มือถือ แต่เขาคิดได้ว่าแม้เขาจะโทรศัพท์แต่มันก็คงจะไม่มีสัญญาณอยู่ดี

 

ไม่นานหลังจากนั้น หยางติงเทียนลุกขึ้นยืนขึ้นมาอีกครั้งด้วยความพยายามอย่างมากเขาตะโกนออกไปข้างนอก: “มีใครอยู่ไหม มาช่วยผมที มาช่วยผมออกไปจากที่นี่ที”

 

หลังจากมีเสียงตะโกนออกไป มันก็ไม่มีแม้นซุ่มเสียงของสัตว์ประหลาดใดๆที่ปากถ้ำ

 

หยางติงเทียน เอนหลังของเขาบนน้ำแข็งและสไลด์ลงไปนั่งอีกครั้ง

 

“ไม่รู้ว่า บี้จิ้ง กำลังทำอะไรอยู่นะ ไม่รู้ว่าเธอจะถูกเผาตายด้วยหรือเปล่า” หยางติงเทียน รู้สึกเศร้ากับแฟนสาวสุดเซ็กซี่และกลัวว่าอาจารย์สุดที่รักของเขาจะเป็นเช่นเดียวกัน

 

หลังจากนั้นเขาก็หันมองไปรอบๆ เขากำลังคิดว่า บี้จิ้ง สามารถที่จะติดตามเขามาถึงที่นี่ได้เหมือนเขาหรือไม่

 

แต่เห็นได้ชัดว่าทั่วทั้งถ้ำนั้นว่างเปล่า ดังนั้นมันจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะมี บี้จิ้ง อย่ที่นี่ด้วย

 

“พ่อ! นะพ่อ  มองไปที่ชื่อบ้าอันโหดร้ายที่คุณตั้งให้ผมสิ มันดูเลวร้ายเกินไปผมไม่สนุกกับมันนะ “หยางติงเทียน รำพึงรำพันถึงความบ้าคลั้งใคล้ของพ่อเขาที่มีในตัวของกิมย้ง เขาคาดว่าแม่ของเขาควรจะรู้เรื่องการเสียชีวิตของ ติงเทียน แล้วตอนนี้แต่เขาไม่รู้ว่าพวกเขาจะเศร้ากันแค่ไหน

หยางติงเทียน แหงนหน้าขึ้นไปทางด้านบน มองออกไปข้างนอกถ้ำแล้วถอนหายใจ: “นี่มันถ้ำระยำอะไรกัน แล้วผมจะออกไปได้ยังไง อ้า?”

 

ทันใดนั้นมีแสงจ้าส่องลงมาจากด้านขวาทางเข้าของถ้ำ หยางติงเทียน แทบจะไม่สามารถมองตรงไปข้างหน้าได้ เขาพยายามหรี่ตามอง

 

ไม่นานหลังจากนั้นหยางติงเทียนก็เปิดตาทั้งสองข้างของเขา ร่างกายของเขาสั่นสะเทือนเพราะในที่สุดเขาก็เห็นฉากที่น่าประหลาดใจมากมันน่าอัศจรรย์มากจนอาจเรียกได้ว่าเป็นฉากที่น่ากลัวที่ทำให้เขาต้องลุกขึ้นยืนอย่างฉับพลัน

 

ท้องฟ้ามันมีดวงอาทิตย์สองดวงโดยไม่คาดฝันมันมีดวงอาทิตย์สองดวง!

 

หยางติงเทียน ตกอยู่ภายใต้อาการแข็งค้าง สิ่งที่เขาได้เห็นหรือว่ามันเป็นแค่ภาพลวงตาเขาพยามขยี้ตาเพื่อดูมันให้ชัดเจนอีกครั้ง

 

ไม่ผิด มันมีจริงสองดวงจริงๆ หนึ่งมันขนาดใหญ่และอีกหนึ่งขนาดเล็ก อันหนึ่งสว่างแจ่มแจ้งอีกอันหนึ่งไม่จ้าเท่า!

สวรรค์! นี่ไม่ใช่โลก โลกมีดวงอาทิตย์เพียงดวงเดียว อย่างไรก็ตามสถานที่แห่งนี้มีถึงดวงอาทิตย์สองดวง นี้สถานที่น่ากลัวนี่มันคืออะไร? ดาวเคราะห์ต่างดาว? หรือโลกที่แตกต่างกัน?

 

นี่เขาทะลุข้ามมา? เขาไม่คาดฝันว่าเขาจะข้ามมันมา?

 

ร่างกายของ หยางติงเทียน อ่อนแรงอีกครั้งเขาทรุดลงนั่งอยู่บนพื้นน้ำแข็ง เมื่ออาการวิงเวียนทะลุผ่านศีรษะมันก็ทำให้เขาเกือบจะเป็นลม

 

คนอื่น ๆ อาจจะข้ามไปด้วยการถูกไฟฟ้าซ๊อต ถูกดูดด้วยคลื่นสึนามิ ถูกฟ้าผ่าหรือไม่ก็เครื่องบินตกซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาที่สุด แต่เขา ข้ามทะลุมันมาโดยการเผาไหม้ที่เกิดขึ้นหลังจากที่มีเพศสัมพันธ์ [hayena: เหมือนไร้อยากข้ามมั่งจัง ]การข้ามแบบนี้เป็นเรื่องที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน

 

พ่อดูชื่อแห่งความซวยที่คุณตั้งให้ลูกชายของคุณสิ มันเลวร้ายเอามากๆ! หยางติงเทียนรำพัน, “อาทิตย์เหนือสวรรค์”  มันเป็นชื่อที่น่ากลัวจริงๆ มันนำมาแต่ความซวย มันส่งผมมายังโลกที่แปลกประหลาดนี้!

 

 

“ลาก่อนพ่อ ลาก่อนแม่ ลาก่อนเพื่อน ลาก่อนโลกของผม!”

 

“แม่กับพ่อไม่ต้องเศร้ามากนะ อายุของพวกคุณยังไม่มาก มันไม่ยากที่จะมีลูกอีกคนหนึ่ง”

 

“บี้จิ้ง คุณอาจถูกเผาไหม้ตายไปพร้อมกับผม ที่จริงเราควรจะมีชีวิตคู่ที่ดี แล้วแต่งงานกันอย่างมีความสุข”

 

หยางติงเทียน นอนแผ่อยู่บนแผ่นน้ำแข็งกลางถ้ำในที่สุดเขาก็ยอมรับความเป็นจริงว่าเขาได้ข้ามไปยังอีกโลกหนึ่ง การสะกดเก็บความทรงจำในอดีตของเขาไว้ มันทำให้เขาต้องกลั้นน้ำตาไม่ให้มันไหลออกมา

 

“มันจะไม่เป็นไร ผมไม่ควรที่จะมานั่งคร่ำครวญอยู่เช่นนี้ ในนวนิยายคนเหล่านั้นที่ได้ข้ามผ่านมามันมักจะประสบความสำเร็จอย่างถึงที่สุด แต่ในกรณีของผม ผมไม่สามารถประสบความสำเร็จอะไรได้ เพราะต้องผมอดตายภายในถ้ำนี้ใช่ไหม? “ติงเทียน ลุกขึ้นยืนอีกครั้ง เขาต้องการคิดวิธีการอะไรบางอย่างเพื่อออกไป

 

ในที่สุด เขาก็ได้เริ่มกระโดดตะกายไปรอบๆ [เสียวไอ้จ้อน] ผ่านไปเป็นชั่วโมง แต่เขาไม่สามารถปีนขึ้นไปได้แต่ครึ่งฟุต น้ำแข็งมันทั้งลื่นและแน่นมากมันทำให้เขาหมดกำลังใจ จากที่เขาได้ค้นหาทุกที่ทุกทางเพื่อหาทางออก แต่ผลก็คือมันไม่ได้อะไร

 

ในไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมาสภาพจิตใจของเขาได้ผ่านความยากลำบากอันยิ่งใหญ่ อีกครั้งกับความพยายามที่เขาตะกายขึ้นไปเพื่อหาทางออก ท้ายที่สุดแล้วเขาจึงได้กลับไปที่ใจกลางถ้ำ นั่งลงพิงผนังของก้อนน้ำแข็งอย่างจนใจ แล้วเริ่มคิดที่จะคิดหาทางแก้ปัญหา

 

ตอนแรกเขาเชื่อว่าเขาแค่กำลังจะพักผ่อนสักครู่หนึ่ง แต่เขาก็รู้สึกเหนื่อยมากอย่างเห็นได้ชัดและแล้วก็หลับไปทันที

 

เขาโชคดีที่ เป็นหนึ่งในล้านคนที่ร่างกายเก้าหยาง ไฟหยางภายในร่างกายของเขามันถูกสะสมมานานทศวรรษ และการเผาไหม้มันที่เกิดขึ้นเองหลังจากที่เขาและหลี่บี้จิ้งกำลังมีปฎิสัมพันธ์กันแต่นั่นมันก็เป็นเพียงการระบายเพียงส่วนเล็กๆเท่านั้น

การนอนเปลือยเปล่าบนพื้นน้ำแข็งที่เย็นมากในเวลานี้ทำให้เขารู้สึกหนาวแต่เขาก็ยังคงไม่แข็งตาย

 

ไม่รู้ว่าเขานอนมานานแค่ไหนหยางติงเทียนกลับตื่นขึ้นมาด้วยความหิว เนื่องจากร่างกายที่พิเศษของเขามันทำให้ความต้องการอาหารของเขานั้นมีขนาดที่มากกว่าคนอื่นๆ ตอนนี้ในเวลานี้เขารู้สึกหิวเป็นอย่างมากเนื่องด้วยเวลาที่ผ่านมาหลายสิบชั่วโมงและความเจ็บปวดได้รับมาในเวลาก่อนหน้านี้

 

แต่ภายในถ้ำน้ำแข็งที่น่ากลัวนี้ มันไม่มีอะไรเลยนอกจากน้ำแข็ง มันไม่มีอะไรที่เขาสามารถกินได้เลย

 

หยางติงเทียน ลุกขึ้นยืนและพบว่ามีพระอาทิตย์ขึ้นสองดวงจากทางเข้าถ้ำ เขานอนหลับมาตลอดทั้งวันทั้งคืนหรือเปล่า? เพียงแต่เขาไม่รู้ว่าโลกนี้จะนับวันและคืนเป็น 24 ชั่วโมงเช่นที่โลกหรือเปล่า

 

หลังจากลุกขึ้นยืนหยางติงเทียนก็พบบางว่าสิ่งบางอย่างที่ผิดปกติเกี่ยวกับน้ำแข็งที่ด้านหลังของเขา

 

เดิมทีเขาพิงหลังของเขาไปที่แท่งน้ำแข็งที่ก่อนที่จะนอนหลับเป็นเวลาหลายสิบชั่วโมงและราวกับว่าร่างกายของเขาคล้ายกับเตาหลอม มากกว่าครึ่งหนึ่งของก้อนน้ำแข็งได้ละลายไป

 

แน่นอนว่าสิ่งนี้ไม่สามารถนับได้ว่าเป็นเรื่องแปลกหรือพิลึกแต่อย่างใด แต่หลังจากที่น้ำแข็งละลาย จากน้ำแข็งที่เคยเป็นสีฟ้าเข้มก็กลายเป็นโปร่งใสราวกับว่ามีบางสิ่ง

บางอย่างอยู่ภายในนั้น?

หยางติงเทียน ตื่นเต้นเป็นอย่างมาก เขารีบเดินเข้าไปตรวจสอบโดยไม่รอช้า แต่มันก็ยังเห็นได้ไม่ชัดเจนว่ามันคืออะไร ภายในถ้ำทั้งหมดมันมีเพียงแค่ตรงกลางเท่านั้นที่มีสีฟ้าขุ่น เมื่อมาถึงจุดนี้แม้ว่าหยางติงเทียน จะละลายที่เป็นส่วนสำคัญไปแล้ว แต่ก็มันก็ยังไม่โปร่งใสจนสามารถมองเห็นสิ่งที่อยู่ข้างในได้
หยางติงเทียน ก้าวเดินไปข้างหน้าโอบกอดไปรอบแท่งน้ำแข็ง ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกว่าไม่สามารถที่จะต้านทานได้เพราะตัวของเขาเริ่มสั่นสะท้านจากความหนาวเย็นนั้น โชคดีอย่างยิ่งที่ หยางติงเทียน มีร่างกายที่เป็น หยางเก้าชีพจร ซึ่งทำให้เขาเป็นเหมือนเตาไฟชั้นดีอย่างแท้จริง ถ้าเปลี่ยนเป็นคนอื่นมันผู้นั้นก็คงจะกลายเป็นน้ำแข็งโดยทันที

 

 

ขณะที่เขากอดแท่งน้ำแข็งไว้หลายชั่วโมง หยางติงเทียน รู้สึกเหมือนน้ำแข็งมันเริ่มละลายไปทีนิ้วทีละนิ้ว แต่มันก็ทำให้เขาก็หนาวขึ้นจนสุดจะทานทน มันยากมากที่จะทนให้ผ่านความทุกข์ทรมานได้

 

ห้าชั่วโมงต่อมาหยางติงเทียน เนื้อตัวหนาวสั่นแล้วเนื่องจากความหนาว กับสายตาของเขาที่เริ่มพล่ามัวเป็นช่วงๆ จนเกือบเป็นลมอย่างสิ้นเชิง เห็นได้ชัดว่าถ้าเขายังคงดื้อรันต่อไปชีวิตของเขาคงจะต้องตกอยู่ในอันตรายอย่างแน่นอน แต่ อย่างไรก็ตามบุคลิกของหยางติงเทียนที่เป็นคนดื้อรั้น เขาก็ไม่คิดจะยอมแพ้จนกว่าเขาจะบรรลุเป้าหมายของเขา

 

“มีคนอยู่ข้างในจริงๆ” หยางติงเทียน ได้มองเห็นมันอย่างชัดเจนในทันที เมื่อน้ำแข็งละลายจนใกล้หมด มันเริ่มกลายเป็นโปร่งใส

 

มันไม่น่าเชื่อว่าจะมีคนถูกแช่แข็งอยู่ในถ้ำที่ลึกเป็นกิโลเมตรเช่นนี้

 

มันเป็นชายชรา เส้นผมและเคราของเขาเป็นสีขาวสนิท ใบหน้าทั้งใบหน้าของเขาเหี่ยวย่นเกินไปที่จะคิดประมาณอายุของเขา เสื้อผ้าทั้งเก่าและสกปรกไม่แตกต่างกับเสื้อผ้าของคนขอทาน ผิวบนมือเขาบางเป็นหนังหุ้มกระดูกและแขนขาแห้งเป็นเหมือนกิ่งไม้ที่ตายแล้ว ชายชราคนนี้ตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า เป็นเหมือนดังคนที่ได้ตายไปแล้ว

 

หยางติงเทียน ผิดหวังเล็กน้อย คนคนนี้น่าจะตายไปนานแล้วและดูเหมือนจะถูกแช่แข็งอยู่ที่นี่เป็นเวลานานแล้วด้วย เหตุผลที่ว่าทำไมเขาถูกปิดผนึกอยู่ภายในน้ำแข็งนี้ นั้นคงไม่สามารถรู้ได้

 

แต่งานเมื่อเริ่มมันแล้วก็ควรจะทำมันจนจบ แม้ว่าคนที่อยู่ข้างในนั้นน่าจะตายไปแล้วแต่ หยางติงเทียนก็ได้ตัดสินใจที่จะพาเขาออกไป

 

ดังนั้นหยางติงเทียน จึงได้ฝืนทนต่อความหนาวเย็นอีกครั้ง การกอดแท่งน้ำแข็งทำให้ไอเย็นอันน่ากลัวพุ่งเข้าสู่กับร่างกายของเขาจนต้องสั่นสะท้านอีกครั้ง

 

การละลายครั้งสุดท้ายอย่างแท้จริงคือการทดสอบความมุ่งมั่นของตน ความเย็นแบบสุดขั้วนี้นี้ยากที่จะอธิบายด้วยคำพูดพรรณา ในที่สุดหยางติงเทียน ก็ไม่สามารถทนต่อมันอีกต่อไป จิตใจของเขาเริ่มพังทลายลงและเขาเริ่มจะเป็นลม

 

“แกร๊กๆ …… ” ในเวลาเดียวกันเสียงแตกกระจัดกระจายที่คมชัดดังขึ้น ชั้นสุดท้ายของน้ำแข็งปกคลุมชายชราที่แตกสลายลงและน้ำแข็งขุ่นหนาทึบที่ก็ได้มลายหายไป

ความเย็นหยุดลงและร่างกายของ หยางติงเทียนค่อยๆเรียกคืนความร้อน เพียงชั่วขณะที่เขาไม่มีแม้แรงจะเคลื่อนย้ายตัวเอง หยางติงเทียนได้เอนตัวลงบนร่างของชายชรา แต่กลิ่นที่มาปะทะเข้ากับจมูกของเขามันเต็มไปด้วยกลิ่นเหม็นเน่าของฝ่ายตรงข้ามอย่างสุดพรรณนา แม้ว่าจะไม่เลวร้าย แต่ก็ไม่อาจทานทนเมื่อเทียบกับกลิ่นอื่น ๆ

ทันใดนั้น! ชายชราด้านหน้าเขาได้ลืมตาขึ้น! เรื่องนี้ทำให้หยางติงเทียนถึงกับตกใจอย่างมาก

 

ซากศพนี้มันลืมตาใช่หรือไม่? ไม่ใช่ว่าเขาตายไปแล้วหรือ?

หลังจากนั้นไม่นานชายชราคนนี้ก็ยกมือขึ้นมาและคว้าจับไปที่คอของหยางติงเทียน เล็บอันยาวของเขาเป็นเหมือนดั่งใบมีดที่กรีดแทงไปตามถนน ดวงตาอันมืดดำของเขาปลดปล่อยรังสีที่เหมือนดังคมมีดที่เหน็บหนาว ใบหน้าของชายชราเต็มไปด้วยความโกรธและเขาตะโกนออกมาหลายประโยคต่อหน้าของหยางติงเทียน

 

เสียงตะโกนนั้นมันทำให้เขารู้สึกอึดอัดราวกับมีใครบางคนขูดกำแพงด้วยมีด อย่างไรก็ตามหยางติงเทียน ก็ไม่ได้เข้าใจในสิ่งที่เขาพูด มันเป็นภาษาที่หยางติงเทียนไม่รู้จัก

 

เมือเห็นว่าหยางติงเทียนไม่ตอบสนองชายชราที่เน่าเหม็นคนนี้เริ่มกลายเป็นไม่พอใจเขาโกรธมากขึ้น เขาตะคอกซ้ำคำก่อนหน้าอีกครั้งและฟังเสียงดูเหมือน ว่าเขากำลังสอบถามอะไรบางอย่างจากหยางติงเทียน

 

“ผม ผมไม่เข้าใจ คุณกำลังพูดอะไร?” หยางติงเทียน ถามกลับไป

 

ได้ยินคำตอบของ หยางติงเทียน ชายชราที่เน่าเหม็นนั่น ก็ตื่นเต้นมาก เขากล่าวหลายคำในต่อเนื่องในทันที หลังจากนั้นเขาก็เอาใบหน้าอันน่าเกลียดของเขาเข้ามาใกล้และถาม หยางติ่งทียน ด้วยคำถามอีกชุดหนึ่ง

 

หยางติงเทียน ก็รู้สึกปวดร้าวและเลือดก็ได้ไหลลงตามลำคอของเขา ความแข็งแรงของ หยางติงเทียน หมดลงแล้วในเวลานี้เขาไม่สามารถที่จะเคลื่อนไหวได้

จากนั้นชายชราก็ถามหาคำตอบอีกครั้ง

 

หยางติงเทียน หัวเราะอย่างขมขื่น “ท่านสุภาพบุรุษผมไม่เข้าใจจริงๆว่าสิ่งที่คุณกำลังพูดคืออะไร?”

 

ชายชราที่กำลังโกรธ  กวาดเล็บยาวไปตามลำคออีกครั้ง มันปรากฎให้เห็นรอยขีดข่วนตามลำคอและปากของ หยางติงเทียนนั้นเต็มไปด้วยเลือดในทันที เนื้อของเขาเปิดออกและมีเลือดไหลออกมา จากนั้นชายชราก็ถามหาคำตอบอื่นอีกครั้ง แต่หยางติงเทียนก็ยังคงไม่เข้าใจมันอยู่ดี

 

ความโกรธของชายชราพุ่งสูงขึ้นอีกครั้ง ทั้งสองมือของเขาคว้าจับบีบเค้าลำคอของ หยางติงเทียน และขู่บังคับให้เขาตอบคำถามอีกครั้งด้วยน้ำเสียงอันเย็นชา

 

แม้ว่าเขาจะไม่สามารถเข้าใจในคำพูดที่ชายชราได้ แต่หยางติงเทียนก็สามารถเข้าใจความหมายทั่วไปในคำพูดของชายชราได้ ถ้าหากว่าเขาปฏิเสธที่จะพูดอะไรอีกครั้ง ฝ่ายตรงข้ามก็คงจะบีบคอเขาจนตายแน่

 

หยางติงเทียน ทำเสียงหัวเราะเล็กน้อยก่อนกล่าวว่า: “ผมเสี่ยงชีวิตของผมเพื่อที่จะช่วยคุณ แต่ตอนนี้คุณกำลังจะฆ่าผมอยู่ มันไม่คุ้มค่าที่จะทำเลยจริงๆ “

 

ชายชราไม่ทราบว่าหยางติงเทียนพูดอะไร แต่เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ได้รับคำตอบที่เขาต้องการ ใบหน้าของเขาเผยให้เห็นการดูหมิ่นที่โหดเหี้ยมในทันที มือของเขาบีบจับไปที่คอของหยางติงเทียนแน่นขึ้น

 

หยางติงเทียนที่จะหายใจไม่ออก ดวงตาของเขาค่อยๆปูดโปน ลิ้นเริ่มยืดออกจากปากของเขา บังเกิดความเสียใจอย่างสุดซึ้ง เขาได้ช่วยชายชราคนนี้ไว้ด้วยความยากลำบาก แต่เขากลับถูกบีบคอตายโดยฝ่ายตรงข้าม

 

“ผมอาจจะตาย แต่ผมจะไม่ตายในลักษณะที่อ่อนแอและขี้ขลาดแบบนี้” หยางติงเทียนกัดฟันของเขา ความแข็งแกร่งพุ่งพล่านออกมาจากส่วนลึกที่ไม่รู้จักภายในร่างกาย ด้วยความไม่เต็มใจที่จะยอมตายของเขาและเขาเตะไปข้างหน้า

 

“ปั้ง …… ” เท้าสัมผัสกับหน้าอกของชายชรา

 

“แกร๊กกก …… ” เสียงที่แตกหักเช่นกิ่งไม้ที่ตายแล้ว เหมือนมันกำลังถูกเหยียบ มันคือเสียงการแตกหักของกระดูกซี่โครงของชายชรา ด้วยความพยายามอันน้อยนิดของ หยางติงเทียน แต่ชายชราผู้เปรียบเหมือนโคมไฟน้ำมันที่แห้งผาก กระดูกของชายชรามันทั้งเปราะและแห้ง แค่เตะเบาๆมันก็พร้อมที่จะแตกหักได้ง่าย ร่างกายของหยางติงเทียนหลุดออกมาโดยธรรมชาติหลังจากที่เตะออกไป ทั้งสองมือของชายชราเริ่มคลายจากคอของ หยางติงเทียน ดูเหมือนว่าการคว้าบีบคอของหยางติงเทียนนั้นจะเป็นเรี่ยวแรงเอือกสุดท้ายของชายชรา

 

หยางติงเทียนเริ่มขยับแขนและขาของเขาแล้วรีบถอยห่างออกจากชายชรา ในที่สุดหลังเขาก็ชนเข้ากับกำแพง เขาหายใจเข้าลึกๆ ด้านหนึ่งเขามองสำรวจไปที่บาดแผลตามร่างกายของเขาและอีกด้านหนึ่งเขาจ้องมองไปที่ชายชราที่น่าสยดสยองนั้น

 

มีบาดแผลหลายรอยอยู่บนร่างกายของเขา เลือดได้หยุดไหลแล้ว ตอนนี้มันเหลือแค่อาการปวดเมื่อย อย่างไรก็ตามถ้ำมันมีขนาดเล็กเกินไป หากต้องการที่จะอยู่ห่างจากชายชราคนนี้ดูเหมือนว่ามันจะเป็นไปไม่ได้เลย

 

หยางติงเทียน ถอนหายใจขณะที่เขากำลังพักสะสมเรี่ยวแรง ในขณะที่เฝ้าดูชายชราที่เป็นอันตรายอย่างจริงจัง ตราบเท่าที่ชายชราคนนี้เข้ามาโจมตีอีกครั้ง มันก็ไม่อาจที่จะโทษเขาได้ว่าเป็นคนที่โหดร้ายได้

 

แต่หลังจากที่ชายชราคนนี้ถูกเตะโดยหยางติงเทียน อาจเป็นไปได้ว่ากระดูกหน้าอกของเขาที่ถูกกระแทกเข้าไปได้บาดเจ็บ ชายชราคายเลือดแดงออกจากปากมาสองครั้งแล้ว เขาพยายามอย่างหนักหน่วงเพื่อที่จะลุกขึ้นนั่ง แต่ความพยายามของเขาล้มเหลว

 

ดูเหมือนว่าร่างทั้งร่างของเขายังมีแค่มือเท่านั้นที่ยังขยับได้ ส่วนอื่นๆภายในร่างกายไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะสามารถลุกขึ้นได้

 

หลังจากพยายามอย่างหนักหลายครั้ง ชายชราก็ยังคงพ่ายแพ้ มันทำให้เขาโกรธมาก เขาใช้มือทั้งสองข้างฟาดไปที่พื้นน้ำแข็งทันทีด้วยความโกรธ แต่มันก็ส่งผลให้แผลที่ตรงหน้าอกที่บาดเจ็บอยู่สะท้อนขึ้นมาในทันที เขาถ่มน้ำลายออกมาหลายครั้งแต่ละครั้งมันถูกผสมไปด้วยเลือดดำ

 

จากนั้นเขาก็เลิกล้มความตั้งใจ เขานอนแนบลงบนพื้นน้ำแข็งและเริ่มร้องตะโกนโวยวาย แน่นอนว่าหยางติงเทียนไม่รู้ว่าเขาบ่นอะไร แต่น้ำเสียงของเขานั้นมันเต็มไปด้วยความโกรธและความเศร้าโศก ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่หยางติงเทียนจะไม่รับรู้ถึงมัน

 

“ชายชราคนนี้ช่างน่าสมเพชยิ่งนัก” หยางติงเทียนไม่สามารถที่จะช่วยอะไรได้ เขาได้แต่แสดงสีหน้าเวทนาเท่านั้น

 

ในที่สุดชายชราก็หยุดลงและนอนราบลงบนพื้นน้ำแข็งอย่างเงียบๆ กระดูกตรงหน้าอกที่แตกหักของเขามันอาจแทงเข้าไปในภายเนื้อของเขาเพราะตอนนี้หน้าอกของเขาดูมันปูดบวมแล้ว เมื่อชายชราหายใจเข้าหน้าอกของเขาก็ยุบลง จนในที่สุดก็ดูเหมือนว่าเขาจะไม่สามารถสูดลมหายใจอีกต่อไป

 

แม้รู้ว่าการไปหาชายแก่เป็นเรื่องที่อันตรายมาก แต่หยางติงเทียนก็ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ เขาค่อยๆเดินเข้าไปหาอย่างช้าๆ

 

หยางติงเทียนเริ่มต้นด้วยการเตะทีตัวชายชราเบาๆ แต่อีกฝ่ายก็ไม่ได้มีการตอบสนองใดๆ หยางติงเทียนก้าวไปข้างหน้าอีกครั้งและสัมผัสไปที่เส้นเลือดแดงที่คอของเขา เขารู้ได้ในทันที่ว่ายังมีชีพจร แต่มันก็อ่อนแอมาก
หยางติงเทียน เขยิบไปข้างหน้าอีกครั้งและประคองชายชรานั้นขึ้น เขาเปิดชายเสื้อของชายชราเพื่อตรวจสอบบาดแผลบนหน้าอกของเขา

 

ซี่โครงหน้าอกด้านขวาถูกเตะโดยหยางติงเทียน เขาเป็นคนที่ร่างผอมเหมือนซากศพผิวของเขาเหมือนชั้นหนังที่หุ้มกระดูก ดั้งนั้นจึงมองเห็นซี่โครงที่หักของเขาได้อย่างชัดเจน หนึ่งในจำนวนที่หัก มันได้เจาะเข้าไปในเนื้อทำให้มีอาการบวมขึ้นและตอนนี้มันเริ่มกลายเป็นสีเขียวสีดำและสีม่วง ดูแล้วน่ากลัวมาก

 

หยางติงเทียน ใช้ความรู้พื้นฐานของเขาเกี่ยวกับการปฐมพยาบาลเพื่อช่วยให้กระดูกหักของชายชรากลับไปอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้อง ในระหว่างขั้นตอนทั้งหมดมันช่างเจ็บปวด มีหลายครั้งที่ร่างกายของชายชราถึงกับสั่นสะท้าน แต่เขายังคงไม่ตื่นขึ้นมา

 

มันโชคดีมากที่มีเพียงแค่ซี่โครงสองซี่เท่านั้นหักและมันก็ยังไม่ถึงกับแหลกแตกละเอียดออกเป็นชิ้นๆ แต่สำหรับหยางติงเทียน, การจัดกระดูกที่หักให้เข้าที่เหมือนเดิมนั้นมันก็ยังคงเหนื่อยมากสำหรับเขา ในโลกของหิมะและน้ำแข็งเช่นนี้ บนใบหน้าของหยางติงเทียนก็ยังคงมีชั้นเหงือบางๆปรากฎให้เห็น

 

ทันใดนั้น! ตาของหยางติงเทียนก็ได้เห็นเล็บอันเรียวยาวคมกริบจ่ออยู่ใกล้ดวงตาของเขา ตราบเท่าที่เขาขยับตัวเพียงเล็กน้อยมันก็สามารถที่จะเจาะทะลุดวงตาของเขาได้

 

ไม่รู้ว่าเมื่อใดกันที่ชายชราคนนี้ฟื้นขึ้นมา เมื่อเห็นใบหน้าของ หยางติงเทียน เขาก็รีบปล่อยแววตาแห่งการดูถูกเหยียดหยามทันที ในเวลานี้เล็บยาวของเขายังคงมีเลือดของ หยางติงเทียนติดอยู่ พร้อมกับใบหน้าอันโหดร้ายและน่ากลัวของเขา เขาดูน่ากลัวเป็นอย่างมาก

 

หยางติงเทียน พ่นลมหายใจออกทันทีพร้อมกับตั้งสติกับการถูกจ้องมอง เขายังคงตั้งใจจัดกระดูกสำหรับชายชราเหมือนเดิม เขาไม่สนใจว่าฝ่ายตรงข้ามต้องการที่จะตบเขาจนตาบอดหรือไม่

 

อย่างไรก็ตามเมื่อเขาได้เริ่มการจัดกระดูกอีกครั้ง ทั้งสองมือของเขาออกอาการสั่นเล็กน้อย หยางติงเทียน หายใจออกยาวๆ อีกครั้งหนึ่งและลงมือที่จัดปรับกระดูกที่หักอย่างจริงจัง

 

พฤติกรรมของพวกเขาไม่ได้เป็นในทำนองเดียวกัน ชายชราคนคนนั้นกำลังทำเหมือนว่าเยาะเย้ยเหยียดหยามดูราวกับว่ากำลังล้อเลียนการเสแสร้ง และความเจ้าเล่าของ หยางติงเทียน

 

หยางติงเทียน ไม่ให้ความสนใจใดๆเขายังคงทำการรักษาชายชราอย่างจริงจัง

เล็บมือของชายชราค่อยๆกรีดลง ปลายเล็บที่แหลมคมค่อยจิกเข้าที่คอของเขามันลึกเข้าเนื้อของหยางติงเทียนอย่างช้าๆ มันคล้ายกับมีดคมที่ค่อยๆเจาะเข้าไปที่ละมิลลิเมตรมิลลิเมตร

 

เล็บที่เจาะลึกเข้าไปถึงหนึ่งเซนติเมตร

 

สายตาของหยางติงเทียนหรี่แคบลง มือขวาของเขาค่อยๆบีบเป็นกำปั้นด้วยความเจ็บปวด ในวินาทีถัดมาเขาต้องการจดจ่ออยู่กับกระดูกหักของชายชราแต่เขาก็อาจจะถูกฆ่าตายโดยชายชราได้!

 

แล้วที่สุดชายชราก็ได้หยุดลง เขาค่อยดึงเล็บมือออกจากร่างของเขา จากนั้นก็ค่อยๆหลับตาลงและยอมให้หยางติงเทียนทำทุกอย่างที่เขาต้องการ

 

หยางติงเทียนถอนหายใจออกยาวๆ เขาสงบลงอย่างรวดเร็ว แล้วก็ทำการรักษาชายชราต่อไป

 

ในที่สุดเขาก็จัดกระดูกที่หักของชายชราจนเสร็จ ถึงแม้ว่าการทำการรักษาแบบนี้มันจะไม่ดีเท่าที่ควร แต่มันก็ไม่สามารถที่จะทำอะไรได้มากในขณะนี้ ในถ้ำนี้มันไม่มีไม้แม้สักชิ้นเดียว

 

หลังจากจัดการทุกสิ่งทุกอย่างแล้วหยางติงเทียน ก็ถอยห่างออกไปจากสถานที่ชายชราอยู่ แล้วเอนหลังนั่งพิงผนังถ้ำ

 

แล้วชายชราที่อันตรายคนนี้ ก็ปิดตานั่งนิ่งเงียบ

 

 

ตอนต่อไป
comments