I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Otherworldly Evil Monarch ตอนที่ 39 กวนชิงฮั่น

| Otherworldly Evil Monarch | 1072 | 2335 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

ฝนที่กระหน่ำลงมา สุดท้ายแล้วก็ซาลง อย่างไรก็ตามฝนก็ยังคงตกต่อไป จวินเซี่ยเดินอย่างสบายๆ ทำให้คนที่เห็นเขาจากประตูและหน้าต่าง ประหลาดใจ โอ้ว พระสงฆ์ ! นายน้อยเป็นบ้าอะไรตอนนี้ ? ดีล่ะ เทียบกับความบ้าบอก่อนหน้านี้ นี่ก็ไม่ไร้สาระเกินไป ถึงแม้มันจะดูประหลาด เขาออกไปทำอะไรข้างนอกในตอนที่ฝนตก ราวกับหมาแมว ?

ในขณะที่เขากำลังผ่านพื้นที่ของสวน ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงบรรเลง ขลุ่ยดังออกมาข้างนอก ซึ่งเป็นถ้วงทำนองที่น่าเศร้าใจจนไม่อาจลืมลง หากใครได้ยินเสียง ขลุ่ยนั้น ก็จินตนาการได้ถึงความ เศร้าโศกและความแค้นเคืองที่เก็บซ่อนไว้ในใจของผู้ที่เป่ามัน

แต่เมื่อจวินเซี่ยเป็นคนได้ยิน ความรู้สึกของเขาก็เกิดขึ้นมาในอารมณ์เดียวกับท่วงทำนอน จนเขาไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ และเดินตรงเข้าไปหาต้นตอของเสียงนั้น

ตรงศาลาที่ตั้งอยู่กลางสวน มีหญิงสาวในชุดขาวนั่งอยู่บนม้าหิน นางหันหลังให้กับจวินเซี่ย มวยผมไว้ราวกับเมฆสีดำ เอวคอด เมื่อมองมาจากด้านหลัง บางคนอาจจะเชื่อได้ว่านางเป็นสาวบริสุทธิ์ อย่างไรก็ตาม ด้วยเสียงบรรเลงแห่งความโศกเศร้าด้วยคลุ่ยในช่วงใบไม้ร่วงนี้ มันดูราวกับว่า แม่นางผู้นี้กำลังเดียวดายและสิ้นหวัง

จวินเซี่ยยืนอยู่เงียบๆท่ามกลางสายฝน เขาหลับตาลงเล็กน้อย ฟังเสียงคลุ่ยที่บรรเลงด้วยความโศกเศร้า ทำให้เขาถึงกับเคลิบเคลิ้ม ราวกับได้ฟังเพลงที่ชื่นชอบในชั่วชีวิตที่แล้ว นาม เพลง คิ้วที่เปล่าประโยชน์ จากความฝันของสภาแดง ที่แสนจะโศกเศร้าและขุ่นเคืองจนอยากจะร้องไห้ …

จวินเซี่ยคิดย้อนไปถึงตอนที่เขากำลังดื่มสุรา ในสายฝนกระหน่ำแห่งฤดูใบไม้ร่วงนี้ ใครกันจะโศกเศร้าและเจ็บปวด ? ในตอนนี้ จวินเซี่ยรู้สึกได้ทันที ว่าแม่นางที่อยู่ตรงหน้าเขานั้นโดดเดี่ยวและเจ็บปวดเหมือนเขา ! อย่างไรก็ตามเมื่อเปรียบเทียบกับตัวเขาเอง สถานะของนั้นนั้นช่างห่างไกลอย่างหมดหนทาง

ในระหว่าง ท่องทำนองของคลุ่นที่สุดแสนจะเศร้าโศกอย่างขุ่นเคืองนี้ แม้แต่สายลมก็มิพัดผ่านมาเลย …

ถึงแม้ว่าเสียงนั้นจะทำให้ผ่อนคลาย แต่แม่นางผู้นั้นเริ่มตกใจ นางหันมองไปรอบๆทั้นที และสายตาก็เพ่งมองตรงมาที่จวินเซี่ย และแสดงสีหน้าประหลาดใจออกมา จากนั้นมันก็เปลี่ยนเป็นความรังเกียจ และนางมองอย่างดูถูกไปที่จวินเซี่ย “ เป็นเจ้า ”

“ ท้วงทำนองขลุ่ยนี่ไม่เลว มันสุดยอดมาก ” จวินเซี่ย ยิ้มในขณะที่ เดินทอดน่องเขาไปที่ศาลา ร่างที่เปียกโชกของเขาทำให้พื้นของศาลานั้นเปียก “ น้องสใภ้ เจ้าช่างยอดเยี่ยมอะไรเช่นนี้ ? ”

หญิงสาวดูสง่างามราวกับภาพวาด แต่สีหน้าของนางนั้นเต็มไปด้วยความเย็นชา หญิงสาวที่มีกลิ่นไอเยือกเย็นไหลออกมานี้ นางคือ น้องสะใภ้ของจวินโม่เวี่ย และ เมียของ จวินโม่โย่ว กวนชิงฮั่น นางเป็นลูกสาวเพียงคนเดียวของสกุล กวน ที่มีชื่อเสียง และเป็นที่รู้จักอย่างดีใน อาณาจักร เทียนเชียง

ในความจริง จะเรียกนางว่า เมียของ โมโย่ก็ไม่ถูกนัก การมั่นหมายของเขาทั้งสองนั้นเกิดขึ้น ในตอนที่พวกเขายังเด็ก สามปีก่อนจวินโมโย่วอายุยี่สิบและ กวนชิงฮันอายุสิบแปด และจากนั้นทั้งสองสกุลก็เตรียมการที่จะจัดงานแต่ง แต่อย่างไรก็ตาม ก็เกิดสงครามขึ้นระหว่างพวกเขา และอาณาจักร เฉินซี จวินโมโย่วและน้องชายจวินโม่เฉา ถูกเลือกให้ไปต่อต้านเฉินซีอย่างกระทันหัน ดังนั้น ตระกูลทั้งสองจึงตัดสินใจ พักงานแต่งไว้ก่อนจนกว่า จวินโมโย่วจะกลับมาอย่างมีชัย

ก่อนที่จวินโมโย่วจะออกไปพร้อมกับกองทหาร พวกเขาได้จัดงานหมั่นตามประเพณีเรียบร้อยแล้ว และ กวนชิงฮั่นก็ได้รับเข้ามาเป็นสมาชิกในสกุลจวินแล้ว จนกว่าจวินโมโย่วจะกลับมา งานแต่งพวกเขาก็จะถูกจัดขึ้น สำหรับวันเวลาในการแต่งงานนั้นได้ถูก กำหนดไว้เรียบร้อยแล้ว แต่อย่างไรก็ตาม ไม่มีผู้ใดเลย จะคิดว่าจวินโมโย่วไม่เคยได้กลับมา ร่างของเขาได้นอนพักลงที่สมรภูมิ เด็กทั้งสองที่เป็นคู่รักกัน ตอนนี้ได้ถูกแยกออกจากัน ทำให้ต้องเผชิญหน้ากับความโศกเศร้าไปตลอดกาล !

พรสวรรค์อันมีค่า กำลังจะตายลงในความคุมเครือและความเวทนา !

เมื่อข่าวร้ายมาถึง กวนชิงฮั่นถึงกับเป็นลม หลังจากนั้น นางไม่สนใจคำแนะนำของครอบครัวนาง และเลือกที่จะเข้าสู่สกุลจวิน นางถูกรับเข้ามาเป็นหญิงหม้ายแห่งสกุลจวิน และช่วยในการดูแลผู้อาวุโสในสกุลจวิน ปู่จวินเคยถามนางหลายต่อหลายครั้ง จากท่างและเบื้อหลังของนาง อย่าได้กลัวเลยที่จะได้แต่งงานที่ดี เขาถึงขั้น เสนอให้ว่าจะยกเลิกการหมั้นและอณุญาติให้นางเป็นอิสระจากสถานการณ์นี้

แต่กวนชิงฮั่นก็ยังดื้อด้านที่จะปฏิเสธ แม้จะปล่อยให้ตัวเขาเองอ่อนแอ ผู้อาวุโสของทั้งสองตระกูลก็ยังไม่สามารถทำให้นางเปลี่ยนใจได้ ทั้งหมดที่พวกเขาทำได้คือรอ ให้ถึงเวลาที่นางจะเปลี่ยนใจ จากนั้นพวกเขาก็จะส่งนางกลับไปยัง สกุลกวน

หลังจากที่พี่สะใภ้ของเขาได้ย้ายเข้ามา หนุ่มเสเพยฟุ่มเฟือยอย่างจวินโม่เซี่ยก็เริ่มที่จะกระสับกระส่าย เขาเป็นคนที่พูดทะลึ่ง เขามีบุคลิคที่ขี้เล่น ทำให้ กวนชิงฮั่นรู้สึก รังเกียจอย่างมาก ไม่สามารถอดทนเขาได้ นางเคยให้บทเรียนกับความหยาบคายของเขา แม้จะดูว่านางคือลูกสาวเพียงคนเดียว แต่นางค่อนข้างที่จะช่ำชองในศิลปะการต่อสู้ แม้ไม่ได้อยู่ในขั้นเชวียนเงิน แต่นางอยู่ในขั้นสูงสุดของเชวียนเก้า ! จะรับมือกับคนอย่างจวินโม่เซี่ยเป็นอะไรที่ง่ายดาย

อย่างไรก็ตาม การฟาดหลายต่อหลายทีก็ไม่ได้เปลี่ยนนิสัยที่เสเพลของไอโง่นี่ได้ เป็นที่รู้กัยว่า พี่สะใภ้ของเขาไม่ได้ลงโทษอย่างหนักกับเข้า เขายังแอบมองนางอยู่ตลอด ดูเหมือนจะไม่ละอายเลยสักนิด กวนชิงฮั่นไม่รู้จะหาวิธีใหนมาใช้แล้ว และนางก็เลือกที่จะใช้เวลาส่วนใหญ่หลบอยู่แต่ในห้อง แต่บรรยากาศของฝนที่ตกลงมาวันนี้ทำให้ในใจนางรู้สึกขื่นขมและโศกเศร้า ท้วมท้นไปด้วยความเสียใจ ดังนั้นนางจึงตัดสินใจที่จะไปที่ศาลาเพื่อปลดปล่อยความโศกเศร้าออกมาด้วยการเป่าขลุ่ย แต่ก็ไอเด็กเสเพลนี่ก็ยังกล้าลุยฝนเข้ามา อย่าคิดไม่ถึง !

คนบ้าอะไรนี่ เจ้าไม่เข้าใจหรือว่าขั้นเชวียนเก้าของข้ามันสูงกว้าเจ้ามาก ? หากข้าจะให้บทเรียนกับเจ้า มันไม่ต้องใช้ความพยายามเลย ! เหตุที่ข้าไม่เลือกทำเช่นนั้นเพราะ ข้าไม่ต้องการจำทำให้ที่นี่วุ่นวาย และไม่ต้องการให้ท่านปู่เสียใจ หรือเจ้าคิดว่าข้ากลัวเจ้า ?

“ โอ้ว ข้าไม่มีอะไรทำหน่ะ และตัดสินใจจะมาเป่าขลุ่ยสักหน่อย เจ้ามีความช่ำชองในเรื่องนี้ไหม ? ” เมื่อได้ฟังคำพูดของจวินเซี่ย กวนชิงฮั่น รู้สึกรังเกียจมาขึ้น อะไรที่ทำให้เจ้าเสเพลนั่นเข้าใจในท่วงทำนองของขลุ่ย ? ยอดเยี่ยม ? ไม่เลว ? เขาพยายามที่จะคุยกับข้า ! นางเพ่งมองไปยังเขาอย่างเย็นชา และประหลาดใจกับสีหน้าที่เขาตั้งใจจะแสดงออกมาในวันนี้ ที่เคล้าคลอไปด้วยคำพูดของนาง

ด้วยความฉลาดของจวินเซี่ย เขาจะไม่เข้าใจความหมายของคำพูดนั้นได้อย่างไรกัน? อย่างไรก็ตาม หญิงสาวผู้นี้คือคนที่เขานับถือ ไม่ต้องพูดถึง ที่เขาเข้าใจถึงความเหลืออด ในสิ่งที่จวินโม่เซี่ยเป็น มันไม่น่าแปลกใจที่ทุกคนจะดูถูกเขา ! ในมุมของคนอื่น ความเมตตาของ กวนชิงฮั่น เป็นสิ่งที่จวินเซี่ยนับถือ

“ ท่วงทำนองของขลุ่ยทำให้เห็นถึงท่วงทำนองของหัวใจ อดีตคืออดีต มันจะดีกว่าถ้าพี่สะใภ้ปล่อยหัวใจของท่านออกไป ปล่อยให้อดีตเป็นเรื่องของอดีต ” จวินเซี่ยลังเลเล็กน้อยก่อนจะตอบไป

กวนชิงฮั่น ถอนหายใจก่อนที่จะหันกลับไปและไม่สนใจเขา

จวินเสียเริ่มสูนย์เสียความสนใจ หากใครเลือกที่จะไม่สนใจเขา เขาก็จะไม่นใจคนนั้นเหมือนกัน ! แล้วถ้าหากเป็นหญิงงามล่ะ ? จะสามารถที่จะแสดงท่าทางรังเกียจคนอื่น ? เขาพูดอย่างไม่เต็มใจ “ ก่อนหน้านี้ข้าอวดดีเกินไป ทำให้พี่สะใภ้รำคาญใจ ข้ากลับละ ” เมื่อพูดคำนั้น เขายิ้ม หันหลังกลับและเดินจากไป โดยที่ไม่ลังเล เจ้าไม่สนใจข้าหรือ ? ดีละ ข้าจะไปนอน

กวนชิงฮั่นเริ่มประหลาดใจอ่างมาก

เดิมทีแล้วนางคิดว่าเขาวางแผนที่จะย่องมาหานางอีก เสแสงร้งจะมาใกล้นาง แต่ก็ไม่คาดคิดว่าเขาจะมีคำพูดที่เห็นอกเห็นใจ และเลือกแม้แต่ที่จะจากไปโดยไม่สนใจว่าฝนกำลังตก

เมื่อมองไปที่หลังของจวินเซี่ยที่อยู่กลางสายฝน กวนชิงฮั่นอ้าปาก แต่นางก็ลังเล เพ่งมองไปที่เขาอีกครั้ง นางพบว่า น้องเขยของเขาดูต่างไปจริงๆวันนี้

ไอโง่นี่ยิ้มอย่างหลอกลวงอยู่ตลอด แววตาเขาเต็มไปด้วยความไม่ซื้อสัตย์ ลื่นไหลไปตลอด เมื่อเขาเห็นนนาง เขามักจะพูดไร้สาระจนทนไม่ไหว อย่างไรก็ตามการกระทำของเขาเร็วๆนี้ ก็ไม่ได้แสดงออกถึงอะไรอย่างนั้น มัน … สงบนิ่งและมีท่าทางที่ลึกซึ้ง

นอกจากนี้ เขาไม่ได้เพ่งมองมาที่นางเลย เมื่อมองไปที่หลังของเขาในขณะที่เขาลุยสายฝนไป นางก็เห็นว่าเขายังคงสงบ …

นี่เปลี่ยนไปจริงไหรือ ? กวนชิงฮั่น พูดดูถูดภายในใจ เมื่อการย่องของเขาไม่ให้ผลใดๆ เขาจึงตัดสินใจเปลี่ยนวิธีและสวมหน้ากากของสุภาพบุรุษเพื่อมาใกล้ข้า ? อืมม ! จวินโม่เวี่ย เจ้าคิดว่าข้าจะตกหลุมเจ้าหรือ ? ถึงแม้ว่าเจ้าจะเปลี่ยนหน้ากากเป็นพันครั้ง ในใจข้า เจ้าก็ยังคงลามก เสเพลอย่างน่าไม่อาย ! นั่นละไม่เคยเปลี่ยนหรอก !

ท่ามกลางสายฝนหนัก เจ้าจะตากฝนให้ตัวเปียกเพื่อที่จะมาพูดบางประโยคเนี่ยน่ะ ? ใครจะไปเชื่อ ? มันพิสูจน์ให้เห็นว่าเจ้ามีอะไรบางอย่าง ! เจ้าเป็นสุภาพบุรุษ ? ทุกคนจะเชื่ออย่างนั้น ?

ใบหน้าอันสวยงามของกวนชิงฮั่นก็เปลี่ยนเป็นเย็นชา !

อย่างไรก็ตาม ไอโง่นี่ก็ไม่แสดงความกลัวออกมาตอนที่ข้าถลึงตาใสาวันนี้ … อืมม !

Translate by iHaveNoName

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments