I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Martial God Asura ตอนที่ 149 – ก่อกบฎ

| Martial God Asura | 2540 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
                

‘ชูเฟิง’ พา ‘มู่หรง ซินยู๋’ กลับหุบเขาพยัคฆ์ฯ ตามทางพวกเขาพบกับนักฆ่าเพียงไม่กี่คน บ้างก็ปกคลุมใบหน้า บ้างก็สวมเสื้อผ้าปกติ ลวดลายที่แม้แต่ ‘มู่หรง ซินยู๋’ก็ยังรู้จัก

เมื่อพวกเหล่าคนที่จะหมายเอาชีวิตนาง เห็นนางเข้าพวกเขาก็พากันเข้ามาทำร้าย ‘มู๋หรง ซินยู๋’ แต่โชคดีที่มี ‘ชูเฟิง’ มาด้วย จึงไม่มีผู้เชี่ยวชาญคนไหนขวางทางเขาได้ การเดินทางครั้งนี้จึงกล่าวได้ว่าเรียบง่าย อย่างน้อยๆ ก็ไม่มีสามารถหยุด ‘ชูเฟิง’ ไว้ได้

แต่ที่ทำให้ ‘มู่หรง ซินยู๋’ ไม่สบายใจและกังวลเป็นอย่างมาก เพราะนางรู้สึกว่าต้องมีบางอย่างเดินขึ้นกับหุบเขาพยัคฆ์ขาว ส่วน ‘ชูเฟิง ‘นั้นมีความสุขมากกว่าเพราะว่าเขาจะใช้โอกาสที่ภายในเมืองที่เกิดความขัดแย้ง หาโอกาสแฝงตัวเข้าไป

เมื่อ ‘ชูเฟิง’และ’มู๋หรง ซินยู๋’ มาถึงหุบเขาพยัคฆ์ฯ พวกเขาก็พบว่า ผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากต่างพากันฆ่าฟันอยู่ด้านนอก เสียงตะโกนสู้รบดังขึ้นมาจากภายในหุบเขาพยัคฆ์ฯ อย่างไม่หยุดหย่อน

” สวรรค์ ทำไมทุกอย่างถึงเป็นแบบนี้ ? “

บางคนเริ่มกำเริบเสิบสานใฝ่หาอำนาจ การก่อกบฏจึงเกิดขึ้น จากความคิดของ’ชูเฟิง’น่าจะเป็นฝีมือของตะกูลเก่าแก่ พวกเขาต่างพากันเข่นฆ่ากัน ภายในดวงตาของ ‘มู่หรง ซินยู๋’ เต็มไปด้วยหยดน้ำแวววาว ซึ่งไม่สามารถบรรยายอารมณ์ของนางได้

เห็นได้ชัดว่านางสุดแสนจะประหม่า นางไม่รู้ว่าจะทำยังไง เพื่อหยุดเรื่องราวทั้งหมด แต่ด้วยกำลังของนางนั้นไม่อาจหยุดเรื่องราวทุกอย่างที่เกิดขึ้นตรงหน้าได้ และนางก็ไม่รู้ว่าทำไมมันถึงเกิดขึ้น

” ดูเหมือนว่าคุณหนูใหญ่จะโง่ไม่เบาเลยสินะ!!! “

มองหน้าของ ‘มู๋หรง ซินยู๋’ ‘ชูเฟิง’กล่าวพร้อมกับยิ้ม

” เจ้าหมายความว่าไง ? “

‘มู๋หรง ซินยู๋’ ถามอย่างไม่พอใจ

แม้ว่านางจะไม่มีความสามารถด้านการต่อสู้ แต่นางนั้นก็นับว่าเป็นคนฉลาด ทุกอย่างภายในหุบ บิดา เป็นผู้จัดการทุกอย่าง แต่ตอนนี้นางกับถูกชายหนุ่มที่อายุน้อยกว่าล้อเลียน นั่นคือเหตุผลที่ทำให้นางไม่พอใจ

” เห็นอยู่ชัดๆ ว่าเหตุการณ์นี้ทำให้หุบเขาพยัคฆ์ของเจ้าถูกแบ่งออกเป็นสองฝ่าย “

” สำหรับเจ้าที่เป็นคุณหนูใหญ่ของหุบเขาพยัคฆ์ และเป็นลูกสาวของผู้ควบคุมหุบเขาพยัคฆ์ฯ ทั่งๆที่มีอำนาจยังกับไม่ยอมตรวจสอบเรื่องนี้ให้ดีซะก่อน แล้วยังจะมาทำสีหน้า น่าสมเพช แล้วยังจะบอกว่าตัวเองไม่ได้โง่อีก “

‘ชูเฟิง’กล่าวอย่างเยาะเย้ย

” เจ้า . . . . . . . “

‘มู่หรง ซินยู๋’ ตั้งใจจะเถียง แต่นางก็ไม่พบคำพูดที่จะเถียงเขาได้เลย เพราะที่’ชูเฟิง’พูดมาก็ถูก นางไม่เคยสงสัยอะไรเลย นางเห็นความภักดีแค่เปลือกนอกภายในหุบเขาพยัคฆ์ขาว ซึ่งนางไม่ได้ตระหนักถึงอันตรายที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังเลยสักนิด

พ่อของนางก็มักจะเก็บตัวทำอะไรบางอย่างหลังจากจัดการเรื่องต่างๆภายในหุบเขาพยัคฆ์ ลุงของนางก็มักจะดึงออกมา นางจึงไม่ได้ตรวจสอบอะไรสักอย่าง นางจึงรู้สึกเกลียดตัวเอง แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นในหุบเขาพยัคฆ์ หากนางไม่ทำอะไรสักอย่าง นางคงไม่มีหน้ากลับไปพบพ่อของนาง

” ข้าขอถามเจ้าหน่อย จนถึงตอนนี้เจ้าก็ยังไม่รู้เลยใช่ไม๊ว่าใครเป็นคนก่อกบฏ “

‘ชูเฟิง’ถาม

” ข้า . . . . “

‘มู๋หรง ซินยู๋’ ตอบไม่ถูก

” เฮ้อ ดูเหมือนว่าเจ้าจะใช้ชีวิตอย่างสงบสุขเลยไม่ทันคนอื่นเขาสิท่า “

‘ชูเฟิง’ส่ายหน้า จากนั้นก็กระตุ้นนาง

” ลองคิดดีๆสิ ถ้านี่ไม่ใช่ฝีมือคนภายนอก ซึ่งเร็วๆนี้จะมีการจัดการประชุมเลือกผู้นำภายในตะกูลของเจ้า ดังนั้นการกระทำครั้งนี้น่าจะเป็นฝีมือของคนที่เจ้าคิดว่าเขาจะได้รับผลประโยชน์ และใครที่มีอำนาจขนาดที่กล้าก่อกบฏอย่างไม่ลังเล “

” นี่หรือว่า . . . . .จะเป็นเขา “

‘มู่หรง ซินยู๋’รู้ตัวในทันทีที่ได้ยินคำพูดของ’ชูเฟิง’ แต่นางก็แทบไม่อยากจะเชื่อ

” เขาเป็นใคร ? “

‘ชูเฟิง’ถามข้างๆหู

” ข้า . . . . “

‘มู่หรง ซินยู๋’ ลำบากใจที่จะพูด

” อย่าบอกนะว่าเวลาแบบนี้เจ้ายังคิดจะเก็บไว้เป็นความลับ ข้าเป็นคนเดียวที่ช่วยเจ้าได้!!! “

‘ชูเฟิง’ กล่าว

มอง ‘ชูเฟิง’ ที่เหมือนต้องการจะช่วยเหลือนาง และหลังจากคิดถึงการเดินทางกับเขาที่ผ่านๆมา หากนางไม่ได้เขา นางก็คงตายหรือไม่ก็กลายเป็นของเล่นของนักฆ่าพวกนั้น  จากนั้น ‘มู่หรง ซินยู๋’ จึงค่อยๆพูด

” ลุงของข้า มู่หรง หยางกวน เป็นคนเดียวนอกจากพ่อของข้าที่มีอำนาจและการตัดสินใจทุกอย่าง แต่เวลาที่พ่อของข้าเก็บตัว เรื่องราวต่างๆข้าจะเป็นคนจัดการ “

” แต่จะให้พูดจริงๆ ก็มีแค่การแจกอาหารและน้ำ ถ้าลองมาคิดดูดีๆตอนที่พ่อของข้าเก็บตัว อำนาจที่แท้จริงภายในเมืองของหุบเขาพยัคฆ์ฯ จะถูกลุงของข้าเป็นผู้ควบคุม “

เมื่อ ‘มู่หรง ซินยู๋’ คิดถึงจุดนั้น เรื่องที่เกิดขึ้นร้ายแรงเช่นนี้เป็นฝีมือลุงของนาง นางแทบไม่อยากจะยอมรับว่ามันเป็นเรื่องจริง เพราะนึกยังไงก็นึกไม่ออกว่าทำไมลุงของนางจะทำเช่นนี้กับเมืองของตัวเอง

” เรื่องนี่ก็จะโทษเจ้าก็ไม่ได้ เพราะว่าเจ้านั้นยังไม่มีประสบการณ์ หากจะโทษใครก็ต้องไปโทษพ่อของเจ้ามากกว่าที่ไว้ใจลุงของเจ้า “

” เรื่องทุกอย่างในวันนี้ ลุงของเจ้าคงวางแผนเรื่องนี้มานานแล้ว เพราะการที่เขาจะยึดอำนาจ คนแรกที่เขาอยากจะฆ่าคือพ่อของเจ้า หากพ่อของเจ้าตายก็จะไม่มีใครหยุดเขาได้ “

‘ชูเฟิง’เหมือนจะกังวลก็จริง แต่ในความเป็นจริงเขาก็แค่ต้องการอยากรู้ข้อมูล แม้ว่าหลายคนจะไม่รู้ความลับของหุบเขาพยัคฆ์ ‘ชูเฟิง’ รู็สึกว่าเป็นไปไมได้ได้สำหรับคนที่มีอำนาจในหุบเขาพยัคฆ์จะไม่รู้เรื่องนี้

สำหรับการจะแยกตัวเป็นหาทางเข้าสุสานคงไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ดังนั้น เขาต้องทำให้ ‘มู่หรง ซินยู๋’ ไว้ใจ แม้ว่านางจะฉลาด แต่นางก็ไม่ใช่คนที่คิดอะไรมากมาย และด้วยเหตุนั้น ‘ชูเฟิง’จึงคิดจะใช้นาง

” ไม่นะ!!! หรือว่าลุงของเจ้าคิดจะ . . . . . “

ได้ยินคำพูดของ ‘ชูเฟิง’ สีหน้าของ ‘มู่หรง ซินยู๋’ เปลี่ยนไปอย่างมาก นางไม่พูดอะไรสักคำจากนั้นก็วิ่งไปยังอีกด้านหนึ่งของหุบเขาพยัคฆ์

เห็นเช่นนั้น ‘ชูเฟิง’ รีบวิ่งตามอย่างติดๆ หลังจากนั้น ‘มู่หรง ซินยู๋’ ก็พา’ชูเฟิง’มาถึงหินกองขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ด้านนอกของหุบเขาพยัคฆ์ฯ

มันอาจจะพูดได้ว่าเป็นกองหินที่ดูแปลกประหลาดเกินไป มันควรจะถูกสร้างขึ้นหลังภูเขา ‘ชูเฟิง’ไม่รอช้าจึงใช้อำนาจพลังวิญญาณตรวจสอบ แต่เขาก็ไม่รู้สึกว่ามีอะไรผิดปกติ หินพวกนั้นดูเหมือนเป็นหินภูเขาทั่วไป ปกติแล้วพวกมันก็ไม่ตอบสนองต่ออำนาจพลังวิญญาณ

แต่ในตอนนั้น ‘มู่หรง ซินยู๋’ มองไปรอบๆในขณะที่หันซ้ายหันขวา เห็นได้ชัดว่านางกำลังมองหาอะไรบางอย่างและแน่นอนว่ามันน่าอยู่จะบริเวณหินพวกนั้น

หลังจากที่ ‘มู่หรง ซินยู๋’ พบก้อนหินขนาดมหึมา นางถอนหายใจด้วยความโล่งอก จากนั้นก็เอาสร้อยหยกที่อยู่บนคอของนางกดลงไปบนหินก้อนนั้น ทันใดนั้นหินก้อนยักษ์ก็เลื่อนไป จนปรากฏเป็นอุโมงค์ลึกเข้าไป

หลังจากที่อุโมงค์เปิด ‘มู่หรง ซินยู๋’ จึงรีบวิ่งเข้าไปพร้อมกับ ‘ชูเฟิง’ ที่วิ่งตามไปติดๆ ขณะที่เขาก้าวเขาไปด้านหน้าของเขาไม่ใช่ ความมืดแต่อย่างใด

ในตอนนั้น ทุกอย่างภายในค่อนข้างที่จะอลังการ ภาพจิตกรรมฝาผนังนับไม่ถ้วนถูกเขียนเอาไว้รอบๆผนัง หินที่มีแสงสว่างที่แขวนเอาไว้ด้านบนของพวกเขา จนทำให้ภายในถ้ำเกิดความสว่างเหมือนกับตอนกลางวัน สิ่งสำคัญที่กลิ่นอายที่แปลกประหลาด ‘ชูเฟิง’ บอกได้เลยว่ามันถูกสร้างขึ้นมาแล้วมากกว่าหลายร้อยปี

” ดูเหมือนว่าข้าจะเจอกับสิ่งที่ตามหาแล้วสินะ!!! “

รอยยิ้มปรากฏขึ้นมุมปากของ ‘ชูเฟิง’ พื้นที่แห่งนี้ถูกซ่อนเอาไว้ด้วยพลังบางอย่างแม้แต่อำนาจพลังวิญญาณยังไม่สามารถตรวจสอบได้ หาก ‘มู่หรง ซินยู๋’ ไม่พาเขามาที่นี่ ‘ชูเฟิง’ ก็คงไม่พบกับสถานนี้ไปตลอดชีวิตของเขา

โปรดติดตามตอนต่อไป . . . . . . . . . .

ที่มา:

ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
comments