I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Peerless Battle Spirit ตอนที่ 10 – เย่อหยิ่งและเดี่ยวดาย

| Peerless Battle Spirit | 861 | 2365 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

นับตั้งแต่การบ่มเพาะของฉินหนานถึงขั้น 4 ขอบเขตชำระล้างร่างกาย เขามีความมั่นใจในการปกปิดร่องรอยตัวเอง หลังจากที่มีมีการปรับแต่งอวัยวะภายในของเขาแล้วเขาก็จะสามารถควบคุมออร่าได้อย่างสมบูรณ์ ถ้าเขาหยุดการปล่อยกลิ่นอายของเขาก็จะยากมาก
สำหรับคนที่จะรู้สึกถึงเขา

อย่างน้อยที่สุดมันเป็นไปไม่ได้สำหรับ
ผู้บ่มเพาะในชั้น 4 ขอบเขต ชำระล้างร่างกาย ฉินหนานคิด

เมื่อเห็นว่าเขาถูกค้นพบฉินหนานรู้สึกปวดหัวเล็กน้อย อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้อยู่เงียบ ๆ หรือตัดสินใจที่จะหลบหนี แต่เขาเลือกที่จะเดินออกไปในลักษณะที่เปิดเผยในขณะที่เขาถามอย่างไม่แยแส
“เจ้าค้นพบข้าได้อย่างไง?”

ชายวัยกลางคนดูงงเล็กน้อย
โดยปกติแล้วคนที่ถูกค้นพบมักจะดูจะหงุดหงิดหรือมีเจตนาฆ่า
อย่างไงก็ตามการแสดงออกของชายหนุ่มคนนี้นั้นสงบมาก
ทำให้เขารู้สึกประหลาดใจ
ไม่นานหลังจากนั้นชายวัยกลางคนก็พูดออกมา
“จิตวิญญาณการต่อสู้ของข้ามีจุดเด่นเรื่อง ‘ค้นหา’
ถึงแม้รัสมีจะไม่กว้างมากนัก แต่ก็มีความสามารถในการรับรู้ทุกอย่างภายในบริเวณสิบเมตร วิธีของเจ้าในการปกปิดตัวเองเป็นที่น่าสนใจและถ้าเจ้ายังอยู่ในช่วงความสามารถเดียวกับข้าแล้ว
มันจะเป็นไปไม่ได้แน่นอนที่ข้าจะหาเจ้าไม่เจอ. “

หัวใจของฉินหนานสั่นสะท้าน เขาไม่ได้คาดการณ์ล่วงหน้า

จิตวิญญาณต่อสู้มีหลายชนิด แม้ว่าจะมีการแบ่งแยกระหว่างจิตวิญญาณที่ชัดเจน แต่ความสามารถของพวกมันก็แตกต่างกันออกไป

ตัวอย่างเช่นพี่น้องทั้งสองคน ฉินยู และ ฉินเซี่ยว หนึ่งมี จิตวิญญาณธนูขณะที่อีกคนมี จิตวิญญาณกระบี่ จิตวิญญาณทั้งสองชนิดนี้ถูกจัดเป็นประเภทอาวุธ ส่วนของ ชายวัยกลางคนนี้ถูกจัดว่าเป็นประเภทสนับสนุน

“ดูเหมือนว่าข้าจะต้องระมัดระวังมากขึ้นในอนาคต ข้าไม่สามารถประมาททุกคนได้เพียงเพราะการบ่มเพาะของข้า “
ฉินหนานบอกกับตัวเอง ว่าเรื่องนี้ประมาณไม่ได้

ทันใดนั้นเสียงโกรธของ ฝางซู ดังขึ้น”ใคร!?ใครตามหญิงสาวคนนี้มา!? “

ภายใต้คนสนิทของชายวัยกลางคนอีกสองคน ฝางซู รีบวิ่งไป หลังจากได้เห็นใบหน้าของฉินหนาน ความรู้สึกโกรธของ ฝางซู เริ่มเปลี่ยนไปอย่างทันทีทันใด นี่เป็นเพราะเธอไม่ได้คาดหวังว่าคนที่ติดตามเธอคือฉินหนาน

ในขณะนี้ชายสามคนที่แข็งแรงได้ล้อมรอบฉินหนานเต็มไปด้วยเจตนาฆ่า ถ้าฉินหนานมีการเคลื่อนไหวเพียงน้อยทั้งสามคนจะเริ่มโจมตีทันที

“ฉินหนาน? เจ้าตามข้ามาได้อย่างไง? ฝางซู คิดว่ามันไม่น่าเชื่อ
เธอเต็มไปด้วยความสงสัยขณะที่เธอถามว่า “ไม่ถูกต้องเจ้าควรอยู่ในตระกูลฉินเพื่อฝึกวิชาสิ? เจ้าติดตามข้ามาทำไม? “

การแสดงออกของชายวัยกลางคนวัยกลางคนสามคนค่อยๆเปลี่ยนไปพวกเขาไม่เคยคิดเลยว่าเด็กหนุ่มที่ติดตามพวกเขามานั้นเป็นคนมีชื่อเสียงของเมือง ฉินหนานซึ่งเป็นอัจฉริยะอันดับหนึ่ง
ที่ตอนนี้ได้กลายเป็นขยะในที่สุด

ในขณะเดียวกันชายวัยกลางคนทั้งสามคนก็ผ่อนคลายลง สัญชาตญาณของพวกเขาบอกว่าฉินหนานไม่สามารถเป็นภัยคุกคามพวกเขาด้วยจิตวิญญาณการต่อสู้ชั้น 1 ของเขา
และมีเวลาเพียงครึ่งเดือนเท่านั้นในการบ่มเพาะ

การแสดงออกของฉินหนานเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ตอนแรกเขาไม่ได้สนใจฝางซูแต่ใครจะคิดว่าเธอจะปากเสีย
เรียกเขาว่า “ขยะ” อย่างไม่หยุดหย่อน

“ทำไมมันสำคัญอะไรที่ข้าจะต้องฝึกอยู่ในตระกูลฉิน?”
ฉินหนานโต้กลับด้วยท่าทางไม่แยแส
“นอกจากนี้ข้าไม่ได้มีความสนใจในการติดตามเจ้า ข้าเพิ่งเดินผ่านมานั่นคือทั้งหมด ในเมื่อเจ้ามาแล้วงั้นข้าก็ไม่จำเป็นต้องอยู่”

หลังจากที่ฉินหนานพูดเสร็จแล้วเขาก็หันหลังจากไปทันทีและเริ่มออกเดินทาง เขารู้สึกแย่ถ้าต้องพูดกับฝ่ายตรงข้ามอีก

“เจ้าพูดอะไร!? หยุดอยู่ตรงนั้น! เจ้าต้องขอโทษหญิงสาวคนนี้ตอนนี้ไม่งั้นเจ้าจะไม่มีทางออกไปได้ในวันนี้! “
เสียงของฝางซู ประกาศชัดเจน

อารมณ์ของ ฝางซูตอนนี้แย่มากๆ เพราะเธอซื้อแผนที่โบราณที่แพงมากมาจากในเมือง หลินซู และเธอได้นำคนคุ้มกันของเธอออกมาพร้อมกับเธอเพื่อค้นหาสมบัติในแผนที่

เธอต้องการที่จะแอบเก็บสมบัติแล้วนำมันกลับไปที่ตระกูล
นี้แน่นอนจะทำให้พ่อแม่ของเธอต้องภูมิใจมากแน่ๆ

อย่างไรก็ตามพวกเขาได้ค้นหามา สี่ ชั่วโมงขณะที่พวกเขาเดินตามแผนที่ แต่นอกเหนือจากถ้ำที่โทรมๆนั้นก็ไม่มีอะไรอื่น แม้ว่า ฝางซู ปฏิเสธที่จะยอมรับมันแต่ในใจของเธอรู้ว่าจริงๆแล้วแผนที่โบราณนี้เป็นของหลอกลวง (มันมีจริงแต่พระเอกมันเอาไปหมดแล้ว)

เมื่อคิดว่าเธอถูกหลอกหญิงสาวของตระกูลฝาง ที่มีหน้าตาในสังคมโดนหลอกมา เธอจะไม่โกรธได้อย่างไร?

ตอนที่ฉินหนานปรากฏตัวต่อหน้าเธอด้วยใบหน้าที่ดูถูกเธอมันทำให้อารมณ์โกรธของ ฝางซู เริ่มปะทุทันที เจ้าขยะบ้า ฉินหนานจริงๆแล้วเจ้ายังคิดว่าเจ้ายังเป็นอัจฉริยะอันดับหนึ่งใช่ไหม?
มันเป็นเรื่องในอดีตไปแล้ว!

“อะไรนะ ขอโทษ?” ฉินหนานรู้สึกว่านี่เป็นเรื่องเหลวไหลอย่างสิ้นเชิง เขาไม่สามารถทำอะไรได้แล้วโต้แย้ง
“เจ้ามีปัญหากับที่หัวของเจ้าใช่ไหม? เจ้าต้องการให้ข้าขอโทษ? เรื่องอะไรที่ข้าควรขอโทษเจ้า? ที่จริงเจ้าพูดไม่ดีกับข้าเจ้าควรขอโทษข้ามากกว่า? “

ในตอนแรกฉินหนานคิดว่า สองพี่น้อง ฉินยูและฉินเซียว
เป็นคนที่ไร้ยางอายและน่ารังเกลียดแล้ว ใครจะคิดว่า
ฝางซู ยังแย่กว่าพวกนั้นอีก ตอนนี้เธอต้องการให้เขาขอโทษโดยที่เค้าไม่ได้ทำอะไรเลย

“อะไร!? เจ้ากล้าที่จะว่าข้า? “

เจตนาฆ่าของเธอได้ปะทุออกมาทันที
“ถ้าไม่ใช่เพราะเจ้าเป็นนายน้อยแห่งตระกูลฉิน เจ้าจะเสียใจอย่างแท้ จริงเจ้าไม่มีคุณสมบัติมาขอโทษข้าด้วยซ้ำ ! คนคุ้มกัน!! ข้าต้องการให้เจ้าตัดแขนขาของเขาและทำลาย เทียนตัน ของเขา! “

ใบหน้าของฉินหนานเริ่มเยือกเย็น เขาไม่เคยคิดว่า ฝางซู บ้าถึงระดับนี้ ถ้าเธอไม่ชอบเขา เธอยังจะตัดแขนขาและทำลายเทียนตันของเขา ผู้หญิงคนนี้เธอบ้าไปแล้ว?

ชายวัยกลางคน3คนไม่ลังเลใจถึงพวกเขาจะรู้สึกสงสารฉินหนาน พวกเขาพุ่งเข้าหาฉินหนานพร้อมๆกัน พวกเขาคุ้นเคยกับคำสั่งแบบนี้จากฝางซู ทั้งสามคนไม่รู้ว่าพวกเขาได้ตัดแขนขาออกไปกี่ข้างมากน้อยแค่ไหนแต่พวกมันก็ต้องทำภายใต้คำสั่งของฝางซู

ฝางซู ได้เฝ้าดูฉากนี้ด้วยท่าทางเยาะเย้ย ขั้น ก่อเกิด ระดับ 1 ไม่ได้เก่งกาจอะไรแต่เค้ากล้าที่จะพูดกับข้าอย่างหยาบคาย
นี้เป็นเพราะมันเรียกร้องหาความตายเอง

ในตอนนี้ฝางซู อยากที่จะเห็นภาพของฉินหนานคลานอยู่บนพื้นและกรีดร้องอย่างน่าสังเวช

“ดี! ข้าจะเล่นกับเจ้า ในตอนที่เจ้าต้องการตัดแขนขาและทำลาย เทียนตันข้า? ข้าจะดูว่าเจ้าจะทำได้อย่าที่ว่าไหม! “
ฉินหนานรู้สึกโกรธสุดขีด เขาเริ่มหัวเราะ
เขารีบก้าวอย่างรวดเร็วและ
แสดงออร่าของชั้นที่ 4 การชำระล้างร่างกายทันที!

เปรี้ยง!

ทันในนั้นรอยยิ้มที่หยิ่งยโสของ ฝางซู แข็งค้าง เธอรู้สึกถึงแรงกดดันมหาศาลทำให้เธอรู้สึกหดหู่ ในเวลาเพียงไม่กี่วินาทีจากการดูถูกและการเยาะเย้ยของเธอก็เปลี่ยนไปอย่างสมบูรณ์และกลายเป็น ความหวาดกลัวเกิดขึ้นภายในตัวเธอ

ชายวัยกลางคนสามคนแข็งค้างตกตะลึงอย่างสมบูรณ์

ขยะ ที่ครอบครอง ขั้น ก่อเกิด ระดับ 1 ในการจัดอันดับ จิตวิญญาณจะมีกลิ่นอายผู้บ่มเพาะ ขอบเขต ชำระล้างร่างกาย ชั้นที่ 4 ?
นี่มันเป็นไปได้อย่างไง?

“ฆ่าเขา! ฆ่าเขาเดียวนี้! “ในตอนนี้ฝางซู ดูเหมือนราวกับว่าเธอกลายเป็นคนเสียสติเธอตะโกนเสียงดังขึ้นเรื่อยๆ

‘ขยะ’ เช่นฉินหนานจะแสดงพลังของ ขอบเขตกายขั้นที่ 4 ได้ยังไง
ฝางซู ไม่สามารถยอมรับเรื่องนี้ได้ เธอรู้เพียงวิธีเดียวที่จะรับมือกับสถานการณ์เช่นนี้และนั่นก็คือทำให้ฉินหนานตาย
ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นฉินหนานก็ต้องตาย!

ใบหน้าของชายร่างยักษ์สามคนหันหน้าไปทางฉินหนานเมื่อพวกเขาฟื้นตัวจากความตกใจ จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ของพวกเขาแสดง ออร่าสีเหลืองออกมาพร้อมกันจากหลังของพวกเขา

ทั้งสามคนจำเป็นต้องทำตามคำสั่งเจ้านาย

ตอนนี้ทั้งสามคนได้โจมตีผสานกัน พวกเขาให้บรรยากาศที่ดูราวกับว่าออร่าและวิญญาณการต่อสู้ของพวกเขาได้ผสานเข้าด้วยกัน

“ฆ่า!”

ทั้งสามคนได้แสดงพลังและลงมือสังหารทันทีทันใด พวกเขาทั้งหมดใช้เทคนิคเดียวกันซึ่งค่อยๆผสานเข้าด้วยกันราวกับทักษะยุทธ ที่น่าเกรงขาม พลังของมันไม่มีที่สิ้นสุดและก่อให้เกิดการเคลื่อนที่ไม่สามารถหลบหลีกได้

“ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมทั้งสามคนถึงเป็นผู้คุ้มกันของฝางซู มีความสามารถแบบนี้ แม้จะมีพลังขั้น 4 ทั่วไปก็หาใช่คู้ต่อสู้ อย่างไรก็ตามมันไม่ได้เป็นปัญหาต่อหน้ากระบี่ของข้า! “

สายตาของ ฉินหนาน เผยให้เห็นร่องรอยของความเหี้ยมโหด
เขาไม่กลัวอะไรทั้งนั้น กระบี่เหล็กดำอยู่ในมือของเขาเหวี่ยงลงพร้อมกับมีเสียงที่ดังสนั่นกลายเป็นแสงแสบตา

“อา -” เสียงกรีดร้องของทั้งสามคนดังขึ้น แต่ก็เพียงเวลาสั้นๆ
มันราวกับว่าลำคอของพวกเขาถูกฉีกออกไปทันทีทำให้พวกเขาไม่สามารถที่จะส่งเสียงใด ๆ ออกมาได้

เลือดไหล นองไปทั้งพื้นดินรอบ ๆ ขณะที่ชายวัยกลางคนทั้งสามคนถูกฆ่าอย่างโหดเหี้ยมด้วยการฟันเพียงครั้งเดียวของฉินหนาน
(ดาบเดียวตายอีกละไม่มันเลยขอคู่ต่อสู้เก่งๆหน่อย)

ฝางซู เบิกตากว้างของเธอและใบหน้าของเธอที่ละเอียดอ่อนและสวยงามในอดีตกลายเป็นใบหน้าที่มีแต่ความหวาดกลัวในพริบตา ฉากเลือดสาดตรงหน้าเหมือนกรงเล็บขนาดยักษ์ที่ยึดติดกับร่างกายทำให้เธอหยุดหายใจไม่ชั่วขณะ

คนคุ้มกันของเธอพ่ายแพ้? แม้ว่าพวกเขาจะต้องเผชิญหน้ากับผู้บ่มเพาะร่างกายขั้นที่ 4 แต่พวกเขาก็ยังสามารถต่อสู้ได้ แต่ตอนนี้พวกเขาไม่แม้แต่จะสามารถขัดขวางการฟันเพียงครั้งเดียวจากฝ่ายตรงข้ามได้?

และทั้งหมดที่เกิดขึ้นยังเป็นเพราะ”ขยะ” ที่มีชื่อว่าฉินหนาน?

“สาวน้อยฝางซูทำไมไม่พูดอะไรบ้างละ?”
ในเวลานี้เสียงของฉินหนานสะท้อนอยู่ในหูของฝางซู
“เจ้าไม่ได้บอกว่าเจ้าจะตัดแขนขาทั้งสี่ของข้าและทำลายเทียนตัน ของข้าไม่ใช้เหรอ? ขอโทษที่นะบังเอิญข้าฆ่าพวกคนคุ้มกันของเจ้าไปแล้วตอนนี้พวกเขาคงไม่สามารถทำตามคำสั่งของเจ้าที่ให้ พวกเขามาตัดแขนขาและทำลาย เทียนตัน ของข้าแล้วละ ทำไงดี ในกรณีแบบนี้เจ้าเคยคิดบ้างไหมว่าจะเกิดขึ้น? “

เมื่อฝางซูได้ยินแบบนี้เธอรู้สึกราวกับว่าเธอโดนฟ้าผ่ากลางร่างกายของเธอสั่นสะเทือนไปทั้งตัวและใบหน้าของเธอก็ซีดเซียว

(ไม่นะไม่ผู้หญิงคนแรกที่ออกมาในเรื่องจะตายไหมเนี้ย)

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments