ตอนที่แล้วตอนต่อไป“ข้า…ข้า…..ข้า… ” ฝางซู รู้สึกราวกับว่าลำคอของนางถูกขัดอยู่นางพูดไม่ได้แม้แต่คำเดียว กองเลือดที่อยู่ตรงหน้านาง ทำให้เกิดความกลัวขึ้นไม่หยุดหย่อนในหัวใจของนางแทบพังทลายลงและทิ้งไว้เพียงสัญชาตญาณการเอาตัวรอดของนางเท่านั้น
“อย่าฆ่าข้า ข้าสัญญาว่าข้าจะไม่ทำเช่นนี้อีกในอนาคตได้โปรด …. ! “
ฉินหนานไม่แยแสแม้แต่น้อย ร่องรอยของความรู้สึกที่ไม่สนใจสิ่งใดได้แสดงออกบนใบหน้าของเขา
ความกลัวค่อยๆเติบโตขึ้นในหัวใจของฝางซู เมื่อนางขอร้องอ้อนวอน “ฉินหนานข้าเป็นลูกสาวของผู้นำ ตระกูล ฝาง เจ้าไม่ควรฆ่าข้า! ถ้าเจ้าจะฆ่าข้า … ข้า … พ่อของข้าจะหาเจ้าจนเจอและทำให้เกิดปัญหากับเจ้า … และ … และพี่ชายของข้าด้วย … พี่ชายของข้าปลุกพลังได้ระดับ 6 ขั้น ก่อกำเนิด ในการจัดอันดับ จิตวิญญาณ ถ้าเจ้าจะฆ่าข้า .. เขา … เขาจะแก้แค้นให้ข้า … “
ฉินหนานขมวนคิ้วขึ้น เขารู้จักพี่ชายของ ฝางซู เขาเป็นนายน้อยของตระกูลฝางและชื่อว่า ฝางอู่หลง ในอดีตฉินหนานเคยเจอเขาหลายครั้งและได้คุยกับเขา อย่างไรก็ตามฉินหนานไม่ได้คิดว่าฝางอู่หลง จะปลุกจิตวิญญาณได้ระดับที่ 6 ของขั้น ก่อกำเนิด ในการจัดอันดับจิตวิญญาณ
นี้ทำให้ ฉินหนาน สงสัยว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง โดยปกติแล้วถ้า ตระกูลฝาง ปลุกจิตวิญญาณ ระดับ 6 ขั้นก่อเกิด ในการจัดอันดับเขาจะเผยแพร่ข้อมูลนี้ทั่วเมืองและจัดเลี้ยงฉลอง เพราะว่า
ระดับ 6 ขั้นก่อเกิด ในการจัดอันดับจิตวิญญาณเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยปรากฏ ปกติจะพบในเมืองหลินซูได้ 10 ปีครั้งเท่านั้นถึงแม้ฉินหนานจะมีข้อสงสัย แต่เขาก็ไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้อีกต่อไป เขาเย้ยหยันไปที่ ฝางซู และพูดว่า “ฝางซู เอ้ย ฝาง ซู” เจ้านี้ช่างน่าสนใจจริงๆ แม้ในตอนนี้เจ้ายังคงข่มขู่ข้า นี่คือเทือกเขาพยัฆค์มังกร และแม้ว่าตอนนี้ข้าจะฆ่าเจ้าใครจะรู้ได้? “
ใบหน้าของ ฝางซู ซีดเซียวปากเล็ก ๆ ของนางก็สั่นตลอดเวลา อย่างไรก็ตามนางไม่สามารถพูดออกมาได้
ตอนนี้เอง ออร่าดาบผ่านตัวในชั่วพริบตาและชีวิตของ ฝางซู ก็ถูกตัดขาดทันที ดวงตาของนางเปิดกว้างแสดงถึงอาการการไม่เชื่อแม้กระทั่งจะตายไปแล้ว(T_T)(ทำไมผู้หญิงคนแรกของเรื่องโผ่ลมาได้ 2 ตอนเอง)
ฉินหนานมองไปที่ซากศพของนางและกล่าวอย่างเฉยเมยว่า
“ข้าลืมบอกไปว่าข้าไม่กลัวพ่อของเจ้าเพราะพ่อของข้าก็เป็นผู้นำของตระกูลฉิน ยิ่งไปกว่านั้นข้าก็ไม่กลัวพี่ชายของเจ้าเพราะเขาไม่มีค่าแม้แต่จะอยู่ในสายตาของข้า “หลังจากที่เขาพูดจบแล้วฉินหนานก็หันกลับและเดินออกไป เขาหันมองไปรอบ ๆ และปล้นเม็ดยาชำระล้างร่างกาย 20 เม็ดจากศพของ ฝางซู และแผนที่โบราณ (เลวนี้มันโจรปล้นฆ่านี้หว่า)
“ผู้หญิงคนนี้เป็นคนมั่งคั่งมาก”
ฉินหนานคิดถึงตัวเองในขณะที่เขานำเม็ดยาชำระล้างร่างกาย
เก็บไว้กับตัวจากนั้นเขาก็ขยับตัวไปที่แผนที่โบราณวิสัยทัศน์ปัจจุบันของฉินหนานสามารถดูอายุของแผนที่โบราณนี้ได้โดยง่าย มันเก่ามาก
“จากบทสนทนาระหว่างฝางซู และผู้คุ้มกันนางค้นพบถ้ำตามแผนที่นี้ ไม่มีสมบัติใดๆอยู่ข้างใน ตอนนี้ข้าก็ไม่มีอะไรจะทำ ถ้าข้าลงไปดูในถ้ำนี้ บางทีข้าอาตจะเจออะไรบ้าง… “
ฉินหนานตัดสินใจ(อ้าวเดาผิดนึกว่าฝางซูจะมาหาบ่อลมปราณ)
ยังมีเวลาหนึ่งวันก่อนที่เขาจะต้องกลับไปที่ตระกูลฉินดังนั้นเขาจึงยังคงมีเวลามากพอ เขาแค่ลงไปดูคงไม่เสียเวลามากนัก
ฉินหนานเดินตามแผนที่อย่างช้าๆและเดินไปยังตำแหน่งบนแผนที่ ไม่นานก็มีถ้ำปรากฏอยู่ต่อหน้าเขา
ถ้ำแห่งนี้ล้อมรอบด้วยกองไม้หนาแน่นที่มีความสูงของทางเข้าประมาณสองคน วัชพืชรกล้อมรอบถ้ำและดูธรรมดา
ฉินหนานเดินเข้าไปในถ้ำ ในขณะที่เขาเข้ามาใบหน้าของเขาเผยให้เห็นร่องรอยของความผิดหวัง
ภายในถ้ำมีขนาดประมาณสิบเมตร เราสามารถมองเห็นจุดสิ้นสุดของถ้ำด้วยตาเปล่า นอกจากวัชพืชที่ปกคลุมและหญ้าที่รกแล้วยังมีรอยกลวงอยู่บนผนังอีกด้วย สถานที่นี้ไม่มีอะไรพิเศษ
“ดูเหมือนว่าแผนที่โบราณนี้เป็นเพียงแค่การหลอกลวงเท่านั้น” ฉินหนานกล่าวเบา ๆพร้อมดับส่ายศีรษะขณะที่เขาเตรียมที่จะออกไป
ทันใดนั้นฉินหนานก็สังเกตเห็นรอยฝ่ามือที่ประทับบนผนังถ้ำรอยประทับนี้ถูกประทับไว้ลึกเข้าไปในผนังถ้ำ รายละเอียดของร่องรอยมีความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัดและเป็นเหมือนมีความหมายซ่อนอยู่ในร่องรอย
“อะไร ?” ฉินหนานเกิดความสงสัย ความรู้สึกของเขาบอกเขาว่ารอยพวกนี้มีอะไรแปลกๆ
ฉินหนานเดินตรงไปหามันอย่างรอบคอบตรวจดูที่รอยประทับฝ่ามือ เขาได้ดึงเอากระบี่เหล็กดำออกจากเอวและลองกดดูตามรอย อย่างไรก็ตามฉินหนานส่ายหัวของเขาเมื่อเขาตระหนักว่าไม่มีกลไก อยู่เบื้องหลังรอยประทับฝ่ามือ บางทีมันอาจจะเป็นสิ่งที่ทิ้งไว้เบื้องหลังการฝึกของคนอื่น
ในขณะนี้ร่างกายของฉินหนานก็สั่นสะท้าน
“จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ของพระเจ้าปรากฏตัวขึ้น? … “
ฉินหนานรู้สึกตกใจมากเขาไม่ได้มีเวลาที่จะไตร่ตรองเรื่องนี้
แรงกดดันถาโถมเข้ามาจางร่องรอยที่ดูธรรมดาบนผนังถ้ำ มันเหมือนกับว่าแรงกดดันจากสวรรค์“นี่มัน … .” ฉินหนานตกตะลึง ถ้าจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ของพระเจ้าได้ห่อหุ้มตัวเขาไว้ในรัศมีของตนไม่งั้นฉินหนานก็คงไม่สามารถทนต่อแรงกดดันนี้ได้ด้วยการบ่มเพาะแค่นี้ เขาจะถูกฉีกเป็นชิ้น ๆ
ในขณะนี้ฉินหนานรวบรวมความคิดของเขาอีกครั้ง ที่ประทับบนฝ่ามือด้านหน้าของเขาไม่ได้เป็นฝ่ามือทั่วไป แต่เป็นสิ่งที่ผู้เชี่ยวชาญทิ้งไว้เบื้องหลัง ทำให้เกิดรอยประทับบนฝ่ามือที่มีพลังอันน่ากลัวที่อยู่ในบริเวณนี้
“ดูเหมือนสมบัติที่อธิบายไว้ในแผนที่โบราณนั้นเป็นที่ฝ่ามือนี้ การบ่มเพาะของ ฝางซู ต่ำเกินไปนั่นคือเหตุผลที่นางไม่สามารถที่จะรับรู้ความรู้สึกในรอยฝ่ามือนี้ได้ ถ้าไม่ได้จิตวิญญาณของการต่อสู้ของพระเจ้าแล้วข้าก็คงไม่ได้สังเกตเห็นมันเหมือนกัน! “
ฉินหนานได้หายใจเข้าลึก ๆ และจ้องมองที่รอยอันน่าสยดสยองนี้ใบหน้าของเขาอดแสดงความตื่นเต้นไม่ได้
ตอนนี้เขามีจิตวิญญาณการต่อสู้ของพระเจ้าปกป้องร่างกายของเขาแล้วเขาก็ไม่กลัวว่ารอยประทับจะทำให้เขาบาดเจ็บอีก แต่เขาตัดสินใจที่จะสังเกตและคิดถึงฝ่ามือเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับตัวเองมีทักษะยุทธ์หลายรูปแบบในโลกการต่อสู้การบ่มเพาะขึ้นอยู่กับจิตวิญญาณ ยิ่งรับแรงกดดันที่แข็งแกร่งมากขึ้นจะยิ่งแข็งแกร่งขึ้น
มันจะเป็นประโยชน์มากถ้าเข้าใจสิ่งที่อยู่ในฝ่ามือนี้
ฉินหนานไม่ต้องการเสียเวลาใด ๆ เพราะร่างของเขานั่งเหยียดตรงอยู่หน้ากำแพงถ้ำนี้ สายตาของเขาจ้องอยู่บนรอยฝ่ามือบนผนัง ตอนนี้สมาธิทั้งหมดอยู่กับฝ่ามือข้างหน้าเขาเท่านั้น
ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!
ในชั่วขณะนั้นก็เกิดการระเบิดขึ้นภายในหัวของฉินหนาน
ฝ่ามือที่น่าสะพรึงกลัวและมีพลังสืบเชื้อสายออกมาเขารู้สึกราวกับว่ามันกำลังบดขยี้ฉินหนานและระเบิดเขาเป็นชิ้น ในทันใด จิตวิญญาณของพระเจ้าได้ออกมาปกป้องฉินหนานจากฝ่ามือที่รุนแรงและน่ากลัวนี้ให้หยุดนิ่งและลอยตัวอยู่ภายในจิตใจของฉินหนาน
ฉินหนานจมอยู่ในจิตของเขาและพยายามที่จะรับรู้ถึงพลัง
“ฝ่ามือนี้มีพลังระดับที่จะท้าทายสวรรค์ เมื่อฝ่ามือออกมาก็รู้สึกราวกับว่าไม่มีอะไรที่มันไม่สามารถทำลายได้และไม่มีดับศูนย์ “
ฉินหนานได้เข้าใจและไม่รู้ว่าจิตใจของเขาเริ่มเปลี่ยนไปวิธีนี้เรียนว่าการปรับแต่งจิตใจ
เวลาผ่านไปอย่างช้าๆฉินหนานนั่งอยู่หน้าร่องรอยฝ่ามือตลอดทั้งวัน
ตอนนี้ฉินหนานกำลังนั่งอยู่ตรงหน้ากำแพงถ้ำ ร่างกายของเขาไม่ได้ปล่อยกลิ่นอายออกมาแม้แต่น้อย แม้แต่หายใจของเขาก็หยุดลง ราวกับว่าเขาเป็นรูปปั้น
ทันใดนั้นดวงตาของฉินหนานเปิดขึ้นทันที มันเหมือนกับว่ามีพลังที่
รุนแรงโผล่ออกมาจากดวงตาของเขาและพุ่งเข้าไปที่กำแพงถ้ำทันใดนั้นออร่าที่ไม่มีตัวตนซึ่งเล็ดลอดออกมาจากฉินหนานทำให้เกิดแรงกดดันจากสวรรค์ซึ่งไม่ห่างไกลจากแรงกดดันของผู้เชี่ยวชาญ
ขอบเขตชำระล้างร่างกาย ขั้นที่ 5“ความเข้าใจในการบ่มเพาะวันนี้เป็นสิ่งที่ดีจริงๆ! แต่น่าเสียดายที่ระดับการบ่มเพาะของข้านั้นต่ำเกินไปไม่งั้นข้าอาจเข้าใจส่วนสำคัญของรอยฝ่ามือนี้ได้”
ฉินหนานส่ายหัว ตอนนี้เขาสามารถยืนยันได้ว่าผู้ประทับฝ่ามือนี้ต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับ จักรพรรดิ์แห่งการต่อสู้
ปกติแล้ว จิตจักรพรรดิ์แห่งการต่อสู้ ไม่ใช่สิ่งที่ ฉินหนาน จะเข้าใจได้เขาเพียง แต่รับรู้ได้เพียงแค่ปลายของยอดภูเขาน้ำแข็งเท่านั้น นอกจากนี้ถ้าฉินหนานไม่มีจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ของพระเจ้า แล้วมันจะเป็นไปได้ว่าเขาจะได้รับบาดเจ็บสาหัสจาก
จิตจักรพรรดิ์แห่งการต่อสู้“ตอนนี้ … ลองทดสอบ กระบี่ผ่าอัสนี ของข้า! “
การแสดงออกของฉินหนานมีความเงียบสงบขณะที่ดึงกระบี่เหล็กดำออกจากเอวและค่อยๆหลับตาลง หลังจากที่เวลาผ่านไปนัยน์ตาของฉินหนานก็เปิดออก กระบี่เหล็กดำในมือของเขาก็ถูกชักออกทันที
เปรี้ยง!
มีการระเบิดอย่างรวดเร็วเกิดขึ้นทันที
แสงกระบี่โผล่ออกมามีออร่าที่เปล่งประกายราวสวรรค์ มันเหมือนกับว่าร่างกายของฉินหนานได้หลอมรวมกับกระบี่และหั่นอากาศเป็นชิ้น ๆ ไปที่ผนังถ้ำ ทันทีทันใดมีรอยกระบี่ลึก ปรากฏขึ้นบนผนังถ้ำ
“ในการตวัดกระบี่ครั้งนี้มีเจตนาของข้าแฝงอยู่ ข้าเกรงว่าตอนนี้ข้าได้ก้าวเข้าสู่ขั้นเป็นหนึ่งเดียวกับกระบี่แล้ว!
นอกจากนี้ข้าคิดว่าผู้เชี่ยวชาญขอบเขตชำระล้างร่างกาย ระดับ 5
โดยเฉลี่ยคงไม่สามารถรับกระบี่นี้ได้!ฉินหนานรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง
การบ่มเพาะจากการเยี่ยมชมถ้ำแห่งนี้มีประโยชน์มากมายมหาศาล ถ้าฉินหนานไม่ได้รับการสนับสนุนจากฝ่ามือนี้เขาก็คงจะไม่สามารถเข้าไปในขอบเขตหนึ่งเดียวกับกระบี่ได้
“เอาล่ะ ตอนนี้น่าจะครบห้าวันและที่ข้ามาที่เทือกเขาพยัฆค์มังกร ตอนนี้พ่อคงเตรียมทุกสิ่งทุกอย่างเสร็จแล้ว เพราะฉะนั้นถึงเวลาที่จะมุ่งหน้ากลับไปที่ตระกูลฉิน … “ตาของฉินหนานกระพริบและออกจากถ้ำทันทีและลงจะภูเขา
เวลาตอนนี้ที่ ตระกูลฉินแห่งเมืองหลินซู
ได้เริ่มการประชุม ตระกูลประจำเดือน