ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป” การโจมตีของเรา นับได้ว่ารุนแรงที่สุดในโลก ไม่มีอะไรสามารถป้องกันเราได้ ไม่ต้องพูดถึงรูปแบบอำนาจพลังวิญญาณ แม้แต่ผู้มีโลกวิญญาณ หลายร้อยดวงยังถูกเราสังหารภายในครั้งเดียว “
พยัคฆ์ขาวเล่าอย่างภาคภูมิใจ
” ผู้มีโลกวิญญาณหลายร้อยดวง นี่เทพธิดามันสามารถทำแบบนั้นได้ด้วยงั้นหรอ “
‘ชูเฟิง’ ถามนางในใจ เขาอยากรู้ว่าผู้เชื่อมต่อโลกวิญญาณทำแบบนั้นได้ยังไง
” ทำได้สิ หากผู้เชื่อมต่อโลกวิญญาณทำสัญญากับโลกวิญญาณเหล่านั้นได้ พลังของผู้เชื่อมต่อจะแข็งแกร่งอย่างมากตราบใดที่โลกวิญญาณเต็มใจ เขาจะดึงพลังจากโลกวิญญาณออกมาใช้เท่าไหร่ก็ได้”
” จำนวนของโลกวิญญาณนั้นก็เป็นวิธีหนึ่งที่จะระบุความแข็งแกร่งของผู้เชื่อมต่อโลกวิญญาณ คนที่สามารถควบคุมโลกวิญญาณจำนวนนับร้อย คงจะก้าวเข้าสู่ วิถีเทพแห่งสงคราม “
เทพธิดาอธิบาย
” ก็ทำนองนี้แหละ “
ตอนนั้น ‘ชูเฟิง’ ตกใจอย่างมาก ที่เขาสามารถฆ่ายอดฝีมืออย่าง เทพแห่งสงคราม นั้นมีความหมายอยู่ 2 ประการ ประการแรกหมายความว่า เจ้านายของพยัคฆ์ขาวที่สร้างวิชาร้ายกาจเช่นนี้ขึ้นมา อาจเป็นไปได้ว่า เขาคือ บุคคลในตำนาน ‘ชิงหลง เทียน’
ประการที่สอง วิชาพยัคฆ์ฯสังหารนั้นมีบางอย่างซ่อนอยู่ แม้แต่ผู้เชื่อมต่อโลกวิญญาณที่เชี่ยวชาญการสร้างรูปแบบอำนาจพลังวิญญาณ คนเหล่านั้นต่างถูกเรียกว่า เป็นผู้มีการป้องกันที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก เขายังสามารถทำลายมันได้ภายในครั้งเดียว และยังสังหาร ผู้เชื่ยวชาญที่เข้าสู่ วิถีเทพแห่งสงคราม
ไม่ต้องสังสัยเลยว่าทำไม ‘มู่หรง เสียวเหยา’ ในยุคนั้น ถึงได้มีการโจมตีที่ร้ายกาจหาใครเปรียบ มันต้องเป็นฝีมือของทักษะเร้นลับ วิชาพยัคฆ์ฯสังหาร
” ยังไงก็ตาม เราสามารถอยู่ในโลกใบนี้ได้ตลอดกาล แต่ต้องดูวิธีการของพวกเจ้า เราไม่มีปัญหาที่จะอยู่ที่นี้ แต่มันคงน่าเสียดาย ดังนั้นเราจึงตัดสินใจที่จะออกสู่โลกภายนอกเพื่อทำให้ยุคนี้กลับมารุ่งเรืองอีกครั้ง “
พยัคฆ์ขาวหมุนตัวเป็นวงกลมรอบๆในอากาศขณะที่กล่าว แต่ แม้ว่าคำพูดของเขาจะเถรตรงและเต็มไปด้วยความมั่นใจที่มากจนเกินเหตุ แต่ ‘ชูเฟิง’ และ หญิงสาวชุดม่วง ก็ไม่ได้สงสัยในคำพูดของเขาเลย เพราะเขาเป็นถึง ทักษะเร้นลับในตำนาน
” แม้ว่าเจ้าทั้ง 2 จะไม่มีคุณสมบัติ แต่เราก็ต้องเลือกใครคนหนึ่ง ดังนั้นเจ้าต้องต่อสู้กันโดยที่เราจะเป็นคนตัดสินใจ ดังนั้นพวกเจ้าควรทำให้เต็มความสามารถเพื่อทำให้เรายอมรับ “
” แต่ไม่ต้องห่วง หากพวกเจ้ามีความสามารถที่น่ากลัวทั้งคู่ เราจะไม่โทษพวกเจ้า เราจะโทษว่าเป็นความผิดของเราที่มีตาหามีแวว แม้แต่มู่หรง เสียวเหยา ในปีนั้นเขาก็ธรรมดาๆ ตอนนั้นเราก็พูด เขาก็ไม่ยอมทำ เราก็ไม่ตำหนิใดๆ จากนั้น เราก็ได้เลือกเขา “
พยัคฆ์ขาว พูดด้วยน้ำเสียงที่เห็นใจ
” อะไรนะ มู่หรง เสียวเหยา นะหรอ ธรรมดา เขาเคยบอกแล้วมู่หรง เสียวเหยาไม่ทำ แล้วตอนนี้จะมาบ่นทำไม “
‘ชูเฟิง’แสนจะไม่พอใจ ที่ทักษะเร้นลับแสนจะเป็นคนที่หยิ่งผยอง เห็นแก่ตัว และไม่เอาใคร
แต่ที่กล่าวเช่นนี้ก็เป็นเพราะว่า ต้องการให้พวกเขาทำอย่างเต็มที่ โดยที่ ‘ชูเฟิง’ และ หญิงสาวชุดม่วง ไม่ต้องเกรงใจเขาเพื่อให้ความบันเทิงของพยัคฆ์ขาวเพิ่มมากขึ้น
แต่ดูจากสถานการณ์ในตอนนี้ เขาเหมือนบอกใบ้บางอย่าง พยัคฆ์ขาวพูดเป็นในๆแล้ว ว่าใครต้องการครอบครองพลังของเขา จะต้องเป็นผู้ชนะในการต่อสู้
” มัวจ้องอะไรอยู่ ทำไมเจ้าทั้งสองถึงไม่เริ่ม หากยังมัวลังเล ระวังเราอาจจะเปลี่ยนใจ “
พยัคฆ์ขาวกวาดสายตาไปที่ทั้งสองคน พร้อมกับแสดงความหงุดหงิด
” ตายซะ!!! “
เมื่อพยัคฆ์ขาวพูดจบ หญิงสาวก็เข้ามาจู่โจมดั่งสายฟ้าแลบ ออร่ารอบๆตัวเส้นผมและดวงตาของนางเปลี่ยนเป็นสีม่วงอีกครั้ง ดวงตาของนางเต็มไปด้วยจิตสังหาร นางต้องการให้ ‘ชูเฟิง’ ตายอย่างแท้จริง
ออร่าสีม่วงกระจายออกไปเหมือนลูกไฟ สีของมันดูแสนจะชั่วร้าย พุ่งเข้ามาอย่างสัตว์ที่กำลังล่าเหยื่อ ซึ่ง ‘ชูเฟิง’ ไม่สามารถรับได้หมดแน่ๆ
เขาจึงตั้งหลัก พร้อมกับสร้างธนูสีทองและลูกศรขึ้นมาในมือข้างซ้ายของเขาเพื่อเตรียมตอบโต้
จากนั้นเขาก็ง้างธนูพร้อมกับลูกศรเป็นรูปพระจันทร์เต็มดวงเมื่อยิงออกไปมันเหมือนกับฝนดาวตก ลูกศรที่ลอยอยู่เต็มอากาศเป็นสีทอง เข้าปะทะกับลูกไฟสีม่วงจนเกิดระเบิด เป็นควันสีม่วงกระจายออกมา แต่ที่น่าตกใจ คือควันสีม่วงเหล่านั้นไม่หายไป มันก่อตัวหนาเหมือนกำแพงเหล็ก
* ตูม ตูม ตูม *
หลังที่ลูกศรปะทะกับลูกไฟสีม่วงไม่หมด มันก็พุ่งลงมาใส่สุสานจนเกิดเป็นหลุมลึกปรากฏขึ้นมาบนพื้น ที่ทำมาจากวัสดุพิเศษ
จนทำให้ฝุ่นและหินกระจายไปทั่ว ‘ชูเฟิง’ขณะนั้นก็ว่องไวเหมือนลิงเขากระโดดหลบลูกไฟที่กำลังพุ่งเข้ามา แม้ว่ามันจะมีจำนวนมากแต่ก็ไม่สามารถตามความเร็วของเขาได้ทัน ‘ชูเฟิง’ จึงได้แต่หลบไปเรื่อยๆ
ขณะที่เขาหลบไปมา เขาก็หันหน้าไปมองหญิงสาวชุดม่วง เขาพบว่านางกำลังยืนอยู่โดยที่ไม่ขยับแม้แต่ก้าวเดียว นางใช้สายตาเหยียดหยาม มอง ‘ชูเฟิง’ เหมือนเป็นปลาตัวหนึ่งที่นอนรออยู่บนเขียงรอเวลาที่จะถูกหั่นเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
” ยัยเด็กบ้า หากข้าไม่ลงมือ เจ้าคงคิดว่าข้าเป็นแมวป่วยสินะ “
ตอนนั้น ‘ชูเฟิง’ หยุดคิดที่จะหลบ จู่ๆสายฟ้าสีทองก็ปรากฏขึ้นมาภายในดวงตาของเขาเวลาเดียวกันพื้นที่รอบๆก็เต็มไปด้วยคลื่นสายฟ้าเล็กๆสีทอง จากนั้น พวกเขาก็เริ่มก่อตัวปกคลุมทั่วตัว’ชูเฟิง’เหมือนกับโล่ป้องกันทุกส่วน
ทันใดนั้น’ชูเฟิง’ก็เข้าสู่อาณาจักรแก่นแท้วิญญาณระดับ 2
* บูม บูม บูม บูม บูม *
ทันใดนั้น ลูกไฟสีม่วงจำนวนมากก็พุ่งเข้ามาจากทุกทิศทาง จำนวนของมันผนึกเส้นทางของ ‘ชูเฟิง’ อย่างสมบูรณ์ จากนั่นก็ระเบิดใส่ร่างกายของเขาอย่างไม่จบไม่สิ้น
จนทำให้สุสานเกิดการสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงแต่ภายใต้การโจมตีนั้น หญิงสาวชุดม่วงไม่ได้รู้สึกว่ามันสำเร็จ นางแสนจะกังวล คิ้วของนางจึงได้แต่ขมวดลง
พร้อมกับใช้สายตาจ้องมองเงาที่ค่อยๆปรากฏขึ้นมาอย่างจริงจังสำหรับพยัคฆ์ขาวที่ลอยอยู่ในอากาศ เหมือนมีรอยยิ้มปรากฏออกมาทางมุมปาก จากนั้นก็พูดเบาๆ
” น่าสนใจดีหนิ “
โปรดติดตามตอนต่อไป . . . . . . . . . . . .
ที่มา: