ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปเสียงคำรามของพยัคฆ์ดังไปทุกทิศทางจนทั้งให้สุสานทั้งหมดสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง ราวกับว่าจะพังลงมาภายใต้ความกดดันด้านหน้าที่เปี่ยมไปด้วยพลังอำนาจ ออร่าของหญิงสาวสีม่วงดูเล็กกระจ้อย แม้ว่าออร่าของนางไม่ธรรมดา
” เจ้าเด็กน้อยทั้งสองพวกเจ้ากล้ามากนะที่รบกวนการพักผ่อนของเรา “
เสียงนั้นเหมือนเสียงคำรามของสัตว์นับพัน แต่ก็เหมือนคนที่มีอำนาจตะโกนเวลาพูดดังออกมาจากทุกทิศทางทิ้มแทงเข้าไปในส่วนลึกของหัวใจ พลังอำนาจที่เกินคณานับ เต็มไปด้วยกลิ่นไอโบราณ อายุของมันที่ดูจากออร่าประหลาดๆราวกับว่ามันเป็นวิญญาณที่หลับไหลมาเป็นเวลาหมื่นๆปีและเพิ่งถูกปลุกให้ตื่น มันทำให้คนรู้ได้ทันทีว่าความกดดันมหาศาลไม่ได้เป็นของโลกนี้
” ข้าน้อยขอคารวะ ข้าไม่ได้มาเพื่อรบกวนท่าน เพียงแต่ข้าน้อยไม่ต้องการให้ท่านเก็บตัวอยู่ที่นี้ ข้าน้อยจึงบังอาจมาเพื่อที่จะปลดปล่อยท่าน “
หญิงสาวชุดม่วงรีบคุกเข่าคารวะทันที นางประสานมือเข้าด้วยกันและกล่าวอย่างเคารพต่ออากาศ
” ไร้สาระ เราต้องการพักผ่อนตอนนี้แค่ออกมายืดเส้นยืดสายนิดหน่อยเท่านั้น หากเราไม่ยอมไปเจ้าจะทำไรเราได้ “
เสียงนั้นฟังดูโมโหนิดหน่อย จากนั้นกลุ่มควันสีขาวก็ปรากฏขึ้นมาจากทุกทิศทาง พวกเขาเริ่มที่จะรวมตัวกันในอากาศ ภายในพริบตา มันก็กลายเป็น พยัคฆ์ขาวขนาดใหญ่พยัคฆ์ตัวนั้นใหญ่มาก มันยาวกว่ายี่สิบเมตรและสามารถเขี้ยว’ชูเฟิง’ได้ภายในคำเดียว
แม้มันจะเป็นพยัคฆ์ขาว แต่นั้นไม่ใช่ร่างที่แท้จริง กลุ่มควันสีขาวยังคงวิ่งไปมาทั่วร่างกายของมัน เหมือนเป็นหมอกที่ลอยอยู่ในอากาศ
ขณะที่จ้อง ‘ชูเฟิง’ ละ หญิงสาวคนนั้นมันไม่ได้มีกายเนื้อใดๆและดวงตาของมันทั้งสองดวงก็เป็นหลุมดำ ขณะที่มองกวาดผ่าน ‘ชูเฟิง’ จนทำให้เขารู้สึกได้ถึงความกดดันและความหวาดกลัวเข้าไปในส่วนลึกของจิตใจ ‘ชูเฟิง’ คิดว่าหากมันจู่โจมเขา เขาจะต้องพลันหายไปในพริบตาอย่างไม่ต้องสงสัย
” เจ้านี่มันไม่มีอะไรดีสักอย่าง ไม่เพียงแต่จะลอบเข้าในสุสาน ยังวางค่ายกล พยายามรอรับผลประโยชน์เหมือนดั่งชาวนา “
หลังจากที่เขากวาดสายตามาที่’ชูเฟิง’ พยัคฆ์ขาวตัวนั่นก็ต่อว่าอย่างเย็นชา ตั้งแต่ประตูถูกเปิดเข้ามา เขาก็รู้ทุกอย่าง ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างภายในสุสานตอนนั้น ‘ชูเฟิง’ไม่ได้เถียงใดๆ ได้แต่ขมวดคิ้วลงโดยที่ไม่ส่งเสียง ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากพูด แต่เขาไม่รู้ว่าจะพูดกับมันยังไง
เขารู้สึกว่าตรงหน้าเขาคือ สัตว์อสูรวิญญาณโบราณที่อาศัยอยู่มานานกว่าหมื่นปีหากพูดอะไรไม่เข้าหู มีหวังจบไม่สวยแน่ และเส้นทางของเขาก็จะถูกปิดเมื่อสัตว์เทพ พยัคฆ์ขาว แสดงความคิดเห็นในความชั่วร้ายของ’ชูเฟิง’
หญิงสาวชุดม่วง ยิ้มอย่างพอใจ ปากของนางไม่สามารถอยู่เฉยๆได้ เห็นได้ชัดมุมปากนางโค้งขึ้น อีกทั้งนางรู้สึกว่า ตัวเองอาจได้รับเลือก จากพยัคฆ์ขาว และปล่อยให้’ชูเฟิง’เป็นหมาหัวเน่า
” เจ้าก็เหมือนๆกันนั่นแหละ เหตุผลที่มานี่ไม่เหมือนกับที่เจ้าพูดมา ที่มาก็เพื่อพลังของเราสินะ “
” เจ้ามีวัตถุประสงค์จึงต้องการฆ่าเขาให้ได้ ดังนั้นเห็นได้ชัดว่าเจ้าเป็นคนที่ไม่สนว่าจะใช้วิธีไหนก็ตามเพื่อให้เป้าหมายของเจ้าสำเร็จ หากเป็นเช่นนี้ต่อไปโตขึ้นเจ้าจะเป็นยังไง “
ในตอนนั้น พยัคฆ์ขาวเหลือบมองหญิงสาวชุดม่วงแล้วตำหนิ
” ท่านอาวุโส ข้าน้อยรู้ดีว่าทำผิดเพราะหน้ามืด อยากให้ท่านรับเลือก เพื่อที่จะได้พลังที่แข็งแกร่งของท่าน ดังนั้น ข้าน้อยจึงไม่ได้ยั้งคิด ถ้าเจ้าโทษใคร เจ้าต้องตำหนิท่านที่มีพลังดึงดูดจนทำให้คนขาดสติ “
หญิงสาวหุบริมฝีปาก ใบหน้าของนางทำทีให้ น่าสงสาร นางแสร้งทำเป็นเศร้าเท่าที่จะทำได้แม้ว่านางต่างไม่เลือกยุทธวิธีที่จะงัดออกมาใช้ แต่สิ่งที่คาดไม่ถึงคือ การที่แม่นางคนนั้น พูดจาประจบประแจง ขณะนั้นพยัคฆ์ขาวมีใบหน้าเต็มไปด้วยความสุข
สิ่งที่เขาชอบที่สุดคือการทีคนมาประจบเขา
” ท่านอาวุโส พลังของท่านยิ่งใหญ่หาใดเปรียบ ความแข็งแกร่งของท่านก็มากที่สุดในโลก ท่านไม่ควรมาหยุดพักผ่อนอยู่ที่นี่ แต่ท่านควรให้เกียรติเรามอบประสบการณ์ของท่านแสดงให้เราได้เห็น ไม่งั้น ชาตินี้คนที่ไม่ได้เห็นพลังของท่านคงจะเสียใจไปตลอดชีวิต “
เห็นว่านางประจบสำเร็จ ‘ชูเฟิง’จึงไม่คิดจะนั่งรอความตาย เขาจึงรีบคุกเข่าลงเคารพพร้อมกับประจบให้พยัคฆ์ขาว
” ฮ่า ฮ่า ฮ่า เจ้าหนุ่มน้อย เจ้าเข้าใจพูดดีหนิ แต่นั้นก็เป็นเรื่องจริง หากเรามัวแต่อยู่ที่นี่ ทุกคนคงจะผิดหวังไม่น้อย “
” ความแข็งแกร่งไม่มีใครเทียบเราได้ แม้แต่เจ้าแก่สามตัวนั้น “
พยัคฆ์ขาวกล่าวอย่างภาคภูมิใจ มันใช้กรงเล็บของมันเคาะไปที่เคราเบาๆ เห็นได้ชัดว่าเขามั่นใจตัวเองแบบสุดๆ
” เจ้าแก่สามตัว นั้นคือ . . . . “
หลังจากที่ได้ยินคำพูดของพยัคฆ์ขาว ‘ชูเฟิง’ ก็ พึมพำกับตัวเอง
” ชูเฟิง เจ้าไม่ควรพลาด เจ้านี้มันโชคดีจริงๆ ถ้าเราจำไม่ผิดต้องมีผนึก ทักษะเร้นลับ อีกสามด้านในสุสานจักรพรรดิ เจ้าต้องไล่หาทางเข้าอื่นๆให้หมด “
” ทักษะเร้นลับทั้งหมดมีถึง 4 ชนิด หากเจ้าสามารถเรียนรู้พวกเขาได้ทั้งหมด อนาคตเจ้าจะต้องแข็งแกร่งอย่างมาก ในยุคนี้จะไม่มีใครสามารถต่อกรกับเจ้าได้ เจ้านับว่าโชคดีไม่น้อย ที่ได้โอกาสที่คนทั่วไปไม่สามารถได้รับ “
ขณะที่ ‘ชูเฟิง’ กำลังสังสัย เทพธิดา ก็กล่าวข้ามความตื่นเต้นของเขาไป ตอนนี้ยืนยันได้แล้วว่ามี ทักษะเร้นลับ ทั้งหมดอยู่ 4 ชนิดในตอนนั้น ‘ชูเฟิง’ ในใจแสนจะตื่นเต้น หากเขาโชคดีได้รับทักษะเร้นลับทั้ง 4 คงหาคนต่อกรด้วยไม่ได้
หรืออาจทำให้คนทั้งโลกต่างอิจฉา’ชูเฟิง’ตอนนั้นเหลือบมองหญิงสาวชุดม่วง และพบว่านางกำลังมองหน้าเขาขณะที่ใช้สายตาดูถูกเหยียดหยาม ที่เต็มไปด้วยความเกลียดซัง
‘ชูเฟิง’หันมามองตัวเอง และรู้สึกเหมือนกับโดนนางด่า ว่า เขานั้นหน้าด้าน
‘ชูเฟิง’ ก็แอบพอใจกับปฏิกิรยาของนาง แม้ว่านางจะรู้ว่ามี ทักษะเร้นลับที่นี่ แต่เห็นได้ชัดเจนว่านางไม่ได้รู้ความลับของสุสานจักรพรรดิ นางยังคงไม่รู้ยังคงมีอีกสามทางเข้าในอาณาจักรมังกรฟ้า และยังมี อีก สามทักษะเร้นลับที่ถูกผนึก
” เราจะทำตามที่ตัวเองต้องการเท่านั้น ตัวเราคือวิชาพยัคฆ์ฯสังหาร ถูกสร้างขึ้นโดย จักรพรรดิ์แห่งทักษะ แต่ไม่อาจเปิดเผยนามของนายท่านได้ แต่ด้วยพลังของเขาเพียงเล็กน้อย หรือแค่การขยับเท้า อาจทำให้แผ่นดินและผืนฟ้าแทบจะถล่มลงมาได้ เขาเป็นคนที่มีพลังอำนาจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกใบนี้ “
ใบเวลานั้น สัตว์เทพ พยัคฆ์ขาวเล่าเรื่องของตนเล็กน้อย
‘ชูเฟิง’ ได้เตรียมใจไว้แล้ว เมื่อต้องเผชิญกับสถานการณ์แบบนี้ เรื่องนั้นเขาพอรู้จากเทพธิดามาว่าว่าทักษะเร้นลับถูกสร้างขึ้นจากจักรพรรดิแห่งทักษะ
เขาจึงไม่มีปฏิกิริยาใดๆ แต่หญิงสาวชุดม่วงใบหน้าของนางเต็มไปด้วยความตกใจ เห็นได้ชัดว่านางไม่รู้ว่าที่มาของทักษะเร้นลับจะน่าประทับใจเช่นนี้
โปรดติดตามตอนต่อไป . . . . . . . . . . . .
ที่มา: