ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปในมุมมองของเซี่ยวฉินซู จิตวิญญาณ ขั้นก่อเกิด ระดับ 6 ในการจัดอันดับจิตวิญญาณ สามารถผู้ได้แค่ พอใช่ เท่านั้น
อย่างไรก็ตาม จิตวิญญาณ ขั้นก่อเกิด ระดับ 8 ก็เพียงพอที่จะดึงดูดความสนใจของเธอเป็นอย่างมาก
จิตวิญญาณ ขั้นก่อเกิด ระดับ 8 ยิ่งใหญ่แค่ไหน?
แม้แต่ใน นิกายจิตวิญญาณ บุคคลที่มี จิตวิญญาณ ระดับ 8 จะได้รับการจัดอันดับ จิตวิญญาณ ถือว่าเป็นหนึ่งในอัฉริยะพรสวรรค์ยอดเยี่ยม
ตัวอย่างเช่น เซี่ยวฉินซู เธอเองก็ จิตวิญญาณ ขั้นก่อเกิด ระดับ 8 ในการจัดอันดับจิตวิญญาณ
“ฉินหนานเจ้า … ” เซี่ยวฉินซู เป็นหนึ่งในอัฉริยะชั้นยอดของ นิกายจิตวิญญาณ เธอจึงสามารถที่จะสงบสติอารมณ์ลงได้อย่างรวดเร็ว
แต่ความรู้สึกไม่พอใจเกิดขึ้นในสายตาของเธอขณะที่เธอพูดว่า
“เจ้า … เจ้าเก่งมากที่ปกปิดมันไว้! “ฉินหนานยิ้มและพูดขณะที่จับกำปั้นไว้ด้วยกันว่า
(ทำมือแบบเคารพในหนังจีนอะครับ)
“ผู้อาวุโสเซี่ยวข้าไม่ได้ตั้งใจปิดบังมันไว้ข้าหวังว่าท่านจะเข้าใจ นอกจากนี้แล้วผู้อาวุโสเซี่ยวระดับ จิตวิญญาณ ของข้าสามารถเป็นศิษย์ของนิกายจิตวิญญาณได้หรือไม่? “เมื่อได้ยินเรื่องนี้ เซี่ยวฉินซู ได้รีบเปลี่ยนอารมณ์โกรธของเธอและหันไปเผชิญหน้ากับฝูงชนก่อนที่จะพูดด้วยเสียงดังว่า
“ข้าขอยอมรับฉินหนานเข้าเป็นลูกศิษย์ของ นิกายจิตวิญญาณ เดี้ยวนี้” ตอนนี้ในฐานะผู้อาวุโสชั้นนอกของ นิกายจิตวิญญาณ ข้าประกาศว่าฉินหนานเป็นผู้ชนะเลิศของการทดสอบและยังเป็นศิษย์ชั้นนอกของนิกายจิตวิญญาณ ทันที! “คำที่มาพร้อมกับแรงกดดันที่น่ากลัวซึ่งปกคลุมทั่วพื้นที่เหมือนดั่งระเบิด
มันทำให้ผู้คนส่วนใหญ่ของได้สูญเสียสติความคิดของพวกเขา
ราวกับแรงกระแสที่ไม่มีที่สิ้นสุดอย่างไรก็ตามเรื่องนี้ฉินเทียน ไท่ซานและคนอื่น ๆ ยังคงมีการแสดงออกที่ว่างเปล่าบนใบหน้าของพวกเขา แต่ยังคงรีบฟื้นตัวจากอาการช็อก
ในทางกลับกันใบหน้าของ ไป่ฟาง ขาวซีด
ใบหน้าของฝางอู่หลง ฝางลี่ และคนของ ตระกูลฝาง ขาวซีดเช่นกัน
ใบหน้าของ ฉินชางกง ฉินเทียนบา ลูกน้องของพวกเขาก็ยิ่งซีดยิ่งกว่า
กลุ่ม ฉินเทียน และ ไท่ซานยังคงสับสนเพราะพวกเขาไม่สามารถเข้าใจได้ว่าทำไม ฉินหนาน ที่มีจิตวิญญาณ ขั้นก่อเกิด ระดับ 1 ซึ่งเป็น ขยะจึงกลายเป็นอัจฉริยะชั้นยอด ที่มี จิตวิญญาณ ขั้นก่อเกิด ระดับ 8 และ ตอนนี้เป็นลูกศิษย์ ของ นิกายจิตวิญญาณ
ในตอนนี้ความคิดของ ไป่ฟาง,ฝางอู่หลง,ฝางลี่,ฉินชางกง,ฉินเทียนบา และคนอื่น ๆ ตอนนี้พวกเขาตระหนักว่าพวกเขาได้ทำร้ายคนที่ไม่สมควรทำร้ายเข้าแล้ว
การมี จิตวิญญาณ ขั้นก่อเกิด ระดับ 8 เป็นสิ่งที่มีอยู่ในตำนานเท่านั้น ใครก็ตามที่มีเรียกได้ว่าหายากระดับหนึ่งในล้านของอัจฉริยะ!
คนเดียวที่ได้รับเลือกให้เป็นศิษย์ชั้นนอกของนิกาย นิกายจิตวิญญาณ ในเมือง หลินซู!
การทำความผิดต่อคนแบบนั้นเท่ากับเป็นคนโง่งมอย่างแท้จริง
อย่างไรก็ตามพวกเขาได้ข่มขู่ฉินหนานไปอย่างดุเดือด
พวกเขาล้อเลียนเขารังแกเขาและพยายามฆ่าเขาหลายต่อหลายครั้ง … ฉินหนานจะปล่อยให้พวกเขารอดกลับไป?
รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของฉินหนานผู้ซึ่งกำลังกล่าวคำขอบคุณ
เซี่ยวฉินซูหลังจากนั้นดวงตาของ ฉินหนาน มองไปที่ ไป่ฟาง บนแท่นและพูดว่า
“ผู้อาวุโสไป่ฝางข้าเคยถามท่านมาก่อน เป็นเรื่องจริงใช่ไหมที่สำหรับลูกศิษย์ของนิกายจิตวิญญาณ ที่จะฆ่าล้างบางใครในโลกสามัญก็ได้? ““เรื่องนี้…” ไป่ฟาง ลังเลที่ตอบคำถามอย่างกะทันหัน แต่เขารีบตอบสนองด้วยการพยักหน้าเหมือนลูกเจี๊ยบจิกข้าวบนพื้นดินและพูดว่า
“ใช่ใช่ใช่นั่นแหละ น้องฉินเจ้ามีศัตรูในโลกนี้บ้างไหม? เจ้าสามารถบอกข้าได้ทันที ข้าจะช่วยเจ้าจัดการกับพวกเขา ถึงแม้ว่าพื้นฐานการบ่มเพาะของข้าไม่สูงนัก แต่ก็เพียงพอแล้วที่จะกำจัดคนโลกนี้ได้! “
ในเวลานี้ ไป่ฟาง ได้ทอดทิ้ง ตระกูล ฝาง ไปโดยสิ้นเชิงและพูดด้วยคำพูดที่ประจบ แต่มันไม่ใช่ความผิดของ ไป่ฟาง เหตุผลหลักก็คือ
จิตวิญญาณ ขั้นก่อเกิด ระดับ 8 ในการจัดอันดับจิตวิญญาณได้เขามายังสมองของเค้าคนอื่น ๆ อาจจะไม่รู้ แต่ ไป่ฟาง รู้อย่างชัดเจนว่าตั้งแต่ ฉินหนาน ได้ปลุกจิตวิญญาณ ขั้นก่อเกิด ระดับ 7 ในการจัดอันดับจิตวิญญาณ
สถานะของ ฉินหนาน จะสูงกว่าของเขาเมื่อเข้าได้ร่วมกับ
นิกายจิตวิญญาณ (มันหมายถึงแค่แสดง 7 ก็ยอมแล้วนี้มา 8 เลย)นี่เป็นเพราะจิตวิญญาณการต่อสู้ของ ไป่ฟาง อยู่ในระดับ
จิตวิญญาณ ขั้นก่อเกิด ระดับ 6 ในการจัดอันดับจิตวิญญาณ
ดังนั้นด้วยภาพลักษณ์ปัจจุบันของฉินหนานการจัดการกับ ไป่ฟาง
จะง่ายพอ ๆ กับกำจัดขยะระหว่างคนที่มีพรสวรรค์ที่หายาก จิตวิญญาณ ขั้นก่อเกิด ระดับ 8 ในการจัดอันดับจิตวิญญาณและจิตวิญญาณ ขั้นก่อเกิด ระดับ 6 ในการจัดอันดับจิตวิญญาณธรรมดาคนนึงของเขาคงจะเลือกได้อย่างง่ายดาย
“ขอบคุณผู้อาวุโส ไป่ฟาง” ฉินหนานยิ้มอย่างนุ่มนวลและเขาไม่ได้ปฏิเสธข้อเสนอของผู้อาวุโสไป่ฟาง
แม้ว่าในหัวใจของ ฉินหนาน ไป่ฟาง ถูกรวมอยู่ในรายการ ‘ต้องฆ่า’ แต่เนื่องจาก ไป่ฟาง เป็นศิษย์ของ นิกายจิตวิญญาณ พร้อมด้วยเรื่องจริงที่ว่าการบ่มเพาะของเขาถึงจุดสูงสุดของขอบเขตเซียนเทียน แล้ว
ฉินหนาน ไม่สามารถเอาชนะเขาได้ด้วยความสามารถในตอนนี้ของเขาเพราะฉะนั้นฉินหนานจึงตัดสินใจที่จะใช้เวลาในการจัดการกับ
ไป่ฟาง หลังจากที่ได้เป็นศิษย์ นิกายจิตวิญญาณ (ตายแน่ไอ้ไป่ฟาง)ฉินหนานจึงมองไปที่กลุ่ม ตระกูลฝางและกล่าวว่า “พวกเจ้าคนแซ่ฝางคงรู้ดีว่าจะเกิดอะไรขึ้นในวันนี้ ตอนนี้ข้าอยากให้ ตระกูลฝาง
ตอนคำถามให้ข้าพอใจ!ฝางอู่หลง ฝางลี่และลูกน้องของพวกเขาพบว่าตัวเองสั่นระริกตอนนี้ภายในใจมีแต่ความกลัวอยู่ในหัวใจของพวกเขา
ตอบคำถาม? เขาจะทำอะไรกัน?ความจริงของเรื่องก็คือพวกเขาได้ทำข้อตกลงกับผู้อาวุโสไป่ฟางเพื่อทำลายล้างตระกูลฉิน พวกเขาได้รวมหัวกับตระกูลฉินบ้างส่วนให้
เป็นคนทรยศหลังจากที่ฝางอู่หลง แสดงจิตวิญญาณการต่อสู้ของเขา … ถ้าฉินหนานไม่ได้แสดงอำนาจของเขาอย่างกระทันหันตระกูลฟางของพวกเขาจะต้องทำลายล้างตระกูลฉินได้แน่นอนไม่มีอะไรที่จะระงับความเกลียดชังระหว่างสองตระกูลนี้?
ในตอนนี้นั้นฝางอู่หลง, ฝางลี่และคนอื่น ๆ มองไปที่ฉินหนานด้วย
สายตาที่ไม่เหลืออะไรพวกเขารู้อยู่แก่ใจว่าโชคชะตาของตระกูลฟาง และชีวิตของพวกเขาจะถูกกำหนดและตัดสินใจโดยฉินหนาน
“นายน้อยฉินหนาน!” ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงดังขึ้นซึ่งพูดต่อไปว่า
“ตระกูลฟางไม่สมควรปล่อยเอาไว้! ก่อนหน้านี้เมื่อ ตระกูลฝาง
ได้ใช้กำลังข่มขู่เรา เราเลยได้แต่ทรยศต่อตระกูลฉินและเข้าร่วมกับพวกเขา ตั้งแต่นั้นมาข้าก็คิดจะรอเวลาที่เหมาะสมแก้แค้นให้กับตระกูลฉิน! ใครจะคิดว่านายน้อยฉินหนานจะโดดเด่นที่สุดในตอนท้ายแบบนี้ … “
(ไม่รู้จะด่ามันยังไงดีแม่งคนอะไรจะหน้าด้านได้ขนานนี้)ไม่มีใครคิดว่าคนที่พูดออกมาจะเป็นฉินชางกง
ฉินชางกงกำลังวิ่งเต้นไปรอบ ๆ ใบหน้าของเขาสีแดงสดใสขณะที่เขาพูดคำเหล่านี้ราวกับว่าทุกคำพูดออกมาจากใจจริง ทุกคนตกตะลึง
และคิดพร้อมกันว่ามีคนไร้ยางอายแบบนี้ในโลกด้วย?เมื่อเขาเห็นเรื่องนี้ฉินหนานหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง หัวเราะเยือกเย็นที่สุดพร้อมกล่าวว่า “หุบปากของเจ้าซะ”
ตั้งแต่ทุกคนรู้ว่าฉินหนานมี จิตวิญญาณ ขั้นก่อเกิด ระดับ 8 ในการจัดอันดับจิตวิญญาณ ทุกๆคำพูดของเขาก็มาพร้อมกับ
แรงกดดันที่ทรงอำนาจขณะที่คำพูดทั้งสามคำได้ทำลายความรู้สึกของฉินชางกงเปลี่ยนไปทันที เขารู้สึกเหมือนภูเขาที่มองไม่เห็นได้กดลงบนร่างกายของเขาทำให้เขาไม่กล้าที่จะพูดอะไรอีกต่อไป
ฉินหนานจึงจ้องมองที่ฉินชางกง ฉินเทียนบา และกลุ่มคน
ด้วยสายตาเย็นชาราวน้ำแข็งและกล่าวว่า
“ตอนนี้ไม่มีสิ่งใดที่จะอธิบายให้ข้าได้ ข้ารู้อยู่แล้วว่าเจ้ากำลังพยายามโค่นพ่อของข้าซึ่งข้าแนะนำแล้วให้เจ้าอย่าทำแบบนั้น นอกจากนี้เมื่อ
ลูกศิษย์ของตระกูลฉินได้ถูกทำร้ายไม่เพียง แต่เจ้าไม่ช่วยพวกเขา แต่เจ้าเลือกที่จะเข้าข้างกับ ไป่ฟาง … และสุดท้ายเมื่อตระกูลฉินถูกคุกคามจาก ตระกูลฝาง เจ้าเลือกที่จะ ทรยศต่อตระกูลฉินและเข้าร่วมตระกูล ฝาง โดยไม่ลังเลใจ … เจ้าต้องเข้าใจว่าตั้งแต่นั้นมาเป็นต้นไป พวกเจ้าทุกคนไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของตระกูลฉินอีกแล้ว! “เมื่อพวกเขาฟังคำพูด ฉินชางกง,ฉินเทียนบา และใบหน้าของคนอื่น ๆ กลายเป็นหมองคล้ำเต็มไปด้วยความเสียใจ
ก่อนหน้านี้ในตระกูลฉิน ฉินชางกงผู้ซึ่งคิดว่าเขาเป็นอัจฉริยะยอดเยี่ยมหลังจากที่ได้รับการยกย่องเป็นจิตวิญญาณ ขั้นก่อเกิด ระดับ 5 ในการจัดอันดับจิตวิญญาณ ได้เยาะเย้ยและสร้างความน่ารำคาญให้แก่ ฉินหนาน เขายังได้มีส่วนร่วมในแผนการของพ่อของเขาที่จะโค่นล้ม
ฉินเทียนลงฉินเฉิงกงและฉินเทียนบา รู้ดีว่าการกระทำของพวกเขาน่าขันแค่ไหน
พวกเขากล้าที่จะเรียกอัจฉริยะที่มี จิตวิญญาณ ขั้นก่อเกิด ระดับ 8 ในการจัดอันดับจิตวิญญาณ ว่าขยะ?
พวกเขากล้าที่จะคัดค้านอัจฉริยะ จิตวิญญาณ ขั้นก่อเกิด ระดับ 8 ในการจัดอันดับจิตวิญญาณ หลายต่อหลายครั้ง?
ไม่ได้เป็นเพียงแค่ฉินชางกงและฉินเทียนบาเท่านั้น
แต่ผู้อาวุโสของตระกูลฉินยังเต็มไปด้วยความเสียใจอีกด้วยก่อนหน้านี้ที่ฉินหนานได้ให้คำแนะนำแก่พวกเขาในห้องประชุม
แต่ไม่มีใครฟังพวกเขาได้ปฏิบัติต่อฉินหนานราวกับว่าเขาเป็นขยะ!!!
สิ่งนี้ทำให้ฉินชางกง ฉินเทียนบา และลูกน้องยิ่งเสียใจมากขึ้นก็คือเมื่อเผชิญหน้ากับภัยคุกคามของตระกูลฟาง พวกเขาไม่ได้เลือกที่จะอยู่ในกับตระกูลฉิน? ทำไมพวกเขาไม่เลือกที่จะไม่ยอมแพ้แม้ว่ามันจะหมายถึงความตาย?
ถ้าพวกเขาไม่ได้ทรยศต่อตระกูลฉินก็เป็นไปได้ว่าฉินหนานคงจะช่วยชีวิตพวกเขาได้เพราะตัวตนของพวกเขาเป็นส่วนหนึ่งของตระกูลฉิน
อย่างไรก็ตามเสียใจตอนนี้ก็ไม่ได้เป็นประโยชน์อะไร
พวกเขาสามารถตำหนิตัวเองเพียงคนเดียวที่ข่มเหงคนที่อ่อนแอ
กลัวผู้ที่แข็งแกร่งและกลัวตายกันมากเกินไปฉินหนานมองไปที่กลุ่ม ตระกูลฝาง และ ฉินเทียนบา พร้อมกล่าวว่า
“พวกเจ้าทุกคนต้องทำลายการบ่มเพาะของเจ้าและออกจาก
เมือง หลินซู ไปซะ ข้าจะให้เวลาเจ้า 3 ก้านธูป ถ้าเจ้าไม่ทำในช่วงเวลาที่กำหนดข้าจะไม่แสดงความเมตตา ถ้าใครไม่เห็นด้วยเจ้าสามารถมาสู้กับข้าและข้าจะให้เจ้าได้ตายโดยไม่รู้สึกเจ็บปวด! “ทุกประโยคเดียวเต็มไปด้วยจิตสังหาร!
คนของตระกูลฟาง พร้อมกับฉินเทียนบา ฉินชางกง และคนอื่น ๆ มีการแสดงออกที่น่าสงสารบนใบหน้าของพวกเขาขณะที่พวกเขาลดหัวของพวกเขาลง
พวกเขาไม่มีทางเลือกอื่น ในความเป็นจริงคำแนะนำของฉินหนานคือผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับพวกเขา
อย่างน้อยพวกเขาจะสามารถรักษาชีวิตของตัวเองได้
ในตอนนั้นเองตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปตระกูลฉินได้กลายเป็นแกนหลัง
ของเมือง หลินซู โดยไม่มีฝ่ายตรงข้ามออกไป!(สรุปไอ้ฉินชางกงไม่ตายใช่ไหมไรว้าาาาไหนบอกไม่ปราณีใครไง)