I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Peerless Battle Spirit ตอนที่ 33 – การเดินทางไปยังนิกาย

| Peerless Battle Spirit | 972 | 2366 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

ไม่ต้องเรื่องอะไรทั้งนั้นภายใต้การดูแลของ ไป่ฟาง คนของตระกูลฝาง และกลุ่ม ฉินเทียนบา ถูกทำลายการบ่มเพาะของพวกเขาและรีบออกไปจากเมือง หลินซู ทันที

ข่าวเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นใน การทดสอบในการเข้ารวม
นิกายจิตวิญญาณ ได้แพร่กระจายไปทั่วเมือง หลินซู

ทั้งเมืองเกิดโกลาหนขึ้น

ขยะเช่นฉินหนานเป็นอัจฉริยะชั้นยอด ในตำนาน ที่มี จิตวิญญาณ ขั้นก่อเกิด ระดับ 8 ในการจัดอันดับจิตวิญญาณ แทนที่จะเป็น ขยะ

ตระกูลฝาง ซึ่งเป็นหนึ่งในสองตระกูลชั้นนำได้ถูกทำลายลงไป
ทำให้ ตระกูลฉิน เป็นตระกูลที่ใหญ่ที่สุดในเมือง หลินซู?

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าผลงานแต่ละชิ้นทำให้ทุกคนตกใจ ทั้งเมืองตกใจ

.. สามชั่วโมงต่อมาในห้องประชุมของตระกูลฉิน …

ฉินเทียนอยู่ในที่นั่งหลักกับ เซี่ยวฉินซู และ ไป่ฟาง ไปที่ด้านข้าง
ด้านล่างพวกเขาเป็นลูกศิษย์ที่เหลือของตระกูลฉินและฉินหนาน

ใบหน้าของฉินเทียนนั้นเต็มไปด้วยสีแดงราวกับว่าเขาเมามากเมื่อพูดว่า “ใครจะคิด … ใครจะคิดว่าข้าฉินเทียนมีลูกเป็นสุดยอดอัจฉริยะ … “

ไท่ซาน และลูกศิษย์ใส่ใจกับเรื่องนี้ ความตื่นเต้นบนใบหน้าของพวกเขาไม่มีท่าทางว่าความตื่นเต้นนี้จะหายไป

ในมุมมองของพวกเขาสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้เป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อมากเกินไปราวกับว่าพวกเขาทั้งหมดกำลังฝัน

ตอนแรกฉินเทียนกับไท่ซานและเหล่าลูกศิษย์ได้คาดการณ์การล่มสลายของตระกูลฉินและพร้อมสละเสียชีวิตของตัวเอง นอกเหนือจากความคาดหวังของพวกเขาการปรากฏตัวฉับพลันของฉินหนาน
ที่แสดงให้เห็นถึง จิตวิญญาณ ขั้นก่อเกิด ระดับ 8
ในการจัดอันดับจิตวิญญาณ !

 

ถ้าไม่ใช่เพราะแบบนั้นมันก็เป็นไปไม่ได้ที่จะมีทางรอดของตระกูลฉิน

เซี่ยวฉินซู นั่งอยู่ข้างๆยิ้มอ่อนโยนหลังจากได้ยินคำพูด หลังจากนั้นมีบางสิ่งบางอย่างมาหาเธอ เธอถามตรงๆ ว่า
“ฉินหนานจริงหรือไม่ที่พวกเขาบอกว่า ตอนแรกเจ้ามีปลุกได้พลัง
จิตวิญญาณ ขั้นก่อเกิด ระดับ 8 ในการจัดอันดับจิตวิญญาณ?
มีอะไรเช่นนั้นเกิดขึ้นจริงๆ? “

คำถามของ เซี่ยวฉินซู ได้ทำให้ ไป่ฟาง, ไท่ซาน, ฉินเทียน และคนอื่น ๆ เงยหัวขึ้นมาและมองไปที่ ฉินหนาน อย่างตื่นเต้น

เห็นได้ชัดว่า เซี่ยวฉินซู ได้ถามคำถามเดียวกันกับที่พวกเขาสงสัย

ฉินหนาน ได้เปลี่ยนจากจิตวิญญาณ ขยะ ขั้นก่อเกิด ระดับ 1 เป็น
จิตวิญญาณ ขั้นก่อเกิด ระดับ 8 ยอดอัฉริยะ เขาทำได้ยังไง?

ฉินหนานแสดงรอยยิ้มบนใบหน้า ขณะที่เขาคิดข้อแก้ตัวและพูดว่า
“ตอนที่ข้ายังเด็กข้าถูกฟ้าผ่า เมื่อสิ่งนี้เกิดขึ้นเทคนิคพิเศษปรากฏขึ้นในจิตใจของข้า เทคนิคนี้ไม่ใช้อะไรนอกจากความสามารถปกปิดระดับ จิตวิญญาณ ของข้าได้ นั่นคือเหตุผลที่จิตวิญญาณการต่อสู้ที่พวกเขาเห็นในช่วงพิธีปลุกจิตวิญญาณมันทำให้ดูเหมือนเป็น
จิตวิญญาณ ขั้นก่อเกิด ระดับ 1!

“ปกปิดระดับของจิตวิญญาณ?”

ฝูงชนความเข้าใจเรื่องราวได้อย่างรวดเร็ว

มีสิ่งต่างๆมากมายมาพร้อมกับสิ่งลึกลับมากมายที่ถูกค้นพบในโลกนี้ ทำไมจะปรากฏเทคนิคพิเศษหลังจากโดนฟ้าผ่าไม่ได้ละ

นอกจากนี้พวกเขาไม่สามารถหาคำอธิบายอื่นนอกเหนือจากนี้ได้แล้ว

 

“นั่นหมายความว่าการบ่มเพาะของเจ้าไม่ดีขึ้นเนื่องจากสถานการณ์พิเศษใด ๆ แต่เป็นเพราะเจ้าปกปิดมันเองใช่หรือไม่?”
ฉินเทียนถามทันที

“ใช่ข้าไม่ได้เจอเหตุการณ์อะไรทั้งนั้น ทั้งหมดคือข้าตั้งใจปกปิดมันไว้” ฉินหนานพยักหน้าของเขาและต่อด้วยเสียงขอโทษ
“ข้าเจอฝางซู ในเทือกเขาพยัคฆ์มังกร นั่นทำให้ข้ารู้เกี่ยวกับแผนชั่วร้ายของ ตระกูลฝาง และได้วางแผนที่จะปิดบังความลับของ จิตวิญญาณ ของข้าไว้ หวังว่าท่านทุกคนจะสามารถเข้าใจเหตุผลที่ข้าทำเช่นนี้ “
“ไม่เป็นไร” ไป่ฟาง ตอบทันทีว่า “ความสามารถของน้องฉิน น่าทึ่งมากตระกูลฝาง นับเป็นตัวอะไร? ข้า ไป่ฟาง ทำผิดครั้งนี้หลังจากถูกหลอกโดยคนของ ตระกูลฝาง ถ้าน้องฉินบอกข้าก่อนหน้านี้ข้าจะรีบกำจัด
ตระกูลฝาง โดยไม่ให้พวกมันมาขวางหูขวางตาน้องฉินเด็ดขาด”

(เลียใหญ่เลยตอนก่อนยังด่าพระเอกขยะอยู่เลย)

ขณะที่ ไป่ฟาง กำลังขอโทษเขาก็ไม่ลืมที่จะเอาอกเอาใจฉินหนานด้วย

ฉินหนานตอบด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน

ฉินหนานแต่ในใจขุ่นเคือง ไป่ฟางเคยพูดจาหยาบคายกับ ฉินหนาน
จำได้และ รอควยจัดการกับเขาเมื่อเวลามาถึง

(รีบๆฆ่ามันหมั่นไส)

“ฉินหนานตอนนี้เจ้าได้เป็นศิษย์ชั้นนอกของนิกายจิตวิญญาณ แล้ว
มีบางอย่างที่ข้าจำเป็นต้องเตือนเจ้า” ตอนนี้เธอเปลี่ยนความรู้สึกของเธอกลายเป็นเรื่องจริงจัง เซี่ยวฉินซู ยังคงกล่าวต่อ “ในเวลาสองวัน”
เจ้าต้องทำทุกอย่างให้เสร็จสิ้น จากนั้นเจ้าต้องตามข้ามายัง
นิกายจิตวิญญาณ เนื่องจากเวลาจะหมดลงแล้ว “

เมื่อได้ยินเรื่องนี้ฉินเทียนตอบว่า “ไม่ต้องรออีกสองวันแล้ว ฉินหนานเจ้าจะออกเดินทางวันพรุ่งนี้และตามผู้อาวุโสเซี่ยวไปยังนิกายจิตวิญญาณ ไม่ต้องเป็นห่วงไม่มีใครจะกล้ารุกรานตระกูลฉินได้อีกแล้ว! “

หลังจากจบประโยคนี้แล้วความรู้สึกภาคภูมิใจก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของฉินเทียน

ไท่ซาน และลูกศิษย์คนอื่น ๆ พยักหน้าเห็นด้วยกับและแสดงความภาคภูมิใจบนใบหน้าของพวกเขาด้วย

ในเมือง หลินซู หรือแม้แต่ในเขต อาณาจักร สายน้ำลู่ ยังมีผู้ใดกล้าที่จะต่อสู้กับตระกูลฉินในปัจจุบัน?

ฉินหนานได้สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ และพูดด้วยความกระปรี้กระเปร่าในขณะที่กำลังมองไปที่ฉินเทียนกับไท่ซานและเหล่าลูกศิษย์
“ถ้าเป็นเช่นนั้น ข้ารีบออกเดินทาง ท่านพ่อ ลุงซาน พวกท่านดูแลตัวเองด้วย เมื่อข้าได้เข้าร่วม นิกายจิตวิญญาณ แล้วข้าสัญญาว่าจะมาเยี่ยมพวกท่านทุกครั้งที่ข้ามีเวลา! “

เมื่อได้ยินดังนี้ฉินเทียนกับไท่ซานและคนอื่น ๆ
ก็ยิ้มแทนความรู้สึกขอบคุณ

กับฉินเทียนที่มีฉินหนานเป็นลูกชายของเขากับตระกูลฉินที่มี
ยอดอัจฉริยะเช่นฉินหนานว่าพวกเขาจะยังมีอะไรไม่พอใจ?

“ดีในเมื่อตัดสินใจแล้ว เจ้าควรให้ผู้อาวุโสเดินเที่ยวรอบ ๆ ตระกูลฉินของเรา ” ฉินเทียนกล่าวขณะที่โบกมือ ตอนนี้ฉินหนานเพิ่งเป็นศิษย์ของนิกายจิตวิญญาณ จำเป็นที่จะต้องสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับ
เซี่ยวฉินซู และ ไป่ฟาง

“ข้าจะอยู่ที่นี่ ด้วยพื้นฐานการบ่มเพาะและประสบการณ์ของข้า
ข้าเชื่อว่าข้ามีความสามารถเพียงพอที่จะนำแนะนำเกี่ยวกับ
การบ่มเพาะของพวกเจ้า … ” ไป่ฟางกล่าวทันที

ฉินหนานพยักหน้าศีรษะโดยไม่พูดอะไรและออกจากห้องประชุม
ตามหลังเซี่ยวฉินซูไป

เซี่ยวฉินซู ซึ่งอยู่ข้างหน้าฉินหนานกำลังเดินอย่างสง่างามพร้อมกับดวงตาคู่สวย ที่มองไปรอบ ๆ สถานที่ท่องเที่ยวของตระกูลฉิน
แต่สายตาของเธอก็จดจ่ออยู่แค่กับฉินหนาน
(=_= ชอบพระเอกแล้วละสิสาวน้อยย)

 

สถานที่ท่องเที่ยวของตระกูลฉินไม่สำคัญในความคิดเห็นของเธอ

แต่ เซี่ยวฉินซู ค่อนข้างสนใจ ในตัว ฉินหนาน ผู้ซึ่งสร้าง
ความประหลาดใจต่อเธอ

เป็นครั้งแรกที่ฉินหนานอยู่กับผู้หญิงที่สวยงามเช่นนี้งทำให้
เขารู้สึกผิดปกติอย่างเห็นได้ชัด เขาพูดด้วยรอยยิ้มเขอะเขิน
“พี่สาวเซียวทำไมท่านต้องจ้องมองข้าอย่างนั้น… “

“ขอโทษทีข้าไม่รู้ว่าข้าทำให้เจ้าต้องเขินอาย”
เซี่ยวฉินซู ปิดปากขณะที่เธอหัวเราะและพูดว่า
“อย่าเรียกข้าว่าพี่สาว ถือว่าแย่มาก เรียกข้าว่า ฉินซู “

(ทำแบบนี้ของเป็นแฟนเลยก็ได้นะ)

ฉินหนานตกใจมากในตอนนี้เขามองไปที่รอยยิ้มบนใบหน้าของเธอ
“อืม … ” (ไก่อ่อนจริงๆพระเอกเรา)

“ฉินหนาน เจ้ากล่าวว่าเจ้าได้รับเทคนิคพิเศษที่สามารถปกปิดจิตวิญญาณ ของเจ้าใช่ไหม” เซี่ยวฉินซู ถาม

“ใช่”

“บอกข้ามาจิตวิญญาณของเจ้าแน่ใจนะว่าอยู่แค่
จิตวิญญาณ ขั้นก่อเกิด ระดับ 8? หรือเจ้ายังซ่อนพลังไว้อีก? “
ดวงตาที่สวยงามของ เซี่ยวฉินซู ดูเหมือนจะวาววับ

(ฉลาดดีจัง เอาคนนี้เป็นนางเอกก็ดีนะ)

ฉินหนานรู้สึกประหลาดใจ แต่ตอบอย่างรวดเร็วด้วยเสียงหัวเราะว่า
“ทำไมข้าถึงต้องปิดบังถ้ามีพลังแข็งแกร่งขนาดนั้น?”

เซี่ยวฉินซู กำลังจะเชื่อคำตอบนี้ตามสัญชาตญาณ แต่เธอก็ลงก้ม
หัวของเธอโดยไม่ถามต่อด้วยความรู้สึกเสียใจลึกๆในจิตใจ

จิตวิญญาณ ขั้นก่อเกิด ระดับ 8 ในการจัดอันดับจิตวิญญาณ
จริงอยู่ว่ามีแข็งแกร่ง เป็นเรื่องยากที่จะพบเจอสักคนนึง
สำหรับฉินหนานที่มีจิตวิญญาณ ขั้นก่อเกิด ระดับ 8 ในการจัดอันดับจิตวิญญาณ สูงเช่นนี้แล้ว
แต่ทำไมเธอถึงคิดว่าจิตวิญญาณ ขั้นก่อเกิด ระดับ 8 ในการจัดอันดับจิตวิญญาณยังไม่ใช่พลังที่แท้จริงของเขากันนะ? มันเป็นไปได้ยังไง

อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ เซี่ยวฉินซู ใช่เวลาเพียงไม่กี่ลมหายใจ ฉินหนาน
ก็มีการเต้นของหัวใจเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าหน้าผากของเขาปกคลุมไปด้วยเหงื่อไหลลงมา ฉินหนานไม่คิดว่า เซี่ยวฉินซู จะมีสัญชาติญาณที่แหลมคมเช่นนี้

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ว่าศักยภาพของจิตวิญญาณการต่อสู้ของพระเจ้ามีพลังแข็งแกร่งยิ่งกว่าจิตวิญญาณ ขั้นก่อเกิด ระดับ 8 ในความเป็นจริงจิตวิญญาณ ขั้นก่อเกิด ระดับ 8 เป็นเพียงจุดเริ่มต้นสำหรับ จิตวิญญาณการต่อสู้ของพระเจ้าเท่านั้น

 

“ทำไมเจ้าถึงมีเหงื่อไหล?” เซี่ยวฉินซู เหลือบมองเหงื่อบนหน้าผากของฉินหนาน แต่แทนที่จะถามต่อเธอกลับพูดด้วยน้ำเสียงสั่งสอนว่า
“ฉินหนานอย่าลืมแม้ว่าเจ้าจะมีจิตวิญญาณ ขั้นก่อเกิด ระดับ 8
เจ้าไม่ควรคิดว่าตัวเองเก่งกว่าคนอื่นเด็ดขาด ในนิกายจิตวิญญาณ
เจ้าต้องมุ่งเน้นการบ่มเพาะ ถ้าไม่งั้นเจ้าจะต้องสำนึกเสียใจ “

เมื่อเธอพูดแบบนี้ เซี่ยวฉินซู ลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะพูดด้วยเสียงเบา ๆ ว่า “เจ้าต้องรู้ว่าไม่มีขีดจำกัดอะไรทั้งนั้น จะมีใครหลายคนที่ดีกว่าเจ้า นิกายจิตวิญญาณ เป็นจุดเริ่มต้นของทวีป ชางหลัน เท่านั้น “

ฉินหนานรู้สึกทึ่งในคำพูดเหล่านี้เขาพยักหน้าอย่างจริงจัง

ฉินหนานอยู่ที่ตระกูลฉินอีกวันหนึ่งแม้จะมีคำแนะนำของฉินเทียน
ในเช้าวันที่สองเขากำลังจากไป นิกายจิตวิญญาณ พร้อมกับ
เซี่ยวฉินซู และ ไป่ฟาง

อย่างไรก็ตามสิ่งที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นในขณะที่เขาเตรียมที่จะออกจากเมือง หลินซู

บนกำแพงเมือง ฉินเทียน ไท่ซานและลูกศิษย์ของตระกูลฉิน

นอกเหนือจากนั้นผู้บ่มเพาะนับไม่ถ้วนจากเมือง หลินซู ได้ปรากฏตัวขึ้นอย่างรวดเร็วเหมือนกระแสลมและรวมตัวอยู่รอบ ๆ เมือง หลินซู
ในเวลาเพียงครึ่งธูปมีคนมากกว่าหมื่นคนซึ่งดูเหมือนจะเป็นกำแพงมนุษย์เมื่อมองจากระยะไกล

ทุกคนจากเมือง หลินซู มาขอส่งฉินหนาน

ฉินหนานตกตะลึงในเหตุการณ์ “ท่านพ่อ……”

“ฉินหนานเหล่าผู้บ่มเพาะเมือง หลินซู ข้าไม่ได้เป็นคนเรียกมา แต่
พวกเขามาโดยสมัครใจเพื่อขอให้เจ้าเดินทางปลอดภัย!”
ฉินเทียนตะโกนออกมาเขาแสดงให้เห็นถึงความภาคภูมิใจของเขา

ผู้บ่มเพาะของเมือง หลินซู ที่อยู่เบื้องหลังฉินเทียนต่างรู้สึกตื่นเต้นที่
ได้เห็นฉินหนานราวกับว่าฉินหนานเป็นกษัตริย์ในจิตใจของพวกเขา

ในความคิดของพวกเขาฉินหนานไม่ใช่แค่อัจฉริยะเท่านั้นเขาเป็นตำนานอย่างแท้จริง!

ดังนั้นพวกเขาจึงมาหาเขาเพื่ออำลาเสียงตะโกนดังอย่างต่อเนื่อง

“ฉินหนานข้าจะเอาเจ้าเป็นแบบอย่าง เดินทางปลอดภัยนะ!”

“นายน้อยฉินหนานอย่าลืมดูแลพวกเราเมื่อ
ท่านกลายเป็นผู้บ่มเพาะที่ทรงพลังละ”

“ข้าจะบอกลูกข้าว่านายน้อยฉินหนานควรเป็นแบบอย่างของเขา!”
“นายน้อยฉินหนานเราจะรอการกลับมาครั้งยิ่งใหญ่ของท่าน!”

“……”

ฉินเทียนดูเหมือนจะได้รับอิทธิพลจากอารมณ์ความรู้สึกของผู้บ่มเพาะในเมือง หลินซู ขณะที่เขากำลังมองไปที่ฉินหนานจากระยะไกล
ส่วนผสมของความเศร้า จากการแยก และความรู้สึกที่ซับซ้อนบางอย่างได้หลั่งไหลเขามาในหัวใจของเขา จากนั้นเขาก็ตะโกนออกว่า
“ฉินหนานเจ้าต้องจำไว้ว่าเจ้าเป็นลูกชายของฉินเทียน อนาคตของเจ้าคือผู้ชนะ ดังนั้นเจ้าต้องไม่ยอมแพ้เจ้าไม่ต้องกลัว
ก้าวไปทีละก้าวของเจ้าอย่างช้าแล้วมุ่งสู่ความสำเร็จของเจ้า! “

เมื่อเขาได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นบนกำแพงเมืองและในขณะที่เขาได้ฟังคำพูดของพ่อของเขาและเพื่อนพองพร้อมคนแปลกหน้าหัวใจของเขาก็เต็มไปด้วยความรู้สึกอย่างกระทันหันของความสำเร็จ

ฉินหนานพยักหน้าอย่างหนักจากนั้นหันกลับไปและเริ่มเดิน

เขาไม่ได้พูดอะไรสักคำ สิ่งเดียวที่เหลืออยู่คือมุมมองของหลังของเขาในขณะที่เขายังคงเดินอย่างมั่นคง

ฉินหนานไม่แสดงอาการใดๆออกมา นี่เป็นวิธีเดียวในการแสดงคำสัญญาของเขา คำสัญญาของเขาที่มีต่อฉินเทียนต่อตระกูลฉินและต่อผู้คนที่มีความคาดหวังในตัวเขา

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments