ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป” ฮ่าๆ สองสาวงามของข้า ดูสิว่าเจ้าจะทนได้อีกทานสักแค่ไหน “
ในห้องของพันธมิตร หลิว มีชายอ้วนเต็มไปด้วยความหื่นกระหาย
มีหูขนาดใหญ่ สภาพเหมือนหมู นอนอยู่บนเตียง ขณะที่มองไปที่ ‘ชูเยว่’ และ ‘ชูซุย’
เขาเป็นหัวหน้าของพันธมิตร หลิว เป็นที่เรื่องลือว่าโรคจิต หลิวมั้ง
” อืม ~ ~ ~ “
‘ชูเยว่’ และ ‘ชูซุย’ ถูกมัดมือกับเท้าไว้บนหัวเตียง ปากพวกนางถูกมัดเอาไว้
สายตาของพวกนางเต็มไปด้วยความหวาดกลัว นางต่างพยายามดิ้นรนขัดขืน
นอกจาก ไอ้อ้วน ยังมีชายอีก 2 คน ยืนเฝ้าภายในห้อง ทั้งสองคนเป็นผู้ใช้พลังระดับ 7
นับว่าเป็นคนที่แกร่งที่สุดใน พันธมิตรหลิว
สำหรับเหตุผลที่จำเป็นต้องมีพวกเค้า ช่างน่าหัวเราะนัก
มันเป็นเพราะ หลิวมั่ง อ่อนแออย่างมาก อย่างเค้าไม่มีทางที่จะแตะต้องตัว ‘ชูเยว่’ และ ‘ชูซุย’ ได้เลย
ดังนั้น เค้าไม่มีทางเลือก จึงให้ทั้งสองคนมัด’ชูเยว่’ และ ‘ชูซุย’ ไว้กับเตียงเพื่อให้’หลิวมั่ง’ทำอะไรได้ง่าย
พวกเค้าทั้งสองยังไม่ได้ทำอะไรในตอนนี้ ส่วนใหญ่พวกเค้าจะได้ลิ้มรสนางทั้งสองก็ต่อเมื่อ ‘หลิวมั่ง’พอใจแล้ว
ดังนั้น พวกเค้าพวกเค้าจึงไม่คิดที่จะไปไหน
พวกอยากที่จะดูฉากที่แม่นางทั้งสอง ถูก’หลิวมั่ง’ กระทำการจนเสร็จ จากนั้นก็เป็นตาของพวกเค้า
” อ้าา ~ ~ ~ “
ในช่วงเวลานั้น มีเสียง ร้องอย่างเจ็บปวดมาจากด้านนอก เสียงดังขึ้นๆ หลายต่อหลายครั้ง
มันทำให้’หลิวมั่ง’ หงุดหงิด เป็นอย่างมาก เค้ากล่าวว่า พวกเจ้าทั้ง 2 ไปดู
และไปบอกพวกมันว่าหยุดร้องได้แล้วมันทำลายอารมณ์ของข้า
เมื่อได้ยินคำสั่งของ ‘หลิวมั่ง’ แม้ว่าพวกเค้าจะไม่เต็มใจที่จะไป แต่เพื่อหยุดผู้บุกรุก พันธมิตร หลิวเค้าจึงต้องไป
แต่เมื่อพวกเขาเข้าไปในห้อง พวกเขาได้ยินเสียงตุบตับๆดังขึ้น
ด้านประตูใหญ่ของตำหนักมีบางคนกำลังลอยอยู่กลางอากาศ
” นี่ . . . . . . . “
คนที่ลอยอยู่กลางตำหนักใบหน้าเต็มไปด้วยเลือด พวกเค้าจำคนๆนั้นไม่ได้เลย
แต่บนเสื้อผ้าบอกได้เลยว่าเค้าเป็นคนของ พันธมิตรหลิว
เห็นได้ชัดว่าคนเหล่านั้นเป็นคนของพันธมิตรตน พวกเขาตกใจอย่างมาก
” บ้า “
ขณะที่พวกเขาเห็นคนของตัวเองถูกทำร้ายเช่นนั้น สองคนนั้นโกรธอย่างมาก
แม้ว่า’หลิวมั่ง’จะเป็นหัวหน้าของพันธมิตรหลิว แต่ความเป็นจริงเค้าทั้งสองเสมือนคนดูแลพันธมิตรทั้งหมด
แต่เมื่อพวกเขา กำลังเดินเข้าไป ฉากในลานตำหนักทำให้พวกเค้าทั้งคู่ถึงกับตะลึง
ในตอนนั้น กลางตำหนักมีสาวก จำนวนมากพันธมิตรหลิวนอนอยู่ที่พื้นเลือดท่วมตัวกระจายอยู่เต็มพื้น
สภาพถูกทำลายอย่างน่ากลัว คนที่ยังได้สติต่างกลิ้งอยู่บนพื้นพร้อมกับร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด
‘ชูเฟิง’คว้าคอเสื้อของคนๆหนึ่งขึ้นมา ถึงแม้ว่าเค้าคนนั้นจะร้องขอชีวิตแล้วก็ตาม
เค้าก็มิได้หยุด เค้ารัวหมัดใส่อย่างไร้ความปราณี จนทำให้ได้ยินเสียงกระดูกแตกกระดูกหัก
กระดูกซี่โครงชายคนนั้นแตกเป็นเสี่ยงๆ
หลังจากที่ร้องด้วยความเจ็บปวด เขาก็หมดสติไป ชูเฟิงก็โยนเค้าทิ้งเหมือน ขยะชิ้นหนึ่ง และเค้าก็พุ่งหาคนต่อไป
ดังนั้นคนนับร้อยที่ วิ่งหาใส่ชูเฟิง ตอนนี้ถูกเค้าทำลายจนแทบจะไม่เหลือ
เวลาผ่านไปไม่เท่าไหร่ ตั้งแต่ที่เริ่มจนจบ นั้นทำให้คนที่ยืนดูต่างตกตะลึง
ไงเจ้าหนุ่ม ? เจ้าเหมือนกับเทพสังหารจริงๆ
” นั่น พวกแกเป็นใคร ? “
ทันที ประตูใหญ่ของตำหนักถูกเปิด มีคนตะโกนดังออกมา เมื่อทุกคนมองเข้าไปต่างต้องตกใจ
คนทั้งหมดสัมผัสได้ถึงอ่อร่าของพวกเค้าทั้งส่องที่ปล่อยออกมา
มันคือพลัง ระดับ 7 ห้วงวิญญาณ พวกเขารู้ว่าคนที่แกร่งที่สุดในพันธมิตร หลิว ออกมาแล้ว
ที่ ‘ชูเฟิง’ เค้าอัดไปเป็นแค่พวกทหารกุ้ง ทหารปู แต่เขายังต้องมาเผชิญกับผู้ใช้พลังวิญญาณระดับสูงอีกตั้งสองคน
ทุกคนต่างอยากที่จะเห็นว่าจะเกิดอะไรขึ้นหาก’ชูเฟิง’ ปะทะ กับพวกเค้าทั้ง สอง
ปล : ทหารกุ้ง ทหารปู = ไร้ประโยชน์
” เจ้าคิดว่าข้าเป็นใคร “
‘ชูเฟิง’ค่อยๆหันไป แล้วใช้สายตาที่เต็มไปด้วยจิตสังหารจ้องพวกเค้าทั้งสอง
” คนๆนี้ . . . “
เมื่อพวกเขาเห็นใบหน้าที่เย็นชาของ’ชูเฟิง’ ที่เต็มไปด้วยเจตนาที่จะฆ่า
ร่างกายของพวกเขาไม่สามารถขยับได้ ด้วยความตกใจพวกเค้าถอยออกมาหนึ่งก้าว
ความกลัวเข้าสู่ในจิตใจของพวกเขา
” พรึบบบ ~ “
ในตอนนั้น ‘ชูเฟิง’ ก็พุ่งเข้าไปโจมตี เค้าเหมือนกับคันศรที่ยิงออกจากคันธนู
เค้าพุ่งเข้าหาอย่างรวดเร็วราวกับว่าเป็นสายฟ้าที่พุ่งหา พื้นดิน ภายในพริบตาเค้าก็มาถึงด้านหน้าของทั้ง สอง คน
ก่อนที่ทั้งสองจะรู้สึกตัวว่าถูกโจมตี พวกเขารู้สึกเพียงว่า เหมือนมีการเคลื่อนไหวที่เหมือนกับฟ้าผ่ามาตรงหน้าของพวกเขา
ทันใดนั้นพวกเค้าก็รู้สึกว่าถูกโจมตี เลือดเต็มหน้าอกพวกเค้า จากนั้นก็มีเลือดพุ่งออกมา พวกเค้าล้มลงบนพื้นโดยไร้ซึ่งอำนาจใดๆ
” สวรรค์ นี้มันคือ ทักษะระดับ 4 ! ! ! ! ! ! ! ! “
” มันเป็นไปได้ยังไง ที่คนๆนี้จะสามารถใช้ทักษะระดับ 4 ได้ “
” ข้ารู้ ข้ารู้ เค้าเป็นคนแรกที่ผ่านการสอบในปีนี้ การสอบเข้าฝ่ายใน เค้าเป็นคนที่ฆ่าสัตว์อสูร 40 ตัว อย่างโหดเหี้ยม “
” มันไปได้ยังไงกัน การสอบลูกศิษย์ฝ่ายในผ่านไปแค่ไม่กี่เดือน แล้วเขาจะสามารถใช้ทักษะระดับ 4 ได้รวดเร็วขนาดนี้เลยหรอ !!! “
” ไม่เพียง แต่ออร่าของเขาที่อยู่ระดับ 6 ห้วงวิญญาณ เป็นไปได้ยังไงที่เค้าสามารถชนะทั้งสองคนที่อยู่ในระดับ 7 ห้วงวิญญานภายในพริบตา ? ทั้งยังมีทักษะระดับ 4 อีก น่ากลัวจริงๆชายคนนี้ “
ผู้คนที่ยืนดูต่างตกตะลึง ต่างพากันตั้งคำถาม ‘ชูเฟิง’สามารถเอาชนะคนนับร้อย
ทั้งยังแสดงพลังและความโหดเหี้ยมของเค้าให้คนได้ประจักษ์อีก
เค้าเป็นคนที่ไม่น่าเชื่อจริงๆ ใครที่หาเรื่องเค้าก็สมควรได้รับแบบนี้
แต่เค้าสามารถทำได้ขนาดนี้จะเป็น อัจฉริยะเกินไปแล้ว!!!
” โง่จริงๆ ทำไมคนทั่วไปอย่างเราถึงไม่เข้าใจโลกของอัจฉริยะ ? “
‘ซูเหม่ย’มองฝูงคนที่คุยกันอย่างหน้าตาตื่น แล้วหันกลับมาดูที่’ชูเฟิง’
ทันใดนั้นเธอก็พบว่า ‘ชูเฟิง’หายตัวเข้าไปในห้องตำหนักแล้ว
” บ้าจริง!! คนๆนี้จะก่อเรื่อไปถึงไหน “
เมื่อเห็นว่าเค้าหายไป ‘ซูเหม่ย’รีบวิ่งตามไปทันที
” ที่รัก พวกเจ้ารอข้าอยู่ใช่ไหม ข้าจะเล่นกับพวกเจ้าให้สนุกไปเลย “
กลับมาที่ห้องของ ‘หลิวมั่ง’ เค้าเริ่มถอดเสื้อผ้าของเค้าเปิดเผยร่างกายอันน่ารังเกียจหาที่ใดเปรียบไม่ได้ของเขา
ดวงตาเค้าจ้อง ‘ชูเยว่’ ‘ชูซุย’ อย่างหื่นกระหาย ที่ถูกมัดอยู่บยเตียง
เขาพูดพร้อมกับเลียริมฝีปาก อย่างใจจดใจจ่อ เขาลูบมือของเค้าและกำลังจะกระโดดลงบนตัวของนางทั้งสอง
* ปั้งงง *
ในตอนนั้นมีเสียงดังถีบประตูเข้ามา เมื่อเขาหันกลับไปมอง
ใบหน้าของ’หลิวมั่ง’ เปลี่ยนไปทันที ดวงตาของเค้าเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
เพราะหลังจากที่ประตูห้องเปิดออก ตอนนั้นก็มีคนพุ่งมาหาเขาอย่างรวดเร็ว
ความเร็วระดับนั้นไม่ใช่สิ่งที่เค้าจะสามารถหลบได้
* บู้มมมม *
” อ้า “
เมื่อสิ้นเสียง’หลิวมั่ง’ก็กระเด็นไปแล้วล้มลง เค้ากระเด็นไปชนกับมุมห้องจนเกิดรอยแตกรอบๆ
ในขณะที่เค้ากำลังจะปิดตา เพราะหน้ามืด ร่างกายของเค้าเต็มไปด้วยเศษไม้เนื่องจากความแรงที่ไปปะทะ
เค้าหันไปมองคนชายคนนั้นที่อยู่ในห้อง คนๆนั้นยืนอยู่ต่อเขาขณะที่จ้องมองเค้า
ถึงแม้ว่าร่างนั้นจะเป็นของ เด็กหนุ่ม แต่รอบๆตัวเค้าเปล่งจิตสังหารออกมามันทำให้เค้ากลัวอย่างมาก
โดยเฉพาะตาของเค้าเต็มไปด้วยเส้นเลือด ตอนนี้เค้าดูเหมือนกับ …ปีศาจ
โปรดติดตามตอนต่อไป
ที่มา: