I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Peerless Martial God ตอนที่ 93 หญิงสาวในภาพลวงตา

| Peerless Martial God | 2537 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
                

 

ในอารามมีแท่นหินที่เหมาะสำหรับการบ่มเพาะพลัง หลินเฟิงนั่งอยู่บนนั้นและเข้าสู่สภาวะสมาธิ เขาเริ่มดูดซับปราณจากหินบริสุทธิ์ อย่างไรก็ตามเขารีบเปิดตาอย่างรวดเร็วด้วยความงงงวย

 

 บนเส้นทางการบ่มเพาะพลัง เพียงแค่การนั่งสมาธิไม่เพียงพอให้บุกทะลวงสู่ขอบเขตต่อไป ความรู้และความเข้าใจในพลังเป็นสิ่งเดียวที่จะทำให้บรรลุเส้นทางการบ่มเพาะได้

 

 ตอนนี้หลินเฟิงรู้สึกว่าเขาดูดซับปราณเพียงพอสำหรับการก้าวเข้าสู่ขอบเขตจิตวิญญาณขั้นที่ 3 แล้ว แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังไม่สามารถบุกทะลวงได้ เขาต้องการเวลาที่เหมาะสมเท่านั้นเพื่อที่จะบุกทะลวงสู่ขั้นต่อไป

 

 “น่าจะหนึ่งสัปดาห์แล้วตั้งแต่ที่ข้าเข้ามาที่นี่”

หลินเฟิงพยายามประมาณเวลาที่เขาใช้ในอาราม จากนั้นเขาก็ลุกขึ้นและเดินไปที่ทางออก

 

 เมื่อพิจารณาจากความแข็งแกร่งของหลินเฟิง เป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะออกจากที่นี่ด้วยวิธีตอนที่เขาเข้ามา เขาไม่สามารถบินได้ เขาไม่มีทางเลือกนอกจากต้องเดินผ่านช่องแคบเพื่อจะไปยังหุบเขาวายุทมิฬ

 

หลินเฟิงเชื่อว่าเส้นทางนี้ถูกสร้างโดยคนจากนิกายหยุนไห่รุ่นก่อนๆ บรรพบุรุษของนิกายหยุนไห่ได้สร้างพวกมันเอาไว้เพื่อให้เหล่าสมาชิกรุ่นหลังได้หลบซ่อนตัว แต่เหล่าบรรพบุรุษคงจะคิดไม่ถึงว่าพวกเขาจะไม่มีโอกาสได้ใช้มัน เพราะพวกเขาต่างตกตายและกลายเป็นทะเลเลือดไปแล้ว

 

 หลินเฟิงเดินมาเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้วในที่สุดเขาก็มาถึงปลายทาง มันเป็นทางที่แคบอย่างมากเขาต้องแทรกตัวเพื่อที่จะออกไป

 

 แม้ว่ามันจะมืดมาก แต่ในที่สุดหลินเฟิงก็สามารถมองเห็นทองฟ้ายามราตรีพร้อมกับพระจันทร์เต็มดวงเป็นครั้งแรกในรอบ 1 สัปดาห์ อากาศด้านนอกมีความหนาวเย็นอย่างมาก หลินเฟิงรู้สึกเย็นไปถึงลำคอและปอด

 

 “น่าแปลกใจ สถานที่นี้เป็นจุดเชื่อมต่อและมันยังเป็นเส้นทางที่ปลอดภัยมากๆ” หลินเฟิงกล่าวชื่นชมผู้ที่สร้างเส้นทางนี้ สถานที่แห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของหุบเขาวายุทมิฬ ไม่เคยมีมนุษย์คนใดผ่านทางนี้มาก่อน สถานที่แห่งนี้ยังคงถูกครอบครองโดยเหล่าสัตว์อสูร แต่สัตว์อสูรส่วนใหญ่มีขนาดที่ใหญ่โตกว่าค่าเฉลี่ย แม้ว่าพวกมันจะพบทางเดินแต่มันก็ไม่สามารถที่จะเข้าไปได้ เพราะทางเดินมีขนาดเล็กและแคบเกินสำหรับพวกมัน

 

 นอกเหนือจากพวกสัตว์อสูร แม้ว่าจะมีมนุษย์คนใดเข้ามาพบเจอเส้นทางนี้ แต่จะมีใครบางที่จะเต็มใจเข้ามายังเส้นทางที่แคบและมืด โดยไม่รู้ว่าจะไปโผล่ที่ใด?

 

  หลินเฟิงนั่งอยู่บนหินและจ้องมองไปที่ดวงจันทร์ สายตาของเขาเต็มไปด้วยความโศกเศร้า…

 

 หลินเฟิงรู้สึกโดดเดี่ยวอย่างมาก

 

 ย้อนกลับไปยังวันที่หลินเฟิงควบม้าออกมาจากเมืองหยางโจวเพื่อไปนิกายหยุนไห่ เขาได้มองเห็นทิวทัศน์มากมายไม่ว่าจะเป็น ทะเลสาบหรือแม้น้ำ แต่ตอนนี้เขาไม่คาดคิดเลยว่านิกายหยุนไห่ก็จะให้กำเนิดแม่น้ำเหมือนกันแต่เป็น…. แม่น้ำโลหิต ภาพการเข่นฆ่าและสังหารหมู่ถูกฉายซ้ำไปซ้ำมาในหัวของเขา

 

 หลินเฟิงไม่มีทางเลือก เขาได้แค่หวังว่าจะพบเจอกับอนาคตที่ดีขึ้น

 

 แม้ว่าจะต้องเผชิญกับอากาศที่หนาวเย็นและลมแรง แต่หลินเฟิงก็ยังนั่งนิ่งราวกับเป็นรูปปั้นโดยไม่ไหวติงแม้แต่น้อย

 

 ในเวลาเดียวกัน ปราณจากสวรรค์และปฐพีเริ่มผันผวนอย่างแปลกประหลาด จากนั้นมันก็พุ่งตรงไปหาหลินเฟิงราวกับต้องการที่จะเจาะเข้าไปในเนื้อหนังและกระดูกของเขา มันเป็นเรื่องที่อัศจรรย์และน่าทึ่งในเวลาเดียวกัน

 

 แต่หลินเฟิงก็ไม่ได้ให้ความสนใจกับมันมากนัก เขายังคงจ้องมองไปที่ดวงจันทร์ด้วยใบหน้าที่โศกเศร้า ในตอนนี้หลินเฟิงต้องการที่จะลืมทุกสิ่งทุกอย่าง เขาสูญเสียมากเกินไป

 

 “หืมม?”

 

 หลินเฟิงที่กำลังนั่งอยู่บนหินรู้สึกถึงความแปลกประหลาด

 

 ปราณที่บริสุทธิ์ราวกับน้ำนมลอยอยู่บนมือเขา มันเข้มข้นยิ่งกว่าปราณที่เขามีก่อนหน้านี้

 

 “ข้าทะลวงสู่ขอบเขตจิตวิญญาณขั้นที่ 3 แล้ว?”

 

 หลินเฟิงกลายเป็นตกตะลึง เขาไม่คิดว่าการนั่งอยู่บนหินและระลึกถึงสิ่งต่างๆจะทำให้เขาทะลวงระดับได้

 

 “ขั้นที่ 3 ขอบเขตจิตวิญญาณ…. รวมกับสิ่งที่ข้ามี ถ้าข้าเจอกับต้วนหานอีกครั้ง ข้าสามารถเอาชนะมันได้อย่างแน่นอน”

 

 เมื่อคิดถึงเรื่องของต้วนหาน ดวงตาของหลินเฟิงกลายเป็นเย็นชาในทันที ทั้งต้วนหานและพ่อของเขาจะต้องตาย… พวกเขาทำลายนิกายและสังหารเหล่าสหายของเขา

 

 “ผู้ใดกัน??” มีเสียงที่ดังตะโกนใส่หลินเฟิง เขาหันกลับไปพร้อมกับม่านตาที่หดลง

 

 ในตอนนั้นได้มีร่างเงาปรากฏตัวหน้าหลินเฟิง เขารู้สึกราวกับว่ามันเป็นภาพลวงตา

 

 มันคือภาพเงาทีงดงามอย่างมาก แสงจันทร์สาดส่องอยู่บนร่างนั้น ทำให้หลินเฟิงสามารถมองเห็นลักษณะของนางได้อย่างชัดเจน

 

 งดงามอะไรเช่นนี้! หลินเฟิงรู้สึกราวกับว่าเขาอยู่ในความฝัน หญิงสาวสวมเสื้อผ้าสีขาวบริสุทธิ์ ทุกคนที่พบเจอนางจะต้องรู้สึกอยากปกป้องและดูแลนางอย่างแน่นอน

 

“สมบูรณ์แบบ!”

 

  หลินเฟิงตกตะลึงอย่างมาก แม้ว่าเขาจะมีความมุ่งมั่นอันแรงกล้าและจิตวิญญาณที่แข็งแกร่ง แต่เมื่อเห็นร่างของหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้า เขาทำได้เพียงแค่คิดทบทวนครั้งแล้วครั้งเล่าว่ามีหญิงสาวที่งดงามขนาดนี้อยู่ในโลกด้วยหรือ? นางงดงามราวกับเทพธิดา!

 

 หลิ่วเฟยเองก็งดงามและแข็งแกร่งมาก หลินเฟิงตระหนักได้ว่าสาวงามในโลกนี้งดงามยิ่งกว่าโลกเก่าของเขา

 

 สาวงามอยู่ยืนอยู่หน้าหลินเฟิงราวกับเป็นภาพลวงตา ราวกับว่านางหลุดออกมาจากภาพวาด

 

 “เจ้าเป็นใคร? แล้วมาทำอะไรที่นี่?”

 

 สาวงามเริ่มเปิดปากถาม เสียงของนางทำให้หลินเฟิงหลุดจากภวังค์ นางงดงามเกินไป นางงดงามมากจนหลินเฟิงไม่สามารถทำใจเชื่อได้ว่าเป็นของจริง

 

 “ข้ามีชื่อว่าหลินเฟิง เจ้าหาที่นี่พบได้อย่างไร?”

 

 หลินเฟิงรู้สึกงงงวยขณะที่จ้องมองไปยังหญิงสาว นางมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไรกัน?

 

 หลินเฟิงเดินเข้าหาหญิงสาว เขารู้ได้ทันทีว่านางแข็งแกร่งมาก

 

 “หลินเฟิง…”

 

 หญิงสาวพึมพำชื่อของหลินเฟิงและกล่าวต่อ “ข้าอาศัยอยู่ที่นี่มาตลอด แต่เจ้าก็เข้ามาที่นี่และถามข้าว่ามาที่นี่ได้อย่างไร?”

 

 “ข้าไม่รู้ว่าข้ามาที่นี่ได้อย่างไร” หลินเฟิงตอบกลับพร้อมกับยักไหล่ แต่ไม่น่าเชื่อว่านางจะเชื่อเขา

 

 “ถ้าเช่นนั้น โปรดออกไป” หญิงสาวกล่าวอย่างเย็นชา

 

 “แต่ว่าข้าไม่รู้ว่าข้าอยู่ที่ไหนและจะจากไปได้อย่างไร?” หลินเฟิงกล่าวขณะยิ้มอย่างเขินอาย เขารู้เพียงแค่ทางที่เข้ามา แต่เขาไม่รู้ว่าตอนนี้ตัวเองอยู่ที่ไหน

 

 “ตอนนี้พวกเราอยู่ในหุบเขาวายุทมิฬใช่หรือไม่?”

 

 หญิงสาวจ้องมองไปที่เขา หลินเฟิงอดที่จะสงสัยไม่ได้ว่าเขายังอยู่ที่หุบเขาวายุทมิฬหรือไม่?

 

 “ที่นี่คืออีกด้านหนึ่งของหุบเขาวายุทมิฬ”

 

 “……………..” หลินเฟิงกลายเป็นไร้คำพูด ที่นี่คืออีกด้านหนึ่งของหุบเขาวายุทมิฬ?

 

 “ผู้พิทักษ์เป๋ยอาจจะไม่เคยมาที่นี่มาก่อน”

 

 หลินเฟิงทำได้เพียงยิ้มอย่างขมขื่น ด้านนอกของหุบเขาวายุทมิฬมีสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งอยู่แต่ด้านในหุบเขาวายุทมิฬนั้น มีสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งกว่าอยู่เต็มไปหมด ถ้าหลินเฟิงต้องการไปจากที่นี่มันคงไม่ใช่เรื่องง่ายดายนัก

 

 ถ้าผู้พิทักษ์เป๋ยรู้เรื่องนี้มาก่อน เขาจะต้องไม่ทิ้งหลินเฟิงไว้ในอารามคนเดียวและไม่มีทางบอกกล่าวถึงเส้นทางนี้เป็นแน่

 

 “เจ้าบอกว่าเจ้าอาศัยอยู่ที่นี่มาตลอด?”

 

 หลินเฟิงตระหนักได้ถึงสิ่งที่นางกล่าวก่อนหน้านี้ เขาประหลาดใจอย่างมาก มีผู้คนอาศัยอยู่ภายในหุบเขาวายุทมิฬ?

 

 “จริงๆแล้ว ข้าอยู่ที่นี่กับท่านแม่ของข้า ตั้งแต่ข้ายังเด็กๆ”

 

 หญิงสาวพยักหน้าอย่างมั่นใจ

 

 “เจ้าเคยออกไปจากที่นี่หรือไม่?” หลินเฟิงถาม

 

 “ไม่เคย”

 

 “………….” หลินเฟิงไม่รู้ว่าเขาจะพูดอย่างไรดี แต่เขาคิดว่าดีแล้วที่หญิงงามเช่นนางไม่เคยออกไปยังโลกภายนอก เพราะความงดงามที่มากเกินไปของนางอาจจะทำให้นางพบเจอกับความยากลำบาก นางคือสาวงามล้มเมืองอย่างแท้จริง

 

 “บางทีแม่ของนางอาจจะงดงามเหมือนกับนาง นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมพวกนางถึงอยากอยู่กันอย่างสันโดษ” หลินเฟิงคิด

 

 หลินเฟิงยังคงถามนางต่อ “แถวนี้ไม่มีสัตว์อสูรเลยงั้นหรือ?”

 

 “ไม่ ที่นี่ไม่มีอะไรเลย” หญิงสาวส่ายหัวอย่างช้าๆ

 

 หลินเฟิงพยักหน้าเล็กน้อย ไม่แปลกใจเลยที่ว่าทำไมนางถึงสามารถอาศัยอยู่ที่นี่ได้

 

 “เจ้าจะออกจากที่นี่หรือไม่?”

 

 หญิงสาวถามหลินขณะต้องมองไปที่เขา ดวงตาของนางเป็นประกาย

 

 “แน่นอน ข้าจะจากไปในวันพรุ่งนี้ตอนเช้า” หลินเฟิงกล่าว

 

 “ข้าจะช่วยเจ้าออกจากที่นี่”

 

 หญิงสาวเปิดปากพูดอีกครั้ง แต่ครั้งนี้หลินเฟิงรู้สึกกังวล นางจะพาหลินเฟิงออกจากทีนี่ด้วยตัวเอง?

 

 ในหุบเขาวายุทมิฬมีสัตว์อสูรอยู่มากมาย หญิงสาวคนนี้ไม่น่าใช่ผู้บ่มเพาะที่อ่อนแอ นางน่าจะอายุรุ่นราวคราวเดียวกับหลินเฟิง ถึงนางจะไม่ได้อ่อนแอแต่ก็ไม่น่าจะแข็งแกร่งอะไรมากมาย แล้วอย่างนี้นางจะสามารถพาเขาออกไปจากหุบเขาวายุทมิฬได้อย่างง่ายดายได้อย่างไร?

 

 จิตวิญญาณของหลินเฟิงมีกลิ่นอายที่คล้ายกับหมอกปีศาจทำให้ง่ายขึ้นที่เขาจะเข้าไปยังหุบเขาวายุทมิฬ เขาสามารถปลอมตัวเป็นสัตว์อสูรและเดินได้อย่างอิสระรอบหุบเขา

 

 “เจ้าไม่เชื่อในความแข็งแกร่งของข้า?” หญิงสาวถามราวกับว่านางสามารถอ่านความคิดของหลินเฟิงได้

 

 “ ใช่ ข้าไม่อาจเชื่อได้ หุบเขาวายุทมิฬเป็นที่ๆอันตรายมาก เจ้าคิดว่ามันง่าย? นอกจากนี้ เจ้ายังบอกว่าเจ้าไม่เคยออกจากที่นี่มาก่อน”

 

 “แม้ว่าข้าจะไม่เคยออกจากที่นี่ แต่ข้ารู้จักหุบเขาวายุทมิฬดีกว่าใครๆ ข้ารู้ว่าจะไปที่ไหนเพื่อหลีกเลี่ยงเหล่าสัตว์อสูร มันเป็นเรื่องง่ายสำหรับข้ามก โปรดตามข้ามา”

 

 หญิงสาวกล่าวอย่างไม่แยแสขณะมองไปที่หลินเฟิง

 

 รู้จักดีกว่าใคร? นางรู้วิธีหลบเลี่ยงเหล่าสัตว์อสูร?

 

หลินเฟิงประหลาดใจอย่างมาก เขาต้องมองไปที่หญิงสาวอย่างสงสัย ถ้านางสามารถทำได้จริงๆ มันจะเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมอย่างมาก

 

 “เจ้ายินดีที่จะพาข้าออกไปหรือไม่?” หลินเฟิงถาม

 

 “ แน่นอน แม้ว่าข้าจะไม่เคยออกจากที่นี่แต่ข้าก็อยากจะเห็นว่าโลกภายนอกเป็นเช่นไรเหมือนกัน ถ้าข้าต้องการที่จะออกจากหุบเขาวายุทมิฬ ข้าอาจจะต้องการความช่วยเหลือจากเจ้า” หญิงสาวพูดอย่างตรงไปตรงมา

 

 “ดี แล้วแม่ของเจ้า…”

 

 “นางไปข้างนอก ข้าไม่รู้ว่านางจะกลับมาเมื่อไร ไม่จำเป็นที่จะต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องของนาง”

 

 หลินเฟิงรู้สึกสับสนเล็กน้อย มันยากมากที่จะอยู่เพียงคนเดียวในหุบเขาวายุทมิฬที่เต็มไปด้วยสัตว์อสูรที่ทรงพลังเหล่านี้

 

 หลินเฟิงพยักหน้าและถาม “แล้วพวกเราจะไปกันตอนไหน?”

 

 “ตอนนี้” หญิงสาวตอบ

 

 “ ดี ข้าต้องการที่จะไปยังนิกายหยุนไห่ เจ้ารู้จักมันหรือไม่?” หลินเฟิงถาม

 

 “ข้ารู้ ข้ารู้ทุกสิ่งเกี่ยวกับทุกสิ่งทุกอย่างในหุบเขาวายุทมิฬ… แต่ถ้าข้าออกจากหุบเขาวายุทมิฬ ข้าอาจจะหลงได้”

 

หญิงสาวตอบอย่างตรงไปตรงมา เห็นได้ชัดว่านางไร้เดียงสาอย่างมาก…

ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
comments