I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Peerless Martial God ตอนที่ 121 แสดงความคิด

| Peerless Martial God | 2537 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
                

หลินเฟิงไม่ได้สนใจการแสดงออกทางสีหน้าของต้วนเทียนหลางและกล่าวต่อ “ต้วนเทียนหลาง ข้าล่ะไม่เข้าใจจริงๆว่าทำไมเจ้าถึงเลือกชื่อ ‘ลานศักดิ์สิทธิ์หิมะจันทรา’ แทนที่จะเป็นชื่ออื่น”

 

 “แน่นอนมันเป็นความคิดของข้า” ต้วนเทียนหลางกล่าวตอบในทันที เขาต้องการที่จะสังหารหลินเฟิงอย่างมากในตอนนี้

 

หลินเฟิงกล่าวว่าลานศักดิ์สิทธิ์หิมะจันทราไม่สมควรที่จะมีชื่อเช่นนี้เพราะพวกเขาสรรหาศิษย์ที่ทรยศต่อนิกายตัวเอง ต้วนเทียนหลางไม่สามารถหาคำพูดมาลบล้างคำพูดของหลินเฟิงได้ซึ่งเห็นได้ชัดว่าผู้คนต่างก็เห็นด้วยกับหลินเฟิง

 

 หลินเฟิงถามแค่เพียงว่าทำไมถึงเรียกสถานที่แห่งนี้ว่าลานศักดิ์สิทธิ์หิมะจันทรา เห็นได้ชัดว่าเขารู้อยู่แล้วว่าต้วนเทียนหลางจะต้องตอบอย่างนี้ ถ้าต้วนเทียนหลางเลือกที่จะตอบอย่างอื่นมันจะทำให้คนที่มีตำแหน่งสูงกว่าเขาจะต้องเข้ามาร่วมรับผิดชอบและเขาก็ไม่กล้าที่จะกล่าวอ้างถึงคนเหล่านั้น นอกจากนี้ต้วนเทียนหลางยังไม่สามารถปฏิเสธความจริงที่ว่าลานศักดิ์สิทธิ์หิมะจันทราไม่สมควรได้ชื่อว่า ‘ลานศักดิ์สิทธิ์’ ซึ่งเป็นความหมายในคำพูดของหลินเฟิงก่อนหน้านี้ ต้วนเทียนหลางไม่มีเหตุผลมากพอที่จะปกป้องตนเอง

 

 “ต้วนเทียนหลาง เจ้ามั่นใจว่านิกายใหญ่จะต้องมอบศิษย์ที่ดีที่สุดของพวกเขาให้กับเจ้าและเจ้าก็ยังทำลายนิกายหยุนไห่ ท้ายที่สุดเจ้าก็สร้างลานศักดิ์สิทธิ์หิมะจันทราขึ้นมา คงจะมีเกียรติมากสินะ! แต่เจ้าจะไม่รู้ได้อย่างไรว่านิกายหยุนไห่เป็นนิกายของแม่ทัพหลิ่วช่างหลาน?” หลินเฟิงยังคงกล่าวต่อในขณะที่ต้วนเทียนหลางยังคงเงียบ

 

 “ถือว่าเป็นการเคลื่อนไหวที่ฉลาดมากต้วนเทียนหลาง เพราะครั้งหนึ่งแม่ทัพหลิ่วเองก็ถือว่าเป็นศิษย์ของนิกายหยุนไห่ นอกจากนี้ทุกคนยังรู้ว่าแม่ทัพหลิ่วเป็นคนที่ซื่อสัตย์อย่างมาก เจ้ารู้อยู่แล้วว่าเขาจะไม่ยอมทนที่เห็นเจ้าทำลายนิกายของเขา แน่นอนว่าเขาจะต้องมาหาเจ้าเพื่อแก้แค้น ด้วยวิธีการนี้แม่ทัพหลิ่วจะถูกบังคับให้ละทิ้งหน้าที่ของตนและเดินทางมายังเมืองจักรพรรดิเพื่อสังหารเจ้า จากนั้นเจ้าก็จะสามารถกล่าวหาเขาได้ว่าเป็นกบฏและทำลายชื่อเสียงของเขารวมทั้งทำให้เขาสูญเสียทุกสิ่งที่เขาตั้งใจสร้างมาตลอดหลายปี เป็นแผนการที่สมบูรณ์แบบจริงๆ….. แผนของเจ้าไม่มีที่ติ…. นี่คือแผนของเจ้าตั้งแต่ต้นเพื่อที่จะสนับสนุนอาณาจักร?” หลินเฟิงยังคนพูดต่อ คำพูดของเขาทำให้ฝูงชนประหลาดใจและตระหนักได้ถึงความผิดปกติ

 

 ถูกต้อง สิ่งที่หลินเฟิงกล่าวเป็นความจริงทั้งหมด มันคือแผนการอันสมบูรณ์แบบและชั่วร้าย อย่างไรก็ตามยังมีหลายคนที่คิดว่าต้วนเทียนหลางอาจจะไม่ใช่ผู้ที่คิดแผนการนี้มาตั้งแต่ต้น

 

 

 ทุกคนต่างถูกกระตุ้นด้วยคำพูดของหลินเฟิง หลังจากทุกสิ่งที่หลิ่วช่างหลานทำเพื่ออาณาจักรแล้วใครจะกล้าต่อต้านเขา? เรื่องนี้ทำให้หลายคนอึดอัดใจ

 

 “หุบปาก! หยุดพูดเหลวไหลได้แล้ว!!” ต้วนเทียนหลางคำรามอย่างเกรี้ยวกราด จู่ๆปราณน้ำแข็งที่มีกลิ่นอายเหมือนกับความตายก็เข้าล้อมร่างกายของหลินเฟิงในทันที

 

 “หรือว่าข้าพูดผิด? เจ้าไม่ได้เป็นผู้วางแผนที่น่ารังเกียจเหล่านี้?” ดูเหมือนว่าหลินเฟิงจะไม่ได้ให้ความสนใจที่ต้วนเทียนหลางต้องการจะสังหารเขา คำพูดทิ้งทายของหลินเฟิงจะยิ่งทำให้ผู้คนแตกตื่น

 

 “แน่นอนว่าข้าเป็นคนทำ! เจ้าพล่ามจบหรือยัง?” ต้วนเทียนหลางยอมรับด้วยตัวเองว่าเขาเป็นผู้ดำเนินการแผนทั้งหมด แต่มันก็ยังมีความเป็นไปได้ว่าอาจจะมีคนที่อยู่ในเงามืดและชักใยอยู่เบื้องหลังตั้งแต่ต้น?

 

 อย่างไรก็ตามยังมีผู้คนอีกมากที่มีสถานะสูงกว่าต้วนเทียนหลางในอาณาจักรนี้ ดังนั้นถ้าเขาไม่ใช่ผู้เดียวที่ทำก็อาจจะมีคนอยู่เบื้อหลังของเขาอีก?

 

 “แน่นอนข้ารู้ ตั้งแต่ที่เจ้ายอมรับว่าเป็นคนเริ่มแผนการทั้งหมด ข้ายังต้องการที่จะถามเจ้า ตั้งแต่ที่เจ้าต้องการที่จะทำลายแม่ทัพหลิ่วและยังสังหารผู้คนของอาณาจักรไปมากมาย เจ้าไม่คิดว่าตัวเองเป็นกบฏหรือ? หรือว่ามันจะไม่ถือว่าเป็นความผิดหากสมาชิกตระกูลต้วนก่อกบฏ?” หลินเฟิงกล่าวและจ้องมองไปที่ต้วนเทียนหลาง จากนั้นเขาก็หันไปกล่าวกับฝูงชน “หากพวกเจ้าทุกคนช่วยเขากระทำเรื่องชั่วร้าย พวกเจ้าก็คงไม่มีความผิดด้วยเช่นกัน?”

 

 ผู้คนตกตะลึง หลินเฟิงใช้การกล่าวอ้างซึ่งต้วนเทียนหลางก็เคยใช้กับหลิ่วช่างหลานก่อนหน้านี้ หลินเฟิงเชื่อในความยุติธรรมและคิดว่าสิ่งที่เขาพูดคือความถูกต้อง แม้แต่ฝูงชนหรือต้วนเทียนหลางก็ไม่อาจปฏิเสธสิ่งที่หลินเฟิงพูดได้

 

 ผู้ที่ก่ออาชญากรรมได้กล่าวว่าผู้บริสุทธิ์นั้นมีความผิด แต่หลินเฟิงเพิ่งจะเปิดเผยความจริงออกไป ลิ้นของเขาเปรียบเสมือนคมดาบ

 

 ถ้าเป็นสถานที่อื่นต้วนเทียนหลางคงจะสังหารหลินเฟิงอย่างไม่ลังเล แต่วันนี้เป็นวันสถาปนาลานศักดิ์สิทธิ์หิมะจันทราดังนั้นเขาจะต้องระมัดระวังและคิดให้รอบครอบเกี่ยวกับสิ่งที่เขาจะทำ มีผู้คนจากทั่วอาณาจักรรวมตัวกันอยู่ที่นี่และยังให้ความสนใจเกี่ยวกับการกระทำของเขา ต้วนเทียนหลางไม่สามารถที่จะโจมตีหลิ่วช่างหลานได้ยกเว้นว่าหลิ่วช่างหลานจะโจมตีเขาเหมือนก่อนหน้านี้ ถ้าต้วนเทียนหลางเลือกที่จะโจมตีก่อนเขาจะต้องถูกกล่าวหาว่าเป็นกบฏต่ออาณาจักรอย่างแน่นอน แต่ถ้าหลิ่วช่างหลานเป็นคนเริ่มก่อนความผิดทั้งหมดจะตกไปทีเขาแทน

 

 “ทำไมเจ้าถึงมาพูดไร้สาระในวันนี้? วันนี้คือวันสถาปนาลานศักดิ์สิทธิ์หิมะจันทรา ทำไมเจ้าถึงมาก่อความวุ่นวายที่นี่?”ดูเหมือนว่าต้วนเทียนหลางจะหลงลืมเกี่ยวกับหลิ่วช่างหลานไปแล้วเพราะในตอนนี้เขาโกรธแค้นหลินเฟิงอย่างมาก นอกจากนี้เขายังพยายามที่จะเปลี่ยนเรื่อง

 

 “ข้าเนี่ยนะก่อความวุ่นวาย? ข้าเพียงแค่พูดความจริงออกไปไม่กี่เรื่องเท่านั้น ถ้าทุกคนคิดว่าการที่ข้ามาพูดในวันนี้เป็นการก่อความวุ่นวายและไร้สาระ ข้าก็จะไป” หลินเฟิงกล่าว ความจริงที่เขามาในวันนี้ก็เพื่อที่จะทำลายพิธีจริงๆ นอกจากนี้เขาหวังว่าจะได้สู้กับศิษย์บางคนเพื่อให้ตัวเองได้รับประโยชน์ในการรู้แจ้ง

 

 แต่สิ่งที่เกิดขึ้นต่างผิดเพี้ยนไปจากที่เขาคิดเพราะการปรากฏตัวอย่างกะทันหันของหลิ่วช่างหลาน หลินเฟิงรู้สึกได้ว่าคำพูดของเขาทำให้ต้วนเทียนหลางรู้สึกเหมือนกับถูกตบหน้าและยังทำให้เขาพอใจอย่างมาก

 

 “ท่านแม่ทัพ ท่านจะได้รับความยุติธรรมก็ต่อเมื่อท่านมีพลัง แต่ที่สำคัญที่สุดก็คือท่านจะต้องมีชีวิตอยู่เพื่อรับมัน ดังนั้นโปรดดูแลตัวเองและในเวลาที่เหมาะสมท่านจะสามารถต่อสู้เพื่อความยุติธรรมของท่านได้” หลินเฟิงกล่าวและทำให้หลิ่วช่างหลานประหลาดใจ

 

 “จำจดไว้ เติบโตอย่างแข็งแกร่ง ดูแลตัวเอง… เพียงเท่านี้ก็จะสามารถต่อสู้เพื่อความยุติธรรมได้…” เพียงผู้ที่เข้าใจสิ่งนี้เท่านั้นก็จะสามารถมีอิสระที่แท้จริงในโลกได้

 

 หลิ่วช่างหลานมาในวันนี้เพื่อจะแสดงให้เห็นว่าต้วนเทียนหลางทำลายนิกายหยุนไห่อย่างไม่เป็นธรรม เพราะนิกายหยุนไห่ก็เป็นส่วนหนึ่งในอดีตของเขา ทำให้เขารู้สึกอย่างจะแก้แค้น เขาคิดว่ามันเป็นสิ่งที่ถูกต้อง อย่างไรก็ตามในสายตาของหลินเฟิง การกระทำของหลิ่วช่างหลานเป็นเพราะความยึดมั่นที่ตาบอดและไม่มีอะไรมากกว่านั้น

 

 ถ้าหลิ่วช่างหลานกระทำการโดยประมาทและนำพาความตายมาสู่ตัวเองจะไม่ทำให้ศัตรูของเขามีความสุขหรอกหรือ? เขาจะสามารถแก้แค้นให้กับผู้คนที่ตายไปอย่างไม่เป็นธรรมได้อย่างไร?

 

เขาทำตัวเหมือนคนหมดหวังและไม่มีทางเลือก

 

 “ท่านแม่ทัพ ท่านไปเสียเถอะ” หลินเฟิงกล่าว จากนั้นหลิ่วช่างหลานก็พยักหน้าเล็กน้อย

 

 “เจ้าอยากไปกับข้าด้วยไหม?”หลิ่วช่างหลายถามหลินเฟิง

 

 หลินเฟิงประหลาดใจเล็กน้อยและกล่าว “ก็ได้”

 

 “หลังจากก่อความวุ่นวายในวันนี้ พวกเจ้าคิดว่าจะจากไปได้โดยง่าย?” ต้วนเทียนหลางกล่าวด้วยความโกรธเกรี้ยว พวกเขาทำให้เขาและลานศักดิ์สิทธิ์ได้รับความอัปยศ

 

 “ข้าจะพาเขาไป ผู้ใดกล้าที่จะต่อต้านข้า!” หลิ่วช่างหลานกล่าวขณะเหลือบมองไปที่ต้วนเทียนหลาง ตอนนี้ดูเหมือนว่าเขาจะกลับไปเป็นศรศักดิ์สิทธิ์หลิ่วช่างหลานคนเดิมแล้ว

 

 ในตอนแรกหลิ่วช่างหลานต้องการที่จะต่อสู้ แต่ตอนนี้เขาไม่มีความคิดนั้นอีกต่อไปและยังไม่ได้ทำอะไรผิด ต้วนเทียนหลางไม่อาจจะทำอะไรเขาได้

 

 “หลิ่วช่างหลาน เจ้ามาที่นี่โดยไม่ได้รับอนุญาตและยิ่งไปกว่านั้นด้วยความวุ่นวายที่เกิดขึ้น มันถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง” ต้วนเทียนหลางกล่าวอย่างเย็นชา

 

 “อะไรที่ทำให้เจ้ามีสิทธิ์มาตัดสินความผิดของข้า? ถ้าองค์จักรพรรดิกล่าวด้วยตัวเองว่าข้ามีความผิดและขับไล่ข้า ข้าก็จะยอมรับการตัดสินใจของเขา แต่กับเจ้าไม่มีสิทธิ์” หลิ่วช่างหลานกล่าวอย่างไม่แยแสทำให้ใบหน้าของต้วนเทียนหลางบิดเบี้ยวอย่างน่าเกลียด

 

 ขับไล่เขา? เรื่องตลกอะไรกัน? หลิ่วช่างหลานเป็นแม่ทัพที่มีชื่อเสียงอย่างมาก เขามีวีรกรรมมากมายในสนามรบ เขาประสบความสำเร็จมากมายในอาณาจักรหิมะจันทรา

 

 “ให้ม้ากับเขา” หลิ่วช่างหลานกล่าวกับทหารของเขา ทหารคนนั้นกระโดดลงจากม้าของเขาและให้มันกับหลินเฟิง

 

 “ไปกันเถอะ” หลิ่วช่างหลานกล่าวกับหลินเฟิง

 

 หลินเฟิงนั่งอยู่บนม้าหุ้มเกราะ ก่อนที่จะไป เขาพยักหน้าให้กับเมิ่งฉิงและคนอื่นๆ หลินเฟิงมั่นใจว่าเมิ่งฉิงจะอยู่ที่นั่นและปกป้องพวกเขา

 

 ในตอนนั้นเอง หลินเฟิงก็ผ่านไปใกล้กับหลินป้าเต้าและหลินรุ่ย เขาจ้องมองผ่านหน้ากากไปที่พวกนั้น พวกเขาประหลาดใจว่าทำไมคนที่อยู่ภายใต้หน้ากากคนนี้ถึงจ้องมาที่พวกเขา

 

แต่ในตอนนั้นเอง หลินเฟิงและม้าหุ้มเกราะก็ทิ้งให้หลินป้าเต้าและหลินรุ่นสับสน การแสดงออกของพวกเขายังคงอยู่ในความมึนงงเป็นเวลานาน

 

ติดตามได้ที่ – 

ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
comments