ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปหลินเฟิงกำลังเข้าใกล้เมิ่งฉิงมากขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่เขากำลังเข้าใกล้ หลินเฟิงรู้สึกราวกับว่าความเย็นได้เจาะผ่านร่างกายของเขา ในตอนที่มือของเขาสัมผัสกับไหล่ของนาง หลินเฟิงตระหนักได้ว่ามือของเขาถูกแช่แข็งโดยสมบูรณ์ เขาไม่สามารถขยับได้อีกต่อไป
“ออกไป”เมิ่งฉิงกล่าวด้วยเสียงที่แหบแห้ง หลังจากนั้นไม่นานร่างกายของนางก็หยุดปลดปล่อยปราณน้ำแข็งออกมา นางไม่อาจทนเห็นหลินเฟิงอยู่ในสภาพแบบนี้ได้ มันทำให้นางรู้สึกเศร้าอยู่ลึกๆภายใน
“ยัยเซ่อ ทุกครั้งที่เจ้าปกป้องข้า มันทำให้ข้าเสียหน้า” หลินเฟิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม คิ้วของเขากลายเป็นสีขาวโดยสมบูรณ์
ทันใดนั้น ปราณที่บริสุทธิ์ก็ได้ไหล่ผ่านเข้าสู่ร่างกายของหลินเฟิงและทำให้เขาไม่รู้สึกหนาวอีกต่อไป น้ำแข็งที่เกาะตามตัวสลายหายไปในทันที
หลินเฟิงเขยิบเข้าใกล้เมิ่งฉิงมากขึ้น
เมิ่งฉิงเห็นรอยยิ้มอยู่บนใบหน้าของหลินเฟิงตั้งแต่ตอนที่ร่างของเขาถูกน้ำแข็งเข้าปกคลุม เขายังคงมีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้าและยังเป็นรอยยิ้มที่อบอุ่นที่มีให้กับนาง
“ข้าหวังว่าเจ้าจะไม่ตำหนิข้า” หลินเฟิงกล่าวขณะยิ้ม จากนั้นเขาก็พยายามเหยียดแขนออกไปและกอดเมิ่งฉิงไว้ ทันใดนั้นหลินเฟิงก็สัมผัสได้ถึงไอความเย็นที่เจาะทะลุร่างกายของเขา พริบตาเดียวร่างของเขาถูกแช่แข็งไว้อีกครั้ง
ทันใดนั้นหินก็ได้ปรากฏข้างร่างกายของหลินเฟิง ภายในหินนั้นมีสิ่งของทุกอย่างจากอารามโบราณของนิกายหยุนไห่บรรจุอยู่
ดวงตาของหลินเฟิงปิดลง เขาปลดปล่อยจิตวิญญาณออกมาแต่ทันใดนั้น โลกก็ไม่มืดสนิทเหมือนเคย มันถูกปกคลุมไปด้วยหิมะทั้งยังเป็นหิมะที่หนาวเย็นอย่างมาก!
“กลืนกิน” หลังจากนั้นหลินเฟิงก็ปลดปล่อยจิตวิญญาณสวรรค์ออกมาและเริ่มดูดซับปราณจากหินบริสุทธิ์ น้ำแข็งรอบตัวของเขาเริ่มละลาย
เมิ่งฉิงกระพริบตาและมองไปยังใบหน้าที่อิดโรยของหลินเฟิง นางยังคงไม่ขยับไปไหน นางยังคงจ้องมองไปที่ดวงตาที่ปิดสนิทของหลินเฟิงขณะที่ยังปล่อยปราณน้ำแข็งออกมากระแทกกับร่างของหลินเฟิง
มันราวกับว่าเวลาได้หยุดเดิน น้ำแข็งบนร่างของหลินเฟิงเริ่มหนาขึ้นเรื่อยๆ ครึ่งหนึ่งของร่างกายของเขาถูกแช่แข็งโดยสมบูรณ์ ลมหายใจของหลินเฟิงเริ่มแผ่วเบาลงเรื่อยๆ นอกจากนี้ปราณที่บริสุทธิ์ครึ่งหนึ่งของหินก็ถูกเขาดูดซับไปแล้ว
แม้กระทั่งสถานการณ์แบบนี้ หลินเฟิงก็ยังรู้ดีว่าร่างกายของเขาถูกความเย็นเล่นงานอย่างน่ากลัวและยังคงแย่ลงเรื่อยๆ นอกจากนี้เขายังตระหนักได้ว่าปราณจากหินบริสุทธิ์ไม่เพียงพอให้เขารอดพ้นไปจากภัยพิบัติครั้งนี้ เขาไม่สามารถทำอะไรได้และปล่อยให้ความเย็นบุกเข้ามาในร่างกายของเขา
ทันใดนั้น เมิ่งฉิงหยุดปลดปล่อยปราณน้ำแข็งของนาง ร่างของนางเข้ามาแนบชิดกับร่างของหลินเฟิง ในตอนนี้เมิ่งฉิงไม่เหมือนกับเทพธิดาน้ำแข็งอีกต่อไป นางดูราวกับเด็กสาวผู้น่าสงสารที่ถูกครอบงำโดยความเศร้า
“ความเย็นอะไรกัน”
ในตอนนี้ หลินเฟิงรู้สึกว่าเขาไม่อาจทนต่อความหนาวเย็นได้อีกต่อไป มันกำลังแช่แข็งกล้ามเนื้อและเลือดของเขา
“ข้าไม่ยอมแพ้เด็ดขาด ข้าต้องอดทน!” แต่อำนาจจิตและความมุ่งมั่นนั้นยังไม่เพียงพอ หลินเฟิงยังคงถูกแช่แข็งและไม่อาจขยับได้ไม่ว่าเขาจะพยายามมากแค่ไหนก็ตาม ร่างของเขาสั่นสะท้านตั้งแต่หัวจรดเท้าเพราะความเย็น
ความเย็นเริ่มแทรกซึมเข้าไปในเลือดของหลินเฟิงแต่ในตอนนี้วิญญาณของเขาเองก็เริ่มสั่นสะท้าน ทันใดนั้นเขาก็เต็มไปด้วยความรู้สึกที่คุ้นเคย!
“จิตวิญญาณงูของข้า” หัวใจของหลินเฟิงกำลังเต้นรัว ความรู้สึกของเขาในตอนนี้เหมือนกับตอนที่เขาเกือบถูกหมอกปีศาจสังหาร
“จิตวิญญาณงูของข้าจงตื่นขึ้นมา”
“ฟ่ออออ” หลินเฟิงเริ่มได้ยินเสียงของงู จากนั้นมันก็เปิดปากและกลืนกินปราณน้ำแข็ง
“น่าประหลาด จิตวิญญาณของข้าสามารถกลืนกินได้แม้แต่ปราณน้ำแข็ง” หลินเฟิงตื่นเต้น ม่านตาของเขากำลังหดลงขณะเฝ้ามองจิตวิญญาณงูของเขากลืนกินปราณน้ำแข็งจำนวนมาก มันเป็นสิ่งที่น่ากลัวมากถ้าได้ดู!
ปราณน้ำแข็งที่กระจายไปทั่วห้องถูกกลืนกินโดยงู ความเย็นลดลงอย่างต่อเนื่อง
กลุ่มของน้ำแข็งได้ปรากฏขึ้นอย่างฉับพลันด้านหลังของหลินเฟิง มันทรงพลังและยังหนาวเย็นอย่างมาก แต่มันไม่ได้ส่งผลกระทบกับหลินเฟิงหรือเมิ่งฉิงเพราะหลินเฟิงสามารถควบคุมมันได้
“จิตวิญญาณน้ำแข็งแทนที่จิตวิญญาณหมอกปีศาจ?” หลินเฟิงอ้าปากค้าง เขารู้สึกทึ่งหลังจากที่รับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลง มันก็เหมือนกับครั้งล่าสุดที่เขาตกอยู่ในอันตราย หลังจากที่จิตวิญญาณงูกินอาหารของมันเสร็จ ไม่ว่าอะไรก็ตามที่มันกินก็จะกลายเป็นจิตวิญญาณให้กับหลินเฟิง
ครั้งล่าสุดเป็นหมอกปีศาจที่ถูกจิตวิญญาณงูกลืนกินจนมันกลายเป็นจิตวิญญาณให้กับหลินเฟิง คราวนี้มันกลืนกินปราณน้ำแข็งทำให้เกิดจิตวิญญาณน้ำแข็งแทนที่จิตวิญญาณหมอกปีศาจ
จิตวิญญาณงูของหลินเฟิงน่ามหัศจรรย์เกินไปจนทำให้เขาเองก็รู้สึกกลัว
ในที่สุดการกลืนกินปราณน้ำแข็งก็เสร็จสิ้นลง จิตวิญญาณน้ำแข็งของหลินเฟิงทรงพลังและหนาวเย็นอย่างมาก ปราณถูกกลืนกินไปมากเท่าไหร่จิตวิญญาณก็จะแข็งแกร่งมากเท่านั้น นอกจากนี้จิตวิญญาณงูของเขาตัวใหญ่ขึ้นมาก
ปราณน้ำแข็งหายไปจากห้องอย่างสมบูรณ์ ในตอนนี้ปราณน้ำแข็งก็หายไปจากร่างของเมิ่งฉิง ไม่มีความเย็นใดๆถูกปลดปล่อยออกมาจากร่างของนางอีกต่อไป และห้องเริ่มอบอุ่นขึ้น
ทันใดนั้นเมิ่งฉิงก็หลับตาลงและหลับไป นางต้องการพักผ่อน นางรู้สึกเหนื่อยล้ากับสิ่งที่เกิดขึ้น
หลินเฟิงจ้องมองไปยังสาวงามที่หลับใหล ปรากฏรอยยิ้มกว้างบนหน้าของหลินเฟิงและหัวใจของเขาก็เต้นแรงขึ้น
“ข้าแข็งแกร่งขึ้นอีกแล้ว”
หลินเฟิงสามารถตรวจสอบความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้นของเขาได้ ทำให้เขารู้สึกพึงพอใจอย่างมาก
หลินเฟิงไม่ได้กวนเมิ่งฉิง เขาหลับตาลงและนั่งสมาธิ
ลึกลงไปหลินเฟิงยังตระหนักได้ว่าเขายังแข็งแกร่งไม่เพียงพอ เขาต้องการที่จะเติบโตให้เร็วขึ้น เขาไม่ได้มีเวลามากพอเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งในช่วงเวลาหลายวันที่ผ่านมา
ยังคงมีอาณาจักรอื่นๆอยู่ในทวีปแห่งนี้รวมทั้งผู้บ่มเพาะพลังที่โดดเด่นอีกมากมาย ถ้าหลินเฟิงไม่ฝึกให้หนักเขาจะต้องถูกทิ้งให้อยู่ข้างหลังคนเหล่านั้น
ผ่านไปไม่นานนักมือของเมิ่งฉิงก็เริ่มขยับ นางค่อยๆลืมตาขึ้นและเห็นว่าปราณน้ำแข็งหายไปจากห้องอย่างสมบูรณ์ นอกจากนี้นางยังพยายามที่จะต่อต้านร่างที่อุ่นสบายของหลินเฟิง
เมิ่งฉิงกระพริบตาสองสามครั้ง นางกำลังสับสนว่ามันเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นได้อย่างไร ทันใดนั้นนางก็ลุกขึ้นและเห็นหลินเฟิงกำลังหลับตานั่งสมาธิอยู่ซึ่งทำให้นางประหลาดใจอย่างมาก!
หลินเฟิงสัมผัสได้ถึงการเคลื่อนไหวในห้อง เขาหยุดนั่งสมาธิและลืมตาขึ้นมา เขามองไปที่เมิ่งฉิงและยิ้มให้นางอย่างอบอุ่น
“ในที่สุดเจ้าก็ฟื้น”
“อืม” เมิ่งฉิงพยักหน้า นางจ้องไปที่หลินเฟิงและถาม “เจ้าทำได้อย่างไร?”
“เพียงแค่ข้ามีสาวงามอยู่เคียงข้างข้าก็หลงลืมถึงความหนาวเหน็บ หลังจากนั้นก็เป็นอย่างที่เจ้าเห็น” หลินเฟิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม เมิ่งฉิงจ้องมองไปยังหลินเฟิงแต่ยังไม่แน่ใจในความหมายของเขา คำพูดเหล่านี้ทำให้นางรู้สึกดีขึ้นเล็กน้อย
แม้ว่านางจะไม่ได้ใช้พลังทั้งหมดในการปลดปล่อยปราณน้ำแข็งออกมาแต่หลินเฟิงกลับสามารถต้านทานมันได้ นี่มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย…. แต่มันก็เป็นไปแล้ว…. เขาทำได้อย่างไร?
“เจ้าคิดว่าเจ้ากำลังนั่งทำอะไรอยู่ที่นี่?” เมิ่งฉิงกล่าว
“เอิ่มมม…” หลินเฟิงกระอักกระอ่วน ผู้หญิงทุกคนเป็นเช่นนี้? ก้าวร้าวกับคนที่พวกนางสนใจ?
“ข้าเป็นห่วงเจ้าดังนั้นข้าจะอยู่ที่นี่ถ้าเจ้าต้องการ” หลินเฟิงตอบ
“ตอนนี้ไม่มีน้ำแข็งบนร่างของข้าอีกแล้ว เจ้าจะกอดข้าไปอีกนานแค่ไหน?” เมิ่งฉิงถามหลินเฟิง น้ำเสียงของนางกลับมาเย็นชาอีกครั้ง
“…………”
หลินเฟิงขมวดคิ้ว ทันใดนั้นเขาก็ลุกขึ้นยืนและเดินออกจากห้องในทันที ผู้หญิงคนนี้… ฉลาดเกินไป!
หลินเฟิงไม่ได้เห็นใบหน้าที่แดงระเรื่อของเมิ่งฉิงเพราะเขาออกจากห้องไปแล้ว ในตอนนี้ไม่ว่าใครก็ตามที่เห็นใบหน้าของนางต่างก็ต้องประหลาดใจกันทั้งนั้น!
************************************************************
ติดตามได้ที่ –