ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
เมิ่งฉิงหยุดจ้องมองหลิ่วเฟย และจ้องมองไปที่หลินเฟิงอย่างเฉยเมย จากนั้นนางก็เข้าไปในห้องขนาดขนาดเล็กและปิดประตู
การกระทำของเมิ่งฉิงทำให้หลินเฟิงยิ้มอย่างบิดเบี้ยว หลินเฟิงไม่สามารถคาดเดาได้ว่านางกำลังขบคิดอะไรอยู่ เขาไม่รู้ว่านางรู้สึกอย่างไรภายในใจของนาง
“หลินเฟิง… เจ้ามันเป็นคนที่เลวทรามจริงๆ…..” หลิ่วเฟยกล่าวขณะกำลังกัดริมฝีปากของนางและจ้องมองไปที่หลินเฟิงด้วยนัยน์ตาที่เศร้าโศก จากนั้นนางก็รีบเดินออกจากห้องไปทันที
“…………….”
หลินเฟิงงงวย มีคำถามมากมายหลายล้านคำถามไหลผ่านอยู่ในใจเขา นางอารมณ์เสียเล็กน้อย? ทำไมนางถึงมองเขาด้วยสายตาแบบนั้น? นางดูเหมือนคนที่ใจแตกสลาย เป็นไปได้ไหมว่านางชอบเขาจริง?
หลินเฟิงไม่เข้าใจอะไรเลย ดังนั้นเขาทำได้เพียงยิ้มอย่างบิดเบี้ยว หัวใจของหญิงสาวเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ยากมากจริงๆสำหรับเขา
แน่นอนหลินเฟิงไม่เข้าใจสิ่งที่หลิ่วเฟยคิด เมื่อหลิ่วช่างหลานได้ขอให้หลินเฟิงดูแลหลิ่วเฟย จุดประสงค์ของเขาคือทำให้เขาและนางสนิทสนมกันมากขึ้น โดยใช้เวลาให้พวกเขาได้อยู่ด้วยกันนานๆ
หลิ่วช่างหลานไม่รู้ว่าเขาจะมีชีวิตอยู่ได้อีกนานแค่ไหน เขาตกอยู่ในอันตรายอยู่ตลอดเวลา คนเดียวที่หลิ่วเฟยสามารถพึ่งพาได้ถ้าหากเขาจากไปคือหลินเฟิง ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่ชอบกันตั้งแต่เริ่มแรกเพราะความเข้าใจผิดเล็กน้อย หลินเฟิงก็ได้แสดงให้เห็นว่าเป็นคนที่นางสามารถเชื่อถือได้ เขาได้แสดงความสามารถอันโดดเด่นและได้รับการยกย่อง ในขณะที่หลิ่วเฟยค่อยๆลืมเรื่องเลวร้ายทั้งหมดของหลินเฟิงไป โดยเฉพาะในตอนที่เขาออกจากนิกายหยุนไห่ในวันที่นองเลือด นางทำได้เพียงแต่ขบคิดแต่เรื่องของหลินเฟิงเท่านั้น
หลิ่วเฟยมีความรู้สึกต่อหลินเฟิงซึ่งเป็นเหตุผลที่นางยอมฟังพ่อของนาง และติดตามหลินเฟิงมา นอกจากนี้ในหัวใจของนางก็เริ่มมีความรู้สึกต่อหลินเฟิง ดังนั้นนางจึงคิดว่าเป็นเรื่องปกติมากๆที่จะอยู่กับหลินเฟิงเพียงสองต่อสอง
แต่เมื่อนางเปิดประตูห้องของหลินเฟิง สิ่งที่นางเห็นเป็นอย่างแรกคือหญิงสาวคนหนึ่ง นางช่างงดงามอย่างไม่น่าเชื่อ นางรู้สึกราวกับว่าหัวใจของตัวเองกำลังแตกสลายนั่นเป็นเหตุผลที่นางรีบวิ่งออกไปจากห้องอย่างรวดเร็ว นางไม่สามารถทนยืนอยู่ในห้องของหลินเฟิงได้
“หลินเฟิงใครคนไหนที่เจ้าจะปลอบโยนเป็นคนแรก? หญิงสาวที่อยู่ในห้อง? หรือเจ้าจะเลือกอีกคนที่วิ่งออกไปจากห้อง?” หยวนซานผู้ที่ยืนอยู่นอกห้องถาม หลินเฟิงถึงกับขมวดคิ้วเมื่อได้ยินคำพูดของเขา
“ข้าควรไปพูดคุยกับหลิ่วเฟยก่อน” หลินเฟิงคิด หลิ่วเฟยยังคงซึมเศร้าอยู่เกี่ยวกับเรื่องของพ่อของนาง ทำให้หลินเฟิงเป็นห่วงนางอย่างมาก
หลินเฟิงออกจากห้อง และกระโดดขึ้นไปในอากาศ และพยายามคว้าตัวหลิ่วเฟย ขณะที่นางกำลังมุ่งหน้าไปยังทางออก ดูเหมือนนางจะโกรธมากจริงๆ และไม่พูดอะไรสักคำ
หลินเฟิงตามนางไป และในที่สุดเขาก็จับนางได้ ในขณะนั้นทั้งสองกำลังอยู่นอกพระราชวังโบราณ
“ทำไมเจ้าถึงทำกับข้าอย่างนี้?” หลิ่วเฟยถามหลินเฟิง นางจ้องมองเขาด้วยสายตาอันเยือกเย็น หลินเฟิงเห็นได้ชัดว่านางหึงหวง
หลินเฟิงเกิดความรู้สึกแปลกๆภายในส่วนลึกของหัวใจของเขา เขาไม่เคยมีความรักเลยในช่วงชีวิตของเขา เขาจึงไม่รู้ว่ามันรู้สึกอย่างไร แต่ในตอนนี้หัวใจของเขาเต็มไปด้วยอารมณ์และความรู้สึกมากมาย
หลินเฟิงยังคงนิ่งเงียบ และทำได้เพียงจ้องมองหลิ่วเฟยขณะที่เดินเคียงคู่กับนาง
“ข้ากำลังถามเจ้าอยู่นะ” หลิ่วเฟยกล่าวขณะจ้องมองหลินเฟิง
หลินเฟิงยังคงจ้องมองนาง ทำให้หลิ่วเฟยรู้สึกมึนงง เจ้ากำลังอะไรกัน ห๊ะ?!
“เจ้า…ชอบข้า?” หลินเฟิงพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ขณะเกาหัว
ทำให้หลิ่วเฟยตกใจ และเกือบจะล้มทั้งยืน นางหันไปและจ้องมองหลินเฟิง ทันใดนั้นนางก็เริ่มตะโกนเสียงดัง
“ข้า? ชอบเจ้า? ฝันไปเถอะ!” หลิ่วเฟยตอบกลับอย่างเย็นชา จากนั้นนางก็หันหลังกลับ และเดินเร็วขึ้น นางไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน หัวใจนางกำลังเต้นเร็วเป็นอย่างมาก
“จริงหรือ?” หลินเฟิงรู้สึกประหลาดใจ เป็นไปได้ไหมว่าเขาคิดไปเอง?
“หลิ่วเฟย ได้โปรดหยุดเดินก่อน” หลินเฟิงตะโกนใส่หลิ่วเฟยที่กำลังเดินห่างออกไปเรื่อยๆ ทันใดนั้นหลิ่วเฟยก็หยุดเดิน
“อย่าลืมสิ่งที่เจ้าได้ให้คำมั่นสัญญาไว้กับพ่อของเจ้า! เจ้าต้องเชื่อฟังข้า” หลินเฟิงกล่าวแดกดัน
เมื่อหลิ่วเฟยได้ยิน นางกัดฟันขณะหันไปมองหลินเฟิงอย่างโกรธเกรี้ยว ไอสารเลวเจ้ากำลังใช้คำสัญญาของข้าเป็นข้ออ้าง!
แต่ในขณะนั้น หลินเฟิงเดินไปหานาง เมื่อเขาเดินมาถึงข้างๆนาง เขาจับมือของหลิ่วเฟย และกล่าว: “กลับกันเถอะ”
หลินเฟิงจับมือของนางอย่างแน่นทำให้นางไม่สามารถหนีได้ หลินเฟิงกำลังใช้พละกำลังกับนาง ทำให้นางไม่สามารถสลัดมือออกจากหลินเฟิงได้ นางทำได้เพียงจ้องมองหลินเฟิงอย่างโกรธเกรี้ยวเท่านั้น
“อย่าเกร็ง” หลินเฟิงรู้สึกภาคภูมิใจกับตัวเอง การเผชิญหน้ากับผู้หญิงมันไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ขณะนี้หลิ่วเฟยกลายเป็นเชื่อฟัง
แน่นอน เขาไม่สามารถทำสิ่งเดียวกันกับเมิ่งฉิงได้ ถ้าเขาพยายามที่ใช้กำลังกับนาง นางอาจจะโจมตีเขา และเพียงพริบตาเขาก็อาจถูกนางซัดปลิว
หลังจากนั้นไม่นาน ต้วนซาน และต้วนเฟิงก็เห็นหลินเฟิง และหลิ่วเฟยกำลังเดินกลับมาขณะจับมือกัน เมื่อพวกเขาหลิ่วเฟยไม่ดิ้นรนและจับมือของหลินเฟิงด้วยเช่นกัน ทำให้พวกเขาต่างประหลาดใจ พวกเขามองไปที่หลินเฟิงและเชิดชูในความกล้าหาญของเขา เขาช่างเป็นชายหนุ่มที่มีพรสวรรค์อย่างแท้จริง!
“มีหลายห้องในห้องของข้า เจ้าสามารถเลือกห้องและอาศัยอยู่ในห้องนั้นได้ ถ้าเจ้าไม่อยากเลือก เจ้าสามารถอาศัยอยู่กับจิ้งยวิ๋นได้” หลินเฟิงกล่าวขณะปล่อยมือนาง
“ใครมันจะอยากอาศัยอยู่ในห้องเดียวกับเจ้า?” หลิ่วเฟยกล่าวขณะมองหลินเฟิง ทำให้หลินเฟิงรู้สึกโล่งใจ และรู้สึกว่าหลิ่วเฟยกลับมาเป็นตัวของตัวเองแล้ว
ลุงหลิ่วได้ขอให้เขาดูแลนาง ดูเหมือนในอนาคตพวกเขาน่าจะมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันเพราะวันนี้เป็นวันที่แย่มากสำหรับทั้งสอง
หลินเฟิงส่ายหัว และเดินกลับไปที่ห้องของตัวเอง เขาเดินตรงไปที่ห้องที่มีเมิ่งฉิงอยู่ข้างใน และเคาะประตูของนางอย่างนุ่มนวล
หลังจากผ่านไปชั่วครู่ก็ยังคงไม่มีเสียงตอบกลับใดๆ จากนั้นหลินเฟิงได้ยินเสียงของเมิ่งฉิงจากด้านหลังประพตูว่า: “ข้าต้องการพักผ่อน ไปสนุกกับนางต่อสิ”
“เอ่อ….” หลินเฟิงยิ้มอย่างบิดเบี้ยว เป็นไปได้ไหมว่านางรู้สึกหึง?
แต่หลินเฟิงปฏิเสธความคิดที่ว่านางอาจจะหึงออกไปอย่างรวดเร็ว เมิ่งฉิงเป็นคนที่เย็นชาตลอด หลินเฟิงไม่เคยรู้ว่านางคิดอะไรอยู่
“ข้าบอกว่าข้าต้องการพักผ่อน ออกไปเดี๋ยวนี้” เมิ่งฉิงตะโกนจากในห้อง ทำให้หลินเฟิงกลายเป็นมึนงง
เกิดอะไรขึ้น? เกิดอะไรขึ้นกับนาง?
น้ำเสียงของเมิ่งฉิงเย็นชาและไม่แยแสตลอด อารมณ์ของนางดูเหมือนไม่ได้เปลี่ยนไปเลยแม้แต่น้อย แต่ในขณะนี้น้ำเสียงของนางดูโกรธ
“เมิ่งฉิง……” หลินเฟิงกล่าวอีกครั้งแต่เมิ่งฉิงพูดขัดเขาทันทีว่า: “ออกไปซะ!”
มีบางอย่างผิด
เกิดแสงในนัยน์ตาของหลินเฟิง เห็นได้ชัดว่ามีบางอย่างผิดปกติ!
หลินเฟิงผลักประตูห้องของนางแต่…มันเปิดไม่ออก ดูเหมือนมันจะดูล็อคจากด้านใน
หลินเฟิงผลักประตูของนางด้วยพลังทั้งหมดที่เขามีเพื่อเปิดมัน และในที่สุดเขาก็เปิดมันได้ และเดินเข้าไปในห้องทันที
หลินเฟิงรู้สึกได้ถึงพลังปราณที่แข็งแกร่งและหนาวเย็นเริ่มปกคลุมร่างของเขา มันน่ากลัวมาก! สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือห้องนี้เต็มไปด้วยพลังปราณอันหนาวเย็น
หลินเฟิงถูกกดดัน เขาเหลือบมองไปที่ห้อง และเตียง
เมิ่งฉิงกำลังนั่งอยู่บนเตียงของนาง หลินเฟิงกลายเป็นตะลึงเมื่อเห็นนาง ร่างของนางถูกปกคลุมไปด้วยชั้นน้ำแข็ง
ผมอันงดงามของเมิ่งฉิงถูกปกคลุมไปด้วยชั้นน้ำแข็ง
“เกิดอะไรขึ้น?” หลินเฟิงกรีดร้อง เมิ่งฉิงเงยหน้าของนางขึ้นมา บางทีนางอาจจะหนาวเพราะชั้นน้ำแข็ง นางขยับริมฝีปาก แต่ไม่มีคำพูดออกมาจากปากของนาง
“เมิ่งฉิง เจ้าเป็นอะไรไหม? บอกข้ามาว่าเกิดอะไรขึ้น!” หลินเฟิงกล่าวขณะเดินตรงไปที่เตียง หลินเฟิงรู้สึกหนาวเย็นไปทั่วร่างราวกับร่างของเขากำลังแข็งตัว
มันหนาวเย็นเกินไป แต่ความหนาวเย็นมันไม่ได้มาจากภายนอกแต่มันมาจากร่างกายของเมิ่งฉิง
“ไปให้พ้น อย่าเข้ามาใกล้ข้า” เมิ่งฉิงกล่าวเสียงสั่น
หลินเฟิงรู้สึกเจ็บปวดอย่างมากเมื่อได้ยินคำพูดของนาง เขานึกถึงปราณอันแข็งแกร่งและหนาวเย็นที่ปกคลุมร่างของเขา ก่อนที่เขาจะเข้ามาในห้อง
ในตอนนี้ร่างกายของเมิ่งฉิงกำลังปลดปล่อยพลังปราณอันเยือกเย็นบางส่วนออกมา แต่นางพยายามทำตัวราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เมิ่งฉิงไม่ต้องการบอกหลินเฟิงว่าเกิดอะไรขึ้น
หลินเฟิงเดินไปที่ขอบเตียงของนาง ทันใดนั้นชั้นน้ำแข็งเริ่มปกคลุมแขนของเขา และเริ่มปกคลุมร่างของเขา เพียงพริบตาเขามีสภาพเหมือนเมิ่งฉิงที่ถูกปกคลุมไปด้วยชั้นน้ำแข็ง ทำให้เขาสั่นเทาเช่นกัน
…แต่เขาก็ยังคงดูหนักแน่นเหมือนเช่นเคย!