หลินเฟิงไม่ได้ให้ความสนใจต่อการแสดงออกของชายในเสื้อคลุมดำ เขาก็ใส่หินบริสุทธิ์คุณภาพปานกลาง 3 ก้อนลงไป
 
 
 
 ทันใดนั้นปราณที่หนาแน่นและบริสุทธิ์ก็เริ่มไหลเข้าไปในห้อง มันสว่างและงดงามอย่างมาก มันราวกับเกิดดวงอาทิตย์ดวงน้อยๆขึ้นมาภายในห้อง
 
 
 
 ชายหนุ่มที่อยู่ในเสื้อคลุมดำมีใบหน้าที่ชั่วร้าย เขาเดินตรงไปยังห้องบ่มเพาะพลังของหลินเฟิง
 
 
 
 มีหลินเฟิงเพียงคนเดียวเท่านั้นที่อยู่ในห้องดังนั้นเขาจึงไม่มีอะไรต้องกลัว
 
 
 
 ห้องนี้เหมาะสำหรับเพียงคนเดียวในแต่ละครั้ง ถ้ามีคนมากกว่าหนึ่งเข้าไปก็จะเป็นการสิ้นเปลืองและรบกวนการบ่มเพาะพลังเท่านั้น
 
 
 
 หยวนซานเดินตรงไปยังชายหนุ่มในเสื้อคลุมดำและขวางทางเขาไว้ ถ้าชายหนุ่มในเสื้อคลุมดำพยายามขโมยห้องของหลินเฟิง หยวนซานจะไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องโจมตีเขา หยวนซานจ้องมองไปยังชายหนุ่มในเสื้อคลุมดำ
 
 
 
 หินบริสุทธิ์คุณภาพปานกลาง 3 ก้อนเป็นสมบัติที่มีค่ามากเกินไป!
 
 
 
 เกิดเสียงดังก้องกระจายไปทั่วอากาศ “ตู้มมมม ตู้ม ตู้ม”
 
 
 
 ประตูหินเปิดออก
 
 
 
 ชายหนุ่มในเสื้อคุมดำรู้สึกประหลาดใจและกล่าวกับหยวนซาน “ไสหัวไปให้พ้นทางข้า”
 
 
 
 ทันใดนั้นหยวนซานก็รู้สึกหายใจไม่ออก เป็นไปตามคาดชายหนุ่มในเสื้อคลุมดำบรรลุขอบเขตจิตวิญญาณขั้นที่ 3 และยังแข็งแกร่งมากหากเทียบกับอยู่ที่มีพลังบ่มเพาะในระดับเดียวกัน แรงกดดันของเขาน่ากลัวอย่างมาก
 
 
 
 หยวนซานรู้ดีว่าเขาไม่อาจต่อกรกับชายคนนี้ได้
 
 
 
 “ถอยไป!” มีเสียงดังขึ้นมา จู่ๆอุณภูมิห้องของหลินเฟิงก็ลดลงอย่างฉับพลัน ความหนาวเย็นปกคลุมไปทั่วอากาศ
 
 
 
 หยวนซานกำลังถูกแช่แข็งจากปราณที่เหน็บหนาวในอากาศ
 
 
 
 “ตู้มมมม!!”
 
 
 
 ทันใดนั้น ร่างของชายหนุ่มในเสื้อคลุมก็ต้องถอยหลังกลับไป 2-3 ก้าวและหลินเฟิงก็ปรากฏตัวอยู่ข้างกายของหยวนซาน
 
 
 
 “หลินเฟิงช่างทรงพลังยิ่งนัก!”
 
 
 
 ม่านตาของหยวนซานเบิกกว้างด้วยความตกตะลึง เขาไม่คิดมาก่อนว่าหลินเฟิงจะแข็งแกร่งเพียงพอทำให้ชายหนุ่มในเสื้อคลุมดำถึงกับต้องถอยหลัง ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมหลินเฟิงถึงไม่ได้สนใจชายในเสื้อคลุมมากนัก
 
 
 
 ชายหนุ่มในเสื้อคลุมเองก็ตกตะลึง เขามองไปที่มือของตัวเองและเห็นว่ามือของเขากลายเป็นสีขาวไปแล้ว น้ำแข็งปกคลุมมือของเขาไว้และมันแทบจะขยับไม่ได้ เขาเกือบจะต้องสูญเสียมือไปจากการเผชิญหน้าครั้งแรก
 
 
 
 น้ำแข็งในมือของเขาแตกออกและล่วงหลนไปยังพื้น เขาจ้องมองไปที่หลินเฟิง
 
 
 
 ภายนอกหลินเฟิงดูไม่ได้แข็งแกร่งอะไรมากนัก แต่ชายในเสื้อคลุมดำก็ต้องประหลาดใจที่หลินเฟิงเองก็อยู่ในขอบเขตจิตวิญญาณขั้นที่ 3 ด้วยเช่นเดียวกัน
 
 
 
 “ตอนนี้ ไสหัวออกไปจากที่นี่ได้แล้ว” หลินเฟิงกล่าว ปกติหลินเฟิงจะไม่ก้าวร้าวกับคนอื่นนอกเสียจากคนอื่นจะก้าวร้าวกับเขาก่อน การเลือกคู่ต่อสู่อย่างรอบคอบจะช่วยให้เขามีชีวิตที่ยาวขึ้นและหลีกเลี่ยงการเหยียดหยามผู้คน อย่างไรก็ตามหากคนผู้หนึ่งต้องการได้รับความเคารพและนับถือดังนั้นเขาก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงจากการต่อสู้ได้
 
 
 
ชายหนุ่มในเสื้อคลุมดำกลายเป็นโกรธเกรี้ยว แม้ว่าหลินเฟิงจะทะลวงผ่านขอบเขตจิตวิญญาณขั้นที่ 3 เหมือนกัน แต่เขาจะยอมถูกเหยียดหยามเช่นนี้ได้อย่างไร?
 
 
 
 ทันใดนั้นเขาก็ปลดปล่อยจิตวิญญาณออกมาและเปลวไฟขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นด้านหลังของเขา สิ่งที่ทำให้ทุกคนประหลาดใจก็คือเปลวไฟนั้นมีสีดำ
 
 
 
 “นี่คือจิตวิญญาณเพลิงทมิฬของข้า” ชายในเสื้อคลุมกล่าวอย่างเย็นชา ในตอนนี้ดวงตาของเขาราวกับกำลังถูกแผดเผาด้วยเปลวเพลิง มันเป็นดวงตาที่กระหายเลือดอย่างมาก
 
 
 
 “จิตวิญญาณเพลิงทมิฬ” หยวนซานประหลาดใจ เขาไม่เคยได้ยินจิตวิญญาณอัคคีประเภทนี้มาก่อน
 
 
 
 จิตวิญญาณเพลิงทมิฬเป็นจิตวิญญาณธาตุอัคคีแต่เห็นได้ชัดว่ามันหายากอย่างมาก จิตวิญญาณที่หายากเท่าไหร่ก็ยิ่งทรงพลังมากเท่านั้น น่าแปลกใจที่ชายหนุ่มคนนี้มีจิตวิญญาณที่หายากอย่างมากซึ่งแม้แต่หยวนซานเองก็ไม่รู้จัก ด้วยจิตวิญญาณของชายหนุ่มในเสื้อคลุมดำผนวกกับขอบเขตจิตวิญญาณขั้นที่ 3 เขาอาจจะได้รับการพิจารณาว่าเป็นผู้บ่มเพาะพลังที่แข็งแกร่งอย่างมากภายในหอคอยแห่งนี้
 
 
 
 หลินเฟิงจ้องมองไปยังชายในเสื้อคลุมอย่างเย็นชา ชั้นน้ำแข็งเริ่มปกคลุมร่างกายของเขาอากาศรอบตัวของเขาเริ่มแข็งตัว
 
 
 
 “จิตวิญญาณเปลวเพลิงทมิฬแข็งแกร่งจริงๆ! มันช่างร้อนแรงยิ่งนัก!” หลินเฟิงกล่าว ทันใดนั้นเขาก็ก้าวเดินไปข้างหน้า จากนั้นน้ำแข็งที่ทรงพลังก็เริ่มโผล่ออกมาจากร่างกายของหลินเฟิง ทุกอย่างที่อยู่ใกล้เขาต่างถูกแช่แข็ง
 
 
 
หยวนซานที่อยู่ไม่ไกลจากหลินเฟิงกำลังสั่นสะท้านด้วยความหนาวเย็น ร่างกายของเขาแทบจะแข็งค้าง
 
 
 
 “นั่น… จิตวิญญาณน้ำแข็งธรรมดา?” หยวนซานคิด จากนั้นเขาก็รีบส่ายหัว “เป็นไปไม่ได้ มันต้องไม่ใช่จิตวิญญาณน้ำแข็งธรรมดา”
 
 
 
ในขณะที่ชายหนุ่มในเสื้อคลุมดำรับรู้ถึงความหนาวเย็นที่แผ่ออกมาจากร่างกายของหลินเฟิงซึ่งทำให้เขาประหลาดใจ มันหนาวเย็นเกินไปจนทำให้เพลิงทมิฬของเขาเริ่มอ่อนแรงลง 
 
 
 
 โดยปกติจิตวิญญาณธาตุอัคคีจะมีข้อได้เปรียบเหนือจิตวิญญาณน้ำแข็ง แต่เห็นได้ชัดว่าจิตวิญญาณน้ำแข็งของหลินเฟิงมีความน่ากลัวจนไม่อาจนำไปเทียบกับจิตวิญญาณน้ำแข็งธรรมดาได้
 
 
 
 หลินเฟิงคิดว่าจิตวิญญาณน้ำแข็งของเขาต้องแข็งแกร่งอย่างมากเพราะมันได้รับการถ่ายทอดโดยตรงมาจากเมิ่งฉิง
 
 
 
 “แปดฝ่ามือพิฆาต” หลินเฟิงยกฝ่ามือขึ้นและผลักไปที่ชายหนุ่ม ฝ่ามือที่ทรงพลังทะลวงพาดผ่านอากาศ
 
 
 
 “เปลวเพลิง!” ชายหนุ่มในเสื้อคลุมดำตะโกน จิตวิญญาณเพลิงทมิฬเริ่มเคลื่อนไหวไปพร้อมกับมือของเขา การโจมตีของเขาพุ่งตรงไปยังปราณที่เย็นยะเยือกของหลินเฟิง ทันใดนั้นปราณดาบก็เริ่มกระจายไปทั่วอากาศ มันทรงพลังอย่างมาก
 
 
 
 ปราณที่หนาวเย็นของหลินเฟิงดูเหมือนว่าจะเพียงพอที่จะแช่แข็งใครก็ได้ที่เข้ามาใกล้
 
 
 
 ปราณดาบเองก็แหลมคมอย่างมากมันราวกับว่าสามารถตัดอะไรก็ได้เป็นชิ้นๆได้อย่างง่ายดาย
 
 
 
ปราณน้ำแข็งและปราณดาบถูกผสานเข้าด้วยกันจากคนๆเดียว ชายหนุ่มในเสื้อคลุมดำตกตะลึงอย่างมาก วิญญาณของเขาสั่นสะท้านด้วยความกลัว
 
 
 
 “นี่มันเป็นไปได้ยังไง? มันมีจิตวิญญาณน้ำแข็ง แต่มันกลับปลดปล่อยปราณดาบที่แข็งแกร่งออกมาได้และข้ายังสัมผัสได้ถึงอำนาจดาบจากปราณของมัน!!!”
 
 
 
 ชายหนุ่มสั่นตั้งแต่หัวจรดเท้า เข่าของเขาเริ่มอ่อนแรงและกำลังจะล้มทั้งยืนด้วยความกลัว หลินเฟิงก้าวไปข้างหน้าอีกก้าว
 
 
 
 “ไสหัวไป!” หลินเฟิงคำราม ทันใดนั้นปราณดาบก็พุ่งเข้าปะทะกับร่างของชายหนุ่ม
 
 
 
 โลหิตสาดกระเซ็นไปทั่ว ชายหนุ่มในเสื้อคลุมดำกรีดร้องออกมาและล้มลงกับพื้น เขาจ้องมองหลินเฟิงด้วยแววตาอาฆาต
 
 
 
 “เจ้ากล้าทำร้ายข้า?”
 
 
 
 “ข้าไม่อยากเสียเวลาคุยกับเจ้า ไสหัวไป!” หลินเฟิงก้าวไปอีกก้าว ชายหนุ่มในเสื้อคลุมดำหวาดกลัวอย่างมาก ทันใดนั้นร่างกายของเขาก็มีแสงวูบวาบออกมาและเขาก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย
 
 
 
 “เจ้าจะต้องชดใช้!!” มันเป็นเสียงของชายในเสื้อคลุมดำ หลินเฟิงหัวเราะ ชายคนนั้นกำลังพูดเรื่องไร้สาระ?
 
 
 
 หยวนซานจ้องมองไปที่หลินเฟิงและยิ้มอย่างมีความสุข
 
 
 
 “แข็งแกร่งอะไรขนาดนี้!”
 
 
 
 หลินเฟิงมีจิตวิญญาณน้ำแข็ง แต่สามารถใช้แปดฝ่ามือพิฆาตและปลดปล่อยปราณดาบได้ นี่มันน่ากลัวเกินไป! เขาสามารถใช้แม้กระทั่งอำนาจดาบได้!
 
 
 
 แม้แต่ผู้ที่มีจิตวิญญาณดาบก็ไม่สามารถใช้อำนาจดาบได้หากพวกเขาอยู่เพียงขอบเขตจิตวิญญาณ แต่หลินเฟิงอยู่เพียงขอบเขตจิตวิญญาณขั้นที่ 3 แต่ก็สามารถควบคุมอำนาจดาบของเขาได้แล้ว มันจะไม่ให้หยวนซานตกตะลึงได้อย่างไร หรือว่าหลินเฟิงอาจจะมีจิตวิญญาณมากกว่าหนึ่ง? เขาอาจจะมีทั้งจิตวิญญาณดาบและจิตวิญญาณน้ำแข็งในเวลาเดียวกัน มิฉะนั้นเขาจะใช้อำนาจดาบได้อย่างไร?
 
 
 
 หยวนซานคาดเดาได้ถูกต้อง หลินเฟิงมีจิตวิญญาณมากกว่าหนึ่ง
 
 
 
 จิ้งยวิ๋นไม่ได้แปลกใจอะไรเท่าไหร่นัก ระหว่างทางที่มายังเมืองจักรพรรดิ นางได้เห็นถึงความแข็งแกร่งของหลินเฟิงอยู่หลายครั้ง
 
 
 
 หลิ่วเฟยก็ไม่ได้แปลกใจเช่นกัน หลินเฟิงแสดงให้นางเห็นแล้วว่าเขาไม่ใช่คนธรรมดา พลังและศักยภาพของเขาน่ากลัวเกินไป!
 
 
 
 หลินเฟิงเรียกจิตวิญญาณของเขากลับมาทันใดนั้น จู่ๆประตูของห้องฝึกฝนห้องหนึ่งก็เปิดออก อากาศที่หนาวเย็นได้ไหลทะลักออกมา
 
 
 
 “บัดซบ พวกเจ้าไม่ทำตามกฎ! พวกเจ้าต้องการที่จะตาย?!” เสียงดังออกมาจากในห้อง ปรากฏร่างของคนๆหนึ่ง เขาจ้องมองมายังหลินเฟิงด้วยเจตนาฆ่า
 
 
 
 หลินเฟิงขมวดคิ้ว จากนั้นรอยยิ้มที่โหดร้ายก็ปรากฏบนใบหน้าของเขา เขาปลดปล่อยปราณน้ำแข็งและปราณดาบรวมถึงอำนาจดาบในเวลาเดียวกัน มันกดขี่ร่างกายของฝ่ายตรงข้ามโดยสมบูรณ์
 
 
 
 การแสดงออกของฝ่ายตรงข้ามเปลี่ยนไป หัวใจของเขากำลังเต้นรัว ร่างกายของเขาสั่นสะท้านตั้งแต่หัวจรดเท้า
 
 
 
 “ปล่อยให้ข้าฝึกฝนอย่างสงบ บัดซบ! ไสหัวไป!”
 
 
 
****************************************************
 
ติดตามได้ที่ –