I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Peerless Martial God ตอนที่ 163 ราคาที่น่าสะพรึงกลัว!

| Peerless Martial God | 1591 | 2338 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

 ชายชราจ้องมองไปยังฝูงชนที่กำลังตื่นเต้น จากนั้นเขาก็กล่าว “ราคาเริ่มต้นของปีศาจสิงโตเพลิงอยู่ที่หินบริสุทธิ์ระดับปานกลาง 500 ก้อน ตอนนี้เริ่มเสนอราคาได้!”

 

 เมื่อชายชรากล่าวจบ เลือดในกายของผู้คนเริ่มเดือดพล่าน

 

 “1,000!”

 

“1,200!”

 

 “1,500!”

 ราคาพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ทุกคนรู้ดีว่านี่เป็นเพียงแค่เริ่มต้น หินบริสุทธิ์ระดับปานกลางเพียงไม่กี่พันก้อนจะเพียงพอที่จะปีศาจสิงโตเพลิงได้อย่างไร?

 

 หลินเฟิงจ้องมองอย่างใจเย็น เขาประเมินราคาของปีศาจสิงโตเพลิงต่ำไป แต่หลังจากที่เขาได้เห็นการเสนอราคาที่บ้าคลั่งทำให้เขาเข้าใจถึงความสำคัญของปีศาจสิงโตเพลิงมากขึ้น

 

 สาวงามเหลือบมองไปยังหลินเฟิง ภายใต้หน้ากากสีเงิน ดวงตาของเขายังคงสงบนิ่ง

 

 “นายท่าน ข้าควรที่จะเรียกท่านว่าอะไรดีเจ้าค่ะ?” สาวงามถาม

 

 “เรียกข้า?” หลินเฟิงประหลาดใจ จากนั้นเขาก็ตอบ “เจ้าสามารถเรียกข้าว่านายท่านเฟิงก็ได้”

 

 “นายท่านเฟิง ข้ามีนามว่าอีเสวี่ยเจ้าค่ะ” สาวงามพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนหวาน หลินเฟิงพยักหน้าเล็กน้อย ตอนนี้ราคาของปีศาจสิงโตเพลิงพุ่งสูงถึงหินบริสุทธิ์ระดับปานกลาง 3,000 ก้อน!

 

 นายน้อยเหมิงเหลือบมองหลินเฟิงพร้อมกับรอยยิ้มที่เย็นชาบนใบหน้า

 

 เขาลุกขึ้นและเดินตรงไปข้างหน้าจากนั้นก็กล่าว “วันนี้ ข้า เหมิงชง ต้องการปีศาจสิงโตเพลิงตัวนี้ ไม่ควรที่จะมีใครที่จะไม่เห็นแก่หน้าของข้า มิฉะนั้นจะต้องพบกับจุดจบที่เลวร้าย ถ้าพวกเจ้าเลือกที่จะไม่ขวางทางข้า พวกเราอาจจะเป็นสหายที่ดีต่อกันหลังจบการประมูล”

 

เมื่อฝูงชนได้ยินในสิ่งที่เหมิงชงกล่าว พวกเขาต่างรู้สึกประหลาดใจ ไอ้ตัวบัดซบนี่! เขากล้าที่จะข่มขู่ผู้คนทั้งหมด บริเวณนี้เต็มไปด้วยเหล่าชนชั้นสูงและผู้บ่มเพาะพลังที่ทรงอำนาจแต่เหมิงชงก็กล้าที่จะข่มขู่พวกเขา พวกเขามีทางเลือกเพียง 2 ทางคือ กลายเป็นมิตรไม่ก็เป็นศัตรู

 

ผู้คนมากมายจ้องมองไปยังเหมิงชงแต่เมื่อพวกเราตระหนักได้ว่าเขามาจากตระกูลเหมิงและกลายเป็นแขกผู้ทรงเกียรติของงานประมูล ผู้คนส่วนใหญ่เลยเลือกที่จะเงียบ

 

 ตระกูลขุนนางเพียงหนึ่งเดียวของเมืองจักรพรรดิและนั่นก็คือตระกูลเหมิง

 

 “ราคาที่ข้าจะเสนอก็คือหินบริสุทธิ์ระดับปานกลาง 3,000 ก้อน” เหมิงชงกล่าวอย่างไม่แยแสและเหลือบมองไปทางหลินเฟิงด้วยสีหน้าที่เยาะเย้ย หลินเฟิงกล้าที่จะเสนอราคาแข่งกับเขาก่อนหน้านี้ ดังนั้นเขาจึงขัดขวางไม่ให้ราคาของปีศาจสิงโตเพลิงของหลินเฟิงพุ่งสูงขึ้นไปกว่านี้

 

 ชายชราจ้องมองไปที่เหมิงชงจากบนเวที ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความอึดอัด

 

 “ตอนนี้ปีศาจสิงโตเพลิงเป็นของข้าแล้ว” เหมิงชงกล่าวด้วยความภาคภูมิใจ แต่ทันใดนั้นก็ได้มีเสียงที่ทรงพลังและน่าเกรงขามดังขึ้น “หินบริสุทธิ์ระดับปานกลาง 4,000 ก้อน”

 

 “นั่นใครพูด?!” น้ำเสียงของเหมิงชงกลับกลายเป็นเย็นชาอย่างมาก เขารู้สึกเสียหน้าเป็นอย่างมากที่มีใครกล้าที่จะไม่เชื่อฟังเขา

 

 เหมิงชงเหลือบมองไปยังฝูงชนและมองหาผู้ที่กล้าเสนอราคาแข่งกับเขา

 

 “เป็นข้าเอง” เป็นน้ำเสียงที่เย็นชาและไม่แยแสต่อสิงใด จากนั้นเงาร่างท่ามกลางฝูงชนก็ลุกขึ้น เขาคือชายหนุ่มผู้มีผมสีทอง เขาดูแปลกตาอย่างมากและดูเหมือนว่าจะถูกห้อมล้อมไปด้วยแสงสีทอง

 

 เมื่อฝูงชนเห็นใบหน้าของเขา ม่านตาของพวกเขาถึงกับหดลง… นั่นเขา!

 

 “ขวงซือ” ม่านตาของเหมิงชงหดลงเช่นกัน

 

 “เจ้าต้องการอะไร?” ขวงซือกล่าวและจ้องมองไปยังเหมิงชง ใบหน้าของเหมิงชงกลายเป็นแข็งค้างและรีบกล่าว “ฮ่าๆๆ ท่านคือศิษย์ที่รุ่งโรจน์ของนิกายว่านโช่วเหมิน หากท่านต้องการปีศาจสิงโตเพลิง ข้าก็จะไม่ทำให้ท่านต้องเสียหน้าและข้าจะมอบมันให้กับท่าน”

 

 ขวงซือเมินเฉยซึ่งทำให้เหมิงชงโกรธขึ้นเรื่อยๆ วันนี้เขาถูกทำให้อับอายมากเกินไป

 

 “ฮ่าฮ่าฮ่าๆๆ!” ทันใดนั้นก็เกิดเสียงหัวเราะขึ้นมา ในขณะที่บรรยากาศก็เงียบงันอยู่แล้วทำให้เสียหัวเราะสามารถได้ยินชัดกว่าปกติ ใบหน้าของเหมิงชงดูหน้าเกลียดอย่างมาก เขาค่อยๆหันกลับไปช้าๆและจ้องมองไปยังหลินเฟิง

 

 “เจ้าหัวเราะอะไร?!”

 

 “ข้าหัวเราะให้แก่คำพูดของเจ้าที่มีค่าน้อยกว่าการผายลม” หลินเฟิงกล่าวแดกดัน

 

 เหมิงชงมีความก้าวร้าวมากและข่มขู่ทุกคนที่นี่แต่เมื่อขวงซือปรากฎตัวออกมา เขาก็ต้องทิ้งคำพูดของเขาก่อนหน้านี้ มันดูน่าขันและไร้สาระอย่างมาก

 

 นิกายว่านโช่วเหมินคือหนึ่งในนิกายที่แข็งแกร่งที่สุดในอาณาจักรหิมะจันทราและพวกเขาก็ถือว่าแข็งแกร่งอย่างมากในเมืองจักรพรรดิ แม้ว่าสถานะของเหมิงชงจะไม่ธรรมดาแต่มันก็ไม่เพียงพอที่จะสร้างความบาดหมางกับสมาชิกของนิกายว่านโช่วเหมินได้

 

 ในตอนนี้เหมิงชงไม่ได้กล่าวอะไรออกมา วันนี้เขาถูกหลินเฟิงทำให้อับอายหลายครั้งและไม่สามารถที่จะกู้หน้าคืนได้ ในตอนแรกเขาต้องการที่จะครอบครองปีศาจสิงโตเพลิงเพื่อที่จะแก้แค้นหลินเฟิงและใช้สถานะของตัวเองเพื่อคุกคามผู้คน เขาไม่คิดเลยว่าจะถูกทำให้อับอายอีกครั้ง แต่คราวนี้เป็นขวงซือ เขาจึงไม่สามารถที่จะทำอะไรได้และต้องถูกหัวเราะเยาะโดยหลินเฟิง ในตอนนี้เหมิงชงทำให้ตระกูลของเขาต้องเสียหน้าอย่างมาก

 

ปรากฏรอยยิ้มบนใบหน้าของชายชราบนเวทีจากนั้นเขาก็กล่าว “หินบริสุทธิ์ระดับกลาง 4,000 ก้อน มีใครต้องการที่จะเสนอราคามากกว่านี้หรือไม่? ข้ารับประกันได้เลยว่าปีศาจสิงโตเพลิงตัวนี้จะสามารถบรรลุถึงขอบเขตปฐพีได้หรือแม้แต่ในอนาคตก็อาจจะที่ทะลวงไปถึงขอบเขตสวรรค์ได้เช่นกัน มันจะกลายเป็นตัวตนที่ทรงพลังของอาณาจักรหิมะจันทรา”

 

 “4,500” ชายคนหนึ่งรีบเสนอราคาเมื่อเขาได้ยินคำพูดของชายชรา แม้ว่าพวกเขาไม่อาจที่จะสู้ราคากับขวงซือได้แต่พวกเขาก็เลือกที่จะเสี่ยง… มันคือปีศาจสิงโตเพลิงเชียวนะ มีใครบ้างที่จะไม่ต้องการมัน?

 

 “5,000” ขวงซือกล่าวอย่างไร้ความรู้สึก หากเขาต้องการสิ่งใดเขาจะต้องได้รับมันอย่างแน่นอน แม้กระทั่งเหมิงชงก็ยังต้องหลีกทางให้เพราะเขาเข้าใจนิสัยของชวงซือ

 

 “6,000” ชายชราในชุดดำกล่าว

 

 “10,000” ขวงซือกล่าวอย่างสงบซึ่งสร้างความประหลาดใจให้กับฝูงชน

 

 “ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมผู้คนถึงคิดว่านิกายหยุนไห่เป็นหนึ่งในนิกายที่มีอิทธิพลน้อยที่สุดในอาณาจักรหิมะจันทรา ดูเหมือนว่ามันจะเป็นความจริง” หลินเฟิงคิด นิกายหยุนไห่ขาดแคลนทรัพยากรและไม่มีเส้นเลือดปฐพีไว้สำหรับฝึกฝนศิษย์ของนิกาย แต่กลับกัน แค่ศิษย์เพียงคนเดียวของนิกายว่านโช่วเหมินก็สามารถใช้จ่ายหินบริสุทธิ์ระดับปานกลางนับหมื่นก้อนได้อย่างไม่สะทกสะท้าน แต่ในนิกายหยุนไห่ยังคงมองว่าหินบริสุทธิ์ระดับต่ำเป็นสิ่งที่มีค่าอย่างมาก

 

 “11,000” ชายชราในชุดดำกัดฟันด้วยความโกรธ ความแข็งแกร่งของเขาได้มาถึงคอขวดแล้ว เขาต้องการความช่วยเหลือจากสัตว์อสูร

 

 “15,000” ขวงซือกล่าวทำให้ฝูงชนตกตะลึง บางคนยิ้มออกมาและเป็นไปตามที่คาดไม่มีใครสามารถที่จะแข่งกับชายคนนี้ได้ 15,000 เป็นมูลค่าที่เหล่าชนชั้นสูงจำนวนมากก็ไม่สามารถที่จะจ่ายได้ ไม่มีใครต้องการที่จะเสนอราคาอีกต่อไป

 

 ท้ายที่สุด ราคาของปีศาจสิงโตเพลิงก็อยู่ที่หินบริสุทธิ์ระดับปานกลาง 15,000 ก้อน

 

หลินเฟิงยิ้มกว้าง เขาพึงพอใจกับราคานี้อย่างมาก เขาไม่คิดมาก่อนเลยว่าจะได้ราคาที่สูงเสียดฟ้าเช่นนี้

 

 ตอนแรก หลินเฟิงคิดว่าเขาจะสามารถขายได้อย่างมากแค่หินบริสุทธิ์ระดับปานกลาง 4,000 ก้อนเท่านั้น ซึ่งนั่นก็ถือว่าดีสำหรับเขาแล้ว

 

 หลินเฟิงเดินตรงไปยังหลังเวทีพร้อมกับอีเสวี่ย ในตอนนั้นก็มีกลุ่มคนนำหินบริสุทธิ์ออกมาให้เขา

 

 “ทั้งหมดนี้คือหินบริสุทธิ์ระดับปานกลาง 9,300 ก้อน เจ้าสามารถที่จะนับด้วยตัวเองได้” ชายชรากล่าวกับหลินเฟิง

 

 หลินเฟิงจับไปที่กองหินบริสุทธิ์จากนั้นพวกมันก็หายไปในทันที ชายชราประหลาดใจ เขาจ้องมองไปที่หลินเฟิงด้วยท่าทางแปลกๆ

 

 “ข้าคงจะแก่เกินไป สายตาของข้าเริ่มไม่ดีแล้ว” ชายชรากล่าว เขาได้มอบหินบริสุทธิ์จำนวนมากให้กับหลินเฟิงซึ่งมันไม่ง่ายเลยที่จะถือออกไป เขาไม่คิดเลยว่าหลินเฟิงจะมีหินมิติ

 

 คนธรรมดาไม่มีทางที่จะมีหินมิติได้ หลินเฟิงช่างลึกลับยิ่งนัก

 

 ปรากฏรอยยิ้มภายใต้หน้ากากของหลินเฟิง ชายชราไม่ได้ถามอะไรเขามากนัก เขาชี้ไปที่ป้าเตาและกล่าว “ตอนนี้เขาเป็นของเจ้าแล้ว พาเขาไปกับเจ้าด้วย”

 

 ในตอนนั้นชายชราก็ทำหน้าแปลกๆ ป้าเตาทะลวงสู่ขอบเขตจิตวิญญาณขั้นที่ 6 แล้ว เขาจะเชื่อฟังหลินเฟิงที่บรรลุเพียงขอบเขตจิตวิญญาณขั้นที่ 5 หรือไม่? หลินเฟิงมีความแข็งแกร่งเพียงพอ?

 

 “มากับข้า” หลินเฟิงกล่าวอย่างไม่แยแส จากนั้นเขาก็เดินนำออกไป  

 

 ป้าเตายังคงปราศจากความรู้สึก เขาเดินตามหลินเฟิงออกไป

 

 ไม่นานนักหลังจากที่ออกมาจากโรงประมูล หลินเฟิงก็หยุดเดินและหันหลังกลับ เขาจ้องมองอย่างเย็นชาผ่านทางรูหน้ากากไปที่ป้าเตา

 

หากทาสผู้บ่มเพาะพลังถูกปลดปล่อย เขาจะสามารถทำได้ทุกอย่างที่ปรารถนา เขาไม่จำเป็นที่จะต้องเชื่อฟังเจ้านาย ยังไงเสีย เขาก็เป็นมนุษย์คนหนึ่ง!

 

ติดตามได้ที่ – 

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments