I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Peerless Martial God ตอนที่ 164 ผู้ติดตามที่อันตราย

| Peerless Martial God | 1629 | 2360 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

 

หลินเฟิงดูสงบเยือกเย็นภายใต้หน้ากากเงินของเขา ป้าเตาก็ดูสงบเยือกเย็นเช่นกันและไร้ชีวิตชีวา

 

หลินเฟิงต้องการพูดอะไรบางอย่างแล้วเขาก็ถามทันทีว่า: “เจ้าอย่างเป็นอิสระไหม?”

 

ป้าเตาขมวดคิ้ว ตัวอักษรที่สลักไว้บนหน้าของเขาทำให้เขาดูเยือกเย็นอย่างมาก

 

ป้าเตายังคงเงียบและไม่พูดอะไร นี่คือวิธีที่เขาเชื่อฟัง แน่นอนว่าเขาต้องการเป็นอิสระ ใครกันอยากจะเป็นทาส?

 

“ข้าไม่ใช่คนที่สลักตัวอักษรเหล่านี้ไว้บนใบหน้าของเจ้า ข้าไม่ได้เป็นคนบังคับให้คนอื่นกลายเป็นทาส” หลินเฟิงกล่าวขณะจ้องมองไปที่ป้าเตาที่ยังคงนิ่งเงียบ จากนั้นเขาก็กล่าวเสริมอย่างช้าๆว่า: “ถ้าเจ้าต้องการไปเจ้าก็หันหลังและจากไปเสียตอนนี้ ข้าจะไม่โน้มน้าวให้เจ้าอยู่ต่อและข้าจะไม่พยายามหยุดเจ้า แต่หากเจ้าต้องการอยู่กับข้า ก็ตามข้ามา”

 

เมื่ออีเสวี่ยได้ยินหลินเฟิงกล่าว ทำให้นางรู้สึกประหลาดใจ นางมองไปที่หลินเฟิงอย่างประหลาดใจ เขาเป็นคนที่แปลกประหลาดมาก เขายินดีที่จะปล่อยให้ป้าเตาไปแม้ว่าเขาจะใช้หินบริสุทธิ์ระดับปานกลางจำนวนมากเพื่อซื้อเขามา หินบริสุทธิ์ระดับปานกลาง 5000 ก้อน เป็นจำนวนที่มากทีเดียวและเพียงพอที่จะซื้อทาสที่แข็งแกร่งได้

 

ป้าเตาดูเหมือนว่าเขาต้องการพูดอะไรบางอย่าง ดวงตาของเขากำลังจ้องมองไปที่หลินเฟิง เขาดูหม่นหมอง

 

“ข้าจะให้โอกาสเจ้าเพียงครั้งเดียว ถ้าเจ้าต้องการไป ก็ไปเสียตอนนี้ ถ้าเจ้าต้องการอยู่กับข้า เช่นนั้นแล้วก็ตามข้ามาและห้ามทรยศข้าเด็ดขาด” หลินเฟิงกล่าวต่อ เขามอบโอกาสให้ป้าเตาเพียงครั้งเดียว และไม่ว่าเขาจะเลือกอะไร เขาก็ต้องมีชีวิตตามเส้นทางที่เขาเลือก

 

ทางเลือกของป้าเตาจะมีผลต่อชะตาชีวิตของเขาในอนาคต

 

การแสดงออกของป้าเตากลายเป็นแหลมคมมากยิ่งขึ้น สายตาอันเยือกเย็นและก้าวร้าวของเขาจ้องเขม็งไปที่หลินเฟิงผ่านหน้ากากเงิน แต่ดวงตาของหลินเฟิงยังคงสงบนิ่งเหมือนเดิม

 

หลินเฟิงอาจสูญเสียหินบริสุทธิ์ระดับปานกลางไป 5000 ก้อนหากป้าเตาจากไป แต่ถ้าเขาตัดสินใจอยู่กับหลินเฟิงต่อ เขาจะต้องติดตามหลินเฟิงไปตลอดชีวิตที่เหลือของเขา และจะต้องไม่เสียใจกับทางเลือกของเขาเอง

 

โชคชะตามักขึ้นอยู่กับทางเลือก ถ้าหลินเฟิงไม่ซื้อเขาในงานประมูล ถ้าเช่นนั้นแล้วบางทีป้าเตาก็ยังคงเป็นทาสต่อไป แต่ตอนนี้หลินเฟิงได้มอบโอกาสที่เขาจะได้เป็นอิสระให้ อย่างไรก็ตามถ้าเขาตัดสินใจอยู่ต่อ เขาต้องติดตามหลินเฟิงและต้องไม่ทรยศเขา หลินเฟิงไม่สามารถใช้จ่ายหินบริสุทธิ์จำนวนมากเพื่อใครบางคนที่จะสร้างปัญหาให้เขาในอนาคตได้ ความเมตตาของเขามีจำกัด

 

หลินเฟิงและป้าเตากำลังมองซึ่งกันและกัน การแสดงออกของพวกเขาแหลมคมราวกับใบมีดและบรรยากาศหนักแน่นอย่างไม่น่าเชื่อ ในอากาศเต็มไปด้วยปราณอันเยือกเย็นและปราณสังหาร เพียงแค่บรรยากาศที่สร้างขึ้นโดยทั้งสองที่จ้องมองกันก็ทำให้อีเสวี่ยสั่นเทาแล้ว

 

เยือกเย็นอะไรขนาดนี้…ความหนาวเย็นไม่ได้ทำให้ร่างกายของผู้คนรู้สึกหนาวเย็น แต่ความหนาวเย็นได้ซึมลึกเข้าไปในวิญญาณของพวกเขา

 

“ข้าจะติดตามท่าน และข้าจะไม่ทรยศท่านเด็ดขาด” ป้าเตากล่าวหลังจากนิ่งเงียบไปชั่วครู่ การแสดงออกอันเยือกเย็นและแหลมคมของเขาได้หายไป เขากล่าวด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล และเขาก็พยักหน้าให้หลินเฟิง

 

“ตกลง” หลินเฟิงกล่าวขณะยิ้ม หลินเฟิงใช้จ่ายหินบริสุทธิ์ระดับปานกลางไปกว่า 5000 ก้อนเพื่อทาสคนนี้ ถ้าเขาตัดสินใจไม่อยู่กับเขาต่อ หลินเฟิงก็จะรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย แต่ตอนนี้ป้าเตาได้ตัดสินใจที่จะอยู่กับเขา มันจึงเป็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับหลินเฟิง

 

“จำสิ่งที่เจ้าพูดไว้และต้องไม่กลับคำพูดของเจ้า เจ้าสามารถเลือกอิสรภาพของเจ้าได้ แต่เจ้าเลือกที่จะอยู่ต่อและเลือกที่จะติดตามข้า แต่หากเจ้าทรยศข้าในอนาคต ข้าจะลงโทษเจ้า” หลินเฟิงกล่าวอย่างเย็นชา อากาศรอบๆเขาเริ่มหนาวเย็นมากขึ้นเรื่อยๆเช่นกัน

 

ป้าเตายังคงนิ่งเงียบและพยักหน้า เขาเข้าใจสิ่งที่หลินเฟิงกล่าว

 

ในวันนี้ ถ้าหลินเฟิงไม่ได้อยู่ที่นั่นเขาคงจะถูกขายให้กับคนอื่น ถ้าใครบางคนซื้อเขาไป พวกเขาก็จะเอาเปรียบเขาในฐานะที่เขาเป็นทาส แต่หลินเฟิงได้หยิบยื่นอิสรภาพให้กับเขา หลินเฟิงไม่ต้องการปฏิบัติเขาเหมือนกับทาสและให้ทางเลือกกับเขา หลินเฟิงกำลังปฏิบัติกับเขาเหมือนคนทั่วๆไป และเขาไม่ต้องการปฏิบัติกับเขาเหมือนทาส

 

ป้าเตาเป็นเพียงแค่ทาส เขามีชื่อของเขาถูกแกะสลักไว้บนใบหน้าของเขา ถ้าเขาเลือกที่จะจากหลินเฟิงไป มันก็ไม่สำคัญว่าเขาจะไปที่ไหน เขาก็ยังคงถูกปฏิบัติเหมือนกับทาส ผู้คนก็จะพยายามจับเขาอีกครั้ง และเขาก็จะไม่สามารถหนีรอดได้ ถ้าเขาต้องการอิสรภาพที่แท้จริง เขาต้องไม่แสดงสัญลักษณ์บนใบหน้าของเขาอีก สัญลักษณ์บนใบหน้าของเขาจะทำให้เขากลายเป็นทาส และนั่นคือสิ่งที่ผู้คนจะปฏิบัติกับเขา

 

 

ตั้งแต่มันเป็นการตัดสินใจของป้าเตา และเขามีสิทธิ์ที่จะเลือก เขาต้องไม่เสียใจกับทางเลือกของเขา เพราะเขาเป็นคนเลือกชะตากรรมของเขาเอง หลินเฟิงไม่ได้เข้าไปยุ่งในการตัดสินใจของเขาเลย

 

“ถ้างั้นไปกันได้แล้ว” หลินเฟิงกล่าวขณะเริ่มเดิน อีเสวี่ยและป้าเตาเดินติดตามหลังเขาอย่างรวดเร็ว

 

ในขณะนั้น ป้าเตาเริ่มเดินเร็วขึ้นเล็กน้อย และเดินเข้ามาใกล้อยู่ด้านหลังหลินเฟิงและกล่าวว่า: “มีใครบางคนกำลังติดตามพวกเราอยู่”

 

“ข้ารู้” หลินเฟิงกล่าว น้ำเสียงของเขาทั้งไม่แยแสและไม่คิดจะหันหลังไปดู ทำให้ป้าเตามองเขาอย่างประหลาดใจ

 

หัวใจของอีเสวี่ยเริ่มเต้นเร็วขึ้น นางกังวลและหันไปมองรอบๆ

 

นางเห็นว่าห่างออกไปประมาณ 100 เมตรได้มีชายในเสื้อคลุมเทากำลังติดตามพวกเขาอยู่ขณะจ้องมองมาที่กลุ่มของพวกเขา เขาไม่คิดที่จะซ่อนตัว ราวกับว่าเขาไม่สนใจว่าจะถูกสังเกตเห็นหรือไม่

 

“มันเป็นเขา” สาวงามอีเสวี่ยกล่าว ชายที่อยู่ด้านหลังพวกเขา คือชายที่สวมเสื้อคลุมเทาที่เคยอยู่กับเหมิงชงก่อนหน้านี้

 

“ไม่ต้องสนใจมัน” หลินเฟิงกล่าว น้ำเสียงของเขาดูไม่แยแส อีเสวี่ยหันหลังกลับ นางไม่เข้าใจว่าทำไมหลินเฟิงถึงยังรู้สึกเฉยๆอยู่ได้ ทำให้นางรู้สึกอึดอัด  

 

“เขาได้ทะลวงผ่านขอบเขตจิตวิญญาณขั้นที่ 7 แล้ว และเส้นโลหิตของเขาทั้งแข็งแกร่งและเต็มไปด้วยพลัง พลังปราณของเขาก็เช่นกันมันทั้งแข็งแกร่งและหนาแน่น ปราณสังหารที่เขาปลดปล่อยออกมาจากร่างกายของเขาก็ด้วย เขาต้องการสังหารพวกเรามากแน่ๆ ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องยากมากที่จะจัดการเขา มันจะเป็นเรื่องยากสำหรับข้าที่จะต่อสู้กับเขาได้ และหากการต่อสู้มันยืดเยื้อนานเกินไป บางทีข้าอาจจะพ่ายแพ้” ป้าเตากล่าวเสียงต่ำ

 

ป้าเตาค่อนข้างแปลกประหลาด เขาสามารถคาดเดาความแข็งแกร่งและความสามารถของคนอื่นได้เพียงแค่มอง ทำให้หลินเฟิงประหลาดใจและมองไปที่ป้าเตาอย่างแปลกใจ

 

“ดี แล้วเจ้ารู้หรือไม่ว่าข้าแข็งแกร่งแค่ไหน?” หลินเฟิงถาม

 

“ขอบเขตจิตวิญญาณขั้นที่ 5 ท่านเป็นคนที่แข็งแกร่งและมีปราณที่หนาแน่น เส้นโลหิตของท่านแข็งแกร่งอย่างมาก นอกจากนี้ดูเหมือนว่าพลังทั้งหมดภายในร่างกายของท่านมันผสมผสานกันได้อย่างสมบูรณ์แบบ ถ้าข้าเข้าใจไม่ผิดดูเหมือนว่าท่านจะเข้าใจอำนาจดาบได้ในระดับที่ลึกซึ้งอย่างมาก ผู้บ่มเพาะพลังที่อยู่ขอบเขตจิตวิญญาณขั้นที่ 6 ทั่วๆไปจะไม่สามารถเอาชนะท่านได้หรือบางทีแม้แต่ตัวข้าเองก็เช่นกัน ข้าไม่มั่นใจว่าข้าสามารถเอาชนะท่านได้ในการต่อสู้”

 

ป้าเตากล่าวอย่างใจเย็น ซึ่งทำให้หลินเฟิงประหลาดใจ ดูเหมือนว่าตอนที่เขาพูดถึงความแข็งแกร่งของชายที่อยู่ในเสื้อคลุมเทามันเป็นเรื่องจริง เพียงแค่เหลือบมอง ป้าเตาก็สามารถกำหนดความแข็งแกร่งของบุคคลนั้นได้อย่างชัดเจนก่อนที่จะสู้กับพวกเขา

 

อีเสวี่ยมองไปที่หลินเฟิงแปลกๆ เขาเพียงแค่บรรลุขอบเขตจิตวิญญาณขั้นที่ 5 และเขากล้าที่จะซื้อทาสที่อยู่ระดับ 6 นอกจากนี้ เขายังดูมั่นใจอย่างมาก

 

“พวกเราจะจัดการปัญหานี้”

 

หลินเฟิงไม่ได้พูดอะไรมากนัก หลังจากที่เขากล่าวประโยคอันเงียบง่ายนี้ เขาเริ่มเร่งฝีเท้าและเดินต่อไปข้างหน้า

 

นอกจากหลินเฟิงและผู้ติดตาม 2 คน ชายในเสื้อคลุมเทาประหลาดใจและยิ้มอย่างเย็นชาทันที เขากล่าวว่า: “ข้าสามารถจับเจ้าได้อย่างง่ายได้ เจ้าคิดว่าสามารถหลบหนีข้าได้งั้นรึ?”

 

หลินเฟิงกำลังเดินกับทาสที่อยู่ระดับจิตวิญญาณขั้นที่ 6 ของเขา และเขายังมีหินบริสุทธิ์ระดับปานกลางกว่า 9000 ก้อนอยู่กับตัว ทำให้เขาเป็นที่ดึงดูดอย่างมาก

 

ชายในเสื้อคลุมเทาเริ่มเร่งฝีเท้า ร่างกายของเขาดูคล่องแคล่วและปราดเปรียวมากขณะเดินอยู่บนถนนราวกับสายลมที่อ่อนโยน เขาเดินเข้าไปใกล้หลินเฟิงมากขึ้นและมากขึ้นเรื่อยๆ

 

แต่ในขณะนั้น หลินเฟิงและผู้ติดตามของเขาทั้ง 2 คนได้เดินเปลี่ยนทิศและเดินเข้าไปในร้านอาหาร

 

ชายในเสื้อคลุมเทาขมวดคิ้ว จากนั้นเขาก็เริ่มเร่งฝีเท้าให้เร็วมากยิ่งขึ้นและในที่สุดเขาก็มาถึงร้านอาหาร เขามองเข้าไปในร้าน แต่ไม่เห็นหลินเฟิงและคนอื่นๆ

 

“ชั้นหนึ่ง!”

 

ชายในเสื้อคลุมเทาเงยหน้าขึ้นมองไปที่บันได เมื่อเขาเห็นชายหนุ่มที่หล่อเลายืนอยู่ที่บันไดด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า

 

“ไปให้พ้น!” ชายในเสื้อคลุมเทากล่าวขณะกำลังเดินตรงไปที่บันได และเดินผ่านชายหนุ่มหล่อเหลาที่กำลังยิ้ม

 

ขณะที่ชายในเสื้อคลุมเทากำลังเดินขึ้นบันได ได้ปรากฏร่างเงาอยู่ด้านบนสุดของบันได คนผู้นั้นกำลังถือกริชยาวอยู่ และมีปราณอันแข็งแกร่งและแหลมคมออกมาจากมัน ปราณใบมีดแพร่กระจายไปทั่วบรรยากาศและปกคลุมไปทั่วร้านอากาศ ทำให้ผู้คนที่อยู่ในร้านอาหารสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว

 

“ช่างเป็นปราณใบมีดที่แหลมคมอะไรเช่นนี้ ราวกับใบมีดจริงๆ!”

 

เมื่อชายในเสื้อคลุมเทาเห็นป้าเตา เขายิ้มอย่างเย็นชาออกมาและกล่าวว่า: “ป้าเตา มาอยู่กับนายน้อยเหมิงของพวกเราซะ เขาจะปฏิบัติกับเจ้าอย่างดีเลย”

 

ป้าเตาไม่สนใจสิ่งที่ชายในเสื้อคลุมเทากล่าว และยกกริชยาวของเขาขึ้นไปในอากาศ และได้มีอำนาจอันแหลมคมถูกปลดปล่อยออกมาจากมัน ขณะที่อำนาจไหลออกมาจากกริชของเขาอย่างต่อเนื่อง ทำให้บรรยากาศเกิดการสั่นไหวขึ้นภายใต้แรงกดดัน

 

ชายในเสื้อคลุมเทากระโดดขึ้นไปในอากาศ

 

กริชของป้าเตาปลดปล่อยแสงอันงดงามออกมา มันไหลผ่านไปในอากาศราวกับดาวตก และได้มีสัญลักษณ์ของใบมีดปรากฏขึ้นทันทีตรงที่ชายในเสื้อคลุมเทาเคยยืนอยู่

 

เสียงดังก้องกระจายไปตามบันได ทันใดนั้นเสียงดังก้องก็หยุดลง ชายในเสื้อคลุมเทาเห็นพลังของการโจมตีนั้นและตะโกนว่า: “ตายซะ!”

 

ในขณะที่ชายในเสื้อคลุมเทาตะโกนใสป้าเตา ชายในเสื้อคลุมเทาเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว และได้มีอำนาจพลังที่แข็งแกร่งอย่างไม่น่าเชื่อออกมาจากมือของเขา และพุ่งตรงไปยังกริชของป้าเตา

 

ภายใต้แรงกดดันของอำนาจพลังที่ปลดปล่อยโดยชายในเสื้อคลุมเทา ร่างของป้าเตาค่อยๆถูกผลักดันออกไปอย่างช้าๆ

 

ชายในเสื้อคลุมเทายกมือของเขาขึ้นและกำลังจะโจมตีออกไป แต่ในขณะนั้น เขารู้สึกได้ถึงอันตรายบางอย่างอยู่ด้านหลังเขา

 

หัวใจของเขาเริ่มเต้นเร็วขึ้น ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกว่าเขาตื่นตัวช้าเกินไปและมันเกือบจะทำให้เขาต้องตาย

 

เขาหันหลังกลับและสังเกตเห็นชายหนุ่มที่หล่อเหลาที่เขาเห็นก่อนหน้านี้ เขาได้ลืมชายหนุ่มที่หล่อเหลานี้ไปแล้ว แต่ในขณะนั้น ดวงตาสีดำของชายหนุ่มดูไร้อารมณ์และเยือกเย็น มันเต็มไปด้วยความเปล่าเปลี่ยวที่ไม่มีที่สิ้นสุด

 

หัวใจของเขาเริ่มเต้นเร็วขึ้นอีกครั้ง…

 

************************************************************
ติดตามได้ที่ – 

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments