I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Peerless Martial God ตอนที่ 165 ความตายที่เหน็บหนาว

| Peerless Martial God | 1733 | 2338 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

 “นั่นเขา”

 

หัวใจของชายในเสื้อคลุมสีเทาเต้นไม่เป็นจังหวะ ในที่สุดเขาก็ตระหนักได้ว่าลืมเรื่องของใครบางคนไป เขาหลงลืมเป้าหมายแรกของตัวเองนั่นก็คือหลินเฟิง มันคือชายหนุ่มที่ดูเป็นมิตรและหล่อเหลาที่เพิ่งเจอตรงด้านล่างของบันไดก่อนหน้านี้

 

 ทันใดนั้นอำนาจพลังที่แหลมคมก็กระจายไปทั่วบรรยากาศอีกครั้ง ราวกับว่ามันสามารถที่จะฉีกกระชากห้วงอากาศได้อย่างง่ายดาย ชายในเสื้อคลุมเทาลอยอยู่กลางอากาศ เขาไม่รู้ว่าควรที่จะทำยังไงต่อ ไม่ว่าจะเป็นความแข็งแกร่งที่น่ากลัวของป้าเตาและชายหนุ่มผู้ซึ่งมีสายตาที่ปราศจากความรู้สึก ทั้งคู่ล้วนแต่เป็นตัวอันตราย

 

 ในที่สุดชายในเสื้อคลุมเทาก็ตัดสินใจได้ ป้าเตาทะลวงสู่ขอบเขตจิตวิญญาณขั้นที่ 6 เป็นคนที่เขาหวาดกลัวมากที่สุด หากป้าเตาอยู่ด้านหลังของเขามันจะเป็นอันตรายเกินไป ผู้บ่มเพาะพลังขอบเขตจิตวิญญาณขั้นที่ 6 จำนวน 81 คนตกตายในมือของเขา ป้าเตาเคยเป็นทาสในลานประลองเชลยซึ่งมีชีวิตอยู่ด้วยการต่อสู้ เขาไม่ใช่คนที่จะดูถูกได้

 

“ย๊ากกกก!”

 

 ร่างกายของชายในเสื้อคลุมเทาสั่นสะท้านอย่างรุนแรง เสื้อคลุมของเขากระพือไปมาในอากาศ ทันใดนั้นเขาก็ปลดปล่อยปราณแห่งความตายที่รุนแรงออกมา

 

การโจมตีที่น่าหวาดกลัวของชายในเสื้อคลุมเขาทะลวงผ่านอากาศและพุ่งตรงไปยังป้าเตา

 

 “ตู้ม ตู้ม ตู้ม!”

 

  ร้านอาหารสั่นสะเทือน อำนาจพลังที่ถูกปลดปล่อยออกมาจากนักสู้ทั้ง 2 กำลังทุบทำลายสิ่งของภายในร้าน ผู้คนเริ่มหนีห่างจากการต่อสู้ โต๊ะและเก้าอี้ที่พวกเขานั่งกำลังแตกหักเป็นเสี่ยงๆ อำนาจพลังมีดนั้นแข็งแกร่งอย่างมาก

 

 ภายใต้แรงกดดันจากกริชของป้าเตาทำให้ชายในเสื้อคลุมเทาต้องถอยไปด้านหลังอย่างช้าๆ เขาเหลือบมองไปที่หลินเฟิงและเห็นว่าหลินเฟิงกำลังเดินตรงมาที่เขาด้วยเช่นกัน

 

 “หมัดทลายภูผา!” ชายในเสื้อคลุมเทาคำรามออกมา น่าประหลาดใจที่เขายังสามารถหันกลับไปโจมตีหลินเฟิงในสถานการณ์ที่อันตรายเช่นนี้ กำปั้นของเขาทรงพลังอย่างมาก

 

“ฟับบ!”  ทันใดนั้นได้เกิดเสียงบางอย่างตัดผ่านอากาศขึ้น มันเหมือนกับว่ามีบางสิ่งถูกตัด ชายในเสื้อคลุมเทาต้องการที่จะเคลื่อนไหวแต่ก็ไม่สามารถที่จะทำได้

 

 แขนของเขาถูกจับไว้แน่นโดยหลินเฟิง ทันใดนั้นก็ได้มีกริชลึกลับแทงลึกเข้าไปในลำคอของเขา มีเพียงแค่ด้ามจับของกริชเท่านั้นที่สามารถมองเห็นได้

 

ดวงตาของชายในเสื้อคลุมดำจับจ้องไปที่ร่างเงาที่เลือนรางของหลินเฟิง การโจมตีของเขารวดเร็วเกินไป นอกจากนี้หลินเฟิงสามารถหลบพ้นจากการโจมตีจากกำปั้นของเขาได้อย่างไร?

 

 “ในชีวิตหน้าของเจ้า เจ้าควรกลับตัวเป็นคนดี” หลินเฟิงกล่าวอย่างเย็นชาและดึงกริชออกมาจากลำคอของชายคนนั้น เลือดซาดกระจายไปทั่วพื้น แม้ว่าเขาจะตายแล้วแต่ดวงตาทั้ง 2 ยังคงเปิดอยู่ราวกับว่าเขายังคงตกใจและไม่อยากจะเชื่อกับสิ่งที่เกิดขึ้น

 

 หลินเฟิงเช็ดเลือดที่กริชและนำมันเก็บกลับไป ใบหน้าของเขายังคงเย็นชาและไร้ความรู้สึก เขาจ้องมองไปที่ศพของชายในเสื้อคลุมเทาอย่างสงบ

 

 ชายคนนี้คือนักสู้ขอบเขตจิตวิญญาณขั้นที่ 7 และแข็งแกร่งมาก หากป้าเตาไม่ได้อยู่ที่นี่และดึงดูดความสนใจของเขา หลินเฟิงคงไม่อาจที่จะเอาชนะเขาได้อย่างง่ายดายเช่นนี้

 

 ป้าเตาและอีเสวี่ยเดินลงมาจากบันได พวกเขาจ้องมองไปที่ใบหน้าอันหล่อเหลาของหลินเฟิงด้วยความรู้สึกบางอย่าง

 

 เป็นอัจฉริยะที่น่ากลัวอะไรเช่นนี้ หลินเฟิงมีอายุประมาณ 17 ปีเท่านั้นแต่ความแข็งแกร่งของเขาไม่อาจที่จะคาดเดาได้ด้วยสามัญสำนึกทั่วๆไป

 

 ป้าเตารู้ว่าเขาเป็นคนที่แข็งแกร่งมาตลอด เขามีการพัฒนาภายใต้สภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยเลือดและการต่อสู้ นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาแข็งแกร่งอย่างมาก แต่หลินเฟิง ปราณและอำนาจพลังของเขามีความหนาแน่นมาก ทั้งความสามารถในการต่อสู้ของเขาก็ยังสูงส่ง การโจมตีของเขาไม่อาจดูแคลนได้

 

 ดวงตาของอีเสวี่ยเป็นประกาย ก่อนหน้านี้นางคิดว่าหลินเฟิงจะต้องอ่อนแอเพราะเขาเพิ่งจะทะลวงสู่ขอบเขตจิตวิญญาณขั้นที่ 5 แต่ในตอนนี้นางเปลี่ยนความคิดไปอย่างสิ้นเชิง นางไม่คิดเลยว่าใบหน้าที่หล่อเหลาภายใต้หน้ากากสีเงินของหลินเฟิงจะทำให้นางไม่สามารถที่จะหักห้ามสายตาของนางไม่ให้มองไปยังที่อื่นได้

 

 “ไปกันเถอะ” หลินเฟิงกล่าวและเดินออกจากร้านอาหาร

 

 ป้าเตาและอีเสวี่ยติดตามเขาออกไป พวกเขาเดินตามหลินเฟิงอย่างใกล้ชิดและทิ้งซากศพของชายในเสื้อคลุมเทาไว้ด้านหลัง

 

 ในไม่ช้า ผู้บ่มเพาะพลังที่แข็งแกร่งขอบเขตจิตวิญญาณขั้นที่ 7 ถูกสังหารโดยคน 2 คนที่มีระดับพลังอ่อนแอกว่าเขา เรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นภายในร้านอาหารแห่งนี้

 

 ไม่ว่าจะเป็นทาสที่มีคำว่า ‘ป้าเตา’ ถูกเขียนไว้บนหน้าหรือชายหนุ่มผู้หล่อเหลาที่ยังดูเยาว์วัย ผู้คนต่างมีความรู้สึกว่าเรื่องที่เกิดขึ้นราวกับเป็นเพียงแค่ความฝัน

 

 ทันใดนั้น ได้มีร่างเงาปรากฏตัวขึ้นและเดินเข้าไปยังร้านอาหารซึ่งทำให้ผู้คนแปลกใจอีกครั้ง

 

ร่างเงานั้นไม่ได้ส่งเสียงใดๆออกมา ราวกับว่าเป็นเพียงแต่วิญญาณเท่านั้น อยู่ๆเขาก็ปรากฏตัวขึ้นด้านหน้าของพวกเขา นี่มันน่าตกตะลึงอย่างมาก  

 

 “เขาตายแล้ว!” ทันใดนั้นร่างเงาที่ลึกลับก็กล่าวออกมา

 

 ในตอนแรกที่เขาเห็นศพบนพื้น เขายังไม่แน่ใจ

 

 ร่างเงาสะบัดมือเล็กน้อยและปลดปล่อยพลังออกมา มันเข้าไปห่อหุ้มร่างกายของศพจากนั้นก็หายไปในทันที

 

 ผู้คนต่างแต่ตื่นตระหนก ความเคารพและความหวาดกลัวล้วนก่อตัวขึ้นในจิตใจของพวกเขา

 

 “ขอบเขตปฐพี!”

 

 ร่างเงานั้นคือผู้บ่มเพาะพลังขอบเขตปฐพีและดูเหมือนว่าเขากำลังติดตามใครบางคนมาก่อนหน้านี้

 

 ร่างเงาหายลับไปจากสายตาของผู้คนและไปปรากฏตัวที่นอกร้าน เขากำลังมองออกไปยังที่ห่างไหลจากนั้นเขาก็หายตัวไปอีกครั้ง

 

 ทันใดนั้น ร่างเงาก็ต้องแปลกใจและหยุดเคลื่อนไหว

 

เพราะในตอนนั้นได้มีร่างๆหนึ่งปรากฏตัวขึ้นและขวางทางของเขาไว้

 

 ผิวพรรณของคนผู้นั้นขาวราวกับหิมะและลอยอยู่บนอากาศพร้อมกับออร่าเฉกเช่นเทพเซียน

 

 มันคือหญิงสาว ร่างเงาเห็นเพียงแค่แผ่นหลังของนางเท่านั้น แม้ว่าต้องการที่จะผ่านไปแต่ดูเหมือนว่าจะเป็นไปไม่ได้ นางราวกับรูปปั้นน้ำแข็งที่ตั้งตระหง่านอย่างมั่นคง

 

 “น่าเกรงขามอะไรเช่นนี้”

 

 ร่างเงาสามารถตรวจสอบได้ว่าหญิงสาวที่ดูศักดิ์สิทธิ์และสูงส่งคนนี้ผู้บ่มเพาะพลังที่แข็งแกร่งขอบเขตปฐพี นางคือตัวอันตรายอย่างแท้จริง

 

 “เจ้าติดตามพวกเรามาเป็นเวลานาน ในที่สุดเจ้าก็หยุด”

 

 เงาร่างที่ดูบริสุทธิ์ปราศจากมลทินของหญิงสาวหันกลับมา ใบหน้าของนางถูกปิดกั้นไว้ด้วยผ้าคลุม ถึงกระนั้นออร่าของนางก็ยังคงเต็มไปด้วยความสูงส่ง

 

 ร่างเงาไม่ได้แสดงทีท่าอะไรออกมาแต่ภายในใจของเขาเริ่มหวาดวิตก

 

 ทันใดนั้นร่างที่งดงามของหญิงสาวค่อยๆเคลื่อนเข้าหาร่างเงาอย่างช้าๆ

 

 อุณหภูมิในบรรยากาศเริ่มต่ำลงเรื่อยๆ อากาศโดยรอบเริ่มถูกปกคลุมไปด้วยน้ำค้างแข็ง มันคือความเย็นที่แปลกประหลาดอย่างมาก แม้แต่ผู้บ่มเพาะพลังที่แข็งแกร่งผู้ซึ่งอยู่ห่างไกลออกไปก็ยังต้องหันมามองยังทิศทางที่หญิงสาวอยู่ด้วยความตกตะลึง

 

 ท่าทางของร่างเงากลายเป็นแข็งค้าง เขาสั้นสะท้านไปถึงกระดูกสันหลัง ร่างของหญิงสาวมีการเปลี่ยนแปลง มีบางสิ่งถูกยิงออกมาราวกับลูกศรที่ถูกปล่อยออกมาจากคันธนู ร่างเงาเริ่มปล่อยความแข็งแกร่งออกมาและพยายามที่จะป้องกันตัว

 

 “หัวใจน้ำแข็ง!”

 

 หญิงสาวกล่าวออกมาแค่เพียง 2 คำ ซึ่งทำให้ร่างเงาสั่นสะท้านตั้งแต่หัวจรดเท้า เพียงแค่ 2 คำก็ทำให้หัวใจของเขาถูกกักขังไปด้วยพลังของน้ำแข็ง

 

 ปราณน้ำแข็งถูกปลดปล่อยไปทั่วบรรยากาศ ร่างเงากำลังต่อต้านความเย็นที่ทรงพลัง แต่พลังที่ถูกปล่อยออกมาจากฝ่ามือของเขาเริ่มกลายเป็นสีขาวและแข็งตัวในทันทีภายในปราณน้ำแข็งที่น่าหวาดกลัว มันราวดูคล้ายกับความฝัน

 

 ชั้นน้ำแข็งในอากาศเริ่มหนาขึ้นเรื่อยๆ ร่างเงากำลังกระหน่ำโจมตี แต่การแช่แข็งของน้ำแข็งราวกับไร้ที่สิ้นสุด

 

 “น้ำแข็งครองพิภพ”

 

 หญิงสาวกล่าวอย่างเย็นชา บรรยากาศถูกแช่แข็งและไม่มีสิ่งใดสามารถเคลื่อนไหวได้

 

 ร่างเงารู้สึกว่าความเย็นที่น่าหวาดกลัวได้ทะลวงเข้าสู่ร่างของเขา เขารีบผลักฝ่ามือไปข้างหน้า พลังงานที่บริสุทธิ์เริ่มหลั่งไหลออกมาจากมือของเขา แต่บรรยากาศที่ปกคลุมไปด้วยน้ำแข็งก็ยังไม่เปลี่ยนแปลงกระทั่งยังคงหนาขึ้นเรื่อยๆ ในที่สุดร่างกายและหัวใจของเขาก็ถูกแช่แข็งโดยสมบูรณ์

 

 นี่มันอะไรกัน?

 

 มันคือโลกของน้ำแข็งที่มีขนาดใหญ่พอๆกับคฤหาสน์ มันราวกับเป็นความฝัน

 

 หลังจากผ่านไปนาน ในที่สุดชั้นน้ำแข็งก็เริ่มแตกออกและละลายอย่างรวดเร็วภายใต้แสงอาทิตย์ น้ำแข็งกลายเป็นน้ำและล่วงลงสู่พื้นด้านล่าง

 

 ตรงกลาง มีศพๆหนึ่งถูกแช่งแข็งไว้อยู่ คนๆนี้ได้ตกตายไปนานแล้วและถูกตรึงอยู่ท่านกลางชั้นน้ำแข็ง

 

ร่างเงาที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นผู้แข็งแกร่งขอบเขตปฐพี ในตอนนี้เหลือเพียงแค่ซากศพที่ถูกแช่แข็งไว้เท่านั้น!

 

ติดตามได้ที่ – 

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments