I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Peerless Martial God ตอนที่ 171 กฎ

| Peerless Martial God | 2537 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
                

การที่หลินเฟิงสามารถสังหารเคอเฉิงลงได้เป็นเพราะเคอเฉิงประมาทและประเมินหลินเฟิงต่ำไป

 

 อย่างไรก็ตามจู่หนิงได้เห็นการตายของเคอเฉิงด้วยตาของตัวเอง เห็นได้จัดว่าจู่หนิงไม่มีทางที่จะประมาทหลินเฟิงอีกต่อไป จู่หนิงใช้พลังทั้งหมดที่มีตั้งแต่แรก เขาปลดปล่อยจิตวิญญาณออกมาและทุ่มสุดตัว อย่างไรก็ตามเขาก็ยังถูกสังหารโดยหลินเฟิง

 

 “ชายคนนี้แข็งแกร่งมาก! เขาสังหารได้แม้กระทั่งจู่หนิง ทำไมข้าถึงไม่เคยเห็นเขามาก่อน?”

 

 มีคนมากมายได้รวมตัวกันอยู่ที่ชั้น 4 พวกเขาต่างสนทนากัน ทุกคนล้วนแต่เห็นสิ่งที่เกิดขึ้น หลินเฟิงสามารถสังหารจู่หนิงได้อย่างง่ายดาย

 

 “ฮ่าๆๆ เจ้าไม่รู้จักเขา? น่าแปลกใจนัก นามของเขากำลังแพร่กระจายไปทั่วสำนักตอนนี้ยังไงล่ะ”

 

 “ยะ…อย่าบอกนะว่าเขาคือ หลินเฟิง!”

 

 ยวี๋เจียวประหลาดใจ ผู้เชี่ยวชาญดาบที่มีอายุเพียงแค่ 16-17 ปี ชายผู้มีความบ้าบิ่นและโหดเหี้ยม… เมื่อยว๋เจียวได้รำลึกถึงเรื่องต่างๆของหลินเฟิงที่นางเคยได้ยินมาทำให้หัวใจของนางแทบจะหยุดเต้น

 

 “เพียงแค่ขอบเขตจิตวิญญาณขั้นที่ 5 ก็สามารถสังหารเคอเฉิงและจู่หนิงได้… ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมข้าถึงไม่เคยเห็นเขามาก่อน เพราะว่าชายคนนี้ก็คือหลินเฟิง”

 

 

 ยวี๋เจียวตกตะลึง นางก็เหมือนกับเคอเฉิงและจู่หนิงที่ทะลวงสู่ขอบเขตจิตวิญญาณขั้นที่ 6 แล้ว แต่นางก็ไม่ใช่คู่มือของพวกเขาทั้ง 2 หากนางยังคนดื้อดึงที่จะต่อสู้กับหลินเฟิง แน่นอนว่าผลลัพธ์ของมันก็คือความตาย

 

 หลินเฟิงชี้ปลายดาบไปที่ยวี๋เจียวซึ่งทำให้นางสั่นสะท้าน ดวงตาของนางเผยให้เห็นความกลัวที่ฝังลึกลงไปในจิตใจ

 

 “พวกเราไม่ได้เป็นศัตรูกัน หากเจ้าต้องการห้องบ่มเพาะของข้า ข้าก็จะยกมันให้เจ้า ไม่จำเป็นที่ผู้แข็งแกร่งเช่นเจ้าจะมาสนใจหญิงสาวที่อ่อนแอแบบข้า”     

 

 ยว๋เจียวยิ้มและพยายามเกลี้ยกล่อมหลินเฟิงด้วยเสน่ห์ของนาง แต่หลินเฟิงเพียงแค่ยิ้มอย่างเย็นชา หญิงสาวที่ราวกับจิ้งจอกคนนี้น่ากลัวเกินไป นางเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือได้ทันทีเมื่อต้องเผชิญกับความตาย

 

 “ตั้งแต่แรกพวกเราไม่ได้มีความบาดหมางต่อกัน หากว่าข้าเป็นคนอ่อนแอก็คงเป็นข้าที่จะต้องนอนตายอยู่บนพื้น เจ้าบอกว่าไม่จำเป็นที่ข้าจะต้องสนใจหญิงสาวที่อ่อนแอเช่นเจ้า? เจ้าไม่คิดว่ามันไร้สาระหรอกหรือ?” หลินเฟิงกล่าวอย่างเย็นชาขณะก้าวเดิน

 

 “แล้วเจ้าต้องการอะไร?” ยวี๋เจียวถาม

 

 “ทำลายการบ่มเพาะพลังของตัวเองซะ” หลินเฟิงกล่าวอย่างไม่แยแส แม้ว่านางจะเป็นหญิงสาวที่งดงามแต่นางก็ต้องจ่ายค่าตอบแทนในสิ่งที่ทำลงไป

 

 ทำลายการบ่มเพาะพลัง!

 

 ยวี๋เจียวสั่นสะท้าน กว่าจะสามารถบรรลุได้ถึงขอบเขตจิตวิญญาณขั้นที่ 6 นางต้องฝึกฝนและทุ่มเทอย่างมาก แต่หลินเฟิงต้องการที่จะให้นางทำลายการบ่มเพาะพลังของตัวเอง? ชีวิตที่เหลืออยู่ก็เหมือนกับตายทั้งเป็น

 

 “ไม่มีทางเลือกอื่นเลยหรือ?” ยวี๋เจียวถามอย่างน่าสงสาร

 

 “ไม่มี” หลินเฟิงตอบ

 

 การแสดงออกของยวี๋เจียวเปลี่ยนไปในทันทีพร้อมกับปลดปล่อยจิตสังหาร “บัดซบ”

 

 ในตอนนั้นยวี๋เจียวเดินผ่านฝูงชนและไปยังห้องบ่มเพาะพลังอีกห้องหนึ่ง นางต่อยไปที่ประตูและทำให้เกิดเสียงดัง จากนั้นนางไปที่อีกห้องและอีกห้อง เสียงต่อยประตู 4 ครั้งดังสนั่นไปทั่วชั้นที่ 4

 

ฝูงชนต่างเปิดทางให้หลินเฟิง เขายังคนเดินต่อไปเรื่อยๆ หลังจากที่เกิดเสียงดังสนั่นก็ปรากฏ 4 ร่างเงาออกมา ในชั้นที่ 4 มีห้องบ่มเพาะพลัง 8 ห้องและ 2 ห้องในนั้นกลายเป็นว่างเปล่าเพราะเคอเฉิงและจู่หนิงถูกหลินเฟิงสังหาร เมื่อ 4 คนออกมาจากห้องรวมกับห้องของยวี๋เจียวก่อนหน้านี้ ก็เท่ากับว่าตอนนี้มีห้องว่า 7 ห้อง

 

 แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่มีใครกล้าที่จะต่อสู้แย่งชิงมัน เฉพาะผู้ที่มีความแข็งอย่างน่าเหลือเชื่อเท่านั้นที่จะสามารถจับจ้องห้องบ่มเพาะพลังในชั้นนี้ได้

 

 “ยวี๋เจียว เจ้าต้องการอะไร?” ชายหนุ่มขมวดคิ้วและถามขณะออกมาจากห้อง

 

 “มีบางคนต้องการที่จะสังหารข้า” ยวี๋เจียวกล่าว

 

 “สังหารเจ้า?” หนึ่งในนั้นกล่าว เงาร่างทั้ง 4 ที่ออกมาจากห้องบ่มเพาะพลังต่างรู้สึกประหลาดใจอย่างมาก น่าแปลกใจที่มีคนต้องการที่จะสังหารหญิงสาวที่งดงามเช่นนี้

 

 “มีบางคนต้องการที่จะสังหารเจ้า แล้วมันเกี่ยวอะไรกับพวกข้า?” หนึ่งในนั้นกล่าวอย่างติดตลก

 

 “กงหลุน เจ้านี่ช่างเลือดเย็นจริงๆ” ยวี๋เจียวยิ้มอย่างยั่วยวนให้กับชายหนุ่ม จากนั้นนางก็กล่าวต่อ “ใครจะเล่นกับเจ้าคืนนี้หากข้าตาย?”

 

 “เล่นกับข้า?” ปรากฏรอยยิ้มที่ชั่วร้ายบนหน้าชายที่ชื่อกงหลุน จากนั้นเขาก็มองไปยังเรือนร่างของยวี๋เจียวและกล่าว “แม้ว่าเจ้าจะยังมีชีวิต แต่ข้าจะได้มีโอกาสเล่นกับเจ้าจริงๆ?”

 

 ยวี๋เจียวจ้องมองไปที่กงหลุนด้วยความเย้ายวนอีกครั้ง “หากเจ้าต้องการเล่นกับข้า ก็เพียงแค่ทำสิ่งหนึ่งให้ข้าเท่านั้น”

 

 “โอ้?” กงหลุนยิ้มอย่างชั่วร้าย

 

 “ข้าเพียงแค่ต้องการให้เจ้าช่วยสังหารชายคนนั้น หากเจ้าทำได้ ข้าก็จะเล่นกับเจ้าในคืนนี้” ยวี๋เจียวหัวเราะเล็กน้อยและแสดงให้เห็นถึงเสน่ห์ของนาง ในใจของผู้คนเต็มไปด้วยความปรารถนาเมื่อพวกเขาได้ยินในสิ่งที่นางกล่าว ร่างกายที่งดงามของนางเป็นสมบัติล้ำค่า

 

 “พวกเจ้าทั้ง 3 ก็เช่นกัน หากพวกเจ้าสามารถสังหารเขาได้ ข้าก็จะหลับนอนกับพวกเจ้าทั้งหมด” ยวี๋เจียวกล่าวกับ 3 คนที่เหลือและชี้ไปยังหลินเฟิง

 

 กงหลุนและอีก 3 คนต่างมีความหื่นกระหาย นี่เป็นข้อเสนอที่ยากจะปฏิเสธ

 

 “หากข้าเข้าใจไม่ผิดทั้งเคอเฉิงและจู่หนิงถูกเขาสังหาร เจ้าต้องการให้พวกเราสังหารเขา แต่ว่านั่นจะไม่เป็นอันตรายสำหรับพวกเราหรือ? ในหอบ่มเพาะพลังแห่งนี้มีกฎห้ามสังหารศิษย์คนอื่นๆ” หนึ่งในนั้นถามด้วยรอยยิ้ม

 

 “ก็จริง แต่เขาสังหาร 2 คนนั้นไปแล้ว เขาทะลวงสู่ขอบเขตจิตวิญญาณขั้นที่ 5 และสามารถควบคุมอำนาจดาบได้ เขาคือผู้บ่มเพาะพลังที่แข็งแกร่งซึ่งสามารถสู่ข้ามลำดับชั้นได้และยังมอบความอัปยศให้กับข้า ทั้งยังขโมยห้องบ่มเพาะพลังของข้าไปอีก นั่นเป็นเหตุผลที่ข้าขอร้องเคอเฉิงและจู่หนิงให้สังหารเขา แต่เจ้าขยะทั้ง 2 นั่นกลับต่อสู้กันเองและเปิดโอกาสในเคอเฉิงถูกสังหารในทันที จากนั้นก็เหลือเพียงจู่หนิงแค่คนเดียวและจบลงด้วยการที่เขาถูกสังหาร”

 

 “ชายคนนี้บรรลุเพียงแค่ขอบเขตจิตวิญญาณขั้นที่ 5 แต่กลับใช้อำนาจดาบได้แล้ว?” กงหลุนกล่าวด้วยความไม่อยากจะเชื่อ อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้เขาไม่ได้เห็นการต่อสู้ของหลินเฟิงเพราะประตูของห้องบ่มเพาะพลังที่ปิดสนิท

 

 “หากชายคนนี้แข็งแกร่งจริงๆเขาคงจะลงไปอยู่ที่ชั้น 3 แล้ว” ยวี๋เจียวรู้ถึงความหมายในคำพูดของกงหลุนได้ในทันที นั่นคือหลินเฟิงอาจจะไม่แข็งแกร่งพอที่จะลงไปยังชั้น 3

 

ในตอนนี้ หลินเฟิงได้จ้องมองไปที่พวกเขาและกล่าวอย่างไม่แยแส “พวกเจ้าพูดกันจบหรือยัง?”

 

 “หืมม?” กงหลุนขมวดคิ้วขณะจ้องมองไปที่หลินเฟิง

 

 “หากพวกเจ้าพูดกันจบแล้วก็หลีกไป” กลิ่นอายที่เย็นยะเยือกถูกปลดปล่อยออกมาจากร่างกายของหลินเฟิงพร้อมกับปราณดาบสังหาร กงหลุนประหลาดใจอย่างไรก็ตามปรากฏรอยยิ้มขึ้นบนใบหน้าของเขา ตามที่คาดไว้หลินเฟิงบรรลุแค่ขอบเขตจิตวิญญาณขั้นที่ 5 และพึ่งพาเพียงอำนาจดาบของเขา นั่นแทบจะไม่เพียงพอที่จะต่อกรกับผู้บ่มเพาะพลังขั้นที่ 6 ทั่วไป แต่จู่หนิงและเคอเฉิงคงจะเป็นเพียงแค่ขยะจริงๆ พวกเขากลับถูกสังหารโดยคนที่อ่อนแอเช่นนี้

 

 “เจ้าไม่คิดว่าตัวเองหยิ่งยโสเกินไปหรือ?” กงหลุนแสยะยิ้มและกล่าวต่อ “มันเป็นเรื่องจริงที่ว่าสามารถทะลวงสู่ขอบเขตจิตวิญญาณขั้นที่ 5 ซึ่งไม่นับว่าอ่อนแอ แต่มันก็ยังไม่เพียงพอ ถ้าเจ้าคิดว่าการที่เจ้าสามารถสังหารเคอเฉิงและจู่หนิงได้ จะทำให้เจ้าสามารถต่อกรกับพวกเราได้ ข้าขอบอกเอาไว้เลยว่าเจ้าเป็นเพียงแค่คนโง่เท่านั้น จู่หนิงยังคงห่างไกลจากพวกเรามากนัก มันก็แค่คนอ่อนแอ”

 

 “พูดจบหรือยัง?” หลินเฟิงกล่าวราวกับว่าเขาไม่ได้สนใจสิ่งที่กงหลุนเพิ่งจะเอ่ยไป เกิดประกายแสงในดวงตาของกงหลุน หลินเฟิงไม่ไว้หน้าของเขาแม้แต่น้อย

 

 “หากเจ้าพูดจบแล้วก็หลีกไป ก่อนที่ข้าจะลงมือด้วยตัวเอง”

 

 หลินเฟิงเดินตรงไปพร้อมกับปลดปล่อยกลิ่นอายที่หนาวเย็น

 

 “หยิ่งยโสอะไรเช่นนี้” กงหลุนจ้องมองอย่างชั่วร้าย “ยวี๋เจียว จำสิ่งที่เจ้าเพิ่งจะพูดไว้ด้วย”

 

 “ฮิๆๆ หากเจ้าสังหารเขาได้ แน่นอนว่าข้าจะหลับนอนกับเจ้าในคืนนี้และจะทำให้เจ้ากลายเป็นคนที่มีความสุขที่สุดในสำนักสวรรค์”

 

 ยวี๋เจียวยิ้มและพูดเหมือนกันกับอีก 3 คนที่เหลือ “เช่นเดียวกับพวกเจ้า หากพวกเจ้าสามารถสังหารเขาได้ ข้าก็จะหลับนอนกับพวกเจ้าด้วยเช่นกัน”

 

 ศิษย์ของสำนักสวรรค์ทั้ง 4 คนนี้ต่างเกิดแรงปรารถนาและจ้องมองอย่างชั่วร้ายไปที่หลินเฟิง พวกเขาก้าวเดินไปหาหลินเฟิงพร้อมกับปลดปล่อยจิตสังหารออกมา หลินเฟิงที่บรรลุเพียงขอบเขตจิตวิญญาณขั้นที่ 5 เป็นไปไม่ได้เลยที่จะรับมือพวกเขาทั้งหมดในเวลาเดียวกัน

 

 “เจ้ายังไม่เข้าใจกฎของที่นี่… การขโมยห้องของคนอื่นและสังหารผู้คนที่นี่… มีเพียงความตายเท่านั้นที่รออยู่ ข้าจะสังหารเจ้าเพราะว่าเจ้าไม่ทำตามกฎ” กงหลุนกล่าว  

 

 “ข้าไม่เข้าใจกฎ? นั่นคงเป็นเพราะว่าข้าได้ตัดสินใจใช้ห้องที่เขียนว่า ‘หวงห้าม’ แต่ไม่ใช่ว่านั่นเป็นกฎที่พวกเจ้าคิดขึ้นเอง? หากใครต้องการที่จะสังหารข้า ข้าก็จะสังหารพวกมันด้วยเช่นกัน แล้วแบบนี้ข้าจะไม่เข้าใจกฎได้อย่างไร? เจ้าใช้อะไรตัดสินว่าใครละเมิดกฎ?” หลินเฟิงกล่าวอย่างเย็นชา

 

 “เฉพาะผู้ที่แข็งแกร่งเท่านั้นที่จะสามารถสร้างกฎของตัวเองขึ้นมาได้ เจ้าสามารถสังหารเจ้าขยะ 2 ตัวนั้นได้ แต่เจ้าเองก็กำลังจะตายเช่นกัน สำนักสวรรค์แห่งนี้ไม่สนใจที่จะต้องสูญเสียขยะเช่นเจ้า”

 

 “ข้าเข้าใจแล้ว” หลินเฟิงยิ้ม เขาเริ่มก้าวเดินราวกับภาพลวงตา จากนั้นดาบก็ปรากฏออกมาจากความว่างเปล่า

 

มันดูเหมือนดาบธรรมดาและไม่มีอะไรโดดเด่น ไม่มีอำนาจดาบออกมาจากมัน แต่ในพริบตามันก็มาปรากฏอยู่ด้านหน้าของกงหลุน  

 

กงหลุนยิ้มเมื่อเขาเห็นดาบของหลินเฟิงพุ่งมาทางเขา แต่ทันใดนั้นพลังงานแห่งความตายก็ปรากฏอยู่รอบตัวและกำลังกดทับร่างกายของเขา หัวใจเริ่มเต้นไม่เป็นจังหวะ กงหลุนจับจ้องไปที่การเคลื่อนไหวของดาบ เขาพยายามที่จะหลบแต่ก่อนที่จะได้ทันขยับตัวก็สามารถสัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นที่หน้าอก รอยยิ้มจางหายไปจากใบหน้าของเขาในทันทีแทนที่ด้วยความเจ็บปวดและทรมาน

 

 เพียงแค่พริบตา ดาบของหลินเฟิงก็แทงทะลุหน้าออกของกงหลุนไปเสียแล้ว

 

กงหลุนถูกสังหารโดยปราศจากการตอบโต้

 

 “ข้าชอบกฎแบบนี้จัง” หลินเฟิงกล่าวอย่างเฉยเมย แต่ทุกคนภายในชั้นที่ 4 สามารถได้ยินคำพูดของเขาได้ หัวใจของพวกเขาเกือบจะหยุดเต้น หลินเฟิงผู้นี้แข็งแกร่งขนาดไหนกัน?!

 

ติดตามได้ที่ – 

ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
comments