I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Peerless Martial God ตอนที่ 170 การตื่นขึ้นของดาบ

| Peerless Martial God | 1698 | 2336 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

 

ยวี๋เจียวกำลังจ้องมองหลินเฟิง  สีหน้าที่น่าหลงใหลของนางได้หายไป ในตอนนี้นางดูราวกับเป็นสาวน้อยที่กำลังหวาดกลัว

 

ก่อนหน้านี้ พลังปราณที่หลินเฟิงได้ปลดปล่อยออกมาอยู่ในระดับจิตวิญญาณขั้นที่ 5 เท่านั้น เขารู้วิธีควบคุมอำนาจดาบได้อย่างสมบูรณ์แบบ เขาได้สังหารเคอเฉิงไปแล้วเพราะเคอเฉิงได้ประเมินเขาต่ำเกินไป หลินเฟิงไม่ได้สนใจฝ่ายตรงข้ามของเขาเลย อย่างไรก็ตามมันก็เป็นเรื่องที่ปฏิเสธไม่ได้ว่าหลินเฟิงเป็นคนที่แข็งแกร่งอย่างมาก อันที่จริงความแข็งแกร่งของเขาก็เพียงพอที่จะข่มขู่ผู้บ่มเพาะพลังที่อยู่ขอบเขตจิตวิญญาณขั้นที่ 6 ได้

 

ยวี๋เจียวขมวดคิ้ว นางไม่เคยเห็นหลินเฟิงมาก่อนซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมนางถึงเกลียดหลินเฟิงที่ลบชื่อของนาง แต่เนื่องจากความประสาทของนางจึงทำให้เคอเฉิงต้องตาย

 

ยวี๋เจียวหัวเราะและพูดว่า: “จู่หนิง เคอเฉิงมันเป็นคนที่ไร้ประโยชน์จริงๆ ถึงกับดูถูกฝ่ายตรงข้าม แม้ว่าเจ้านี่มันจะรู้วิธีควบคุมอำนาจดาบ แต่ผู้บ่มเพาะพลังที่อยู่ขอบเขตจิตวิญญาณขั้นที่ 6 ที่ สามารถสังหารมันได้อย่างแน่นอน” ยวี๋เจียวกล่าวด้วยรอยยิ้มอันอ่อนโยนบนใบหน้าของนาง

 

นางบอกกับเขาว่าเคอเฉิงเป็นคนไร้ประโยชน์และบอกว่าเขาได้ประเมินฝ่ายตรงข้ามต่ำไป แต่แล้วนางก็บอกกับเขาว่าผู้บ่มเพาะพลังที่อยู่ขอบเขตจิตวิญญาณขั้นที่ 6 สามารถเอาชนะหลินเฟิงได้อย่างแน่นอน หลังจากมีคนถูกสังหารไปแล้ว นี่จึงเป็นตรรกะที่แปลก

 

จู่หนิงขมวดคิ้ว แม้ว่าเขาจะรู้ว่ายวี๋เจียวกำลังพยายามเร้าให้เขาต่อสู้ แต่เขาก็คิดว่าสิ่งที่นางพูดนั้นเป็นความจริง เป็นไปได้ไหมที่ผู้บ่มเพาะพลังที่อยู่ขอบเขตจิตวิญญาณขั้นที่ 5 สามารถเอาชนะเขาได้ นั่นเป็นเพราะเขารู้วิธีควบคุมอำนาจดาบ?

 

จู่หนิงลังเลอยู่ชั่วครู่ และจากนั้นความหวาดกลัวก็ได้หายไปจากหัวใจของเขา เขากระพริบตาและพร้อมที่จะต่อสู้อีกครั้ง

 

“จู่หนิงที่เจ้าหวาดกลัวมันเป็นเพราะเคอเฉิงตายหรือ?” เสียงของยวี๋เจียวฟังดูแปลกๆ

 

จู่หนิงโกรธ เขากัดฟันและจ้องมองไปที่หลินเฟิงและกล่าวว่า “ข้าจะหวาดกลัวได้ยังไงกัน? มันเป็นเพียงแค่เด็กเหลือขอที่อยู่ขอบเขตจิตวิญญาณขั้นที่ 5 ก็แค่นั้นแหละ”

 

หลินเฟิงยิ้มเยาะเย้ยและพูดติดตลกว่า “แล้วทำไมเจ้าถึงมัวยืนอยู่ตรงนั้นล่ะ?”

 

จู่หนิงรู้สึกทึ่งกับความเชื่อมั่นและความหนาวเย็นของหลินเฟิง การแสดงออกที่น่าเกลียดได้ปรากฏบนใบหน้าของเขา

 

หัวใจของเขาเริ่มเต้นเร็วขึ้น ในขณะนั้น ดวงตาทั้งสองข้างได้ปรากฏอยู่ที่เบื้องหลังของจู่หนิง สายตาของมันราวกับนกอินทรี พวกมันดูแหลมคมและดุร้าย จากช่วงเวลาที่ดวงตาทั้งสองข้างปรากฏ จู่หนิงกลายเป็นดูชั่วร้ายและแปลกประหลาดไป

 

“มันเป็นจิตวิญญาณของเขา!” หลินเฟิงประหลาดใจ สิ่งที่ลอยอยู่เบื้องหลังจู่หนิงเห็นได้ชัดว่ามันเป็นจิตวิญญาณ! อย่างไรก็ตามสิ่งที่ทำให้หลินเฟิงตกใจคือเขาไม่เคยเห็นจิตวิญญาณแบบนี้มาก่อน

 

หลินเฟิงรู้สึกประหลาดใจ แต่เขาก็รู้ว่าทวีปเก้าเมฆานั้นกว่าใหญ่; หลินเฟิงไม่ได้รู้ไปทุกอย่าง อาณาจักรหิมะจันทราเป็นเพียงอาณาจักรหนึ่งในทวีป ภายในทวีปมันมีทั้งหมด สี่จักรวรรดิและเก้าอาณาจักร นี่เป็นเพียงแค่อาณาจักรหิมะจันทรา ซึ่งเป็นอาณาจักรที่ธรรมดา ดังนั้นจิตวิญญาณที่หลินเฟิงไม่เคยเห็นมันจึงมีมากมายไม่มีที่สิ้นสุด

 

“อัสนีคำราม!” ดาบของหลินเฟิงสั่นเล็กน้อยและเขาฟันดาบไปข้างหน้า เสียงกระหึ่มดังสนั่นแผ่กระจายไปทั่วบรรยากาศด้วยการโจมตีของเขา

 

ดวงตาอันแปลกประหลาดทั้งสองข้างของจู่หนิงกำลังจ้องมองไปที่หลินเฟิง น่าประหลาดใจที่เขายังคงอยู่กับที่และกำลังรอให้หลินเฟิงเป็นคนเริ่มเคลื่อนไหว เขาเพียงแค่หันหน้าเล็กน้อยและหลบการโจมตีของหลินเฟิงได้อย่างแม่นยำ

 

ในเวลาเดียวกันจู่หนิงก็ยกมือขึ้น เขาผลักมือของเขาไปข้างหน้าซึ่งให้ความรู้สึกคล้ายกับจิตวิญญาณ มันเปล่งประกายแสงอันคมกริบขณะที่มันเคลื่อนตรงไปยังดวงตาของหลินเฟิง นี่มันเป็นการโจมตีที่ชั่วร้ายอย่างแท้จริง

 

 

ดาบยาวของหลินเฟิงทำให้เกิดเสียงดังขณะสกัดกั้นการโจมตี ร่างของของจู่หนิงเคลื่อนไหวอย่างเรียบง่ายขณะที่มือของเขายังคงพุ่งตรงไปยังดวงตาของหลินเฟิง

 

หลินเฟิงก้มหลบเล็กน้อยและกระโดดไปข้างหลังโดยใช้เทคนิคเคลื่อนที่ดั่งเงาจันทรา จากนั้น ปราศจากความลังเล เขาเริ่มโจมตีครั้งต่อไป ดาบของหลินเฟิงเริ่มเรืองแสงขณะที่มันเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วราวกับสายฟ้าตรงไปที่จู่หนิง

 

“ดาบของเจ้าอาจโจมตีฝ่ายตรงข้ามคนอื่นได้…แต่ไม่ใช่ข้า” จู่หนิงกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา ร่างกายของเขาขยับเพียงเล็กน้อยและเขาก็หลีกเลี่ยงการโจมตีของหลินเฟิงได้อีกครั้ง แต่คราวนี้มันฉิวเฉียดมากๆ จู่หนิงเกือบหลบดาบของหลินเฟิงไม่พ้น

 

“ดวงตาทั้งสองข้างสามารถทำนายการเคลื่อนไหวของข้าได้และช่วยให้มันหลบการโจมตีของข้าได้ จิตวิญญาณสวรรค์ของข้ามันมีความสามารถคล้ายคลึงกันในการมองสิ่งต่างๆราวกับกำลังเคลื่อนไหวอย่างช้าๆ”

 

หลินเฟิงเก็บดาบของเขาและเริ่มขบคิด พลังของเขาค่อยๆกลายเป็นเยือกเย็นขึ้น เขาดูไร้อารมณ์ ดวงตาของเขาจู่ๆก็กลายเป็นสีดำ

 

เมื่อจู่หนิงสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงของหลินเฟิง จู่หนิงขมวดคิ้ว หลินเฟิงได้เปลี่ยนไปอย่างกระทันหัน หลินเฟิงดูไร้อารมณ์อย่างสมบูรณ์ การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้หัวใจของจู่หนิงเต้นเร็วขึ้น  

 

ถ้าดวงตาของจู่หนิงดูแปลกประหลาดและชั่วร้าย ถ้าเป็นเช่นนั้นดวงตาของหลินเฟิงก็คือฝันร้ายของเขา พวกเขาดูเยือกเย็น ไร้อารมณ์และไม่มีลักษะเหมือนสิ่งที่มนุษย์ควรจะเป็น

 

“เจ้าบอกว่าดาบของข้าโจมตีได้แต่คนอื่นที่ไม่ใช่เจ้า?” หลินเฟิงกล่าว ทันใดนั้นความเยือกเย็นได้พุ่งตรงไปยังร่างกายของจู่หนิง อำนาจเริ่มแหลมคมและแหลมคมขึ้นเรื่อยๆ นอกจากนี้ยังมีปราณสังหาร

 

“คมดาบสังหาร” หลินเฟิงกล่าวขณะดึงดาบออกจากฝักอย่างรวดเร็ว ซึ่งดูเหมือนเป็นภาพลวงตาขณะที่เขาพุ่งเข้าหาจู่หนิง

 

จู่หนิงคร่ำครวญและจากนั้นได้มีปราณโผล่ออกมาจากดวงตาที่แปลกประหลาดและชั่วร้ายของเขา ร่างของเขาเคลื่อนไหวน้อยและหลบการโจมตีของดาบ

 

“ดาบปลิดชีพ”

 

หลินเฟิงยังคงดูไร้อารมณ์ ดาบของเขาแหวกว่ายผ่านอากาศอีกครั้ง ตอนนี้เขากำลังปลดปล่อยพลังปราณที่เป็นอันตรายถึงชีวิต ปราณสังหารล้อมรอบจู่หนิงทั่วร่าง ซึ่งทำให้เขารู้สึกเหมือนถูกแช่แข็ง แม้ว่าเขาจะอยู่ขอบเขตจิตวิญญาณขั้นที่ 6 แต่เขาก็ไม่กล้าเข้าใกล้ดาบของหลินเฟิง นักดาบที่รู้วิธีใช้อำนาจดาบจะทรงพลังอย่างมาก

 

ร่างกายของเขากลายเป็นภาพลวงตา ดาบปลิดชีพของหลินเฟิงรวดเร็วยิ่งขึ้น ทำให้เกิดแสงของดาบในอากาศ เขายังคงสามารถเห็นมันได้อย่างชัดเจนและหลบหลีกได้อย่างแม่นยำ

 

ในขณะนั้น หลินเฟิงจ้องมองไปที่จู่หนิง จากสายตาของเขา จู่หนิงเคลื่อนไหวช้ามาก ดังนั้นหลินเฟิงจึงสามารถมองเห็นทุกสิ่งทุกอย่างได้อย่างชัดเจนและแม่นยำ

 

หลินเฟิงสามารถมองเห็นการเคลื่อนของจู่หนิงได้อย่างชัดเจนเช่นเดียวกับที่จู่หนิงเห็นดาบของหลินเฟิงได้อย่างชัดเจน

 

ดาบของหลินเฟิงกำลังแหวกว่ายอยู่ในอากาศ ดาบของเขากำลังเคลื่อนที่ไปยังที่ๆจู่หนิงอยู่ เขาได้เปลี่ยนเส้นทางของดาบเขาอย่างต่อเนื่องทำให้จู่หนิงต้องถอยหลังกลับไป

 

เมื่อมองไปที่ดาบ จู่หนิงก็เคลื่อนที่ไปด้านหลัง การแสดงออกอันเยือกเย็นปรากฏบนใบหน้าของหลินเฟิง จากนั้นเขาก็พูดด้วยเสียงต่ำว่า: “มันจบแล้ว”

 

น้ำเสียงของเขาฟังดูสงบมากๆและไร้อารมณ์ นอกจากนี้คำพูดของเขายังเต็มไปด้วยความมั่นใจ ทำให้หัวใจของจู่หนิงเต้นรัว ทันทีหลังจากนั้นเขารู้สึกว่าอำนาจดาบได้หายไปอย่างสมบูรณ์และความว่างเปล่าได้เปลี่ยนทุกสิ่งทุกอย่างรอบๆตัวเขา

 

มันไม่ได้มีความเยือกเย็นและความแหลมคมอีกต่อไปเหมือนก่อนหน้านี้  มันมีเพียงดาบเล่มหนึ่งซึ่งเป็นดาบธรรมดาที่กำลังพุ่งเข้ามาหาเขา

 

จู่หนิงกำลังจ้องมองไปที่ดาบนั้น และเขารู้สึกไม่ค่อยมั่นใจ เขาอยากรู้ว่าการโจมตีครั้งนี้มันจะจบลงยังไง

 

จู่หนิงขยับไปด้านซ้ายเล็กน้อย และแล้วเขาก็หวาดกลัว

 

ดาบยังคงเล็งมาที่หน้าอกของเขา

 

ดวงตาที่ชั่วร้ายและแปลกประหลาดของเขาทำให้เกิดความแหลมคม ดวงตาของจู่หนิงกระพริบอีกครั้ง เขาจ้องมองไปที่ดาบ สิ่งที่ทำให้เขาตกใจคือดาบของหลินเฟิงดูคล้ายกับงูที่ติดตามเขาไปทุกที่ที่เขาเคลื่อนไหว มันไม่มีการเบี่ยงเบนใดๆและมันยังคงเคลื่อนที่ตรงมาที่หัวใจของเขา นอกจากนี้ สิ่งที่ทำให้จู่หนิงหวาดกลัวคือดาบกำลังเข้ามาใกล้เขามาขึ้นเรื่อยๆ

 

“นี่เป็นไปได้ยังไงกัน? ข้าไม่สามารถคาดเดาการเคลื่อนไหวของมันได้แม้แต่น้อย…ข้ามีจิตวิญญาณดวงตานกอินทรี! “

 

หัวใจของจู่หนิงกำลังเต้นระรัว จู่ๆเขาก็ตระหนักได้ว่าดาบที่ดูเรียบง่ายมันดูคล้ายกับดาบสังหารและดาบปลิดชีพก่อนหน้านี้

 

เมื่อดาบเข้ามาใกล้ ทำให้จู่หนิงมีความต้องการที่จะหนีมากขึ้น จากนั้นเขาก็ตระหนักว่าจิตวิญญาณของเขาต้องการที่จะหลบหนี แต่เนื้อตัวของเขาไม่สามารถทำได้

 

เนื่องจากเขาไม่สามารถหลบหนีได้ เขาจึงยกมือทั้งสองข้างขึ้นมาเพื่อป้องกันการโจมตี พลังงานที่รวดเร็วและรุนแรงเกิดขึ้นในชั้นบรรยากาศทำให้หัวใจของจู่หนิงรู้สึกวูบวาบ ใบหน้าของเขาเผยให้เห็นว่าเขาได้ทิ้งความหวังทั้งหมดไปแล้ว การโจมตีครั้งนี้มันทรงพลังมากกว่าอำนาจที่ไม่มีที่สิ้นสุดที่ก่อนหน้านี้หลินเฟิงได้ปลดปล่อยออกมา

 

ดาบที่ดูธรรมดาเล่มนั้นมันเป็นการโจมตีด้วยพลังงาน

 

หลินเฟิงก็กำลังมองไปที่ดาบของเขาเช่นกันเพราะมันเผาผลาญพลังงานรอบๆตัวมัน มันดูคล้ายอำนาจ แต่มันคือพลังงานทั้งหมดที่อยู่ภายในชั้นบรรยากาศซึ่งเพิ่มพลังโจมตีให้กับมัน

 

การโจมตีด้วยพลังงานเป็นการผสมผสานระหว่างพลังปราณและอำนาจพลัง มันมีความละเอียดอ่อนและบอบบาง การโจมตีครั้งนี้เป็นการผสมผสานที่ลงตัวของพลังดาบทั้งหมด ทุกๆครั้ง การโจมตีมันจะดูเรียบง่ายแต่มันทรงพลังมาก นั่นคือความมหัศจรรย์ของการโจมตีด้วยพลังงานที่แท้จริง

 

ดวงตาของหลินเฟิงกลับมาสู่สภาพปกติและเขาไม่ได้ดูไร้อารมณ์อีกต่อไป กลับกันได้มีรอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าของเขา

 

คล้ายคลึงการใช้อำนาจพลัง มันเป็นเพียงระดับต่อไปที่เหนือกว่าอำนาจ ขึ้นอยู่กับว่าผู้บ่มเพาะพลังสามารถฝึกฝนได้ดีแค่ไหน มันสามารถควบคุมพลังโจมตีได้หลังจากสามารถควบคุมอำนาจดาบได้อย่างสมบูรณ์ นอกจากนี้เช่นเดียวกับอำนาจพลัง มันมีระดับที่แตกต่างกันเพื่อฝึกฝนให้เชี่ยวชาญ ในตอนนี้หลินเฟิงได้บรรลุเพียงระดับแรกเท่านั้นด้วยการผสมผสานพลังงาน

 

ในขณะนั้นดาบหลินเฟิงไม่ได้เจาะเข้าไปในร่างของจู่หนิงอย่างธรรมดาๆ มันเจาะเข้าไปในอกของจู่หนิงอย่างอ่อนโยนและในพริบตาอวัยวะภายในของเขาทั้งหมดก็ถูกทำลาย

 

สายตาของจู่หนิงจ้องมองไปที่หลินเฟิง ดวงตาที่แปลกประหลาดและชั่วร้ายของเขาได้หายไป จากนั้นเขาก็กล่าวคำพูดสุดท้ายว่า “ข้า…รูัสึก…เสียใจ…มาก!”

 

เขาเพียงแค่ต้องการพูดคำพูดพวกนี้ก่อนที่เขาจะตาย

 

หลินเฟิงดูไร้อารมณ์ ร่างกายของจู่หนิงที่ไร้ชีวิตทรุดตัวลงบนพื้นพร้อมกับเลือดที่หลั่งไหลออกจากอกของเขา หลินเฟิงจึงเปลี่ยนความสนใจของเขาไปที่ยวี๋เจียวแทน ซึ่งทำให้นางสั่นเทาไปถึงกระดูกสันหลัง

 

*****************************************************

ติดตามได้ที่ – 

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments