ตอนที่แล้วตอนต่อไปSpirit Vessel บทที่ 7
แปลไทยโดย : SwordGod
บทที่ 7: เขตแดนวิญญาณก่อตั้ง
“วันนี้ นายน้อยไม่ได้ไปเที่ยวเล่นหรอแต่เขามาฝึกฝนแทน แปลกมากๆ “
“การชกดูเหมือนจะไม่น่าประทับใจ ไม่มีแรงกดดันใด ๆ แก่พวกเขา อย่างไรก็ทำตามมันเป็นเรื่องยาก ที่จะบอกวิถีโคจรของพวกมันเพราะจังหวะไม่อาจอธิบายได้ “
“นี่เป็นเรื่องแปลกจริงๆวิชาของนายน้อยซับซ้อนหรือเปล่า? เป็นใครที่ไม่สามารถเลียนแบบได้แม้ว่าพวกเขาจะพยายาม? “
คนรับใช้บางส่วนเริ่มเลียนแบบการกระทำของ เฟิงเฟยหยุน แต่พวกเขาไม่สามารถทำไห้ลื่นไหลได้ตามธรรมชาติ ทุกครั้งที่กำปั้นของพวกเขาชกออกไปร่างกายของพวกเขาร้องไห้ด้วยความเจ็บปวด พวกเขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องหยุดเพราะพวกเขาไม่กล้าเสี่ยงความรู้สึกเจ็บปวดอีกเลย
เก้าหมัดที่แตกต่างกันของ เฟิงเฟยหยุน แสดงถึงเก้าความหมายที่ซ่อนอยู่แตกต่างกัน ดูเผินๆเหมือนง่ายแต่ในความเป็นจริงพวกมันลึกลับมากแม้ว่าจะสามารถเลียนแบบการกระทำทางกายได้โดยไม่ต้องเลียนแบบความหมายที่ซ่อนไว้ แต่มันก็จะเป็นอันตรายต่อตัวเองเท่านั้น
เฟิงสุ่ยหยู อยู่ด้านบนของระเบียงที่ชั้น 6 ของตึกที่ห่างไกล มันกำลังเฝ้าดู เฟยหยุนฝึกฝนจากที่ไกล ๆ และความหล่อเหลาของมันแสดงความเย็นชาออกมา ในมือข้างหนึ่งมีหนังสืออยู่และมืออีกข้างหนึ่งกำลังลูบค้างอยู่บนขาตั้งของระเบียง มันสูญหายในการไตร่ตรองของมัน
“คุณชาย ไม่จำเป็นต้องกังวลไปวิชาชกหมัดของมันก็แค่การละเล่นของลิงค่าง มันไม่มีอะไรดีขึ้นมาหรอก “
คนรับใช้ที่น่าเกลียดยืนอยู่ข้างหลัง สุ่ยหยู ยิ้มแย้มแจ่มใส
“ไม่ๆมันไม่ธรรมดา มันมีบางอย่างผิดปกติ ข้ารู้สึกว่ามีบางอย่างในตัวมันเปลี่ยนไป มันทำให้ข้าสงสัย “
“อิอิ ท่านต้องการให้ข้าไปทำให้มันกลายเป็นเนื้อบดมั้ยครับ? เพื่อหลีกเลี่ยงฝันร้ายของคืนอันยาวนาน “ 1
“เจ้าคิดว่า ท่านพ่อบุญญธรรมจะยอมปล่อยมันไปง่ายๆ? เขาเป็นคนที่ฉลาดมาก ถ้าเขาพบแม้แต่คำใบ้เดียวกับ การฆ่าพี่น้อง เราทุกคนจะถึงคราซวย “
“หากไม่มีทางเลือกอื่นเราจะไม่แตะต้อง เฟิงเฟยหยุน นอกจากนี้ พ่อบ้านหลิว ยังอยู่ไกล้ตัวมัน ระดับการบ่มเพาะของชายคนนี้ไม่อาจหยั่งถึง ซึ่งอยู่ข้างกาย เฟยหยุน เว้นแต่ข้าจะเป็นคนลงมือเอง ไม่น่าจะมีผลอะไรมาจากมัน “
“นายน้อยได้บรรลุขั้นที่สามของ ‘วิถีวายุพลัง’ แล้วการบ่มเพาะของท่านก็อยู่ที่จุดสูงสุดของ เขตแดนวิญญาณ ท่านมีความสามารถในการต่อสู้กับผู้เชี่ยวชาญ 10 คนในครั้งเดียว แต่ท่านยังไม่สามารถชนะ เฒ่าหลิว ได้? “
“วิถีวายุพลัง” เป็นตำราการเพาะบ่มที่สมบูรณ์แบบที่ เฟิงว่านเผิง ได้มอบให้กับ เฟิงสุ่ยหยู ด้วยพรสวรรค์ของมันทำให้มันสามารถเข้าถึงระดับที่สามได้หลังจากผ่านไปเพียงไม่กี่ปีและมันได้รับคำชมเชยจาก เฟิงว่านเผิง หลายต่อหลายครั้ง
เฟิงว่านเผิง ได้ฝึกฝนมาเป็นเวลาสามสิบปีและเขาอยู่ในระดับที่ห้าเท่านั้น แต่นี้ก็เพียงพอสำหรับเขาที่จะปกครองเมืองทั้งเมือง เฟิงสุ่ยหยู ใช้เวลาฝึกแค่เพียงสามปี พรสวรรค์ของมัน สูงกว่า เฟิงว่านเผิง
“อย่าประมาทพ่อบ้านหลิว การบ่มเพาะของมันต้องไม่น้อยไปกว่า พ่อบุญธรรม “
เฟิงสุ่ยหยู เป็นคนระเอียดรอบคอบ มันต้องแน่ใจว่าจะไม่มีข้อผิดพลาด
“บุคลิกของ เฟิงเฟยหยุน เปลี่ยนไปหลังจากคืนสุดท้ายใช่มั้ย? มันเจออะไรเมื่อวานนี้? “
“สาวน้อย เสี่ยวเยว่เอ๋อ เมื่อวานนี้มีเหตุการณ์แปลกๆ เฟิงเฟยหยุน ไปตามหมอมาเพื่อดูอาการ เฒ่าหลัว อย่างไรก็ตามความมหัศจรรย์ คือการที่มันไม่ได้แตะต้อง เสี่ยวเยว่เอ๋อ เป็นไปได้ไหมว่า เสี่ยวเยว่เอ๋อ จะทำให้มันกลับใจและทำให้มันกลายเป็นคนดี? “
“เปลี่ยนโดยผู้หญิงคนหนึ่ง? หนุ่มเจ้าสำราญกลับใจ? “
“น่าสน! น่าสน !! เจ้าไปหาพี่อู่ ให้เขาดูแลเรื่องนี้ หาก เฟิงเฟยหยุน ค่อยๆใส่ใจกับดอกไม้แล้วเราจะหาคนที่ไม่สนใจดอกไม้ ฮ่าฮ่า!”
“ถ้า เสี่ยวเยว่เอ๋อ พบ พี่อู่ แล้วมันจะเป็นดอกไม้ที่จะถูกทำลายด้วยใบไม้ที่ฉีกขาด”
คนรับใช้หัวเราะเย้ยหยัน หัวใจของมันรู้จักกับประเภทของพี่ชายอู่ และโชคชะตาที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ของ เสี่ยวเยว่เอ๋อ ***
“หึ! หนุ่มเจ้าสำราญกลับใจ? ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย “
เฟิงสุ่ยหยู สงบความตั้งใจชั่วร้ายของมันและเดินกลับไปอ่านหนังสือที่อยู่ในมือของมัน
หน้าปกของหนังสือเล่มนี้คือ “ปทุมทองคำ”
***
ในช่วงสามวันถัดไป นายน้อยเฟิงเฟยหยุน ไม่ได้ออกจากคฤหาสน์เฟิง มันได้เรียนรู้กลยุทธ์ทางทหารกับที่ปรึกษาของมันในระหว่างวันและ ฝึกกายวิหคอมตะ ในช่วงกลางคืน
วันนี้ นายน้อยเฟิง ดูเหมือนจะเป็นคนที่แตกต่างออกไป คนรับช้และสาวใช้หลายคนไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
หลังจากสามวันของการบ่มเพาะ ลมปราณโลหิตในร่าง เฟิงเฟยหยุน กลับกลายเป็นท่วมท้น สีกลายเป็นสีแดงเข้มไฟและการไหลเวียนเร็วขึ้น ร่างกายของมันแข็งแรงกว่าเดิมมากหลายเท่า
“ปัง!”
เส้นใยเลือดสีขาวโดยเกิดเนิดในนาวาของมันและได้หลั่งไหลเข้าไปใน ตันเถียร ของมัน มันไม่ได้หยุดการแพร่กระจาย มันเหมือนกับทะเลสาบที่เชื่อมต่อกับมหาสมุทร แต่ละหยดค่อยๆแพร่กระจายไปทั่วร่างกายของมัน ***
นี่คืออาณาจักรแห่งวิญญาณ!
“ในที่สุดข้าก็มาถึงระดับแรกของการชำระโลหิตและข้าได้สร้างเส้นใยจิตวิญญาณแรกของข้า ตอนนี้ฉันจะได้รับการพิจารณาให้อยู่ในช่วงเริ่มแรกของอาณาจักรแห่งวิญญาณ “
การชำระโลหิตตัวเองถูกแบ่งออกเป็นสี่ขั้นตอน
ขั้นตอนแรกคือเมื่อเลือดบริสุทธิ์ด้วยสีแดงเข้ม
ลำดับที่สองเกิดขึ้นเมื่อเลือดต้มด้วยสีแก้วภูเขาไฟ เช่นหมึกสีดำ
ที่สามเกิดขึ้นเมื่อเลือดสร้างสติขึ้นด้วยแสงสีเงิน
ที่สี่ท้ายสุด เลือดจะกลายเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติอีกครั้งและสีของมันจะย้อนกลับไปสู่สถานะตามธรรมชาติ
เฟิงเฟยหยุน อยู่ในขั้นตอนแรกและเลือดของมันมีสีแดงเข้ม
ด้วยพลังปราณวิญญาณภายในร่างของมัน เฟิงเฟยหยุน ใช้พลังงานนี้เพื่อกระตุ้น นาวาวิญญาณ ในฝ่ามือขวาของมัน
อย่างไรก็ตามมันรู้สึกผิดหวังที่มันพบว่าภาพที่จาง ๆ ขอนาวาวิญญาณไม่ได้มีปฏิกิริยาใด พลังงานของมันเหมือนก้อนหินจมอยู่ในมหาสมุทร ไม่มีแม้แต่การกระเพื่อมของปฏิกิริยา
“ดูเหมือนว่าข้าจะต้องใช้พลังมหาศาลเพื่อเปิดใช้ นาวาวิญญาณ สมบัติเซียนศักดิ์สิทธิ์ ไม่สามารถจัดการกับสามัญสำนึกได้ “
ถ้าเส้นใยน้อยนิดของปราณวิญญาณเพียงพอที่จะควบคุม นาวาวิญญาณ นี่สิที่แปลก
เพราะมันอยู่บนเส้นทางแห่งการบ่มเพาะอีกครั้งมันอยู่ในอารมณ์ร่าเริง มันยกนิ้วขึ้นเล็กน้อยและแสงสีขาวกระพริบปริบๆและสร้างรูในผนัง
“โผล๊ะ!”
เฟิงเฟยหยุน ใช้มือบดขยี้ เครื่องลายครามแตกเป็นผุยผง ในระดับเดียวกันกับ เขตแดนวิญญาณก่อตั้ง ด้วยประสบการณ์ของมัน มันจะทำลายฝ่ายตรงข้ามที่เท่ากันได้สบาย
ฮ่าฮ่า!” หยินโกว อ่างอาบน้ำพร้อมหรือยัง? “
“พร้อมแล้วเจ้าค่ะ เสี่ยวลานเสี่ยวฉิงจงไปรับใช้คุณชายอาบน้ำ “
“นายน้อยทำไมดูท่านอารมณ์ดีจังวันนี้?”
“หึ! เจ้าไม่ต้องรู้หรอก พวกเราจะออกไปหลังจากนี้ ข้าต้องการซื้ออาวุธที่ดี มีอาวุธใน เมืองจวงถ่ายเซิ่นจิง มีอาวุธวิเศษธระดับสูงมั้ย? “
เฟิงเฟยหยุน ในช่วงเริ่มต้น ขั้นเขตแดนวิญญาณ มีพลังไม่กี่ร้อยจิน การต่อสู่ที่เกิดขึ้นจริงอาวุธวิเศษระดับสูงสามารถเพิ่มพลังของมันได้ไม่น้อย
หยินโกว ได้ยินข่าวนี้ นางมีความสุขเป็นอย่างมาก พวกนางไม่ได้ออกไปเที่ยวเล่นกับนายน้อยนานแล้ว ไปๆมาๆนายน้อยเฟิงอยู่ในอารมณ์ที่สำราญวันนี้
พวกนางเดินตามหลังเขาไปและจะใช้มารยาทุกอย่างในการปรนนิบัติเขาอีกครั้งเพื่อทำทุกอย่างที่ต้องการ เพื่อจะเป็นผู้รับใช้ของนายน้อยเฟิงอาจถือได้ว่าเป็นสิ่งที่น่าภาคภูมิใจ
“” นายน้อยผู้ทรงเกียรติมีอาวุธอาวุธสามแบบใน เมืองจวงถ่ายเซิ่นจิง แต่ถ้าท่านต้องการที่ดีที่สุดแล้วละก็ มีเฉพาะที่ ตึกหยินโกว “
“ทำไมมันถึงมีเพียงแค่ ตึกหยินโกว เท่านั้นที่จะมีอาวุธที่วิเศษที่สุด?”
เฟิงเฟยหยุน กำลังผ่อนคลายในอ่างอาบน้ำกับสาวใช้คนหนึ่งถูหลังของมัน
“หยินโกว มีขนาดใหญ่มากและธุรกิจของพวกเขาเจริญรุ่งเรือง เป็นเจ้าของโดยหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ของราชวงศ์จิน ตระกูลหยินโกว มีสาขาประมาณหนึ่งหมื่นแห่งทั่วราชอาณาจักรและตราบเท่าที่มีเงินเพียงพอท่านสามารถซื้ออาวุธจิตวิญญาณได้ “
“พวกเขาน่าทึ่งมากแม้กระทั่งมีอาวุธจิตวิญญาณขาย ดูเหมือนว่าตระกูลหยินโกวไม่ใช่ธรรมดาเลย “
อาวุธวิญญาณเป็นของหายากในอาณาจักรมนุษย์ แม้เกรดต่ำสุดจะมีค่ามากกว่าสิบเมือง
พวกมันเป็นสมบัติที่มีจิตสำนึกของตนเองและเกินขอบเขตของโลกมนุษย์ สมบัติล้ำค่าไม่สามารถเปรียบเทียบกับพวกมันได้
สี่ตระกูลที่ยิ่งใหญ่ทั้งหมดน่าเกรงขาม ครอบครองความลับที่ซ่อนอยู่ พวกเขามีอำนาจทางการเมืองและเศรษฐกิจครึ่งหนึ่งของราชวงศ์จิน มันเป็นสัตว์ประหลาดสี่ตัวจริงๆ
“เอาล่ะ งั้นเราไปที่ ตึกหยินโกว “