I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Spirit Vessel (灵舟) ตอนที่ 14: จักรษุมารบูรณะสวรรค์

| Spirit Vessel (灵舟) | 668 | 2366 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

Spirit Vessel บทที่ 14

แปลไทยโดย : SwordGod

บทที่ 14: จักรษุมารบูรณะสวรรค์

ภายในหัวใจของ เฟิงว่านเผิง ตกใจเพราะไม่มีคำพูดใดที่อธิบายถึงความรู้สึกนี้ นี่คือ เฟิงเฟยหยุน ที่เขารู้จักหรอ? ไม่ เป็นไปไม่ได้ ความกล้าหาญนี้ไม่จำเป็นต้องเป็นที่ประจักษ์แม้แต่ในทหารผ่านศึกที่รับศึกมาอย่างหนัก

เด็กชายอายุสิบสี่ปีต้องการคำสั่งทหารเพื่อสั่งการกองกำลังแม้กระทั่งความกล้าหาญของ เฟิงสุ่ยหยู 

คนอื่น ๆ ตกตะลึงกับเหตุการณ์ที่ไม่น่าเชื่อนี้ไปตามๆกัน

แม้ว่า เมืองจวงถ่ายเซิ่นจิง อยู่ในเขตห่างไกลจากชายแดน แต่ก็มีค่ายทหาร 10 แห่งซึ่งมีจำนวนทั้งสิ้นหมื่นกว่าคนอยู่ที่เมือง ทุกคนมีอาวุธชุดเกราะขี่ม้าและเสือโคร่งในมือของพวกเขาและอยู่ยงคงกระพันในการต่อสู้ทั้งหมด

ถึงแม้ว่าเจ้าหน้าที่ของเมืองไม่สามารถเทียบกับทหารอย่างกล้าได้ แต่ทหารทุกคนก็กล้าหาญและสามารถสู้ได้หนึ่งต่อสามได้

“ซูหยุนอย่าพูดจาไร้สาระ เจ้ายังเด็กเกินไป ผู้คุ้มกันเมืองไม่ใช่เรียกได้โดยพลการได้ “

เฟิงสุ่ยหยู หัวเราะออกมาดัง ๆ คำนับและพูดว่า

“ท่านพ่อบุญธรรม เฟยหยุน ยังเด็กนักยังไม่รู้จักแยกแยะถูกผิด ถ้าผู้คุ้มกันอยู่ในมือของเขา ก็ให้เขาจัดการกับเรื่องเบาๆไป “

เฟิงว่านเผิง รู้จัก ซานเย่ ดีว่าระดับการบ่มเพาะของเขาไม่ได้ด้อยไปกว่าตัวเขาเองเลย เว้นเสียแต่ว่ามันไม่มีทางเลือก ว่านเผิงไม่ต้องการทำให้คนนี้เป็นศัตรูของเขา

ไม่ว่ายังไงๆพวกเขาทั้งสองก็เป็นผู้บ่มเพาะ หากเกิดการต่อสู้กันแล้ว บทสรุปคือเมืองจวงถ่ายเซิ่นจิงถูกทำลาย

นี่ไม่ใช่สถานการณ์ที่ เฟิงว่านเผิง ต้องการเห็น

อย่างไรก็ตามเขาไม่เคยเห็นด้านนี้ของลูกชายของเขาอย่างจริงจังเช่นนี้และหลักจริยธรรมสูง มันเป็นช่วงเวลาที่เด็กชายจะเติบโต?

ตราบเท่าที่ความตั้งใจที่จะต่อสู้ก็มีอนาคตที่สดใส

เฟิงเฟยหยุน เห็นท่าทางสง่างามของ ว่านเผิง ในการไตร่ตรองมันเข้าใจความลังเลของเขาดังนั้นมันจึงกล่าวว่า

“ข้าจะคว้าชัยชนะ และข้ามั่นใจว่าข้าจะกวาดล้างแก้งกงเล็บอินทรีย์ไม่ให้เหลือแม้แต่คนเดียวผ่านตาข่าย “

 

“เฟิงเฟยหยุน ที่นี่มีความเสี่ยงอย่างมาก เราจะรีบเร่งมอบผู้คุ้มกันเมืองตามคำพูดของเจ้าเพียงอย่างเดียวได้อย่างไร?

เฟิงสุ่ยหยู ไม่ต้องการให้ เฟิงเฟยหยุน เปิดจุดสนใจ หากมันไม่สามารถทำลายแก๊งได้ก็จะโชคดีไป อย่างไรก็ตามถ้ามันสามารถขจัดแก๊งกงเล็บอินทรีย์ลงได้จริงๆละก็ มันจะมีชื่อเสียงใหม่ในสงครามและกลายเป็นดาวดวงใหม่ของ เมืองจวงถ่ยเซิ่นจิง แม้แต่ตระกูลหลัก ก็จะสังเกตเห็นมัน

เฟิงเฟยหยูจะไม่ยอมให้มันเกิดขึ้น “ปลาเค็มลุกจะขึ้นยืนจากความล้มเหลว” 

เฟิงว่านเผิง คิดสักพักแล้วก็ยืนขึ้นและกล่าวว่า

“ซานเย่ ไม่ใช่คู่ต่อสู้ที่จะจัดการง่ายๆการบ่มเพาะของมันระดับขั้นกลางรากฐานอมตะ มันยังฝึกวิชา “จักรษุมารบูรณะสวรรค์” และมีสมบัติเสมือนวิญญาณ มันสามารถแยกขุนเขาเปลี่ยนแปลงภูมิประเทศแม้แต่ผู้คุ้มกันเมือง 1000 คนมันอาจจะฆ่าไม่เหลือหลอ เฟยหยุน เจ้าต้องเข้าใจนะว่า แม้กองทัพจะกล้าแกร่งแต่คนเพียงคนเดียวอาจจะทำลายได้ “

“ปกติแล้ว ข้าเข้าใจในข้อนี้ดี ข้าจึงอยากให้ พ่อบ้านหลิว ไป คฤหาสห์อินทรีย์โลหิต กับข้าด้วย”

เฟิงเฟยหยุน กล่าวอย่างมั่นใจ

“คฤหาสห์โลหิต เป็นสถานที่ที่ ซานเย่ มันอาศัยอยู่คนที่เข้าไปไม่เคยมีใครกลับออกมา “

 

ไม่ว่าใครจะกล้ามากแค่ไหนก็ไม่มีใครกล้าบุกไป คฤหาสห์อินทรีย์โลหิต การบุกรุก คฤหาสห์อินทรีย์โลหิต ก็เท่ากับการส่งตัวเองไปตายเท่านั้น

พ่อบ้านหลิวเปิดนัยน์ฉายแสงสว่างจ้าของเขาออกมาแล้วกล่าวว่า

“หากว่า นายน้อยมีความกล้าหาญละก็ แม้ชีวิตข้าจะแขวนไว้บนเส้นด้าย ข้าก็จะไปกับนายน้อย”

หัวใจของชายชรารู้สึกตื่นเต้นมาก เจ้านายของเขามีความกล้าหาญเช่นนี้ มันหายากมากๆ ใครกล้าที่จะบอกว่าเจ้านายของเขาขี้ขลาด? นี่เป็นความกล้าหาญเล็กๆหรอ?

หัวใจของ เฟิงว่านเผิง ตกตะลึงมากเขาตัดสินใจที่จะปล่อยให้ เฟิงเฟยหยุน ไป ตราบใดที่ลูกชายของเขาจะกลายเป็นบุคคลที่ยิ่งใหญ่แล้วเมืองจวงถ่ายเซิ่นจิงจะพินาศ มันก็ยังคุ้มค่า

“ข้าจะมอบผู้คุ้มกันเมืองให้เจ้า 5000 คน ข้าเองจะยืนอยู่บนหอคอยเพื่อดูการต่อสู้ หากเจ้าสามารถทำลายแก๊งกงเล็บอินทรีย์ได้ข้าจะอนุญาตให้เจ้าเข้าร่วมใน สภาเหล็กยุทธศาตร์ทหาร ในอีกสามเดือนหลังจากนี้ อย่างไรก็ตามถ้าเจ้าและกองกำลังทั้งหมดถูกทำลายแล้วข้าจะไม่พยายามช่วยเจ้า เจ้าและกองกำลังทั้งหมดจะตายและถูกฝังไว้ด้วยกัน “

เฟิงว่านเผิง กล่าวว่า

“ข้าจะทำตามคำสั่งของท่าน!”

เฟิงเฟยหยุนหัวเราะออกมาอย่างปลื้มปิติ

“ภายในหนึ่งเดือนข้าจะทำลาย คฤหาสห์อินทรีย์โลหิต ให้ราบคาบลบออกไปจากพื้นธรณี”

เฟิงเฟยหยุน รับห้าคำสั่งกองกำลังจากมือของเฟิงว่านผิง เขากอดพวกมันไว้แน่นแล้วหันหลังจากไป

หลังจาก เฟิงเฟยหยุน ออกไปจากห้องโถง เฟิงสุ่ยหยู ราวกับตื่มาจากห้วงภวังค์คุกเข่าลงพื้นแล้วกล่าวว่า

“ท่านพ่อบุญธรรม เฟยหยุนยังเด็กเกินไป การบ่มเพาะของ ซานเย่ นั้นน่ากลัวมาก กลุ่มกรงเล็บอินทรีย์มีสมาชิกอีกหลายพันคน ปล่อยให้ ผู้คุ้มกันเมือง5000อยู่ในเมืองเฟยหยุนข้าเกรงว่าพวกเขาจะพากันไปตายทั้งหมด ยิ่งไปกว่านั้นหากว่าพวกเขาสู้กันจะมีศพเกลื่อนกลาดเต็มเมืองจวงถ่ายเซิ่นจิงซากปรักหักพังอยู่ทุกหนแห่ง ข้าไม่อยากจินนาการผลที่ตามมา ขอให้ท่านพ่อบุญธรรมทบทวนเรื่องนี้ให้ดีครับ. “

เฟิงว่านผิง ตอบอย่างไม่รีบร้อนและลังเลใจว่า

“สุ่ยหยู ข้าได้ยินมาว่าเจ้าสนิทกับซานเย่และลูกน้องของมัน ในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้อย่าออกจากคฤหาสน์ สงบจิตใจของเจ้าและฝึกฝน ‘วิถีวายุคลั่ง’ เตรียมการสำหรับ สงครามมังกรซ่อน ในอีกสามเดือนข้างหน้าที่จะถึงนี้ “

ได้ยินคำพูดเหล่านี้หัวใจของ สุ่ยหยู ก็เต้นระรัว นี่คือคำเตือนของพ่อบุญธรรมต่อเขาดูเหมือนว่าไม่มีอะไรซ่อนจากเขาได้ใน เมืองจวงถ่ายเซิ่นจิง นี้

 

***

เหตุผลที่ เฟิงเฟยหยุน ต้องการจัดการกับ ซานเย่ ไม่ใช่เพราะว่าเขาเป็นคนมีคุณธรรมหรือหลักจริยธรรม

นอกจากนี้ตัวมันกับซานเย่ไม่ได้มีความแค้นต่อกัน ไม่มีควาจำเป็นอะไรที่ต้องทำงานที่ยากขนาดนี้ แต่มันทำเพราะมีแผนในใจ

ตอนนี้มันดึกแล้ว คนรับใช้นอนหลับสนิทที่จวนผู้ว่าสภาพแวดล้อมเงียบสงบ

ห้าคำสั่งกองกำลัง ซูหยุน ไม่ได้กลับไปที่ห้องของมัน แต่ไปที่ห้องหนังสือ เขาเปิดประตูใหญ่และจุดเทียน

“จักรษุมารบูรณะสวรรค์” เป็นหนึ่งในสิบสองชั่วร้ายอันโด่งดังของ อารามลั่วเซิ่น เมื่อนักบ่มเพาะบรรลุระดับเล็กน้อยสามารถมองเห็นมดต่อสู้ได้จากที่ห่างไกลออกไปหลายร้อยลี้ ภายในหนึ่งร้อยก้าวเขาสามารถฆ่าคนได้เพียงแค่จ้องมองและดวงวิญญาณของเขาจะแตกเป็นเสี่ยงๆเหมือนผักปลา

เฟิงเฟยหยุน ปิดหนังสือโบราณไว้ในมือของมันและพึมพำ

การบ่มเพาะของ ซานเย่ มาจาก ‘จักรษุมารบูรณะสวรรค์’ บวกกับแน่นอนว่าเขาได้รับความสำเร็จเล็กน้อย นี่เป็นวิถีทางจาก อารามลั่วเซิ่น ต้นกำเนิดของมันต้องไม่ง่าย “

“มันยังมีสมบัติกึ่งจิตวิญญาณ นี่เป็นอาวุธที่ไม่น่าเชื่อข้าต้องได้รับมัน “

เฟยหยุนมีกระบี่มังกรแดง ครั้งหนึ่งเคยเป็นอาวุธจิตวิญญาณ แต่มันหักและกลิ่นอายของมันแทบจะหมดไป มันสามารถถือได้ว่าเป็นอาวุธวิเศษสุด ๆ และไม่สามารถเปรียบเทียบกับอาวุธกึ่งวิญญาณได้

อาวุธที่เรียกกันว่า กึ่งวิญญาณ นาวาของมันเองก็เหมือนกับวัตถุ และควบคุมจิตวิญญาณราวกับอาวุธจิตวิญญาณ แต่อาวุธวิญญาณของมันเองไม่ได้เกร้ยวกราด วัสดุจิตวิญญาณจะต้องใช้เวลานานหลายร้อยปีเพื่อสร้างจิตวิญญาณที่มีความรู้สึกของตัวเอง ภายนอกวัสดุที่พิเศษมาก การเกิดสมบัติทางจิตวิญญาณเป็นเรื่องยากมาก

แม้กระทั่งตระกูลเฟิงหลัก ซึ่งมีอำนาจมานานกว่าพันปี แต่มีสมบัติล้ำค่าเพียงสามอย่างเท่านั้น แต่ละคนได้รับการพิจารณาให้เป็นทายาทตระกูลของตระกูลและผู้พิทักษ์ อาวุธวิญญาณเมื่อเปิดใช้งานจะสามารถทำลายเมืองเช่น เมืองจวงถ่ายเซิ่นจิง จากที่ห่างออกไปหลายพันลี้

สามสมบัติวิญญาณล้ำค่า ถือว่าเป็นไม้ตายของตระกูลเฟิง ตราบใดที่พวกเขาใช้มันทั้งสามพวกเขาสามารถกำหราบปัญหาต่างๆได้ ตราบใดที่สามสมบัติวิญญาณยังอยู่ในการครอบครองของตระกูลเฟิง มันจะยังคงเป็นเจ้าเหนือหัวของ เมืองใหญ่ทางใต้

แม้ว่าสมบัติกึ่งจิตวิญญาณจะอ่อนแอกว่าสมบัติของจิตวิญญาณหลายเท่า แต่ก็ไม่สามารถมองข้ามได้ ในท้ายที่สุดก็ยังคงมีร่างกายและวัตถุเดียวกัน แต่ขาดจิตสำนึกของจิตวิญญาณ

เฟิงเฟยหยุน ตั้งเป้าหมายมาที่ ซานเย่ เพื่อที่มันจะได้รับสมบัติล้ำค่าจากมือของเขา

“ซานเย่ มีสมบัติกึ่งจิตวิญญาณและที่อยู่ในมือของข้าคือสมบัติจิตวิญญาณ กระบี่มังกรแดง ยังคงมีจิตสำนึกวิญญาณและพลังวิญญาณหากข้าสามารถดึงเอาจิตวิญญาณที่เหลืออยู่นี้ แล้วใส่ลงในสมบัติกึ่งจิตวิญญาณแล้วละก็ ข้าว่า90ใน100ส่วนมันสามารถสร้างสมบัติที่สมบูรณ์ได้ “

“สมบัติจิตวิญญาณที่สมบูรณ์! ฮ่าฮ่า!” แม่งเอ้ย..ข้านี่ช่างอัจฉริยะจริงๆเลย สมบัติจิตวิญญาณมีความสามารถในการเผาไหม้ท้องฟ้าและต้มทะเล หากว่าข้าต้องการจะจับกุม หรือฆ่ายอดฝีมือ รากฐานอมตะ ใช่ว่ามันจะเป็นไปไม่ได้. “

เมื่อมันได้รับ กระบี่มังกรแดง แล้ว เฟิงเฟยหยุน ก้ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ตลอดดังนั้นช่วงเวลาหนึ่งที่มันค้นพบว่า ซานเย่ ครอบครองสมบัติกึ่งวิญญาณ มันเลยคิดที่จะดูแลเรื่องนี้

เรื่องของการฆ่าและการปล้นทรัพย์สำหรับสมบัตินี้จะไม่ทำให้ชื่อเสียงที่ดีนี้เป็นเหมือนนายน้อยที่ฆ่าคนชั่วร้าย ***

กึ่งสมบัติจิตวิญญาณเป็นของหายาก แต่สมบัติจิตวิญญาณที่แตกด้วยเส้นใยของจิตสำนึกจิตวิญญาณที่เหลืออยู่ยิ่งหายากมากกว่ากว่าแม้แต่ในสมบัติล้ำค่ากว่าพัน เฟิงเฟยหยุน โชคดีมากที่พบมันแล้วซื้อมันเพียงสามพันเหรียญทอง

คนอื่นๆแม้ว่าจะมีสมบัติของวิญญาณที่แตกสลายก็ตามจะไม่สามารถดึงวิญญาณที่ตกค้างภายในได้เนื่องจากจิตวิญญาณนั้นเป็นสมบัติล้ำค่าของวิญญาณนั้น แม้ผู้เชี่ยวชาญด้านการบ่มเพาะสลายสวรรค์ไม่สามารถแยกแยะได้

อย่างไรก็ตาม สมบัติเซียนศักดิ์สิทธิ์ สามารถทำได้

สมบัติเซียนศักดิ์สิทธิ์ อยู่เหนือสมบัติวิญญาณทั้งหมด วิญญาณทั้งหมดจะต้องยอมจำนนต่อวิญญาณบริสุทธิ์

มันเหมือนกับกษัตริย์และอาณาประชาราชของมัน คำพูดของกษัตริย์ สามารถปฏิบัติตามได้เท่านั้น

นาวาวิญญาณ คือสมบัติศักดิ์สิทธิ์!

แม้ว่า เฟิงเฟยหยุน ไม่สามารถควบคุม นาวาวิญญาณ ได้แต่มันสามารถใช้กลิ่นอายอันทรงเกียรติจากกลั่นวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ออกมาเพื่อแยกวิญญาณออกจากสมบัติวิญญาณที่แตกสลาย

ดังนั้นในทั่วปฐพีนี้มีเพียง เฟิงเฟยหยุน มีความสามารถที่จะเปลี่ยนสมบัติกึ่งจิตวิญญาณให้เป็นสมบัติวิญญาณที่สมบูรณ์ เพื่อรวมสมบัติจิตวิญญาณที่แตกสลายและสมบัติกึ่งจิตวิญญาณให้กลายเป็นของจริง

เพื่อเป็นเจ้านายของสมบัติจิตวิญญาณความคิดนี้จะทำให้ผู้คนคลั่งไคล้

ตอนนี้ เฟยหยุน รอแค่เพียงให้ ซานเย่ ตายไปแล้วจึงเอาสมบัติล้ำค่าจากมือของมัน นี่เป็นงานที่ยากที่สุด14

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments