I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Spirit Vessel (灵舟) ตอนที่ 24: การต่อสู้ที่ยุ่งเหยิง

| Spirit Vessel (灵舟) | 761 | 2356 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

Spirit Vessel บทที่ 24

แปลไทยโดย : SwordGod

บทที่ 24: การต่อสู้ที่ยุ่งเหยิง

หน่อสีแดง มันก็เหมือนเปลวไฟที่ถูกแขวนไว้ในตัณเถียร มันเกิดและเติบโตขึ้นมาบนแผนภาพ “แม่น้ำอาชามังกร”

ทั้งสองนั้นยาวมีรูปร่างเหมือนเช่นเปลียวเพลิงขนาดเล็กที่ละเอียดอ่อน มันเหมือนกับฟันที่ผุดขึ้นมาใหม่ซึ่งเต็มไปด้วยจิตวิญญาณ

นี่คือรากฐานอมตะที่เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงจิตวิญญาณ!

ขั้นแรกของการกลั่นรากฐากอมตะประสบความสำเร็จ ด้านในเต็มไปด้วยพลังวิญญาณ ความบริสุทธิ์และความหนาแน่นของพลังงานจิตวิญญาณนี้มีอยู่มากกว่าพลังงานจิตวิญญาณภายในร่างกายของนักบ่มเพาะจิตวิญญาณ

“เขตแดนรากฐาณอมตะขั้นที่1 แต่ถ้าหากว่าข้าใช้พลังทั้งหมดข้าจะไม่เพลี่ยงพล้ำแม้แต่รากฐานอมตะ ขั้นกลาง “

เฟิงเฟยหยุน เปิดเปลือกตาของมันออกมาแล้วฉายไปด้วยรอยยิ้ม

เวลาผ่านไปโดยไม่รู้ว่านานเท่าใดแล้ว ห้องเก็บสินค้ายังคงเงียบสงบ ด้านนอกก็เงียบกริบมีแค่เสียงฝีเท้าของทหารลาดตระเวน4-5คนเท่านั้น

เฟิงเฟยหยุน แง้มประตูออกเล็กน้อย ด้านนอกนั้น ยามราตรีไดปิดผนึกไปหมด มีเฉพาะแสงจันทร์ที่สาดกระทบกับเกรียวคลื่นสาดแสงระยิบระยับคล้ายดั่งเกล็ดปลา

“ภายใต้รัศมี100ลี้นี้ข้าคงต้องซ่อนตัวอยู่ในเรืองาช้างแดงนี้เท่านั้น ด้วยสติปัญญาของ ตงฟางจิงเยว่ นางคงไม่คิดว่าข้าจะซ่อนตัวอยู่ที่นี่! “

เฟิงเฟยหยุน ไม่ได้คิดว่า ตงฟางจิงเยว่จะไล่ตามมันมาถึงที่นี่ แต่มันก็ไม่อยากผิดพลาดภายในใจของมันยังระแวง!

ข้าสงสัยจังว่า หากนางหาตัวข้าไม่พบนางจะย้อนกลับไปฆ่าท่านพ่อหรือเปล่านะ?

คิดถึงจุดนี้แล้วรา่งของเฟิงเฟยหยุนก็สั่นสะท้านด้วยความกลัว หากตงฟางจิงเยว่ไม่ได้มีแผนสำรองใดแล้วย้ายไปที่เฟิงว่านเผิง แล้วเฟิงเฟยหยุนจะทำอะไรได้

สุดท้ายแล้วการบ่มเพาะของยายแก่คนนั้นก็สูงส่งมาก

“หากเป็นเช่นนั้นข้าจะกลับไปที่เมืองจวงถ่ายเซินจิงแล้วสู้กับนางให้รู้ดำรู้แดงกันไปเลย”

ด้วยความคิดแบบนี้ในดวงตาของ เฟิงเฟยหยุน เริ่มเย็นชาลงทันที ทันใดนั้นเองแสงที่สว่างสุกใสก็ได้สาดมาที่เรือ รัสมีจิตวิญญาณสาดลลงมาซ้ำแล้วซ้ำเล่า มันเป็นคันฉ่องขนาดใหญ่

ภายในคัณฉ่องแสงสีเงินที่สุกสกาวสดใสถุกซ่อนเอาไว้ มันตกลงมาในระลอกคลื่อนเหมือนดวงจันทร์ที่สดใสแล้วทำให้เรือรบงาช้างแดงถูกปกคลุมไปด้วยแสง

ข้าแค่นึถึงนาง นางก็โผล่มาที่นี่แล้ว!

“จิตใจของผู้หญิงคนนี้ถือว่าสูงส่งมากและตระกูลข้ายังปลอดภัยดี!”

ช่วยไม่ได้ที่ซูหยุน จะคิดถึงนางมากไปหน่อย สุดท้ายแล้วทุกคนก็ไม่สามารถรู้ตื้นลึกหนาบาง และขุ่นเคืองใจอย่างนี้

หลายคนฉุนเฉียวและพยายามที่จะแก้แค้น เมื่อพวกเขาโกรธจริงๆพวกเขาจะสังหารคนที่รู้จักคู่อริเขาทั้งหมด ยังไงก็ตาม ตงฟางจิงเยว่ รู้ว่าหากนางจับ เฟิงว่านผิง นางสามารถบังคับให้เฟิงเฟยหยุนออกมาได้ แต่ว่านางไม่ได้ทำเช่นนั้น

อย่างน้อยก็พิสูจน์ให้เห็นว่านางไม่ใช้วิธีการโกง ใด ๆ

แม้นว่ามันจะถูกไล่กวดโดยนาง มุมมองของนางที่มีต่อเฟิงเฟยหยุน มันตรงกันข้ามกับคำว่าดีขึ้น แน่นอนว่ามันแค่เล็กน้อยเท่านั้น

“ฟิ้ว!”

ตงฟางจิงเยว่อาศัยคลื่นเข้ามา “ปรากฏลักษณะผีเสื้อที่โบบินบนผิวน้ำที่งดงาม”; แต่ละก้าวค่อยๆแตะคลื่นลูกใหญ่ก่อให้เกิดคลื่นเล็กๆขึ้น

ผมสีดำยาวปลิวไสวอยู่ในลมหนาว ม่านสีขาวบางปกคลุมความงามที่ไม่มีใครเทียบของนางมีเพียงคู่ของดวงตาที่สดใสเช่นไข่มุกสีดำทีเผยออกมา ภายในดวงตาของนางมีความลึกลับโดยไม่มีอารมณ์ใด ๆ ทำให้คนอื่นๆรู้สึกซับซ้อน

นางกอดพิณสีแดงของนางด้วยนิ้วมือที่เรียวงามจับไว้ตรงสาย นางยังไม่ได้เริ่มสบัดแต่มันก็เกิดแรงกดดันอย่างไร้ขอบเขต เมื่อนางได้เริ่มบรรเลงแล้วละก็เพียงแค่เสียงเดียวนางอาจจะทำลายกองทัพสวรรค์และม้าจำนวนหนึ่งหมื่นตัว

“ทะเลสาบมังกรทอดยาวสามพันลี้เหมือนหยกขาวที่ห้อยลงมาจากแม่น้ำสีเงิน”

“พระอาทิตย์ตั้งอยู่บนอนุสาวรีย์นกศักดิ์สิทธิ์ คันฉ่องวิญญาณเบิกฟ้าสีกุหลาบจากจันทรา!”

ผู้หยั่งรู้จิ้งเฟิงยืนอยู่บนแท่นสูงและเขายกศีรษะของเขาขึ้นไปมองที่คันฉ่องวิญญาณเบิกฟ้า บนท้องฟ้า 

“ข้าไม่ทราบว่ายอดฝีมือจากตระกูล หยินโกว ท่านคือผู้ใด?”

จำนวนสมบัติวิญญาณในราชวงศ์จินมีจำนวนมากและทุกคนต่างก็มีตำนานของตัวเอง เมื่อคันฉ่องวิญญาณเบิกฟ้าปรากฏก็ได้รับการระบุได้ทันทีจากผู้หยั่งรู้จิ้งเฟิงเพียงแค่ชายตามอง

ชาวเจียงโบราณมักขัดแย้งกับตระกูลใหญ่ของราชวงศ์จิน อีกด้านหนึ่งเป็นหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ของราชวงศ์จินซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญจากตระกูล หยินโกว ดังนั้น ผู้หยั่งรู้ จึงได้ใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างมาก นี่เป็นช่วงเวลาที่สำคัญในการค้นหา เทพธิดาเทวภูติสวรรค์ จึงไม่อาจมีข้อผิดพลาดได้แม้แต่น้อย

นักรบชาวเจียงโบราณในเรือตื่นตระหนก แต่ละคนสวมเกราะเหล็กพร้อมด้วยอาวุธอยู่ในมือ พวกเขาวิ่งออกมาพร้อมกับเปล่งกิล่นอายกดดันทำให้บรรยากาศแข็งตัว

แม้ว่า เฟิงเฟยหยุนไม่ได้เข้าร่วมรบ แต่มันก็ยังรู้สึกถึงกลิ่นอายที่น่าสยดสยองจากทหารเหล่านี้ พลังต่อสู้ของทหารเหล่านี้ เพียงแค่ไม่กี่1000คนนั้นน่ากลัวอย่างมาก พวกเขาต้องแข็งแกร่งกว่ายามเมืองกว่า10เท่าแน่ๆ

ตงฟางจิงเยว่ขี่คลื่นใหญ่เข้ามาพร้อมกับกอดพิณไว้ ดวงตาของนางจ้องมองไปที่เรือรบงาช้างแดงเพียงครั้งเดียวแล้วตอบอย่างไร้อารมณ์

“สถานะของเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ นี้ต่ำต้อยและนางเองไม่กล้าบอกชื่อนางไว้เบื่องหน้าผู้หยั่งรู้จิงเฟิง!”

“ท่านรู้ได้อย่างไรว่าข้าคือ ผู้หยั่งรู้จิงเฟิง?”

 

 

“ธงด้านบนสลักคำว่า เฟิงเทียน นี่เป็นสัญญลักษณ์ของเมืงเจียงโบราณ เฟิงเทียนปู้ มีเพียงสามคนเท่านั้นที่สามารถควบคุมเรือรบงาช้างแดงได้ หนึ่งคือเฟิงเทียน ทั่วไป อีกคนคือยายกู่หยู และสุดท้ายคือ ผู้หยั่งรู้จิงเฟิง ด้วยภาพลักษณ์ของบรรพบุรุษและอายุ ท่านคงไม่ใช่เฟิงเทียนทั่วไป และก็ไม่ใช่ยายกู่หยู คนเดียวที่เหลือคือ ผู้หยั่งรู้จิ้งเฟิง “

“ฮ่า ๆ อายุยังน้อยแต่ความคิดช่างระเอียดรอบคอบจริงๆ หากว่าข้าไม่มีเรื่องสำคัญที่ต้องทำละก็ ไม่งั้นข้าจะทำให้เจ้ามาเป็นศิษย์ “

 

จำนวนของผู้หยั่งรู้เมื่อเทียบกับช่างผู้เชียวชาญ จ้าวเม็ดยา ผู้ควบคุมสัตว์อสูร แต่ละคนมีความชำนาญในเรื่องของค่านิยมในราคาที่พวกเขาได้รับความนับถือและแสวงหาอำนาจที่สำคัญนับประสาอะไรกับ ผู้หยั่งรู้

หากใครได้เป็นลูกศิษย์ของผู้หยั่งรู้นับว่าเป็นเกียรติอย่างยิ่ง

 

“ขอบคุณท่านผู้หยั่งรู้แต่คราวนี้ผู้เยาว์มาที่นี่เพื่อจับโจรน้อย ข้าน้อยต้องขออภัยที่ขวางทางผู้หยั่งรู้ อย่างไรก็ตามท่านจะกรุณายินดีให้ข้าน้อยขึ้นเรือเพื่อบีบบังคับให้เขาเผยตัวออกมาจะได้มั้ย? “

“คนผู้นี้อยู่บนเรือรบงาช้างแดงงั้นเหรอ?”

 

“เป็นเช่นนั้น”

นัยน์ตาของนางสว่างวาบมองไปทั่วเรือรบงาช้างแดงเพื่อมองหา เฟิงเฟยหยุน

ยายแก่นี่เป็นอย่างกับผีสิง นางต้องการขึ้นมาบนนี้ ไม่ดีแน่ หากนางขึ้นมาบนเรือได้ข้ามีหวังไม่รอดแน่ๆ

สายตาของมันมองไปที่ ตงฟางจิงเยว่ แล้วมุมปากของมันก็เผยให้เห็นความเจ้าเลห์ มันได้วางแผนเล่ย์กลระดับสูงไว้ในใจของมันแล้ว

มันก้าวออกจากห้องสินค้าบินออกมาด้านหลังทหาร ด้วยความเร็วที่เหมือนกับเงาผี ไม่มีใครเห็นมัน

ดวงตาของ ตงฟางจิงเยว่ จมอยู่ในความโกรธเมื่อนางได้เห็นเฟิงเฟยหยุนหัวใจของนางก็เผาไหม้อีกครั้ง นิ้วของนางเคลื่อนไหวบนสายพิณขณะที่นางสร้างเสียงเบา ๆ

“ฟริ้ง!”

เสียงพิณที่เพิ่งดังและมองไม่เห็นลอยออกไปด้านนอก

“ฉัวะ!”

ชาวเจียงโบราณกรีดร้องออกมาแล้วลงไปนอนกับพื้น เขากลิ้งลงเรือรบแล้วเขาก็หยุดเคลื่อนไหว!

“โอ้สวรรค์! ปีศาจสาวจาก ตระกูลหยินโกว กำลังฆ่าคน! “

“ทุกคนร่วมกันสู้เนื่องจากผู้หญิงคนนี้เป็นอำมหิตและไร้ความเมตตา!”

“นี่เป็นการยั่วยุชาวเจียงโบราณ หากเราไม่ชดใช้หนี้เลือดนี้ชาวเจียงโบราณของเราจะพินาศ “

เฟิงเฟยหยุน เปลี่ยนทิศทางอยู่ตลอดเวลาด้วยความเร็ว การตะโกนสร้างความเกลียดชังภายในใจต่อชาวเจียงโบราณ บรรยากาศการฆ่าฟันทวีความรุนแรงขึ้น ทหารสองคนของชาวเจียงโบราณสวมเกราะเหล็กด้วยนิ้วขนาดถ้วยกระโดดออกจากเรือรบงาช้างแดงและมุ่งหน้าไปยังตงฟางจิงเยว่

“ยัยปีศาจเจ้ากดดันพวกเรามากไปแล้ว เจ้าสังหารคนของข้าโดยำร้เหตุผล มาดูกันสิว่า วันนี้ปู่ของเจ้าจะฆ่าเจ้ายังไง “

เหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นรวดเร็วมากและนี่อยู่เหนือการคาดหมายของตงฟางจิงเยว่ ก่อนหน้านี้คลื่นเสียงสังหารของพุ่งไปหาเฟิงเฟยหยุนอย่างแน่นอนแล้วมันจะสังหารชาวเจียงได้ยังไง?

ทหารชาวเจียงโบราณไม่ได้ถูกสังหารโดยคลื่นเสียงของตงฟางจิงเยว่แต่โดยหมัดของเฟิงเฟยหยุ่น ในขณะที่ทหารชาวเจียงโบราณคนั้นลุกขึ้นยืนมือของเขาลูบคอของเขาขณะที่เขาไม่เข้าใจสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้น

อย่างไรก็ตามตอนนี้ไม่มีใครสนใจเขาเพราะทหารชาวเจียงโบราณได้เดือดดานแล้ว หลายคนออกจากรือเพื่อเป็นแนวหน้าสู้ด้วยชีวิตของพวกเขาต่อตงฟางจิงเยว่

สถานการณ์เริ่มคลั่งขึ้นและการโจมตีทั้งหมดเริ่มขึ้น พลังของพวกเขาทำให้เกิดการระเบิดขึ้นบนพื้นผิวของแม่น้ำ

“เจ้าต้องจ่ายด้วยชีวิต ชวิตแลกชีวิต! “

“หากเราไม่ฆ่านังปีศาจนี่ แล้วเราจะมีหน้าไปพบกับชาวเจียงโบราณได้ยังไง?”

“วันนี้พวกเราจะสู้ตายเพื่อทวงความเป็นธรรม”

ชาวเจียงโบราณเป็นคนตรงไปตรงมาพวกเขามักจะถูกตระกูลใหญ่ข่มแหง แค่เฟิงเฟยหยุนยั่วยุเล้กน้อย ทุกคนก็กลายเป็นปีศาจร้ายสูญเสียจิตใจเหมือนสัตว์ป่า

ในขณะนี้ ตงฟางจิงเยว์ รู้สึกโกรธและเสียใจ นางรู้แล้วว่านี่เป็นฉากที่เฟิงเฟยหยุนจัดขึ้น แต่นางมีแค่หนึ่งปากไม่สามรถอภิบายอะไรได้ตอนนี้ นางทำได้เพียงใช้คันฉ่องวิญญาณเบิกฟ้าเพื่อป้องกันเหล่าป่าเถื่อนนี้เท่านั้น

เฟิงเฟยหยุนนั่งอยู่บนจุดสูงสุดของเรือรบมองสีหน้าของตงฟางจิงเยว่ที่ดุร้ายแล้วหัวเราะเสียงดัง

“ตงฟางจิงเยว่ คิดจะสู้กับนายน้อยผู้นี้ ยังเร็วไป!”

ขณะที่ฟงเฟยหยุนยิ้มอย่างมีความสุขก็มีเสียงดังมาจากด้านหลังองเขา

“เจ้าใช่มั้ยที่นางต้องการจับตัว!”

เฟิงเฟยหยุนไม่สามารถหัวเราะได้อีกต่อไป มันหันหน้าทะเล้นๆของมันไปที่ใบหน้าที่เหี่ยวย่นแล้วมันก็พยักหน้ายิ้มให้

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments