ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปข้อมูลที่บันทึกไว้ภายในหัวของชิลลินกระพริบผ่านไปในความฝันของเขา และการเปลี่ยนแปลงก็เกิดขึ้นภายในร่างกายของเขา
สองวันต่อมาเมื่อเขาลืมตาตื่นขึ้นอีกครั้ง ชิลลินไม่ได้ไปยังที่ร้านของเถ้าแก่เตอวอน แต่กลับไปที่บ้านของเกนยะ บ้านอาจารย์ของเขา
ชิลลินถูกเก็บมาเลี้ยงโดยเกนยะ จากป่าทางฝั่งตะวันตกของเมือง ในเวลานั้นเนื่องจากการแผ่รังสีพลังงานสูงของเปลวไฟจากดวงอาทิตย์ที่ผิดปกติทำให้พืชอาหารของดาวเคราะห์ใกล้จะสูญพันธุ์และราคาอาหารที่เพิ่มขึ้นทำให้เกิดภัยพิบัติร้ายแรงแก่คนยากจน หลายคนเกิดความหิวโหยจนตายและเด็กที่ไม่สามารถเลี้ยงดูได้ถูกขายให้กับคนรวยในเมืองที่อึกทึก ชิลลินเป็นคนที่ไม่ได้ถูกขายไปในเวลานั้น ในวันนั้นการโต้เถียงเกิดขึ้นที่ป่าทางตะวันตกเนื่องจากปัญหาการขาดแคลนอาหารและเมื่อเกนยะไปถึงที่นั่นคนเดียวที่ยังมีชีวิตอยู่คือชิลลิน เขาถูกวางเอาไว้ในโพรงของต้นไม้ที่ห่อตัวอยู่ภายในเสื้อผ้าของเขา
เกนยะเป็นเพียงผู้มียีนในระดับเอฟ แต่เขาเอาชีวิตรอดและต่อสู้ได้ดีกว่ายีนในระดับดี เกนยะได้สอนเขาเกี่ยวกับรูปแบบของการออกกำลังกาย ที่เมื่อเทียบกับคนที่เขาเห็นในทีวีแล้วมันได้รับการปรับปรุงในหลายๆแง่มุมทางด้านกายภาพ การออกกำลังกายเหล่านี้ชิลลินนำไปใช้เพื่อการล่าสัตว์ เกนยะเคยกล่าวไว้ว่าการฝึกซ้อมรูปแบบนี้ได้รับการดัดแปลงมาจากเทคนิคศิลปะการต่อสู้ที่เกิดขึ้นจริง เขาได้เอาส่วนที่เป็นการฆาตกรรมสังหารออกไปและเพิ่มบางอย่างให้พอเหมาะ แต่ตัวชิลลินเองสามารถกู้คืนส่วนที่ถูกลบออกผ่านการปฏิบัติจริงได้อย่างช้าๆ
เกนยะเสียชีวิตลงเมื่อชิลลินอายุได้สิบสองปี ไม่มีใครรู้ถึงอดีตของเกนยะ มีเพียงชิลลินที่รู้แค่ว่าอาจารย์ของเขาไม่ใช่คนธรรมดา ส่วนที่เหลือเป็นเรื่องลึกลับ
ทุกๆเดือนชิลลิน จะเข้ามาและทำความสะอาดบ้านของเกนยะ การจัดวางและสภาพภายในบ้านดูไม่ค่อยโทรมหนักมันทำให้รู้สึกถึงความเรียบง่ายและสงบสุข และมันก็เป็นสิ่งที่ต้ำต้อยและธรรมดาเหมือนเช่นตัวของเกนยะเอง เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ขาดแคลนเงิน แต่เขาก็เต็มใจที่จะใช้ชีวิตอย่างเงียบๆในพื้นที่ยากจนนี้
มีต้นไม้ขนาดใหญ่ที่สูงกว่ายี่สิบเมตรที่สนามหลังบ้าน กิ่งก้านสาขาของมันมีขนาดใหญ่พอที่ครอบคลุมมากกว่าครึ่งหนึ่งของสนาม เกนยะเคยกล่าวไว้ว่ามันอาจเป็นต้นไม้เพียงหนึ่งเดียวในกาแลคซีทั้งหมด
ชิลลินเดินไปจนกระทั่งเขาหยุดอยู่ที่ข้างๆต้นไม้และเอาจี้คริสตัลที่แขวนไว้รอบคอของเขาออกมา
“อาจารย์ ข้าและเฮน่ามาที่นี่เพื่อพบท่าน”
มีเพียงเกนยะและเฮน่าที่อยู่ในโลกของเขา ดี, เขาคิดว่าเถ้าแก่เตอวอนนั้นไม่นับรวม เกนยะและเฮน่าก็จากไปแล้ว และเถ้าแก่เตอวอนก็ได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยตัวเขาเอง
เขานั่งลงพิงหลังของเขากับต้นไม้ แสงอันปลอดโปร่งส่องลงมาจากข้างบนและถึงกระนั้นเขาก็ไม่สามารถรู้สึกได้ถึงอุณหภูมิที่มากจากพวกมัน
“เพียงแค่ข้าอีกครั้ง”
ชิลลินยกแขนขึ้นและจากข้อมูลที่เขาเข้าใจสมองจะเป็นตัวควบคุมการเปิดใช้งานของชิป เขามองไปที่แขนของเขา ด้านนอกมันดูคล้ายกับก่อนหน้านี้แต่ตอนนี้เขาสามารถเจาะแผ่นเหล็กหนาสิบเซนติเมตรของมันได้เช่นเดียวกับชายชราบ้าที่สามารถหยุดมีดของเขาได้อย่างง่ายดาย เขาไม่ได้จำแนกข้อมูลที่เก็บไว้ในหัวของเขา เฉพาะพื้นฐานเช่นการควบคุมกล้ามเนื้อในร่างกายของเขาแค่ตอนนี้ก็เพียงพอแล้วหรือการกระตุ้นเปิดใช้งานและการหยุดยั้งยีนของเขา…
อาจกล่าวได้ว่าต้องขอบคุณความสามารถของการผสานเขากับชิปที่ถูกฉีดเข้าไป ตอนนี้ยีนของชิลลินอยู่ในระดับบี ก่อนที่ เกนยะจะปิดตาของเขาไปตลอดกาลเขาเคยพูดกับชิลลินว่า ถ้าวันหนึ่งชิลลินสามารถอัพเกรดยีนของเขาให้เป็นระดับซีได้แล้วนั้น เขาจะสามารถเปิดกล่องข้างในห้องของเกนยะได้ ถ้าเขาไม่สามารถทำได้เขาก็ไม่ควรเปิดมัน
ชิลลินลุกขึ้นเดินเข้าไปในห้องของเกนยะที่เคยอยู่และเปิดตู้ มีกล่องที่ดูเหมือนจะทำมาจากไม้วางอยู่ข้างในอย่างเงียบสงบ มีแผ่นฟิล์มป้องกันที่มองไม่เห็นอยู่โดยรอบกล่องเล็กๆ และมันใช้ในการประเมินอันดับยีนของบุคคล ชิลลินเคยแฉลบไปมันเมื่อตอนที่เขามียีนในระดับเอฟเท่านั้น
เขาวางมือลงบนฟิล์มที่มองไม่เห็นอีกครั้งและรัศมีบางๆค่อยๆแผ่กระจายออกไปจนมันจางหายไปอย่างสมบูรณ์ ชิลลินหยิบกล่องขึ้นมา คีย์ในการเปิดใช้งานคือข้อมูลทางพันธุกรรมของชิลลิน รหัสผ่านคือคู่ของจีโนมและดีเอ็นเอไมโตคอนเดรียลของเขา
ปิ๊ป –
กล่องเปิดขึ้น
ภาพโฮโลแกรมของเกนยะปรากฏขึ้น แม้ว่าจะเป็นขนาดเท่าฝ่ามือ แต่ก็เห็นได้ชัดอย่างไม่น่าเชื่อ
“ชิลลินเนื่องจากเจ้าสามารถเปิดกล่องนี้ได้นั่นหมายความว่าไม่เพียงแต่ยีนของเจ้าอยู่ในระดับซีเท่านั้น แต่เจ้าก็มีอายุเกินกว่าห้าสิบปีแล้ว”
คิ้วของชิลลินขยับขึ้น เขาไม่ทราบว่าเกนยะได้คาดการณ์ขีดจำกัดอายุเอาไว้แล้ว
“ชิลลิน ถ้าเจ้าวางแผนที่จะออกไปสำรวจจักรวาลแล้วให้ดำเนินการต่อ มิฉะนั้นเจ้าควรปิดกล่องนี้และไม่ควรเปิดมันขึ้นอีกเลย นี่คือคำสั่งของข้าผู้เป็นอาจารย์ของเจ้า!”
ชิลลินไม่ได้ขยับเขยื้อนใดๆ
หลังจากนั้นสักครู่ภาพโฮโลแกรมก็กระพริบหนึ่งครั้งก่อนที่จะล้างข้อมูลอีกครั้ง
“ตั้งแต่เจ้าได้เลือกที่จะสำรวจจักรวาลแล้วให้ทำแบบอาจารย์ของเจ้า สวมแหวนภายในกล่องและถ้าวันหนึ่งมันมีปฏิกิริยาจากแหวนให้กลับมาที่กลับบ้านหลังนี้…”
มันคงจะเป็นเรื่องโกหกถ้าบอกว่าชิลลินนั้นไม่ได้ตกใจกับสิ่งที่เกนยะบอก แหวนนั้นแท้จริงแล้วมันคือแหวนห้วงมิติและเป็นไปไม่ได้เลยสำหรับชิลลินที่จะมีของที่มีเทคโนโลยีล้ำหน้าเช่นนี้ เฉพาะคนรวยๆในย่านใจกลางเมืองเท่านั้นที่จะสามารถซื้อได้และมันก็เป็นของที่หรูหรามาก แต่แน่นอนเกนยะกลับมีมันอยู่ในครอบครอง มันชิลลินยิ่งรู้สึกซับซ้อนมากและมากยิ่งขึ้นเพราะแหวนห้วงมิติ สร้อยคอ และอื่นๆต่างก็เป็นของที่คนรวยเท่านั้นที่จะมีมันได้!
ยิ่งเกนยะบอกเล่าอะไรมากขึ้น มันก็ทำให้ชิลลินรู้สึกว่าเกนยะนั้นมีความพิเศษและไม่ธรรมดาจริงๆ
“ต้นไม้ในสวนหลังบ้านที่เรียกว่าต้นฟูจินั้น ใบของมันคือสัญลักษณ์ประจำตระกูลของข้า, ต้นฟูจิอายุเก่าแก่ – ตระกูลเกน ตั้งแต่ข้ามาอาศัยอยู่ที่นี่ ข้าไม่เคยได้ยินเรื่องแบบนี้มาก่อนเลย…”
เมื่อตอนที่เกนยะยังเป็นเด็ก เขาท่องไปในอวกาศพร้อมกับครอบครัวของเขาและได้หลุดเข้าไปใน ‘เขตแดนของอสูร’ โดยบังเอิญ ปรากฏรูหนอนขึ้นมาและได้กลืนกินยานอวกาศของพวกเขาเข้าไป ในไม่ช้าพวกเขาก็มาถึงจักรวาลที่ไม่คุ้นเคยแห่งหนึ่ง ยานอวกาศของพวกเขาถูกทำลาย หลังจากเดินทางจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่งพวกเขาก็มาถึงดาวเคราะห์โลกสีน้ำตาล เอ็กซ์-ซี สาม หก สอง เช่นเดียวกับในโลกนี้
แม้ว่าจะมีรายละเอียดมากมายที่เกนยะไม่ได้พูดถึง แต่ชิลลินก็สามารถเดาได้บางส่วน
“ก่อนที่จะมีปฏิกิริยาจากแหวนเจ้าต้องไม่พูดถึงเรื่องของตระกูลเกนยะหรือต้นฟูจิอายุเก่าแก่ให้ใครได้รู้… “
เมื่อเสร็จสิ้นแล้วภาพฮโลแกรมก็หายไปและเหลือทิ้งไว้เพียงแค่แหวนในกล่องไม้
แหวนดูจะมีขนาดใหญ่หน่อยดังนั้นเขาจึงใส่ลงไปที่นิ้วหัวแม่มือซ้าย ครั้งที่สองเขาแตะมันลงบนกล่องไม้ในขณะที่สวมอยู่ แหวนก็พลันเกิดรูปแบบสีเขียวและกระโจนเข้ามาติดแน่นกับผิวของเขา มันไม่ได้ดูเหมือนแหวนอีกต่อไปและจริงๆแล้วมันดูเหมือนรอยสัก รอยสักที่เขาไม่สามารถดึงหรือถูมันออกไม่ว่าเขาจะพยายามอย่างหนักเท่าไร
เหลวไหล ถ้าข้ารู้เรื่องนี้ก่อนหน้านี้ ข้าจะไม่ใส่มันลงบนนิ้วหัวแม่มือของข้า! ใครกันจะสักรูปใบไม้โค้งงอลงบนนิ้วหัวแม่มือของพวกเขา?!
ตามคำแนะนำของเกนยะ ชิลลินกำลังขุดโลงศพที่ฝังอยู่ใต้ต้นฟูจิในสวนหลังบ้าน พวกเขาไม่ได้เผาศพของเกนยะ พวกเขาได้ปฏิบัติตามเจตจำนงของเกนยะและวางเขาไว้ในโลงศพที่ทำจากไม้จากต้นฟูจิ จากนั้นเขาก็ฝังเกนยะไว้ข้างๆต้นไม้ แน่นอนชิลลินและเฮน่าเป็นคนเดียวที่รู้เรื่องนี้
เขาไม่ได้ย้ายโลงศพไปไหน ชิลลินชี้ลายของรอยสักรูปใบไม้ที่ปลายนิ้วหัวแม่มือของเขาไปที่โลงศพและหลังจากที่มีลำแสงสีเขียวปรากฏ โลงศพก็ถูกดูดเข้าไปในแหวน ชิลลินสามารถรู้สึกถึงสถานที่ตั้งของโลงศพภายในแหวนและชิลลินก็รู้ว่ายังมีพื้นที่ว่างขนาดใหญ่เหลืออยู่ภายในแหวน เพียงพอสำหรับเขาที่จะเก็บตุนสิ่งของจำเป็นสำหรับการเดินทางในระยะนาน
หลังจากที่เขาเก็บทุกสิ่งทุกอย่างไว้ในสนามหลังบ้านแล้ว ชิลลินก็จูบลงบนจี้ห้อยคออย่างเบาๆ แล้วมองไปที่ลวดลายใบไม้บนนิ้วหัวแม่มือของเขาและยิ้ม
“พวกเราสามคนจะไปผจญภัยกัน!”
———————————————————————————————————————————————————————-
ฝากกดไลค์ กดติดตามเพจ ให้กำลังใจ และติดตามข่าวสารกันด้วยนะครับ : https://www.facebook.com/Star-Rank-Hunter-นักล่าอันดับดารา-885221738283809/
*หากมีคำติชมใดๆสามารถเสนอแนะเข้ามาได้ครับ ผิดพลาดประการใดผู้แปลต้องขออภัยผู้อ่านมา ณ ที่นี้ด้วย
*ถ้าอยากอ่านและให้ลงบ่อยๆช่วยกันคอมเม้นท์เพื่อเป็นกำลังใจด้วยนะคร๊าบบบบบบบ