I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Star Rank Hunter ตอนที่ 10 : ทุกข์ของแครี่

| Star Rank Hunter | 638 | 2367 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

ชิลลินไม่ได้ตอบรับคำชวนเข้ากองกำลังของไดแอสในทันที ไดแอสเองก็ไม่ได้รีบร้อนอะไรเช่นกัน ทั้งสองฝ่ายจำเป็นที่จะต้องมีกระบวนการการทำความเข้าใจระหว่างกัน เนื่องจากจะเป็นประโยชน์ต่อความสัมพันธ์ของพวกเขาในอนาคต

ทุกวันแครี่จะคอยตามตื๊อชิลลินโดยการบอกเกี่ยวกับประโยชน์ของการเข้าร่วมกองกำลัง แครี่ไม่ได้เป็นคนที่ใจแคบสำหรับความรู้สึกที่มีต่อคนที่มีความสามารถและเขาก็เป็นคนบ้าการต่อสู้ เขามักจะลากชิลลินไปที่ห้องฝึกฝนเพื่อต่อสู้กัน

มันเป็นเพียงการต่อสูโดยปกติธรรมดา ทั้งสองฝ่ายต่างก็ไม่ได้ใช้ทักษะหรือความสามารถใดๆที่ใช้ในการสังหารผู้อื่น แต่แม้จะเป็นแบบนั้นแล้วแครี่ก็ยังคงมีความสุขมากกับการต่อสู้ สไตล์มวยของชิลลินเป็นสิ่งที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน มันไม่เพียงมีแค่ความยืดหยุ่นแต่ยังแฝงกลิ่นอายอันแปลกประหลาดออกมาในบรรยากาศโดยรอบอีกด้วย มีพลังหรืออ่อนโยน สงบหรือร้ายกาจ มันสามารถเปลี่ยนแปลงพลิกแพลงได้ในทันทีแล้วแต่ชิลลินต้องการ

แม้ว่าชิลลินจะมียีนระดับ B แต่แครี่ก็ไม่สามารถรับมือกับเขาได้โดยง่ายเลยแม้แต่น้อย นี่เป็นเพราะชิลลินนั้นมีพลังและความสามารถที่จะต่อกรกับผู้มียีนอันดับหนึ่งได้ ในเวลาเดียวกันชิลลินก็ได้เรียนรู้อะไรเล็กๆน้อยๆขณะกำลังฝึกต่อสู้กับแครี่ การเผชิญหน้ากับรูปแบบการต่อสู้ที่แตกต่างกันเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับการปรับปรุงตนเองและในขณะที่พวกเขากำลังฝึกฝน แครี่ได้บอกกับเขาเกี่ยวกับประสบการณ์ในการต่อสู้มากมายและยกตัวอย่าง อย่างไรก็ตามแครี่นั้นมีประสบการณ์ที่มากกว่าชิลลินในฐานะนักล่า

สำหรับกองกำลังที่ต้องเดินทางบ่อยๆระหว่างอาณาเขตต่างๆ หน่วยรบของพวกเขาจึงต้องเรียนรู้วิธีการต่อสู้ของฝูงบินรบ แม้ว่าพวกเขาจะทำมันได้ไม่ดีนัก แต่ก็ต้องเรียนรู้อย่างน้อยที่สุดเกี่ยวกับการควบคุมขั้นพื้นฐาน

ค่าใช้จ่ายของยานรบแต่ละลำนั้นสูงเกินไป ดังนั้นไดแอสจึงไม่ยอมให้แครี่ขับรถออกไปเพื่อความสนุกสนาน และเนื่องจากเขาไม่ได้รับอนุญาตให้ขับเพียงลำพัง แครี่จึงลากชิลลินไปยังการจำลองต่อสู้บนคอมพิวเตอร์แทน ถึงแม้ว่ามันจะไม่สนุกเท่าของจริงก็ตาม แต่การจำลองก็ยังดีพอที่จะสามารถไปที่ไหนก็ได้ภายในเวลาไม่กี่รอบ

ในตอนแรกชิลลินไม่ค่อยคุ้นเคยกับยานพาหนะเท่าไหร่ แม้ว่าเขาจะเคยมีประสบการณ์กับโฮเวอร์บอร์ดและรถบินบนดาวเคราะห์โลกสีน้ำตาล แต่เขาไม่เคยสัมผัสกับยานรบมาก่อนเลยจริงๆ แครี่ได้รับชัยชนะไปก่อนเพียงไม่กี่รอบแรก แต่ในเวลาต่อมาน้อยเพียงไม่ถึงรอบที่ห้า แครี่ก็เริ่มที่จะพ่ายแพ้และความพ่ายแพ้ทุกครั้งนั้นก็เร็วกว่าเดิมและน่าสังเวชกว่าครั้งก่อนๆ ทุกๆครั้งแครี่จะเปลี่ยนการแข่งขันไปเป็นประเภทอื่นๆก่อนที่พวกเขาจะเริ่มรอบที่สอง และแล้ววงจรแห่งชัยชนะที่เด็ดขาดก็เริ่มที่จะกลับมาพ่ายแพ้อีกครั้ง

ต่อมาแครี่ก็ยังคงพ่ายแพ้อยู่อย่างนั้น แม้ว่าหลังจากที่พวกเขาเปลี่ยนไปเป็นยานรบแบบใหม่ก็ตาม

“เด็กคนนี้ไม่ใช่มนุษย์!”

หลังจากความพ่ายแพ้อีกครั้ง แครี่ออกจากระบบจำลองการต่อสู้ออนไลน์และบ่นในขณะที่เกาผมยุ่งๆของเขา

“นายต้องการคำปลอบโยนจากฉันไหม?” เสียงดังขึ้น เขาพูดออกไปเหมือนว่าเขาเพิ่งตื่นขึ้นมา

 

ชิลลินมองข้ามชายหนุ่มที่ผอมบางและตัวสูงในเรื่องอายุของเขา แครี่สวมชุดนอนที่มีลายสตรอเบอรี่อยู่บนนั้นและรองเท้าแตะสีขาวหิมะที่มองดูแล้วไม่ชอบมาพากล

เขาเป็นเด็กหน่อมแน้ม? มันยากที่จะจินตนาการว่าจะมีใครแต่งตัวเหมือนเขาอย่างนี้บนเรือลำนี้

เมื่อแครี่ได้ยินเสียงของชิลลิน เขาก็ดูจะงงงวยและเงียบๆ แต่ทุกคนสังเกตเห็นได้ถึงความรู้สึกหม่นหมองจากการกระตุกของกล้ามเนื้อบนใบหน้าของเขา เพราะแน่นอนว่าจะไม่มีอะไรที่ดีๆออกมาจากปากของเจ้าของเสียงนั้น

คนที่แต่งตัวประหลาดเช่นนี้ในชุดนอน เขาเพิ่งตื่นจากการนอนหลับสินะ? เขาอยู่ที่นี่เพราะเขาไม่มีอะไรต้องทำเลย! ชิลลินกล่าวด้วยเหนื่อยใจ

“เอ๊ะ ดิวอี้, นายตื่นแล้วหรอ?” บีเวอร์กล่าวต่อดิวอี้ขณะยืนอยู่ที่ทางเข้า เมื่อเขาเดินเข้ามาแล้วหันไปรอบๆก็พบกับชิลลินที่กำลังหัวเราะอย่างพึงพอใจไปที่แครี่ “ชิลลิน, นายชนะอีกแล้วหรอ นายนี่พัฒนาได้อย่างรวดเร็วอย่างที่ฉันคิดจริงๆ ท่านร้อยโทกำลังมองหานายอยู่ เขาต้องการให้นายไปพบเขาที่ห้องควบคุมสักครู่”

ชิลลินพยักหน้าตอบไปทางดิวอี้และทักทายเขาก่อนที่จะออกไปพร้อมกับบีเวอร์ ปล่อยให้ดิวอี้และแครี่อยู่ข้างหลังจ้องมองกันและกัน

“เขาคือชิลลินที่ท่านร้อยโทพูดถึง” ดิวอี้มองตรงไปที่แครี่ “ตัดสินจากการตอบสนองของเขา การประสานงานกันของร่างกาย ระดับของการควบคุมยานรบในการต่อสู้ และรวมกับข้อมูลบางอย่างที่ฉันได้ยินมาก่อนหน้านี้ ฉันได้ข้อสรุปแล้ว…”

แครี่เอามือมาปิดหูในทันที “ฉันไม่ฟัง ฉันจะไม่ฟังงงงงงง!”

“ตอนนี้เขาเป็นคู่ที่เหมาะสมกับนายได้อย่างสบายๆจริงๆ”

“……”

แครี่มีแรงกระตุ้นที่จะบีบคอให้ไอ้เวรเช่นนี้เสียชีวิตไปเลย

นายเรียกมันว่าการปลอบโยนหรอ! เป็นการปลอบโยนหรอ?

ดิวอี้เกาศีรษะของเขาพร้อมกับหาวและเดินออกไป ก่อนที่เขาจะออก เขาไม่ลืมที่จะทิ้งความขุ่นเคืองใจไว้ให้แก่แครี่ จนแครี่นั้นเกือบจะกระอักเลือดออกมา “นายมันชั่วช้า”

“ดิววววววววววววววววววววอี้ ข้าจะฆ่าเจ้า!”

เสียงของการต่อสู้ออกมาจากห้องต่อสู้ โดหยุดฝีเท้าของมันลงตรงหน้าห้องต่อสู้ หันมองไปรอบๆและหนีไป มีคนอันตรายสองคนอยู่ข้างในและเมื่อพวกเขาต่อสู้กัน มันก็เป็นเรื่องง่ายที่อาจจะเข้าไปมีส่วนร่วมในฐานะของเหยื่ออย่างไม่เต็มใจ

เวลานอนของชิลลินมีมากกว่าเมื่อก่อนนี้ แต่ก็ก่อนที่จะโดนแครี่ลากตัวออกไปยังห้องฝึกต่อสู้ เวลาที่เหลือน้อยลงของเขาจึงถูกใช้ไปกับการรับประทานอาหารและนอนหลับเท่านั้น

 

ตอนแรกไดแอสและคนอื่นๆคิดว่ามันเป็นเรื่องธรรมชาติที่จะพักผ่อนหลังจากการทำงานจนหมดแรง ซึ่งดิวอี้เป็นตัวอย่างหนึ่งที่จะนอนหลับเป็นระยะเวลาหนึ่งหลังจากต้องทำการคำนวณสิ่งต่างๆเป็นจำนวนมาก

แต่คำอธิบายดังกล่าวได้รับการปฏิเสธอย่างรวดเร็วเนื่องจากชิลลินนอนหลับได้ดีเกินไป แม้ว่าเขาจะไม่ได้ต่อสู้กับแครี่ แต่เขาก็ยังคงนอนหลับอยู่เหมือนเดิมและมีสัญญาณว่าเวลาในการนอนหลับของเขาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ระยะเวลาที่เขาใช้สมองและระยะเวลาในการนอนหลับเป็นสัดส่วนที่สมบูรณ์ ไดแอสได้ทำการให้หมอบนยานตรวจสอบชิลลินก่อนหน้านี้และผลก็คือ ชิลลินมีสุขภาพที่ดีมาก และเขาไม่สามารถอธิบายได้ว่าทำไม ชิลลินถึงนอนเยอะ ชิลลินได้แสดงบางอย่างให้เห็นอย่างชัดเจนว่ามันเกี่ยวข้องกับร่างกายของเขาเอง

ไดแอสกังวลเกี่ยวกับเรื่องอาการ “นอนหลับ” ของชิลลิน เขาเริ่มจะมีถุงใต้ตาปรากฏขึ้น ไดแอสกำลังวางแผนที่จะแนะนำให้ ชิลลินเข้าร่วมทีมกับเขา หลังจากที่เขาจะกลับไปสมทบกับสมาชิกคนอื่นๆของกองกำลัง B กองทัพที่หก แต่ผู้บัญชาการบางคนก็ได้แสดงความเห็นขัดแย้งต่อไดแอสในตอนแรก ถ้าไม่ใช่เพราะข้อเท็จจริงที่ว่าผู้บัญชาการใหญ่กองทัพที่หก ชอว์ตัน คือพี่ชายของไดแอส ตำแหน่งผู้บัญชาการกองกำลัง B ของเขาก็คงจะสั่นคลอนเป็นแน่ ยิ่งสถานการณ์ในตอนนี้ของชิลลินก็ค่อนข้างเซื่องซึมผสมปนเปกัน มันอาจจะไม่ง่ายที่จะโน้มน้าวให้พวกเขายอมรับชิลลินเข้าไปในกองกำลังหลัก

การแข่งขันระหว่างกองทัพทั้งสิบของกองกำลัง B ก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆและรุนแรงมากขึ้นและกองกำลังทั้งหลายก็กำลังเตรียมการต่างๆเพื่อที่จะสามารถเอาชนะและเหนือกว่ากองกำลังอื่นๆ ชอว์ตันไม่ได้อธิบายรายละเอียดใดๆให้เขา แต่ไดแอสรู้ว่ากองทัพที่หก กองกำลัง B อยู่ในความจำเป็นเร่งด่วนสำหรับการขยายบุคลากรและเพิ่มความสำเร็จ ความยากลำบากในปัจจุบันที่พวกเขาเผชิญคือการขาดแคลนความสามารถของบุคลากร ซึ่งเป็นเหตุผลที่ไดแอสกระตือรือร้นที่จะให้ชิลลินเข้าร่วมด้วยกัน

“นายเป็นนักล่าใช่ไหมชิลลิน?” ถึงแม้ว่ามันจะเป็นคำถามแต่ไดแอสพูดด้วยความมั่นใจ

ชิลลินรู้ดีว่าไดแอสต้องตรวจสอบประวัติของเขาอยู่แล้ว แต่ตราบเท่าที่ชิปในตัวชิลลินและเกนยะยังคงซ่อนอยู่ ชิลลินก็ไม่รู้สึกลำบากใจอะไร นอกจากนี้ชิลลินเชื่อว่าพวกเขาจะค้นพบตัวตนและการ์ดหน่วยความจำของชิลลิน และที่เหนือความคาดหมายคือ ไม่มีใครสามารถจินตนาการได้ว่าชิลลินสามารถปรับเปลี่ยนรูปร่างหน้าตาของเขาจากรากของดีเอ็นเอได้

“ใช่ แต่ข้าแค่เป็นนักล่าแห่งเงา ผ่านไปในแต่ละวันบนโลกใบเล็กๆของข้า” นักล่าเร่ร่อนที่ฟุ่งซ่านไปวันๆคงไม่มีอะไรเทียบกับกองกำลังนักล่าได้ แต่ชิลลินก็ไม่เห็นเหตุผลที่จะรู้สึกแย่หรือหนีจากอดีตของเขา

ไดแอสถอนหายใจ “ข้าไม่สนใจว่าเจ้าจะทำอะไรในอดีต ตราบใดที่ตัวเจ้ายังสบายดีและแข็งแกร่งอย่างน่ายกย่องแล้วนั้น ข้าก็พร้อมที่จะต้อนรับเจ้าด้วยแขนที่เปิดกว้างของข้า เจ้าอยู่บนยานมาเป็นเวลาสองสามวันแล้วและก็คุ้นเคยกับวิธีการทำงานของเราอยู่แล้ว เมื่อเทียบกับกองกำลังนักล่าคนอื่นๆ พวกเราเป็นกองกำลังที่ทำงานอย่างอิสระ ซึ่งเป็นเหตุผลที่ยานของเราได้ชื่อว่า “กองเรือรบอิสระ”

เมื่อเห็นว่าชิลลินเงียบ, ไดแอสจึงกล่าวต่อว่า “จักรวาลมีขนาดมหึมาและพื้นที่ที่ไม่มีที่สิ้นสุดนี้เป็นความฝันของนักล่าทุกคน”

แต่ความฝันนี้ต้องเจอกับด่านที่หินหรือไม่สามารถรักษามันเอาไว้ได้ นักล่าเร่ร่อนไม่สามารถที่จะเข้าถึงพื้นที่อันไม่มีที่สิ้นสุดนี้ได้ แต่ด้วยการเข้าร่วมกับกองกำลังนักล่าเพียงอย่างก็เดียวสามารถก้าวไปข้างหน้าและสูงขึ้นกว่าเดิมได้แล้ว ความมุ่งมั่นของคนๆเดียวถูกจำกัดด้วยเหตุผลข้อนี้

ชิลลินเข้าใจทุกสิ่งที่ไดแอสทิ้งไว้จากคำพูดของเขา รวมทั้งเข้าร่วมกับการเข้าร่วมกองกำลังนักล่าก็เป็นประโยชน์ในการแสวงหาตระกูลเกนยะ หลังจากช่วงเวลาที่ได้รับชิลลินค่อนข้างพอใจกับบรรยากาศของกองทัพที่หก เขามองไปข้างหน้าเพื่อสำรวจดาวฤกษ์ที่ปรากฏอยู่ในมือ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องลึกลับใดๆเขาก็พร้อมจะเผชิญ

“ข้าต้องทำอะไรบ้าง?” ชิลลินมองไปทางไดแอส

ประโยคนั้นเป็นการแสดงออกที่ชัดเจนของการตัดสินใจของชิลลินและมันได้ละลายภาวะหดหู่ที่เกิดกับไดแอสเมื่อก่อนหน้านี้ ตราบเท่าที่ชิลลินได้ตัดสินใจที่จะเข้าร่วมทีมแล้ว ไดแอสจะทำอย่างเต็มที่แม้จะต้องเผชิญหน้ากับผู้บัญชาการที่น่ารำคาญเหล่านั้น

“มันจะไม่มีอะไรต้องกังวล ตราบที่เจ้าให้คำมั่น ไม่จำเป็นต้องกังวลมากเกินไป ข้าอยู่ที่นี่ ใครเป็นผู้บัญชาการกองทัพที่หก, ข้า?” ไดอัสโยนความผิดปกติของการนอนหลับของชิลลินทิ้งไปจากหัวของเขาและจดจ่ออยู่กับการคิดถึงมาตรการตอบโต้หลังจากที่จะต้องพบกับกองกำลังอื่นๆ

 

 

 

 


 

 

 

ฝากกดไลค์ กดติดตามเพจ ให้กำลังใจ และติดตามข่าวสารกันด้วยนะครับ :  

*หากมีคำติชมใดๆสามารถเสนอแนะเข้ามาได้ครับ ผิดพลาดประการใดผู้แปลต้องขออภัยผู้อ่านมา ณ ที่นี้ด้วย

*ถ้าอยากอ่านและให้ลงบ่อยๆช่วยกันคอมเม้นท์เพื่อเป็นกำลังใจด้วยนะคร๊าบบบบบบบ

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments