I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Star Rank Hunter ตอนที่ 9 : กองกำลัง B กองทัพที่หก

| Star Rank Hunter | 874 | 2366 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

แครี่นั้นไม่ได้ทำตัวให้ดูสุภาพเหมือนเช่นตอนที่แสดงออกต่อไดแอส ในขณะเดียวกันไดแอสก็ยืนยิ้มอย่างร่าเริงอยู่ข้างๆ เพื่อชมเหตุการณ์ดังกล่าว

ชิลลินยิ้มและยื่นมือออกไป “สวัสดี”

ทั้งสองคนไม่ได้ต้องการที่จะแนะนำตัวกัน เพียงแต่กำลังจะเริ่มทำสงครามเย็นระหว่างกัน

แครี่ใช้พลัง 30% เพิ่มขึ้นเป็น 40% … ตลอดจนเพิ่มขึ้นไปถึง 80% แครี่สงสัยขึ้นมาในทันทีว่ามือที่เขาจำอยู่นั้นทำจากโลหะผสมพิเศษหรือเปล่า? มันช่างยากจริงๆ เขาไม่เพียงแต่ไม่สามารถทำให้ฝ่ายตรงข้ามต้องพบกับความทุกข์ทรมาน แต่มือของเขาเองก็เจ็บปวดจากการจับมือไว้เช่นกัน สิ่งที่ยากสำหรับเขาก็คือความจริงแล้วฝ่ายตรงข้ามของเขาไม่ได้ใช้พลังมากมายใดๆเลย ชิลลินยอมให้เขาใช้กำลังมากเท่าที่เขาต้องการ

ชิลลินรู้สึกประหลาดใจอยู่ภายใน เขาได้พบกับผู้ที่มียีนในระดับ A อีกแล้ว ตั้งแต่เมื่อใดกันที่พบเจอผู้มียีนในระดับ A ได้ง่ายเช่นกะหล่ำปลีในตลาดเช่นนี้?! สี่กองกำลังนักล่าระดับแนวหน้าพวกเขาคือสุดยอดจริงๆ!

แครี่ตกอยู่ในสภาพที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก

บ้าจริงๆ, ข้าไม่เชื่อหรอก! แครี่ทิ้งกล่องทั้งห้าเล่มลงและใช้มืออีกข้างช่วย

ไอ้คนขี้ขลาด!

เหล่าผู้คนในห้องควบคุมของยานเอ็นเตอร์ไพรส์กลุ่มหนึ่งได้วิจารณ์การกระทำของแครี่ซ้ำๆ เมื่อพวกเขาเฝ้าดูฉากการต่อสู้นั้นอยู่บนหน้าจอแสดงผล ความไร้ยางอายของแครี่นั้นมีมานานแล้ว มันเป็นที่ทราบกันดีและฝังรากลึกเข้าไปในใจของทุกคนบนยาน

จากช่วงเวลาที่ชิลลินวาร์ปขึ้นมาบนยานเอ็นเตอร์ไพรส์ ลูกเรือต่างก็เริ่มวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับเขาแล้ว ผลจากการคำนวณว่ามีโอกาส 90% ที่ชายหนุ่มคนนี้ที่ท่านไดแอสพาตัวมาจะมียีนอยู่ในระดับ B

แครี่นั้นไม่เพียงแต่ข่มขู่ผู้ที่อ่อนแอกว่าเท่านั้น แต่ยีนระดับสูงของตนยังถูกยับยั้งด้วยยีนที่ต่ำต้อยกว่าและในตอนนี้เขาก็ยังใช้มือทั้งสองข้างแทนเ!

ไดแอสไอออกมาด้วยความได้อึดอัดใจกับการกระทำที่ไร้ยางอายของแครี่ แต่ในขณะเดียวกันเขาก็รู้สึกตกใจอย่างเหลือเชื่อกับความสามารถของชิลลินด้วย ไม่ใช่ทุกคนที่สามารถรีดเค้นความไร้ยางอายของแครี่ออกมาได้

“เจ้ารุ่มร้อนมากเกินไป” ชิลลินยิ้มและขยับมืออีกข้างไปเสริม

มือสองมือเกิดการปะทะกัน

ใบหน้าของแครี่ขดตัวเล็กน้อย

“ดู – โอ๊ย โอ๊ย โอ๊ย ข้ายอม! ข้ายอม!”

แครีดึงมือออกไป เขาจ้องไปที่มือที่บวมอยู่ของเขาและรู้สึกเหมือนจะร้องไห้

“ท่านร้อยโท เจ้าเด็กบ้านี่มันเป็นใครกัน? เจ้าบ้า!”

แครี่เปลี่ยนการกล่าวถึงชิลลินเป็น ‘เด็ก’ นั้นหมายความว่าเขาได้รับการยอมรับแล้วในความสามารถของเขา

“เจ้าได้รับบทเรียนแล้วใช่ไหม? ลองคิดดูว่าเจ้าเคยโอ้อวดเรื่องอะไรไว้บ้างอีกมากมาย!” ไดแอสเตะแครี่ไปข้างหน้าก่อนที่จะชี้ไปที่กล่องทั้งห้าบนพื้น” กลับไปทำงานต่อเดี๋ยวนี้”

“ครับผม!” แครี่หยิบกล่องขึ้นมา เดินไปเพียงสองสามก้าวก่อนที่จะหันกลับมาอีกครั้งและบอกชิลลินว่า “ข้าชื่อ แครี่ เป็นเจ้าหน้าที่ต่อสู้ระดับสูงของกองทัพที่หก เจ้าเป็นใคร? “

“ข้าชื่อ ชิลลิน, ทำงานอิสระ”

แครี่อ้าปากค้างในขณะที่เขาหยิบตาไปทางไดแอส ร้อยโท, เขาทำงานอิสระ ท่านกำลังเล่นอะไรอยู่!?

“รีบไปได้แล้ว! หรือว่าต้องการให้ข้าช่วยเจ้า?” ไดแอสด่าว่าด้วยรอยยิ้ม

“ข้า… ข้าไปล่ะ! ฮ่าฮ่า! “แครี่รีบวิ่งหนีไป

เหตุผลหนึ่งที่ไดแอสพาชิลลินมาด้วยเพื่อหาถึงภูมิหลังของเด็กคนนี้ เขารู้สึกคุ้นเคยกับชิลลิน แต่จำไม่ได้ว่าเขาเป็นใคร ข้อที่สองคือจุดที่สำคัญที่สุดคือการรับชิลลินเข้ามาอยู่ในทีมถ้าหากเขายังไม่ได้เข้าร่วมกองกำลังใดๆ กองทัพที่หกกำลังขาดแคลนกำลังคน ในขณะนี้ไดแอสให้ความไว้วางใจชิลลินและเขาเชื่อมั่นในความเข้าใจของเขาเองมากยิ่งขึ้น

เพื่อให้ชิลลินสามารถเข้าใจทุกสิ่งได้รวดเร็วขึ้น ไดแอสเริ่มอธิบายเรื่องทั้งหมดตั้งแต่ต้นจนจบ

กองทัพที่หกมีการประชุมทางธุรกิจในอาณาปลอดหนี้ระหว่างอาณาเขต X และอาณาเขต R เนื่องจากไดแอสรู้สึกเบื่อที่ไม่มีอะไรจะทำและได้ยินว่ามีข้อตกลงใต้ดินเกี่ยวกับแร่พลังงานที่หายากบนดาวเคราะห์บางแห่งที่อาณาเขต X และเขาเข้าไปขโมยในขณะที่ผู้ชายเหล่านั้นยุ่งอยู่กับการทรยศหักหลังกันเองอยู่ ในเวลาเดียวกันเขาได้ปล่อยข่าวลวงบนดาวเคราะห์ดวงอื่นๆว่าเขาได้ซื้อหินมีค่าขนาดใหญ่ที่มีมูลค่าหลายพันล้านเหรียญเพื่อดึงดูดความสนใจของพวกโจร นั่นคือวิธีการที่จะคลี่คลายเหตุการณ์ที่เขาขโมยแร่มาและไดแอสก็สามารถที่จะรีดเงินออกมาจากรัฐบาลของ X-C100 และบริษัทสเปซไลเนอร์ได้อีกด้วยเพราะเขาช่วยในการจับคนร้าย

แม้ว่าไดแอสจะได้อธิบายเรื่องนี้อย่างไม่เป็นทางการ ชิลลินก็ทราบถึงรายละเอียดเหล่านี้ มันค่อนข้างเป็นเรื่องยากที่จะจัดการปัญหาทุกอย่างให้ลงตัว นอกจากนี้ยังพิสูจน์ให้เห็นถึงกำลังและความสามารถที่แท้จริงของไดแอสในการวางแผนและควบคุม เขาเป็นคนที่เหมาะสมแล้วในฐานะของผู้บัญชาการกองทัพที่หกของกองพล B

ไดแอสแนะนำชิลลินกับลูกเรือในขณะที่พาไปเดินชมยานตามทางเดิน

 

“นั่นคือคลังสินค้า สถานที่ที่ใช้ในการจัดเก็บเสบียงและเลี้ยวขวาที่ด้านหน้าคือ… เดี๋ยวก่อนทำไมเจ้าถึงมานอนอยู่ที่นี่? ไดแอสตะโกนออกไปที่ส่วนหนึ่งบนผนังของทางเดิน

มันหายไปอย่างง่ายดายและรวดเร็ว แต่ถ้าเป็นคนที่ตื่นตัวอยู่ตลอดเวลาและมีสัมผัสรอบข้างที่ดีเยี่ยมแล้วพวกเขาก็จะตระหนักว่าความจริงแล้วมีสิ่งมีชีวิตอยู่ที่นั่น ดูเหมือนว่ามันจะผสานเข้ากับสภาพแวดล้อมของมันเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันและมันเป็นไปไม่ได้ที่จะสังเกตเห็นมันได้เพียงแค่มองจากสีโดยรวมของมัน

ไดแอสเดินเข้าไปหาและดึงสิ่งนั้นลง มันมีความยาวประมาณสามสิบเซนติเมตรและเมื่อแยกออกจากผนังทางเดิน สีของมันก็จางหายไปและกลับไปมองไม่เห็น อย่างไรก็ตามตาสองข้างของมันนั้นค่อนข้างชัดเจน และเมื่อเห็นไดแอส มันก็แผดเสียงกรีดร้องออกมา ดูเหมือนเป็นการทักทายคนแปลกหน้า

อีกัวน่า?

ชิลลินจ้องมองไปที่เพื่อนตัวน้อยๆในมือของไดแอส

หยุดทำท่าทางอะไรที่ไม่ดีของเจ้าซะโด ก่อนที่ดิวอี้จะโยนเจ้าออกไปอีกครั้ง?” ไดแอสลูบหัวของอีกัวน่า

โดโค้งงอหางและสะบัดหาง พร้อมกับม้วนตัวของมันเป็นก้อนกลมๆให้ดูน่าสงสาร

มันช่างดูคล้ายแป้งโปจริงๆ

ไดแอสกลิ้งก้อนอีกัวน่าขนาดเล็กที่ม้วนตัวอยู่ ขว้างมันไปอีกด้านหนึ่งของกำแพง มันติดอยู่ผนังและเปลี่ยนสีร่างกายไปอย่างรวดเร็วเพื่อให้สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมบนพื้นผิว มันดูเหมือนจะกลายเป็นหนึ่งเดียวกับสภาพแวดล้อมของนั้น

“เพื่อนของข้าเรียกมันว่า โด มันเป็นตัวแปรที่ดิวอี้ได้รับมาจากภารกิจเมื่อห้าปีก่อน เจ้าตัวน้อยมักจะเป็นเหตุให้เกิดปัญหาต่างๆ” ไดแอสไม่ได้อธิบายรายละเอียดที่เกี่ยวกับบุคคลที่ชื่อว่า ดิวอี้

ไดอาสนำชิลลินไปยังห้องควบคุมหลักและแนะนำเขากับพนักงานอีกสองสามคน

ขณะที่ให้ชิลลินได้โต้ตอบพุดคุยกับคนอื่น ไดแอสได้เรียกลูกน้องของเขาออกมา “บีเวอร์ ตามข้ามานี่”

“ครับท่านร้อยโท”

ชิลลินเคยเห็นคนชื่อบีเวอร์มาก่อน เขาเป็นคนที่ปรากฏตัวบนจอแสดงผลยานสเปซไลเนอร์ สิ่งที่ทำให้ชิลลินประหลาดใจก็คือทุกคนบนเรือยานนี้ยังเด็กอยู่ค่อนข้างมาก หลายคนอายุประมาณไดแอสหรืออ่อนกว่า แม้ว่าจะไม่มีเด็กหนุ่มคนไหนอายุเท่าๆกับเป็นชิลลิน

จากบทเรียนที่แครี่ได้รับ คนบนยานลำนี้ถือว่าชิลลินค่อนข้างมีฝีมือ แม้ว่าพวกเขาจะไม่ค่อยจริงใจ อย่างน้อยพวกเขาก็ไม่รู้สึกว่าเขาเป็นคนห่างไกลหรือไม่แยแสต่อเขา

 

หลังจากที่ไดแอสเรียกหาบีเวอร์ แล้วพวกเขาก็มาถึงที่ทำงานของบีเวอร์ เขาหันแหวนเงินไปที่มือและดึงขั้วต่อออก ก่อนเชื่อมต่อกับเครื่องมือ

“เอาข้อมูลพวกนี้ไป”

ภาพที่วิ่งบนหน้าจอเป็นภาพของไดแอสขณะที่เขากำลังต่อสู้กับโจรภายในห้องควบคุมของยานสเปซไลเนอร์ มีการประมวลผลด้วยอินฟราเรดเพื่อคำนวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในความมืด ณ ตอนนั้น อย่างไรก็ตามภาพดังกล่าวก็เริ่มมีความสั่นไหวเล็กน้อยตามการเคลื่อนไหวของไดแอสที่ต่อสู้กับโจร

บีเวอร์ไม่ได้พูดอะไร มือของเขาขยับราวกับเขามีสิบมือซึ่งกำลังเต้นอยู่บนเครื่องมือ ในขณะที่เขาจัดการกับโปรแกรมต่างๆและหลังจากที่วิดีโอถูกตัดออกผ่านการจัดเรียงสามมิติ การปรับอัตราบิตเรท และการทำงานอื่นๆอย่างรวดเร็ว มันก็กลายเป็นภาพที่ชัดเจนและราบรื่นที่ไม่ทำให้ตาพร่าตามัว

“วิเคราะห์เจ้าเด็กชิลลิน” ตอนนี้

บีเวอร์ปรับภาพบนหน้าจอเพื่อแสดงภาพของชิลลินทุกๆท่าในการเคลื่อนไหวอย่างช้าๆ ยิ่งดูบีเวอร์ยิ่งรู้สึกตกใจมากขึ้น คือว่า “ท่านร้อยโท ท่านแน่ใจหรือว่าเด็กชายคนนี้เป็นมนุษย์และไม่ใช่เผ่าพันธุ์อื่นที่มีลักษณะคล้ายมนุษย์”

บนหน้าจอชิลลินหลบหนีออกไปได้อย่างง่ายดายจากการที่ปืนเล็งไปที่เขา ราวกับว่าเขาได้ทำนายการเคลื่อนไหวของโจรในครั้งต่อไปทุกๆครั้ง และเขาได้ทำมันในขณะที่ไฟภายในห้องควบคุมถูกตัดออกทุกจุด

“ข้าสามารถยืนยันได้ว่าเขาไม่ได้สวมเลนส์เสริมชนิดใดและเขาเป็นคนจริงๆ” ไดแอสกล่าวอย่างเคร่งขรึมขณะจ้องมองไปที่จอแสดงผล

คิ้วของบีเวอร์ขมวดกันเป็นปม “มีอีกเรื่องหนึ่งท่านร้อยโท เมื่อตอนที่พวกท่านสองได้ทำการวาร์ปขึ้นมาบนยาน ข้าได้ทำการวิเคราะห์ยีนของชิลลินดู โดยปกติถ้าเขาเป็นเพียงผู้มียีนระดับ B จากความน่าเชื่อถือของผลการคำนวณของ MFA (Multiple Factor Analysis) มันควรจะมีค่าความถูกต้องอยู่สูงกว่า 95% แต่คราวนี้ผลได้เพียง 90% เท่านั้น ทำไมถึงมีความไม่แน่นอน 5%? “

หลังจากหยุดนิ่งไปชั่วขณะ บีเวอร์ได้ลองเสนอความคิดของเขากับไดแอสว่า “เราควรจะลองหา DNA ของเด็กคนนี้ดีหรือไม่? หากมีของเหลวในร่างกาย เส้นผม หรือลายนิ้วมือน่าจะใช้งานได้”

“ไม่จำเป็นต้องมี เราควรให้ความเคารพต่อเพื่อนร่วมงานของเราในอนาคตด้วย “

“ครับ แต่เด็กคนนี้ช่างน่าเหลือเชื่อจริงๆ “

“แต่แน่นอน ข้าคิดว่าท่านน่าจะมีความรู้สึกคุ้นเคยอย่างบอกไม่ถูกกับชิลลิน ใช่ไหมท่านหัวหน้า?” ไดแอสสถูกจับได้และอยู่ในสภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกอีกครั้ง

บีเวอร์เองก็คิดเช่นเดียวกัน แต่เขาไม่สามารถคิดออกได้ว่าเขาเคยเห็นชิลลินที่ไหนมาก่อน “กาแลคซีมีขนาดใหญ่และมีคนนับไม่ถ้วนที่ดูคล้ายกัน ท่านต้องการให้ข้าป้อนข้อมูลลงไปในฐานข้อมูลคอมพิวเตอร์และทำการตรวจสอบหรือไม่? “

 

“ไม่เป็นไร” เขาจะต้องใส่รหัสผ่านของกองบัญชาการกองกำลัง B เพื่อเข้าถึงในคลังข้อมูล มันลำบากเกินไป

ไดแอสถอนหายใจและยอมแพ้

“โอ้ ใช่, ท่านหัวหน้า ได้มีข้อความจากท่านผู้บัญชาการเรียกร้องให้เราเข้าร่วมกับพวกเขาโดยเร็วที่สุด ดูเหมือนว่าข้อตกลงที่พูดคุยกันจะไม่ได้เป็นไปอย่างราบรื่นครับ “

“เข้าใจแล้ว เตรียมตัวให้พร้อมแล้วล่ะ” ไดแอสโบกมือให้เขาและเดินออกไปจากห้อง

 

 


 

 

ฝากกดไลค์ กดติดตามเพจ ให้กำลังใจ และติดตามข่าวสารกันด้วยนะครับ :  

*หากมีคำติชมใดๆสามารถเสนอแนะเข้ามาได้ครับ ผิดพลาดประการใดผู้แปลต้องขออภัยผู้อ่านมา ณ ที่นี้ด้วย

*ถ้าอยากอ่านและให้ลงบ่อยๆช่วยกันคอมเม้นท์เพื่อเป็นกำลังใจด้วยนะคร๊าบบบบบบบ

 

 

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments