I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Star Rank Hunter ตอนที่ 16 : คู่ดาวเฉิดฉายแห่งเซเว่นไลท์

| Star Rank Hunter | 641 | 2337 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

ที่สถานีขนส่งการเดินทางจะออกทุกๆสองชั่วโมง เมื่อชิลลินเดินเข้าไปที่นั่นห้องโดยสารทั้งสามต่างแออัดไปด้วยผู้คน เมื่อตรวจสอบเวลาแล้วยังมีเวลาอีกหนึ่งชั่วโมงจนกระทั่งการเดินทางครั้งต่อไปจะเริ่ม

มีสาวน้อยคนหนึ่งอยู่ด้านหน้าเขากำลังพูดคุยกับคนอื่นกันอย่างเงียบๆ บางครั้งพวกเขาจะมองไปที่คนที่อยู่ภายในห้องโดยสาร

ไอฟรอนได้คัดเลือกชุดส่วมใส่สำหรับชิลลินด้วยตนเอง มันช่างเข้ากับใบหน้าจอมปลอมของเขาในตอนนี้ได้อย่างเหลือเชื่อ ทุกคนจะรู้ได้ว่าเขาเป็นนายน้อยของตระกูลที่มีฐานะได้อย่างรวดเร็วในครั้งแรกที่พบเห็น ดังนั้นการซุบซิบของเหล่าหญิงสาวจึงดังขึ้นเมื่อชิลลินเข้ามาและพวกเธอก็จ้องมองอย่างละสายตาไปได้ยาก แต่แล้วก็ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีก่อนที่พวกเธอจะเปลี่ยนความสนใจไปยังผู้ที่เข้ามาใหม่

โดยปกติมากกว่าครึ่งหนึ่งของคนในสถานีขนส่งนี้มีภูมิหลังที่ไม่ธรรมดา ชิลลินนึกถึงเรื่องที่บีเวอร์และแก๊งได้โอ้อวดไว้เมื่อตอนอยู่บนยานของกองกำลัง  พวกเขาพูดถึงชั้นเรียนของสถาบันการทหารที่อาณาเขตแห่งหนึ่ง

‘ยี่สิบเก้าในสามสิบคนเป็นลูกหลานของเหล่านายพล กล่าวคือบรรพบุรุษของพวกเขาเป็นนายพลระดับอาณาเขตทั้งหมด หนึ่งคนในชั้นเรียนที่ไม่ได้เป็นลูกหลานของนายพล เขามีพ่อเป็นพันเอกดังนั้นพวกเขาที่เหลือจึงทำการเยาะเย้ยดูถูกเป็นอย่างมากใส่เขาคนนั้นตั้งแต่วันแรกของการเริ่มชั้นเรียน สองวันต่อมาคนเหล่านั้นก็เงียบกริบเหมือนคนตาย นายอยากรู้ไหมว่าทำไม? เป็นเพราะนายพันเอกคนดังกล่าวเป็นพันเอกแห่งกาแลคติกอะไลแอนซ์! ระบบการจัดอันดับของพวกเขาต่างจากอาณาเขตอื่นๆ นายพลสิบคนยังไม่อาจจะเทียบได้กับพันเอกแห่งกาแลคติกอะไลแอนซ์เพียงคนเดียว’

ไดอัสเคยหัวเราะเยาะชิลลินว่า โชคดีที่เขาไม่ได้ถูกส่งไปที่โรงเรียนทหารในอาณาเขต C เพราะใครก็ตามที่เขาพบจะเป็นลูกหลานของพันเอกแห่งกาแลคติก

ชิลลินยิ้มอย่างเงียบๆแล้วเขาหยิบ ‘หนังสือคู่มือของเซเว่นไลท์’ ที่เจ้าหน้าที่ตรวจสอบได้ให้เขาไว้เมื่อเขาเข้ามา เขาพลิกหนังสือคู่มือเล่มนี้อย่างรวดเร็ว มีหลายสิ่งที่เขาได้เรียนรู้มาก่อนหน้านี้แล้วและเขามีความสามารถในการอ่านที่ยอดเยี่ยม จึงใช้เวลาในการจำเพียงแค่สองถึงสามนาทีในการอ่านเนื้อหาทั้งหมด ชิลลินเศร้าสลดขณะที่เขาแตะรอยสักรูปใบไม้บนนิ้วหัวแม่มือของเขา แม้แต่เซเว่นไลท์ที่มีชื่อเสียงก็ไม่สามารถตรวจจับแหวนวงนี้ได้ ความลับของการดำรงอยู่ของตระกูลเกนคืออะไร?

เขากดปุ่มบนที่จับของเบาะนั่งในห้องโดยสารและจอแสดงผลแบบออพติคอลก็โผล่ออกมาข้างหน้าเขา ชิลลินมองไปข้างหน้านึกถึงเส้นทางชีวิตต่อไปของเขาในขณะที่เขาหันไปดูดาวเคราะห์ที่เป็นฉากหลังสีสันสดใสบนหน้าจอ

“เฮ้, น้องช่าย, ฉันขอนั่งตรงนี้ด้วยได้ไหม?”

ชายหนุ่มยิ้มให้อย่างสดใสและชี้ไปยังที่นั่งข้างชิลลินพร้อมกับถามออกไป การพิจารณาจากลักษณะการแต่งกายแล้วตระกูลของเขาดูจะค่อนข้างจะมีฐานะ

“แน่นอน” ชิลลินยิ้มกลับไป เขาเห็นว่าชายหนุ่มดูจะทำตัวคุ้นเคยกับเขามากเกินไป

“ฉันชื่ออัลเลน เชฟ” ชายหนุ่มคนหนึ่งแนะนำตัวเองอย่างเป็นกันเอง

“ผมชื่อชิลลิน”

ชายหนุ่มชื่ออัลเลนหัวเราะเบาๆและยืดอกเพื่อมองไปที่เด็กผู้หญิงที่อยู่ข้างหน้าเขา

“ใช่, ดูเหมือนว่าคุณภาพของสาวสวยของพวกเราในเทอมนี้ค่อนข้างที่จะดี ถึงแม้จะดูเหมือนว่าสาวสวยในเซเว่นไลท์จะมีจำนวนมากมาย ฮ่าๆ, มันช่างดีอะไรขนาดนี้” อัลเลนเกาศีรษะของเขาและหันกลับมาหลังจากเห็นว่าหญิงสาวไม่ได้สนใจเขามากเท่าไรนัก ทุกสิ่งที่เกี่ยวกับความบันเทิงภายในห้องผู้โดยสารถูกวางไว้ในช่องเก็บสัมภาระและมันก็น่าเบื่อที่จะรอและไม่ได้ทำอะไร ดังนั้นอัลเลนจึงมองหาหัวข้อเพื่อคุยกับชิลลินโดยอัตโนมัติ ในฐานะนักล่า, ชิลลินมักมีส่วนร่วมในหลายสิ่งหลายอย่างดังนั้นเขาจึงสามารถสนทนาได้พอสมควรในทุกๆหัวข้อที่อัลเลนพูดคุยกับเขา

หลังจากเล่าเรื่องราวอันมหากาพย์ของเขาเกี่ยวกับช่วงเวลาที่ร่าเริงและชีวิตแสนสบายๆ ในห้วงแห่งความสุขที่ยิ่งใหญ่ของอัลเลนอยู่ๆเขาก็ขมวดคิ้วขึ้นทันทีและกล่าวต่อว่า

“ฮึ ฉันได้ยินมาว่าเซเว่นไลท์ไม่ใช่สถานที่ที่จะเข้าถึงได้ง่ายๆ ฉันไม่ค่อยอยากไปที่อาณาเขต B เพื่อการศึกษาเล่าเรียนที่สูงขึ้น มันมีการแข่งขันที่รุนแรงจนเกินไป แต่หลังจากที่ฉันเริ่มเที่ยวไนท์คลับ เพียงชั่วข้ามคืนพ่อของฉันก็ลดเงินค่าขนมลงและทิ้งฉันไว้ในสถานที่แห่งนี้เพื่อให้ต่อสู้กับตัวเอง อ่าาาาา, ชีวิตที่มีสีสันของฉัน! ~ นายจะกลับมาหาฉันอีกครั้งเมื่อไร?”

มันเป็นความจริงที่ว่าคนที่มีคุณสมบัติในการรับเข้าเรียนไม่ผ่านเกณฑ์จะต้องจ่ายเงินจำนวนมหาศาลเพื่อเข้าเซเว่นไลท์ ชิลลินยังรู้อีกว่าเซเว่นไลท์จะไม่ยอมรับนักเรียนถ้าคุณสมบัติของพวกเขาแย่เกินไปแม้จะมีจำนวนเงินเข้ามาเกี่ยวข้องมากมายเพียงใด อัลเลนสามารถเข้าสู่เซเว่นไลท์ได้ นั่นหมายความว่าคุณวมบัติของเขาไม่ได้เลวร้ายนัก

ก่อนที่ชิลลินจะให้ความเห็นเกี่ยวกับคำพูดของอัลเลน พวกเขาก็ได้ยินเสียง ‘หึ’ ต่ำๆที่มาจากด้านหลัง

ขณะที่ชิลลินและอัลเลนกำลังคุยกันเกี่ยวกับสิ่งต่างๆอย่างไม่ได้เจาะจง การสัญจรของตู้โดยสารก็ค่อยๆหยุดลง ประมาณสี่ถึงห้าของห้องโดยสารมีผู้คนเข้ามาอย่างหนาแน่น ชายหนุ่มที่นั่งอยู่ข้างหลังชิลลินและอัลเลนผู้เป็นเจ้าของเสียงดังกล่าวก็มาถึงในตอนนั้น

อัลเลนไม่ได้ตอบสนองด้วยความโกรธต่อเสียงดูถูกนั้น ในความเป็นจริงแล้วเขาก็ยังนั่งตัวติดอยู่กับเก้าอี้ของเขาและมองไปที่คนที่ปล่อยเสียงนั้นออกมาอย่างอยากรู้อยากเห็น

คนผู้นั้นไม่ได้สนใจต่อการจ้องมองมาของชิลลินแต่เขากลับมองไปยังที่จอแสดงผลด้าหน้าของเขา ชุดที่เขาสวมใส่แตกต่างจากคนรอบตัวเขา แม้ว่าเขาจะแต่งตัวไม่ได้ดูดีมากมายอะไร แต่ก็ดูเรียบง่ายและธรรมดากว่าคนอื่นๆ

แต่แน่นอนว่าจะตัดสินคนผู้นี้จากการมองเพียงเครื่องแต่งกายภายนอกไปไม่ได้ คนเหล่านี้ที่สามารถนั่งอยู่ในที่แห่งนี้ได้ย่อมมีคุณสมบัติที่เหมาะสมสำหรับเซเว่นไลท์ นี่นับว่าไม่เป็นเรื่องธรรมดา?

“เอ๊ะ?” ดวงตาของอัลเลนเป็นประกาย “คังแมน! ฉันไม่อยากเชื่อเลยว่าฉันกำลังนั่งอยู่ที่สถานีขนส่งเดียวกันกับอัจฉริยะคังแมน!”

คังแมนผู้ซึ่งเคยหัวเราะเยาะหลังจากได้ฟังคำว่า “ลดเงิน” และ “ชีวิตสบายๆ ” ก็หันไปหน้าออกจากจอแสดงผลเพื่อมองไปที่อัลเลนและพูดว่า “นายรู้จักฉันด้วยหรอ?”

มันอาจจะดูเป็นประโยคคำถาม แต่ก็ไม่แปลกใจเลยที่ในคำพูดของเขานั้นชิลลินสามารถมองเห็นความเย่อหยิ่งในสายตาของเขาและบรรยากาศของความดื้อรั้นรอบๆตัวเขา

“แน่นอน! อัจฉริยะคังแมนเป็นนักเรียนที่ได้รับการคัดเลือกมาเป็นพิเศษ เมื่ออายุเพียง 14 ปี นายได้ตีพิมพ์ผลการวิจัยที่มีคะแนนมากกว่าห้าสิบคะแนน เนื้อหาทั้งหมดล้วนได้รับการตีพิมพ์ในนิตยสารอิเล็กทรอนิกส์ทางวิชาการบางฉบับใช่หรือไม่? ฉันไม่มีความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องการอ่านรหัสลับแบบอิเล็กทรอนิกส์ที่นายได้ค้นคว้าไว้” อัลเลนรู้สึกตื่นเต้นมากขึ้นเรื่อยๆในขณะที่เขาพูดโดยไม่รู้สึกลำบากใจที่มีความเข้าใจในเรื่องที่พูดเป็นศูนย์”

“เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ฉันไม่สามารถนับจำนวนครั้งที่พ่อของฉันดึงหูของฉันและบอกว่าอัจฉริยะอายุ 15 ปีที่มีอายุน้อยที่สุดเพียงสองคนเท่านั้นที่รู้จักกันในชื่อ ‘คู่ดาวเฉิดฉายแห่งเซเว่นไลท์’ หนึ่งในนั้นคือนายคังแมนและอีกคนก็จะต้องเป็น ‘ไพรด์ ไวค์’….”

ทันใดนั้นอัลเลนก็หยุดพูดขณะที่เขาเปิดปากกว้างและมองไปที่ทางเข้าห้องโดยสาร

“ไพรด์ไวค์….”

หลังจากสายตาพร่ามัวอยู่ชั่วครู่อัลเลนคว้าแขนของชิลลินและทำท่าทางตื่นเต้นขึ้น “ชิลลินเขาคือไพรด์ไวค์ เป็นเขาไม่ผิดแน่ๆ! โอ้พระเจ้า, นี่เป็นเรื่องจริงใช่หรือไม่? ฉันนั่งอยู่ที่สถานีขนส่งเดียวกับคู่ดาวเฉิดฉายแห่งเซเว่นไลท์! ฉันจะทำอย่างไรดี ฉันรู้สึกอยากจะกรีดร้อง!”

“เสียงกรีดร้องจากยมบาลอาจจะเกี่ยวข้องกับฉัน!” ชิลลินจ้องมองไปที่เส้นด้ายซึ่งกำลังจะออกมาจากแขนเสื้อของเขาและอาจจะเข้าไปปะทะกับหัวของอัลเลน

“เขาไม่ได้เป็นสาวสวยดังนั้นสิ่งที่นายกำลังเป็นอยู่นี่คือปฏิกิริยาของรักร่วมเพศที่ออกมาจากตัวนายใช่หรือไม่! เมื่อตอนที่นายเห็นคังแมน นายก็ไม่ได้แสดงท่าทางอะไรออกมามากนัก”

ไพรด์ไวค์เป็นคนที่ชิลลินได้เห็นที่ท่าเทียบยานในตอนที่ถูกหยุดเนื่องจากมีคนคุ้มกันมาด้วยมากเกินไป

ใบหน้าของไพรด์ไวค์เป็นสิ่งหนึ่งที่สามารถทำให้ผู้หญิงทุกคนรอบตัวเขาเอ่อล้นไปด้วยความรู้สึกของการอยากเป็นแม่คน การแสดงออกของเขาดูกระวนกระวายเมื่อเขาเดินเข้าไปในห้องโดยสารและหลังจากนั้นเขาก็ขมวดคิ้วและกวาดตามองไปรอบๆห้องโดยสาร ดวงตาของเขาก็ถูกดึงดูดด้วยแขนที่กำลังโบกมือเรียกของใครบางคน

มันไม่มีทางเลือก มันเป็นเรื่องยากที่จะละเลยไปได้ อัลเลนเป็นคนเดียวในห้องโดยสารที่เต็มไปด้วยความสุข แขนของเขาเขย่าไปมาในที่นั่งด้วยความตื่นเต้นและชี้นิ้วไปที่นั่งว่างๆข้างคังแมนและปากของเขาก็บิดเบี้ยวขณะพูดออกไปว่า “นั่งตรงนี้! นั่งที่นี่!”

ถ้าไม่ใช่เพราะข้อเท็จจริงที่ว่าไม่มีใครได้รับอนุญาตให้ทำเสียงดังและเดินเตร่ได้อย่างอิสระภายในห้องโดยสาร ชิลลินเชื่อว่าเพื่อนคนนี้จะต้องโห่ร้องอย่างสุดลมปอดของเขาและวิ่งไปหาไพรด์ไวค์พร้อมกับลากเขามา

เป็นเวลาที่ทุกคนในห้องโดยสารต่างจ้องมองมุ่งเน้นไปที่อัลเลน ราวกับว่าทุกคนเพิ่งตระหนักว่ามีลิงกระโดดโลดเต้นซ่อนตัวอยู่ในฝูงชน….

ชิลลินก้มหน้าลงและอ่าน ‘คู่มือของเซเว่นไลท์’ อย่างจริงจังในขณะที่คังแมนไม่ได้ละสายตาจากหน้าจอเลยราวกับว่าเขาไม่รู้จักอัลเลน

ใบหน้าของไพรด์นั้นรู้สึกได้ถึงความเย่อหยิ่งแผดจ้าออกมาจากก้นบึ้งของหัวใจ

ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังเดินเข้ามาจากข้างนอกและหลังจากที่เห็นไพรด์ยืนอยู่ตรงทางเข้าเขาก็กล่าวว่า “หาที่นั่งเร็วเข้า ยานกำลังจะออกตัวแล้ว” แวบเหลือบไปเห็นอีกด้านหนึ่งเขาจึงชี้ไปที่มือของอัลเลนที่กำลังโบกมืออยู่และพูดว่า “ที่นั่นล่ะ? ที่นั่งว่างอยู่ “

ไพรด์ไวค์ยิ้มและเดินขึ้นไปนั่งข้างๆคังแมนด้วยใบหน้าอันหม่นหมอง ‘นรกกำลังกระหายเลือด, วันนี้นรกได้มาเยือนแล้ว!’

 

 

 


 

 

 

ฝากกดไลค์ กดติดตามเพจ ให้กำลังใจ และติดตามข่าวสารกันด้วยนะครับ :  

*หากมีคำติชมใดๆสามารถเสนอแนะเข้ามาได้ครับ ผิดพลาดประการใดผู้แปลต้องขออภัยผู้อ่านมา ณ ที่นี้ด้วย

*ถ้าอยากอ่านและให้ลงบ่อยๆช่วยกันคอมเม้นท์เพื่อเป็นกำลังใจด้วยนะคร๊าบบบบบบบ

 

 

 

 

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments