” เจี้ยนเฟิงอวี้ เจ้าหนุ่มนั้นเป็นใครถึงกล้าพูดกับท่านเช่นนี้ “
 
 
 
พวกเขามองไปที่ ‘ชูเฟิง’ ที่กำลังเดินไป ผู้นำพันธมิตรโลก เต็มไปด้วยความตกใจ
 
 
โดยปกติแล้วเขารู้จักสมาชิกพันธมิตรปีกฯเกือบทุกคน แต่เขาไม่เคยพบ ‘ชูเฟิง’ มาก่อน นอกจากนี้เค้ายังเป็นคนเดียวที่กล้าพูดจาเช่นนั้นกับ’เจี้ยนเฟิงอวี้’ แม้แต่’ซือตู่ยู๋’ ก็ยังประหลาดใจ การกระทำของ ‘ชูเฟิง’
 
 

  
” ไอ้เด็กเหลือขอนั้นมันคงไม่อยากจะมีชีวิตอยู่ ข้าจะให้มันได้ชดใช้ “
 
 
 
‘เจี้ยนเฟิงอวี้’กล่าวด้วยความโมโห เห็นได้ชัดว่าเขาเกลียด’ชูเฟิง’เข้ากระดูกดำ
 
 

  
” ฮ่าๆ แน่นอน ในตอนนี้ไม่มีใครสามารถผ่านการสอบนี้ไปได้นอกจากพวกเรา หลังจากที่เราไปยัง สวนพฤกษามังกรฟ้า เจ้าก็จะสามารถสั่งสอนเจ้าเด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมนั้นได้อย่างที่เจ้าต้องการ “
 
  
” แต่น้อง ซูเหม่ย ข้าขออาสา ดูแลนางให้เอง ถึงแม้ว่าข้าจะไม่สามารถทำอะไรกับนางได้ในตอนนี้ แต่เพื่อเพิ่มโอกาส  หาความสุขเล็กๆน้อยๆ จากนาง”
 
 
 
ผู้นำพันธมิตรโลกหัวเราะ แล้วไปกระซิบข้างๆหูของ’เจี้ยนเฟิงอวี้’เบาๆ และถาม
 
 

  
” เจี้ยนเฟิงอวี้ เจ้าแน่ใจว่าสามารถถอดไกกลตามแผนที่ที่ได้มา หากพลาดขึ้นมาเหล่าพี่น้องของข้าได้ไปเยี่ยมยมบาลแน่ เช่นนั้นเจ้าอย่าได้ผิดพลาด “
 
  
” ไม่ต้องกังวลไป แผนที่มันถูกต้องอย่างแน่นอน ตราบใดที่ท่านปฏิบัติตามขั้นตอนของกลไกในแผนที่ ข้ารับรองได้ว่าพวกเราทั้งหมดจะผ่านการสอบได้อย่างปลอดภัย “
 
  
” ที่เจ้าต้องทำคือสั่งให้พวกเขาตามมาให้ไวที่สุด คราวนี้พวกเราจะต้องล้อมพันธมิตรปีกฯก่อนพวกเขาจะไปถึงสวนพฤกษามังกรฟ้าเอาไว้ให้ได้ จะไม่มีสมาชิกคนไหนๆของพันธมิตรปีกฯหลุดรอดผ่านการสอบไปได้ “
 
 
 
‘เจี้ยนเฟิงอวี้’ กล่าวอย่างมั่นใจ
 
 

  
” ข้าได้ยินว่า คนของพันธมิตรปีกฯนั้นล้วนแต่เป็นอัจฉริยะ คราวนี้และ เราจะทำให้พวกมันต้องอับอายขายขี้หน้า ข้าล่ะอดใจรอที่จะได้เห็นภาพนั้นแทบไม่ไหว คิดดูสิว่าจะคนอื่นๆจะมีปฏิกิริยาแบบไหนเมื่อได้ยินข่าวว่าพันธมิตรปีกฯล้มเหลวในการสอบ หากมันกระจายไปทั่วฝ่ายใน “
 
 
 
ผู้นำทั้งสองหัวเราะเสียงดังอย่างสนุกสนานพวกพวกเขาช่างมีความสุขมาก ณ. เวลานี้
 
 

  
” หืม อัจฉริยะ ? พวกเขาก็แค่ไอหน้าโง่ที่ไม่เคยนึกว่าตัวเองผิดพลาด สมาชิกของพันธมิตรปักฯแต่ล่ะคนล้วนแต่ยโสโอหังพวกมันทำได้แค่ตอนอยู่ฝ่ายใน หากพวกมันไปพื้นที่หลักได้ แต่ยังไงพวกมันก็ต้องพ่ายแพ้ให้กับคนๆนั้น “
 
 
 
‘เจี้ยนเฟิงอวี้’เหยียดหยัน
 
 

  
” เจ้ากำลังหมายถึง # 1 ศิษย์หลักในโรงเรียนมังกรฟ้าของเรา กง ลู่หยวน ? “
 
  
” จะมีใครไปได้นอกจากเขา “
 
  
” ใช่ กง ลู่หยวน จริงๆ เขาเป็นคนที่มีประสิทธิภาพอย่างมาก ข้าเคยได้ยินว่าเขากำลังก้าวสู่อาณาจักรแก่นแท้วิญญาณ ข้าสงสัยว่ามันเป็นเรื่องจริงหรือไม่!!! “
 
 
 
พูดถึง ‘กง ลู่หยวน’ ความชื่นชมปรากฏบนใบหน้าของผู้นำพันธมิตรโลก
 
 

  
” ใช่ ข้าได้ยินว่าเขาเป็นอัจฉริยะที่ปรากฏตัวหลังจากที่ จาง เทียนอี้ หายตัวไป เขาพึ่งอายุ 20 ปี ถ้าเขาเข้าสู่อาณาจักรแก่นแท้ได้เร็วๆนี้ เขาจะเป็นคนที่มีชื่อเสียงอย่างมากในอนาคต ตำแหน่งของผู้นำของโรงเรียนต้องตกเป็นของเขาอย่างแน่นอน “
 
 
 
‘เจี้ยนเฟิงอวี้’กล่าวชื่นชมสรรเสริญ
 
 

  
” ขอโทษที่ทำให้รอ”
 
 
 
ในตอนนั้น เสียงที่ฟังดูแสนจะอบอุ่นดังออกมา นั้นคือ กลุ่มอาวุโส’ซูรู่’ ‘ซูรู่’นั้นสวมชุดแดงพร้อมกับยืนบนลาน
 
 
เมื่อ’ซูรู่’ปรากฏ คนจากพันธมิตรมหาอำนาจทั้ง 3 จึงเงียบลง พวกเขารู้ว่า แม่นาง’ซูรู่’เป็นคนสวยสดงดงามใบน่าของนาง ดั่งปีศาจจิ้งจอกแลเรือนร่างที่มีเสน่ห์ทำให้ไปยั่วยวนคนรอบข้าง แต่เธอนั้นช่างน่ากลัว ทุกๆคนต่างไม่กล้าที่จะเข้าใกล้ อย่างน้อยในฝ่ายในก็ไม่มีใครกล้าไปขัดใจนาง
 
 
หลังจากที่’ซู่รู่’ปรากฏ นางก็ได้อธิบายเรื่องกฏของการสอบและรายละเอียดต่างๆ พวกเขาพบว่าที่สาวงามอธิบาย เหมือนกับที่’ซือตู่ยู๋’ อธิบายไว้ก่อนหน้านี้ หลังจากที่จบการอธิบาย ทางเข้าก็ค่อยๆเปิดทันใดนั้น ‘ชูเฟิง’และคนอื่นๆก็พุ่งเข้าไปทันที
 
 

  
” โอ้วววววว!!!! เสียงฝูงควายวิ่ง เอ้ย คนฝูงคนวิ่ง”
 
  
” หุหุ ทักษะท่อง นภา สร้างมาเพื่อให้ข้าใช้ในการสอบครั้งนี้ ? “
 
 
 
ตอนนั้น ‘ชูเฟิง’ กวาดสายตา มองหากลไก มันมีใบมีดเหล็กยื่นออกมา หลังจากที่กลไกเริ่มทำงานเขาก็สามารถหลบมันได้อย่างง่ายดาย ตอนนั้น’ชูเฟิง’เต็มไปด้วยความสุข
 
 
* ฟู่ววววว ~ * ( เสียงลมพายุ )
 
 
จู่ๆ ลมที่รุนแรงก็หมุนขึ้นใต้ฝ่าเท้าของชูเฟิง ปลายเท้าของเขาลอยขึ้นมากับพื้นเบาๆ จากนั้นร่างของเขาก็พุ่งเข้าไปด้วยความเร็วเหมือนกับลูกศรที่ถูกปล่อยจากคันธนู เขากำลังเหยียบบนใบมีดเหล็กเหล่านั้นเพื่อเดิน ภายในพริบตาเขาก็สามารถไปไปในส่วนลึกภายในอุโมงค์ จากนั้นเข้าก็หายตัวไป
 
 
ทักษะ ท่อง นภา เป็นทักษะสุดยอดระดับ 7 เป็นทักษะติดตัว ‘ชูเฟิง’ สามารถเข้าใจแค่ขั้นที่1เท่านั้น ? แต่ความเร็วของเขานั้นเกินกว่าจินตนาการของทุกคน ถ้าเทียบกับแรงวิ่งทั่วไป บางมีแม้แต่ผู้เชี่ยวชาญระดับกำเนิดวิญญาณก็ไม่สามารถตามความเร็วของ ‘ชูเฟิง’ ได้
 ใช้ความเร็วของ ทักษะ ท่องนภา ‘ชูเฟิง’สามารถวิ่งผ่านตำหนักใต้พิภพได้อย่างรวดเร็ว ลมที่เขาใช้นั้นไม่ทำให้กลไกของมันทำงานเนื่องจากเขาไม่ได้เหยียบกับดัก ดังนั้นเขาจึงสา่มารถผ่านมันไปได้ทั้งหมด
 
 
การสอบศิษย์หลักนั้น ไม่ต่างอะไรกับการวิ่งเล่นในสนามเด็กเล่น สำหรับ’ชูเฟิง’  หลังจากช่วงเวลาสั้นๆ ‘ชูเฟิง’ก็ก้าวออกจากตำหนักใต้พิภพ ฉากที่อยู่เบื้องหน้าเขา คือ สถานที่ ที่เรียกว่า สวนพฤกษามังกรฟ้า
 
 
หญ้าสีเขียวมรกตใต้เท้าของเขาเต็มไปด้วยดอกไม้ใบหญ้าที่ดูแปลกตา ด้านหน้ามีเสียงนกน้อยบินร้องส่งเสียงอย่างไพเราะดูมีชีวิตชีวาดังขึ้นข้างๆหู ทันใดนั้น แรงลมใต้ฝ่าเท้าทำให้กลิ่นหอมรอยฟุ้งเข้าไปในจมูก รอบๆตัวเขามีแต่ นกร้องเพลง และ กลิ่นหอมของดอกไม้ เหมือนกับว่าอยู่ในสวนสวรรค์
 
 

  
” ในนี้มีโอสถวิญญาณค่อนข้างน้อง นอกจาก ลูกแก้ววิญญาณ ยาที่ระดับต่ำลงมา ไม่มีความหมายอะไรสำหรับชูเฟิงอีกต่อไป “
 
 
 
สิ่งแรกที่ ‘ชูเฟิง’ทำก็คือการแผ่พลังอำนาจวิญญาณของเขา สัมผัสกับบรรยากาศและสภาพแวดล้อมรายละเอียดภายใน เขาพบว่าสวนพฤกษานั้นกว้างใหญ่จริงๆแน่นอนว่าเค้าพบยาต่างๆที่ขึ้นอยู่ในนั้น
 
 
แต่’ชูเฟิง’ ไม่ได้ไปเก็บพวกมันแต่อย่างใด เขาเดินเข้าไปในส่วนลึกของสวนพฤกษา นอกจากลูกแก้ววิญญาณ ชูเฟิงก็ไม่ได้สนใจพืชรักษาโรค หรือ ยาเพิ่มพลังวิญญาณอื่นๆ สิ่งเดียวที่เขาตามหาคือ ดอกไม้ 7 สี
 
 

  
” อาวุโสซูรู่ ทำไมชูเฟิง ยังไม่โผล่หัวออกมาอีก หรือว่าเขายกเลิกการสอบครั้งนี้ ? “
 
 
 
ภายในห้องตรวจสอบในตำหนักใต้พิภพ ซู่รู่และอาวุโสต่างๆมารวมตัวกันอยู่ที่นี่ ( มันผ่านจนจะกลับอยู่และ )
 
 
ในนั้น พวกเขาไม่สามารถมองเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ภายในอุโมงค์ แต่พวกเขาสามารถสำผัสได้ที่การเปลี่ยนแปลงของกลไก ตั้งแต่การสอบเริ่มขึ้น แต่ในอุโมงค์ที่ชูเฟิงไป กลไกของมันไม่เคยทำงานเลยสักครั้ง ทำให้อาวุโสต่างๆรู้สึกสับสน
 
 

  
” ข้าจะตามไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น “
 
 
 
‘ซูรู่’นางมีความประทับใจ ต่อ ‘ชูเฟิง’ ขมวดคิ้วลงเล็กน้อย นางผลักประตูเปิดและก้าวออกมา พวกอาวุโสคนอื่นๆ ก็รีบตามนางไป
 
 
แต่เมื่อเข้าเปิดอุโมงค์ของ ‘ชูเฟิง’ ทุกคนก็ต่างตกใจ เมื่อพวกเขาพบว่า กลไกในอุโมงค์ไม่ได้ได้ถูก ชูเฟิง แตะต้องเลยสักอัน
 
 
ซึ่งฉากนี้ เกือบจะทุกคนสามารถเดาได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น หลังจากนั้นเขาก็พยายามทบทวนความเข้าใจทักษะต่างๆที่สามารถทำให้เขาผ่าน ตำหนักใต้พิภพโดยที่ไม่แตะต้องกลไก
 
 
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นนั้น ต้องมีระดับอย่างน้อยในอาณาจักรกำเนิดวิญญาณ ยังไงก็ต่ามชูเฟิงอยู่แค่ ระดับ 7 ห้วงวิญญาณ ดังนั้น เมื่อเห็นเหตุการณ์เช่นนี้ของชูเฟิง แน่นอนว่าพวกเขานั้นตกตะลึง
 
 

  
” ชายหนุ่มคนนี้ช่างสุดยอดจริงๆ เหมือนกับชายคนนั้น “
 
 
 
ด้วยความประหลาดใจ ‘ซูรู่’ค่อยๆปิดตาของนาง
 
 
จู่ๆนางก็นึกไปถึงอัจฉริยะ เมื่อหลายปีก่อน ผู้ก่อตั้งพันธมิตรปีก ที่ทำลายพื้นที่หลัก เข้าถึงอาณาจักรแก่นแท้วิญญาณตั้งแต่อายุ 16 และเป็น #1 ศิษย์ในโรงเรียนมังกรฟ้า ‘ชูเฟิง’ในวันนี้ช่างเหมือนกับเขาจริงๆ
 
 
ในสายตาของ’ซูรู่’เท่านั้น ถึงจะเรียกคนอย่างพวกเขาว่าอัจริยะได้อย่างเต็มปาก
 
 

  
 
 
 

 /////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////
 
 
 
 
 

 โปรดติดตามตอนต่อไป . . . . .  .
 
 
 
 

 ที่มา: