ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป‘ชูหยวน’อธิบายฉากที่เกิดขึ้นในตอนนั้น อย่างละเอียด ใบหน้าของเขายังคงตะลึงเมื่อพูดถึง เพราะเขายังจำมันได้ติดตา
‘ชูเฟิง’ เห็นภาพที่เกิดขึ้นขณะที่’ชูหยวน’เล่า เขาคงจะฝังใจกับเหตุการณ์วันนั้น ไม่เคยลืม
เห็น’ชูหยวน’มีท่าทีเช่นนั้น ‘ชูเฟิง’ก็คิดอย่างถี่ถ้วน ว่าสิ่งที่’ชูหยวน’กล่าวล้วนแล้วแต่เป็นความจริง ชายสติไม่ดีคนนั้นคงจะเป็นบ้าจริงๆ ไม่เช่นนั้นเขาคงไม่พูดคนเดียว
แต่ใครจะรู้ว่าสิ่งที่ชายสติไม่ดีพูดคือการมอบ’ชูเฟิง’ ให้กับ ‘ชูหยวน’ ดูเหมือนว่าเขาถูกใครบางคนบังคับให้เขาทำ เขากลัวคนๆนั้นเป็นอย่างมาก และอีกคนที่เขากลัวก็คือ ‘ชูเฟิง’
ด้วยความแข็งแกร่งของชายสติไม่ดีที่เยี่ยมยุทธขนาดนั้น แล้วใครกันสามารถบังคับคนเช่นเขาให้ทำตามคำสั่งและยังทำให้เขารู้สึกหวาดกลัวได้ถึงเพียงนี้ เขาคนนั้นแข็งแกร่งขนาดไหนกัน ?
” ข้ามาจากที่ไหนกันแน่ บิดา มารดา ข้าคือใครกันทำไมพวกเขาถึงต้องฝากข้าไว้กับคนอื่น ???” ภายในหัวใจ ของชูเฟิง เต็มไปด้วยคำถามมากมาย เขารู้เพียงว่า ตัวของเขานั้นพิเศษต่างจากคนทั่วไป แต่มันต้องมีอะไรที่มากกว่านั้นแน่ “
” ท่านพ่อ แล้วชายคนนั้นได้พูดอะไรกับท่านอีกมั้ย ? “
‘ชูเฟิง’เข้าไปถามใกล้ๆ
” เขานั้นไม่พูดอะไรต่อ จู่ๆเขาก็หายตัวไป ถ้าหากข้าทิ้งเจ้าไว้ ข้าสงสัยว่าเขาจะปรากฏตัวออกมามั้ย แต่เรื่องที่ข้าเล่าล้วนแล้วแต่สัจจริง “
” ตอนนั้นข้าก็พาเจ้ากลับตะกูล ชู เพราะเนื่องจากสินค้าถูกเผาวอดวายคนรับใช้ทั้งหมดก็ถูกฆ่าตาย แต่ข้าไม่ได้บอกความจริงพวกเขา ที่ข้านำเจ้ามาเลี้ยงดู”
” แต่หลังจากที่พวกเขารู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ทุกคนในตะกูล ต่างไม่ให้ข้าเลี้ยงดูเจ้า เพราะคิดว่าเจ้าคือตัวโชคร้าย “
“แต่วันนี้ ไม่เหมือนกับเมื่อก่อนแล้ว ข้าไม่เชื่อว่าใครจะคิดว่าเจ้านั้นเป็นตัวโชคร้ายเพราะเจ้าได้ช่วยชีวิตตะกูล ชู ไว้ทั้งหมด หากพวกเขายังคิดเช่นนั้น ข้ากลัวว่าจะ . . . . . . “
หลังจากที่พูดด้วยความกังวลอยู่นาน ‘ชูหยวน’ ก็เริ่มหวาดกลัว
ชายสติไม่ดีคนนั้น ช่างแสนจะน่ากลัว หากเขาได้ยินสิ่งที่เขาบอกกับ ‘ชูเฟิง’ ‘ชูหยวน’นั้นก็จะตกอยู่ในอันตราย ยังไงก็ตามเมื่อเขาเห็นว่า ‘ชูเฟิง’ อยากรู้จริงๆ เขาจึงไม่อาจทนปกปิด ‘ชูเฟิง’ เอาไว้ได้
บัดนี้ เขาเริ่มรู้ความเป็นมาของตัวตนของเขาแล้ว ความสามารถที่แสนจะน่ากลัวมีติดตัวเขามาตั้งแต่เกิด อีกทั้งบรรพชนของเขาก็เต็มไปด้วยกลิ่้นไอของบุคคลในตำนาน
” ท่านพ่อไม่ต้องกังวลไป ข้ารู้ว่าหากเป็นใคร ก็คงจะหวาดกลัว และสับสน เช่นกัน ข้าคิดว่า เขาคงลืมไปแล้วว่าเขาฝากข้าไว้กับท่าน ดังนั้นท่านอย่าได้เอามันมาใส่ใจ “
” อีกอย่างถ้าหากเขามาจริงๆ ท่านก็ยังคงมีข้า และข้าจะไม่ยอมให้เขาทำร้ายท่านได้เด็ดขาด “
‘ชูเฟิง’ย้อนนึกกลับไปที่เหตุการณ์เมืองโบราณ เขารู้สึกว่าที่คนคนนั้นเป็นบ้า เป็นเพราะ ‘ชูเฟิง’ ไปถามสิ่งที่ไม่ควรถามกับเขา เกี่ยวกับตัวตนของเขา และบิดา มารดา
ยังไงก็ตาม ‘ชูเฟิง’ ได้ตั้งคำถามอยู่เต็มในหัวมันทำให้เขาสับสนเป็นอย่างมาก เพราะคำถามเหล่านั้นเขาต้องการคำตอบ
เขานั้นเป็นใครมาจากไหน ใครเป็น บิดา มารดาของเขา แต่คำถามที่อยากรู้มากที่สุดก็คือ ทำไมพ่อแม่แท้ๆถึงยอมฝากฝังเขาไว้กับคนอื่น
” โอ้ว งั้นข้าก็สบายใจ แต่ ลูกเฟิง ไม่ว่าวันข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้น เจ้าก็เป็นความภูมิใจของข้าเสมอ “
” ข้ารู้ว่าเจ้านั้นไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับข้าทางสายเลือด แต่ข้าก็พยายามทำหน้าที่แทนพ่อแม่แท้ๆของเจ้า ในใจข้าเจ้านั้นเปรียบเสมือนลูกชายแท้ๆของข้า “
จู่ๆ ‘ชูหยวน’ก็พูดออกมาราวกับว่าเขาผ่านความเป็นความตายมาก็ไม่ปาน เขาภูมิใจอย่างมากทีได้ ‘ชูเฟิง’ มาเป็นลูกชาย
” ท่านพ่อ อย่ากล่าวเช่นนั้นเลย ถ้าไม่ใช่เพราะท่าน ข้าคงจะอดตายตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว ท่านดูแลข้าอย่างดีมาจนถึงทุกวันนี้ ไม่ว่าคนอื่นจะพูดอะไรยังไง ท่านก็สมควรถูกเรียกว่า เป็นพ่อที่ดีของข้า “
คำพูดของ ‘ชูเฟิง’ ออกมาจากหัวใจของเขา ถ้าไม่ใช่เพราะ ‘ชูหยวน’ พาเขามาเลี้ยงดูเขาคงตกอยู่ในความลำบาก ถ้าหากเขายังอยู่กับชายสติไม่ดีคนนั้น บางทีเขาอาจจะตายด้วยความสะเพร่า
ดังนั้น ‘ชูเฟิง’ รู้สึกทราบซึ้งในพระคุณและรัก ‘ชูหยวน’ เป็นอย่างมาก แต่เขาก็ยังอยากจะรู้อยู่ดีว่าใครคือ พ่อ แม่ ที่ให้กำเนิดเขามา
ความรู้สึกที่สะสมมานานนับสิบปี ‘ชูเฟิง’รู้สึกว่า’ชูหยวน’นั้นเปรียบเสมือนพ่อแม่แท้ๆของเขา เพราะจนถึงตอนนี้ คนที่ให้ความรักความอบอุ่น ก็มีเขาและคนอื่นๆอีกไม่กี่คน คนที่ทำให้เขารู้สึกเช่นนี้ได้ไม่มีใครแล้วนอกจาก ‘ชูหยวน’
ยังไงก็ตาม ‘ชูเฟิง’ คงไม่โทษพ่อแม่แท้ๆของเขาที่ทิ้งเขาไป เขารู้สึกว่า มันน่าจะมีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นหรือไม่ก็พบกับภัยคุกคาม ไม่เช่นนั้นพวกเขาคงไม่ยอมมอบลูกแท้ๆให้กับคนอื่นไปดูแล
‘ชูหยวน’ ตอนนั้นไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้ เนื่องจากอารมณ์ที่ตื้นตัน ทำให้น้ำในดวงตาเขาไหลออกมา จากนั้นเขาก็เข้าไปกอดลูกชายเอาไว้
เขารู้สึกว่าตลอดหลายปีที่ผ่านมา ในฐานะพ่อ เขาทำหน้าที่ได้เป็นอย่างดี แน่นอนว่ามันทำให้หลายๆคนไม่พอใจ นอกจากนั้น ถ้าหากเขาไม่ได้พบคนสติไม่ดีคนนั้น บางทีเขาอาจจะไม่ได้ดูแล ‘ชูเฟิง’ อยู่ในตอนนี้
” ท่านพ่อ ข้ามีของจะมอบให้ท่าน “
‘ชูเฟิง’หยิบลูกแก้ววิญญาณออกมาจาก ถุงจักรวาล จำนวนนับร้อย และยื่นให้กับชูหยวน
” ลูกเฟิง มันมีค่ามากเกินไป ข้ารับมันไว้ไม่ได้หรอก “
เห็นแสงวูบวาบของลูกแก้ววิญญาณจำนวนนับร้อย ‘ชูหยวน’ ตกใจอย่างมาก เขาถึงกับตาค้างปากค้างขณะที่ตะลึง แม้เขาจะรู้ว่า ‘ชูเฟิง’ มีถุงจักรวาล แต่เขาไม่เคยนึกเลยว่า’ชูเฟิง’จะมีลูกแก้ววิญญาณอยู่มากมายขนาดนี้
ลูกแก้ววิญญาณเป็นที่รู้กันว่า สามารถเพิ่มพลังได้อย่างมากมายมหาศาล แต่’ชูเฟิง’ก็ทำอะไรให้กับตะกูลมากพอแล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่อยากที่จะรับมันไว้
” ลูกเฟิง ตอนนี้ เจ้าจำเป็นที่จะต้องฝึกฝน เพื่อเพิ่มความสามารถของเจ้า ลูกแก้ววิญญาณเหล่านี้มันสามารถช่วยทำให้เจ้าทะลวงเข้าสู่อาณาจักรกำเนิดวิญญาณได้ ดังนั้นเจ้ากับไว้เถอะ “
‘ชูหยวน’พยายามหาทางหลีกเลี่ยงที่จะรับ
‘ชูเฟิง’ ยิ้มเบาๆและกล่าว
” ท่านพ่อ ข้ายังมีลูกแก้ววิญญาณอยู่อีกมากมาย ข้าอยู่ที่นี้อีกเพียง สองวัน ดังนั้นท่านจำเป็นจะต้องแข็งแกร่งขึ้นหลังจากที่ข้าส่งจดหมายเทียบเชิญ ไม่งั้นหากเกิดความขัดแย้ง ท่านจะรับมือพวกเขาไหวได้อย่างไร “
” ท่านปู่ก็บาดเจ็บหนัก ในระหว่างนั้นภาระทั้งหมดท่านจะต้องเป็นคนแบกรับ ดังนั้น ท่านจำเป็นจะต้องทะลวงผ่านอาณาจักรกำเนิดวิญญาณให้ได้ภายในอีก 2 วัน ไม่งั้นพวกเขาคงยากที่จะยอมสวามิภักดิ์”
” ทะลวงสู่อาณาจักรกำเนิดวิญญาณภายใน 2 วัน “
หัวใจของ’ชูหยวน’ก็ถูกบีบแน่น เหมือนอยากพูดออกมาว่าเขาต้องการจะเข้าสู่ระดับกำเนิดวิญญาณ และลูกแก้ววิญญาณในมือของ ‘ชูเฟิง’ บางทีเขาอาจจะทำสำเร็จจริงๆก็ได้
” ท่านพ่อ รับไป!!! “
หลังจากที่’ชูเฟิง’บังคับ’ชูหยวน’สำเร็จ ‘ชูเฟิง’ก็ช่วยเค้าปรับแต่งลูกแก้ววิญญาณ เพื่อให้เขาได้รับพลังวิญญาณมหาศาลจากลูกแก้วเพื่อทะลวงผ่านอาณาจักรกำเนิดวิญญาณที่เขาใฝ่หา
การไม่ปรับแต่งแล้วกลืนมันไปโดยตรงหากเป็นคนธรรมดาไม่อาจจะสามารถทนรับพลังของมันไหวจึงไม่สามารถใช้มันได้อย่างต่อเนื่อง หากฝืนใช้ก็จะรับได้ผลกระทบที่ตามมา
ณ พื้นที่หลักของโรงเรียนมังกรฟ้า
‘เล้ง วู่ซุย’ ยืนอยู่ในมุมมืดของตำหนักใต้พิภพ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความโกรธ ขณะที่’หลิวปิง’ยืนอยู่ใกล้ๆพร้อมกับความกลัว
เห็นท่าทางของ’หลิวปิง’ ‘เล้ง วู่ซุย’ ขมวดคิ้วลงและถามอย่างจริงจัง
” เจ้ากำลังบอกว่ามีคนมาช่วย ชูเฟิง ไว้งั้นหรอ ฟังจากที่เจ้าพูดอย่างน้อยเขาคงอยู่อาณาจักรแก่นแท้วิญญาณสินะ ? “
โปรดติดตามตอนต่อไป . . . . . . . . . .
ที่มา: