I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Martial God Asura ตอนที่ 117 – ที่นี่คือสุสานปีศาจ

| Martial God Asura | 2540 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
                

” มันจะไม่เป็นการทำลายร่างของนางใช่มั๊ย ? “

‘ชูเฟิง’ ถามด้วยความสงสัย ตั้งแต่เขาดูดกลืนแหล่งพลังวิญญาณจากกองกระดูกเขาก็รู้ว่ามันไม่ได้ไปทำลายกระดูกเหล่านั้น

แต่อย่างใด แต่ที่เขากังวัลก็คือ หลังจากที่ดูดกลืนแล้วจิตของพวกนั้นจะไปอยู่ที่ใด

‘ชูเฟิง’จะไม่ลังเลหากเป็นคนแปลกหน้า . . . . . แต่นี้ที่นางกล่าวมาก็สมเหตุสมผล

เพราะถ้าหากเขาไม่ทำ ผู้เชื่อมต่อโลกวิญญาณ คนอื่นๆ ก็คงจะทำ

แต่นี้นางอาจจะเป็นมารดาของ’ซูรู่’และ’ซูเหม่ย’เป็นธรรมดาที่เขาจะลังเล

” มันไม่ได้เป็นการทำร้ายนางแน่นะ “

‘ชูเฟิง’ถามย้ำเพื่อความแน่ใจ ด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง และเขาก็ยังรู้ว่าที่นี้ไม่ใช่สุสานของนางอย่างแน่นอน

หากคิดดีๆนางคงจะเข้ามาในสถานที่แห่งนี้และถูกฆ่าด้วยสาเหตุอะไรบางอย่าง

” หากเจ้าดูดกลืนแหล่งพลังวิญญาณของนางบางทีเราสามารถช่วยเจ้าหาสาเหตุที่นางตายได้นะ เราแน่ใจว่าสหายของเจ้าสองคนนั้น ต้องอยากรู้ว่ามารดาของพวกนางตายยังไง ? “

‘เทพธิดา’มีไหวพริบที่เฉียบแหลม ไม่ใช่แค่’ชูเฟิง’เท่านั้นที่อยากรู้ นางยังใช้’ซููรู่’และ’ซูเหม่ย’มาเป็นข้ออ้าง

” อืม . . . . . ก็ได้ข้าจะเชื่อท่าน “

‘ชูเฟิง’พยักหน้า พร้อมกับคิดว่า หากได้พบสถานที่ลึกลับต่างๆเป็นไปได้ว่า

เขาอาจได้พบขุมทรัพย์ขนาดใหญ่ ถ้าที่นั้นมีร่างของผู้เชี่ยวชาญอาณาจักรวิญญาณสวรรค์

แล้วเขาดูดกลืนแหล่งพลังวิญญาณเข้าไป นางก็จะสามารถเข้าสู่อาณาจักรแก่นแท้วิญญาณได้

นี่นับว่าเป็นโอกาสดีที่สวรรค์ประทานมาให้ อย่างน้อยๆเขาก็สามารถเอาชนะ ‘กง ลู่หยุน’ ได้

แม้ว่าวิธีการของเขาจะโกงไปหน่อยก็ตาม

” ตาเถน ! “

ขณะที่’ชูเฟิง’กำลังเดินเขามาใกล้ๆร่างของนาง ผู้หญิงคนนั้นกระโดดพุ่งเข้ามา’ชูเฟิง’

พร้อมกับร้องโหยหวนออกมาจากปาก มันดูน่ากลัวเป็นอย่างมาก

อ่อร่าของนางดูพิเศษมาก แต่มันกับแปลกๆ เขารู้ว่ามันแข็งแกร่ง

ซึ่งอาจเทียบเท่ากับผู้เชี่ยวชาญอาณาจักรกำเนิดวิญญาณระดับ 5 ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่ ‘ชูเฟิง’ สามารถต่อกรได้

* เปรี้ยงง *

จิตใต้สำนึกเขารู้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ เขาจึงใช้ ทักษะท่องนภา ขั้นที่ 2 รูปแบบสายฟ้า กระโดดถอยหลัง

* บู้มม *

นางฟาดการโจมตีลงมาผ่าอากาศอย่างรุนแรงลงบนพื้น แม้ว่าถ้ำนี้จะเป็นหิน

มันยังแตกเป็นหลุมลึกเกือบครึ่งเมตรพร้อมกับเศษหินที่กระจายออกมา

“ไหนว่านางทำร้ายใครไม่ได้ไง “

* ฟรึบบ !!! *

หลังจากที่เขาหลบได้ นางก็ยังพุ่งเข้ามาทำร้ายเขาอีก คราวนี้ความเร็วของนางเพิ่มขึ้นกว่าเดิม

ภายในพริบตานางก็โผล่มาด้านหน้าของเขา

” อย่าตกใจ รีบใช้รูปแบบอำนาจพลังวิญญาณนี้ซะ!!! “

เสียง’เทพธิดา’ดังขึ้นมาอีกครั้ง ในเวลาเดียวกันความรู้สึกที่ร้อนผ่าว

ก็ถูกส่งผ่านมายังร่างกายของ ‘ชูเฟิง’ มันเป็นคลื่นพลังวิญญาณที่แข็งแกร่งเป็นอย่างมาก

กลุ่มไอน้ำพวยพุ่งออกมารอบๆตัวของเขา ในทันที ‘ชูเฟิง’ ก็เข้าสู่ระดับ 9 ห้วงวิญญาณ

‘ชูเฟิง’คิดว่า การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้เป็นพลังวิญญาณของนางไม่ใช่ของเขา

ที่เขาแข็งแกร่งขึ้นมาเป็นเพราะนางสลับพลังวิญญาณกับตัวเขา

* พรึบ *

‘ชูเฟิง’สามารถเชื่อมต่อกับรูปแบบอำนาจพลังวิญญาณ โดยใช้เพียงแค่ความคิด

รูปแบบต่างๆหลั่งไหลเข้ามาภายในหัวของชูเฟิง จากนั้นเขาก็สร้างรูปแบบป้องกัน

เป็นกำแพงที่มองไม่เห็นไว้ด้านหน้าของเขา

* ปั้งงงง *

ขณะที่ผู้หญิงคนนั้นโจมตีเข้ามาชนกับกำแพง ก็เกิดเสียง ระเบิด ดังขึ้นมา

รอยร้าววงกว้างปรากฏขึ้น ในเวลาเดียวกันนางก็ร้องโหยหวนและลอยกลับไป

เมื่อนางโจมตีใส่ ‘ชูเฟิง’ นางก็พบกับกำแพงที่ถูกสร้างด้วยรูปแบบอำนาจพลังวิญญาณ

ใบหน้าของนางขณะนั้นเต็มไปด้วยความหวาดกลัว

” แข็งแกร่ง!!! “

‘ชูเฟิง’ ค่อนข้างที่จะตกใจ รูปแบบการป้องกันของอำนาจพลังวิญญาณ

ขนาดนี้เป็นแค่รูปแบบพื้นฐานเพียงรูปแบบหนึ่งเท่านั้น

ยังสามารถป้องกันการโจมตีของผู้เชี่ยวชาญอาณาจักรกำเนิดวิญญาณระดับ 5 ได้

หากวันข้างหน้า เขาสามารถใช้มันได้อย่างชำนาญ แม้ว่าศัตรูจะแข็งแกร่งแค่ไหนเขาก็สามารถป้องกันเอาไว้ได้

” ใช้รูปแบบอำนาจพลังวิญญาณผนึกนางไว้ซะ ตอนนี้นางไม่มีจิตสำนึก นางเลยไม่รู้ตัวว่ากำลังทำอะไร แต่ด้วยรูปอำนาจพลังวิญญาณจะสามารถควบคุมนางเอาไว้ได้ ตอนนี้นางไม่มีพลังพอที่จะทำลายการป้องกันนางจึงไม่กล้าเข้ามาใกล้ “

‘เทพธิดา’เตือน

‘ชูเฟิง’ไม่ลังเลแม้แต่น้อย เขาใช้ความคิดควบคุมรูปแบบอำนาจพลังวิญญาณสร้างกำแพงป้องกันชั้นแล้วชั้นเล่า

เพื่อผนึกนางเอาไว้ ‘ชูเฟิ’ง จะหยุดก็ต่อเมื่อเขารู้สึกว่าอำนาจพลังวิญญาณของเขาใกล้จะหมด

แหล่งพลังวิญญาณและอำนาจพลังวิญญาณจะมีอยู่เท่าๆกัน ถ้าเป็นผู้เชื่อมต่อโลกวิญญาณ

ที่ชำนาญ เขาก็จะสามารถใช้งานให้มันเกิดประโยชน์ให้ได้มากที่สุด

ดังนั้นเมื่อเขาระดมใช้มันไปเรื่อยๆเช่นนี้ เป็นธรรมดาที่อำนาจพลังวิญญาณของเขาใกล้จะหมด

แล้วร่างของเขาก็จะถึงขีดจำกัด ต้องพักจนกว่ามันจะฟื้นขึ้นมาใหม่

” เร็วเข้า รีบดูดกลืนแหล่งพลังวิญญาณ “

‘เทพธิดา’ ส่งเสียงเชียร์ในเวลาเดียวกัน ‘ชูเฟิง’ ก็สามารถดูดกลืนแหล่งพลังวิญญาณจากผู้หญิงคนนั้นมาได้

ในตอนนี้เขาได้สลับพลังวิญญาณกับนาง เมื่อ’ชูเฟิง’ดูดกลืนแหล่งพลังวิญญาณเข้ามา

เขาจึงรู้สึกมันได้อย่างชัดเจนจากนั้นไม่นาน ออร่าภายในร่างกายของเขาก็เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงบางอย่าง

มันไม่ใช่แค่อำนาจพลังวิญญาณเท่านั้นที่เพิ่มขึ้น นางยังสามารถเข้าสู่อาณาจักรกำเนิดวิญญาณได้อีก

” ฮ่า ฮ่า สำเร็จแล้ว ! ! ! “

‘เทพธิดา’หัวเราะอย่างมีความสุข พร้อมกระโดดโลดเต้นภายในโลกวิญญาณของชูเฟิง

หากมองเห็นนางในตอนนั้น คงจะน่ารักเป็นอย่างมากในเวลาเดียวกัน

‘ชูเฟิง’ ก็พบว่าผู้หญิงคนนั้นที่ดูโปร่งใสในตอนแรก หลังจากที่ดูดกลินแหล่งพลังวิญญาณนางก็หายตัวไปอย่างรวดเร็ว

” บ้าจริง!!! ท่านโกหกข้า!!! “

‘ชูเฟิง’ก็เข้าใจได้ทันทีว่านางหลอก จริงๆแล้วมันก็ไม่ได้เป็นการทำลายร่างแต่อย่างใด

แต่หลังจากที่ดูดกลืนแหล่งพลังวิญญาณจิตสำนึกของนางก็ได้หายไปอย่างสมบูรณ์

” ไม่ใช่ความผิดเราสักหน่อย แม้ว่าเราจะไม่ดูดกลืนแหล่งพลังวิญญาณของนางยังไงนางก็ต้องหายไปอยู่ดี แต่นี่เจ้ากับต่อว่าเรา คนที่ช่วยเจ้าได้เป็นเรานะ ไม่ใช่นางสักหน่อย “

‘เทพธิดา’ไม่เพียงแต่จะปฏิเสธความผิดนางยังไม่สำนึกเลยแม้แต่น้อย

” ช่างเถอะยังไงมันก็เกิดขึ้นแล้ว ข้าขี้เกียจเถียงกับท่าน แต่ข้าไม่อยากให้มีเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นอีกเป็นครั้งที่สอง แน่นอนว่าข้าต้องการพลังของท่าน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าข้าจะยอมท่านไปซะทุกเรื่อง “

‘ชูเฟิง’ รู้สึกโกรธนางจริงๆ เขารู้สึกว่าเขาทำผิดต่อมารดาของ’ซูรู่’และ’ซูเหม่ย’ ที่นางหายตัวไปก็เป็นเพราะตัวของเขา

” ก็ได้ เราเข้าใจแล้ว เราจะไม่หลอกเจ้าอีก งั้นเราจะบอกความลับให้เจ้าฟัง “

เทพธิดายิ้มทำเสียงทะเล้น

” ความลับอะไร ? “

” เราแน่ใจว่าแม่ของสองพี่น้องนั้นถูกฆ่าโดยใครบางคน เพราะดูจากสภาพของนาง เป็นไปไม่ได้ที่นางจะไม่มีสมบัติ ดูที่ตัวของนางสิ บนเสื้อผ้าของนางจริงๆแล้วน่าจะมีถุงจักรวาลอยู่ ตรงกระดูกหน้าอกของนางก็แตกออกเป็นเสี่ยงๆ เห็นได้ชัดว่าเกิดจากฝีมือคนที่แข็งแกร่ง “

” แน่นอนว่าข้าก็คิดเช่นนั้น แต่ปัญหาก็คือใครเป็นคนฆ่านางและเอาถุงจักรวาลไป “

‘ชูเฟิง’อยากจะช่วย’ซูรู่’และ’ซูเหม่ย’ตามหาฆาตกรที่ฆ่ามารดาของนางให้เจอ

ไม่เพียงแค่ร่างของผู้หญิงคนนั้นจะไม่มีถุงจักรวาล เขายังไม่พบสมบัติอะไรอื่นๆนอกจากกองดูกเหล่านั้นเลยนั้นก็หมายความว่ามีใครบางคนนำไปออกไปหมดแล้ว ดังนั้น ‘ชูเฟิง’ อยากจะรู้จริงๆว่าคนๆนั้นเป็นใคร และที่สำคัญ เขายังมีชีวิตอยู่หรือไม่

” เราจะไปรู้ได้ยังไง เราไม่เคยเห็นหน้ามันมาก่อน แต่เราแน่ใจว่าเป็นฝีมือของมนุษย์ไม่ผิดแน่ “

” ยัยเด็กบ้า!!! “

‘ชูเฟิง’รู้สึกโมโหที่ถูกนางหลอกแล้วหลอกอีก

” ไม่ต้องโมโหไป ถ้าเราจำไม่ผิด นอกจากคนที่ฆ่ามารดาของพวกนางยังมีสิ่งน่ากลัวยิ่งกว่านั้นรออยู่อีก จริงๆแล้วที่นี่อาจไม่ใช่แค่สุสานโบราณ แต่ที่นี่คือ สุสานปีศาจ “

 

โปรดติดตามตอนต่อไป . . . . . . . . .

ที่มา:

ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
comments