I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Martial God Asura ตอนที่ 155 – ความลับของพื้นที่ต้องห้าม

| Martial God Asura | 2540 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
                

* หืมม  *

ทันใดนั้น แสงสีเทา ก็ค่อยๆส่องออกมาจากภายในส่วนโลกอุโมงค์ด้านหนึ่ง แสงสีเทามันดูแปลกมาก มันก็คือรูปแบบอำนาจพลังวิญญาณ

” บ้าที่สุด . . . .  คนๆนี้คือผู้เชื่อมต่อโลกวิญญาณ ชุดเทา . .. “

หลังจากที่เห็นแสงประหลาดนั่น เทพธิดาถึงกับเครียด

”  ผู้เชื่อมต่อโลกวิญญาณ ชุดเทา ? “

‘ชูเฟิง’ ค่อนข้าง งง แต่เทพธิดากับพูดขึ้นมาด้วยความตื่นตระหนก เขารู้สึกว่าคนๆนี้อาจจะไม่ธรรมดา

” ชูเฟิง เจ้าไม่ควรประมาท ครั้งนี้ ผู้เชื่อมต่อโลกวิญญาณแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก มากกว่าแขกอาวุโสจากสำนักมังกรฟ้า จูเก่อ หลิวหยุน “

เทพธิดากล่าวอย่างเคร้งขรึม

” อะไรนะ แข็งแกร่งกว่าท่าน จูเกอ หลิวหยุน งั้นหรอ “

‘ชูเฟิง’ถึงกับตกใจ

” ถูกต้อง ผู้เชื่อมต่อโลกวิญญาณ พวกเขามีการแบ่งอำนาจพลังวิญญาณเป็นระดับแตกต่างกันออกไป ได้แก่ ชุดคลุมสีขาว ชุดคลุมสีเทา ชุดคลุมสีฟ้า ชุดคลุมสีม่วง และ ชุดคลุมสีทอง “

” เห็นได้ชัดว่า สำนักมังกรฟ้าของเจ้า จูเก่อ หลิวหยุน เป็นผู้เชื่อมต่อโลกวิญญาณ ชุดขาว ส่วนพวกที่สวมชุดคลุมสีขาวนั่นหมายถึงขึ้นพัฒนาหรือพึ่งเริ่มต้นเรียนรู้การเป็นผู้เชื่อมต่อโลกวิญญาณ ถ้าจะให้พูดล่ะก็ เจ้าก็ยังเป็นแค่ผู้เชื่อมต่อโลกวิญญาณ ชุดขาว “

” ส่วนแสงที่เจิดจ้าในตอนนี้เห็นได้อย่างชัดเจน หากเขาเป็นแค่ขึ้นเริ่มพัฒนา คงไม่มีแสงสีแบบนี้ นั้นหมายความว่า ตอนนี้เขาใช้อำนาจพลังวิญญาณก่อตัวเพื่อทำอะไรบางอย่าง “

” คนๆนั้นค่อนข้างที่จะร้ายกาจ เขาเข้าใจสถานที่นี้มากกว่าเจ้า และเป้าหมายของเขาต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน เราคิดว่าเขากำลังพยายามค้นหาสมบัติของ มู่หรง เสียวเหยา ที่ซ่อนไว้  “

” ถ้าเดาไม่ผิด เขาคงจะต้องการหาแหล่งพลังวิญญาณ ของ มู่หรง เสียวเหยา หรือพลังที่มากกว่า ดังนั่นเราคิดว่า “

เทพธิดากล่าว

” คิดว่าอะไร ? “

‘ชูเฟิง’รีบถาม

” ความสามารถของรูปแบบอำนาจพลังวิญญาณของเขามีมากกว่าเจ้า และเขายังสามารถรู้วิธีหาสมบิติที่เจ้าทำไม่ได้ อีกทั้งยังเป็น ผู้เชื่อมต่อโลกวิญญาณชุดเทา ไม่ต้องสงสัยว่าเขาคงทำสัญญากับโลกวิญญาณเรียบร้อย ความแข็งแกร่งของเขาคงไม่ธรรมดา ดังนั้น อย่าได้ประมาท “

” ตอนนี้ เจ้าไปซ่อนอยู่ในโลง รอเขาเข้าไปอุโมงค์อื่นๆแล้วค่อยออกมา พร้อมกับคอยวางกับดักที่สามารถยับยั้งพลังของเขา “

” หลังจากที่เขาพบสมบัติ เขาจะออกมาดูดกลืนแหล้งพลังวิญญาณของ มู่หรง เสียวเหยา ในตอนนั้น เจ้าก็ลอบโจมตีเขาและแย่งเอาทุกอย่างที่เขาหามาได้ “

เทพธิดาวางแผนอย่างชั่วร้าย

” ดี  . . . . . นั่งรออยู่ใกล้ต้นไม้ ระหว่างที่กระต่ายออกอาหาร สินะ ? “

หลังจากได้ยินแผนของนาง ‘ชูเฟิง’ก็พยักหน้าเห็นด้วย มีนิทานสุภาษิตเกี่ยวกับกระต่ายเรื่องหนึ่ง เล่าว่า

มีชาวนาคนหนึ่งออกไปทำนา ในที่นาของเขามีต้นไม้ใหญ่อยู่ต้นหนึ่ง กระต่ายน้อยตัวหนึ่งวิ่งมาด้วยความเร็วจนชนต้นไม้ตาย ชาวนาเห็นเค้าก็ร้องด้วยความดีใจที่ได้กระต่ายไว้ทำอาหารโดยไม่ต้องออกแรงตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา ชาวนาจะมานั่งใต้ต้นไม้เพื่อรอให้กระต่ายวิ่งมาชนต้นไม้อีก

ต่อมาจึงกลายเป็นสุภาษิตว่า 守株待兔 ǒ ū à ù  อุปมาว่า นั่งรอให้โชคลาภลอยมาโดยไม่ทำการใดใด

จากนั้น ‘ชูเฟิง’ ก็ใช้รูปแบบอำนาจพลังวิญญารสร้างภาพลวงตาอำพรางไว้ด้านนอกโลงศพ เมื่อมีคนมองจากด้านนอกเขาก็จะเห็น ร่างของ ‘มู่หรง เสียวเหยา’ ที่อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ แต่ความจริงมันคือของปลอม

แม้ว่า ‘ชูเฟิง’ จะลงไปในโลง เขาก็ยังมองเห็นว่าเป็น ‘มู่หรง เสียวเหยา’ขณะที่ ‘ชูเฟิง’ เตรียมการเสร็จเรียบร้อยเขาก็ทำบางอย่างกับโลงศพคริสตัล จากนั่นแสงสีเทาจากส่วนลึกภายในอุโมงค์ก็หายไป

เทพธิดาจึงรีบเตือน’ชูเฟิง’ ว่าให้รีบเข้าไปในโลง เพราะเขากำลังจะมา เมื่อได้ยินเช่นนี้ ‘ชูเฟิง’รีบกระโดดลงไปภายในโลงคริสตัล

‘ชูเฟิง’รู้สึกเครียดไม่มากก็น้อย ขณะที่นอนอยู่ภายในโลง หลังจากได้ยิน เทพธิดากล่าวว่า ในแง่ของรูปแบบอำนาจพลังวิญญาณ คนๆนั้นแกร่งกว่า ‘จูเก่อ หลิวหยุน’ ดังนั่นเขานึกไม่ออกเลยว่าพลังที่แท้จริงของเขาจะมีมากขนาดไหนแม้ว่าเทพธิดาจะเข้าสู่อาณาจักรแก่นแท้วิญญาณ

และด้วยความช่วยเหลือของนางหากต่อกรกับผู้เชี่ยวชาญ อาณาจักรแก่นแท้วิญญาณระดับ 6 ก็พอที่จะสูสี แต่หากไม่วางกับดัก ‘ชูเฟิง’ ก็ไม่มั่นใจเช่นกัน

* ตึบ ตึบ ตึบ *

ในตอนนั้น เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าเบาๆ ค่อยๆเดินเข้ามาจากที่ไกลๆ ‘ชูเฟิง’ รีบทำให้จิตผ่อนคลาย เพื่อสงบพลังวิญญาณของเขา นั่นทำเพื่อเขาคนๆนั้นมั่นใจว่าเขา อยู่ในสุสานแห่งนี้คนเดียวหลังจากที่ ‘ชูเฟิง’ เริ่มวางกับดักรอบๆโลงศพคริสตัล จำนวนมาก เขาก็สามารถสัมผัสได้ถึงการเปลี่ยนแปลงของสุสาน

แต่ภายนอกก็ดูไม่มีอะไรแปลก แต่เขาสัมผัสได้ถึงบางอย่างที่ร้ายกาจกำลังคลืบคลานเข้ามา

” บ้าเอ้ย ความรู้สึกนี้ทำให้ไม่สบายใจจริงๆ เขาคนนั้นคงไม่ได้ปลดผนึกทางเข้าสุสานจักรพรรดิ และปล่อยอสูรร้ายออกมาด้วยหรอกนะ ? “

แม้ว่า ‘ชูเฟิง’ จะอยู่ในนั้น เขาก็ไม่ได้นิ่งนอนใจเนื่องจากเขายังอยู่ในสุสาน โดยที่ไม่รู้วิธีออกไป หากอสูรร้ายโผล่หัวออกมา เขาไม่รู้จะหนีไปทางไหน และแน่นอนว่าเขาต้องพลีชีพเยี่ยงสุนัข

” ไม่ต้องกังวัล รูปแบบการก่อตัวเช่นนี้ เขาคงต้องการค้นหาบางอย่าง ดูจากสัญลักษณ์พวกนั่นก็ยังไม่หายไปแต่อย่างใด “

” ถ้าการวิเคราะห์ของเราถูกต้อง เขาคงไล่คลายผนึกที่ซ่อนสมบัติไปเลื่อยๆ เพื่อเปิดผนึกทักษะ ซึ่งเป็นความลับ ของ พื้นที่ต้องห้าม “

เทพธิดาอธิบาย

” จริงเหรอเนี่ย งั้นก็เยี่ยมไปเลยสิ “

ตอนนั้น ‘ชูเฟิง’ จู่ๆก็ตื่นเต้นขึ้นมา หลังจากได้ยินคำพูดนาง ทักษะของ ‘มู่หรง เสียวเหยา’ ที่สามารถทำให้เขากลายเป็นสุดยอดของยุคนั้น กล่าวได้ว่าเป็นไพ่ตายไว้ปลิดชีพที่แท้จริง

* เสียงดังก้องงงง *

หลังจากที่ผู้เชื่อมต่อโลกวิญญาณ ชุดเทา เข้าอุโมงค์สุดท้ายที่เหลือ สุสานทั้งหมดก็เริ่มดังก้องเหมือนมีบางอย่างที่แข็งแกร่งกำลังออกมา มันช่างแตกต่างจากเสียงที่ได้ยินออกมาจากตอนที่อยู่หน้าเส้นชีวิต

” เกือบจะเสร็จหมดแล้ว ที่เราคาดเดาของเรานั้นไม่ผิดอย่างแน่นอน ว่าเขาต้องคลายผนึกที่ซ่อนสมบัติ ถ้ามันไม่ใช่ความลับของพื้นที่ต้องห้าม หรือไม่มีทักษะที่ร้ายกาจ มันคงไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ “

เทพธิดากล่าวอย่างตื่นเต้น’ชูเฟิง’ก็ตื่นเต้นเหมือนกันในขณะนั้น

เขารีบโดดออกมาวางกับดัก แล้วโดดเข้าไปอีกครั้ง

” โฮ่กกกกกกกก ~ ~ ~ “

ในตอนนั้น เสียงคำรามของเสือก็ดังขึ้นมาจากทุกทิศทาง เสียงมันค่อนข้างที่จะอึกทึก จนทำให้โลกต้องสั่นสะท้าน มันเป็นเสียงคำรามของจักรพรรดิของสัตว์อย่างแท้จริง จนทำให้ใครต่างที่ได้ยินต่างรู้สึกหวาดกลัวเข้าไปในส่วนลึกของจิตใจและทำให้เขายอมศิโรราบ

” ไม่นะ . . . .  เสียงนี้มัน . . . .  ไหนท่านบอกเขาไม่ได้ปล่อยอสูรร้ายไง ? “

‘ชูเฟิง’เหงื่อไหลเต็มหน้าผากของเขา เพราะเขารู้สึกกลัวจากเสียงของสิ่งมีชีวิตที่คำราม

” เจ้าโง่ เจ้าเป็น ผู้เชื่อมต่อโลกวิญญาณแต่ไม่สามารถแยกแยะระหว่างอสูรร้ายกับอสูรวิญญาณ ปีศาจบ้านไหนจะมีอ่อร่าที่อ่อนโยนแบบนี้ “

” นี่ไม่ใช่อสูรร้าย มันเป็นโอกาสดีที่จะได้ไม่ต้องลงมือเอาทักษะเร้นลับ เจ้ารู้มั้ยว่ามันคืออะไร ? “

เทพธิดา กล่าวอย่างผิดหวังในความรู้เพียงน้อยนิดของเขา ขณะที่นางกล่าวน้ำเสียงของนางก็ฟังดูผิดปกติ

” ทักษะเร้นลับ อะไร ? “

ได้ยินคำพูดของนาง ‘ชูเฟิง’ ไม่เข้าใจความหมายของมันเขาจึงถามนางอย่างจริงจัง

” ทักษะเร้นลับเป็นสุดยอดทักษะการต่อสู้ พวกเขาไม่สามารถจำกัดระดับพลังได้ตายตัว มันจะเปลี่ยนแปลงไปตามบุคคลที่ใช้ แต่หากคนที่มีความสามารถได้มันไปได้ครอบครอง มันสามารถเขย่าโลกได้ทั้งใบ “

” ทักษะเร้นลับเป็นสิ่งมีชีวิต พวกเขาไม่ใส่สิ่งที่เขียนไว้บนคัมภีร์ ไม่ใช่ว่าทุกคนจะสามารถเข้าใจมันได้ เพราะการที่จะได้เรียนรู้พวกเขา ทักษะนั้นจะเป็นผู้ที่เลือกนายของตน “

” หลังจากผู้ที่ครอบครองสิ้นชีวิต ทักษะเร้นลับ จะแยกออกมาจากร่างกายของเจ้านายพวกเขาและรอวันที่จะได้พบกับเจ้านายใหม่ของตน “

” ทักษะเร้นลับ เป็นวิธีที่ทำให้คนผู้นั้นกลายเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก แต่คนที่จะได้เจอพวกเขาและได้เขามาครอบครองของมีแต่ทำให้เขายอมรับไม่ใข่ว่าจะเดินไปขอเขาดื้อๆหรือบังคับ พวกเขาต่างเป็นที่ต้องการของผู้เชี่ยวชาญนับไม่ถ้วน บางคนต้องใช้เวลาทั้งชีวิตเพื่อตามพวกเขา “

” มิน่าล่ะ……ไม่ต้องสังสัยเลยว่าทำไม มู่หรง เสียวเหยา ถึงได้แข็งแกร่งขนาดนั้น ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าเขาจะได้ครอบครองทักษะเร้นลับในตำนาน “

โปรดติดตามตอนต่อไป . . . . . . . . . . . . . . . .

ที่มา:

ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
comments