I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Martial God Asura ตอนที่ 156 – คว้าทุกอย่างเท่าที่จะคว้าได้

| Martial God Asura | 2540 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
                

” ทักษะเร้นลับ นับได้ว่าหนึ่งในทักษะที่แกร่งที่สุดในโลกใบนี้ “

เทพธิดากล่าวถึงอย่างไม่รู้จบ ในตอนนั้น ‘ชูเฟิง’ที่ได้ยินกับตื่นเต้นมากกว่า เขาไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไงถึงจะได้มันมา เท่าที่ฟังนางบอก นี้ถือเป็นโอกาสครั้งใหญ่ในชีวิตของเขาดังนั้นเขาจะต้องครอบครองมันให้ได้

” เทพธิดา ท่านว่ามันคือทักษะเร้นลับจริงๆงั้นหรอ “

‘ชูเฟิง’ถาม เพราะความอยากรู้จากก้นบึ้งของหัวใจ เขาหวังว่ามันจะเป็นทักษะเร้นลับ

” เจ้าสงสัยในความสามารถของเรางั้นหรอ เรามีความรอบรู้เรื่องทักษะเร้นลับเป็นอย่างดีรับรองว่าไม่มีพลาด นี้คือลักษณ์ของทักษะเร้นลับไม่ผิดแน่ “

เทพธิดาเถียง

”  แต่พลังที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ จะยินดีมาอยู่กับข้างั้นหรอ “

‘ชูเฟิง’เริ่มกังวล ขณะที่เสียงนั้นยังคำรามออกมาจากทุกทิศทาง เห็นได้ชัดเจนว่ามันคือสิ่งที่ไม่ธรรมดาที่สำคัญคือจำนวนออร่าของมัน มันมีพลังที่สามารถกำราบได้ทุกสิ่งและไม่มีใครต้านทานมันได้

” เจ้าไม่เข้าใจงั้นหรอ นี้คือความน่าประทับใจของทักษะเร้นลับ อย่างที่เราบอก ทักษะเร้นลับ จะเลือกเจ้านายของมัน และไม่มีใครสามารถบังคับหรือขโมยไปได้ “

” ต้องเป็นคนที่มีพลังอำนาจมากกว่าทักษะเร้นลับถึงสามารถบังคับพวกเขาหรือกลืนกินเข้าไปเพื่อปรับปรุง และเรียนรู้ แต่คนที่จะบังคับทักษะเร้นลับแบบนั้นได้ อย่างน้อยต้องอยู่ระดับ วิถีเทพแห่งสงคราม “

” แต่นั้นก็ไม่ได้หมายความว่า เทพแห่งสงครามจะสามารถดึงพลังทักษะเร้นลับออกมาได้ทั้งหมด เนื่องจากพวกเขาถูกบังคับไม่ใช่ความสมัครใจ  “

” บางทีเทพแห่งสงครามอาจจะพยายามสร้างทักษะเร้นลับขึ้นมา แต่ต่อให้เป็นเทพแห่งสงครามก็มิอาจสร้างทักษะเร้นลับได้สำเร็จ หากจะสร้างมันก็คงต้องเป็น จักรพรรดิแห่งทักษะ “

” หากเราจำไม่ผิด ทักษะเร้นลับ ในสุสานแห่งนี้น่าจะถูกสร้างขึ้นโดย จักรพรรดิแห่งทักษะ “

เทพธิดาอธิบาย

” อะไรนะ จักรพรรดิแห่งทักษะ ชิงหลง เทียน ที่เข้าสู่วิถึเทพแห่งสงครามแล้วยังเป็น จักรพรรดิแห่งทักษะ อีกงั้นหรอ “

‘ชูเฟิง’ได้ยินแล้วยิ่งตกใต สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปเป็นอย่างมาก คำเดียวที่ปรากฏบนใบหน้าเขาคือคำว่า ตะลึง ‘ชูเฟิง’คงเข้าใจว่า สุสานจักรพรรดิ ถูกสร้างขึ้น โดย’ชิงหลง เทียน’ เขาจึงคิดว่า ‘ชิงหลง เทียน’ เป็น จักรพรรดิแห่งทักษะ

หลังจากประสบการณ์มากมายที่ ‘ชูเฟิง’ได้ฟังจากเทพธิดากล่าว ว่าอาณาจักรพลังวิญญาณ ที่’ชูเฟิง’ เคยได้ยินมา ไม่ได้มีเพียงแค่ 4 อาณาจักร นอกจาก ห้วงวิญญาณ กำเนิดวิญญาณ แก่นแท้วิญญาณ และ วิญญาณสวรรค์

ยังมีอาณาจักรที่แข็งแกร่งมากกว่านั้นวิถีเทพแห่งสงคราม พวกเขาเปรียบได้ดั่งเทพที่ลงมาจุติจากสรวงสวรรรค์ ผู้ที่สามารถเข้าสู่อาณาจักรนั้นต้องมีพลังเป็นอย่างมาก และพวกเขาคงเป็นคนที่คนทั้งโลกต่างให้การยอมรับว่าเป็นอัจฉริยะอย่างแท้จริงวิถีเทพแห่งสงคราม

อยู่เหนืออาณาจักรวิญญาณสวรรค์ พวกเขานับเป็นเทพอย่างแท้จริง และผู้ที่ได้ชื่อว่า จักรพรรดิแห่งทักษะ คนผู้นั้นคงมีพลังและความรู้มากมายจนเหลือล้น พวกเขาต่างได้รับโอกาสมหาศาลและโชคชะตาที่กำหนดให้เป็นผู้ยิ่งใหญ่เหนือผู้ใดทั้งปวงจักรพรรดิแห่งทักษะ

เป็นชื่อเรียกขานอาณาจักรที่สมบูรณ์กว่า เทพแห่งสงคราม ผู้ที่ก้าวเหยียบถึงระดับนั้นได้คงมีร่างกายและเลือดเนื้อที่ไม่เหมือนใคร พวกเขาจะต้องมีศักยภาพที่คนทั่วไปไม่สามารถทำได้

และความรู้ความเข้าใจของเขาที่มี คนทั่วไปก็ไม่อาจเข้าใจพวกเขายังคงต้องการโอกาสที่มหาศาลหรือสิ่งต่างๆเพื่อทำให้ศักยภาพสูงขึ้น แม้แต่ใช้สมบัติทั้งหมดทั้งอาณาจักรก็ยังไม่รู้ว่าจะก้าวเข้าไปเหยียบระดับนี้ได้หรือเปล่า

ผู้ที่สามารถเข้าสู่วิถีเทพแห่งสงครามและกลายเป็นจักรพรรดิแห่งทักษะเป็นคำสรรเสริญที่ยิ่งใหญ่ ชื่อและเรื่องราวของพวกเขาจะถูกเล่าขานต่อกันมานับเป็นเวลาพันๆปี

ส่วนรายละเอียดลึกๆ เทพธิดาไม่คิดจะเปิดเผยไปมากว่านี้ นางแค่ทิ้งคำพูดให้ ‘ชูเฟิง’ มีความพยายามมากขึ้นบนเส้นทางการต่อสู้ อาณาจักรพลังวิญญาณ

ที่พูดกันอยู่ในปัจจุบัน ไม่ใช่อาณาจักรสุดท้ายของอาณาจักรพลังวิญญาณอาณาจักรที่บรรพบุรุษได้กล่าว นั้นเป็นตำนาน คนจำนวนไม่มากที่จะรู้ เพราะอาณาจักรเช่นนั้นมีเพียงไม่กี่คน แต่ยังไม่มีใครแน่ใจว่า บรรพบรุษคนไหนมาที่ก้าวสู่ระดับนั้น

หากใครได้เข้าสู่วิถีเทพแห่งสงครามและกลายเป็นจักรพรรดิแห่งทักษะจะถูกยกย่องสรรเสริญดั่งเทพเจ้า แต่พวกเขาจะไม่หยุดที่จะพัฒนาตัวเองและต่อสู้อย่างต่อเนื่องเหล่าผู้คนที่รู้จักรวิถีเทพแห่งสงคราม

ในตำนานกล่าวว่าแม้พวกเขาจะมีตัวตนอยู่จริง แต่คนทั่วไปก็ไม่อาจพบเห็นพวกเขา พวกเขาเป็นเหมือนดั่งเทพที่สถิตอยู่สรวงสวรรค์ที่ปรากฏขึ้นบนโลกส่วนด้านของจักรพรรดิแห่งทักษะคือผู้ที่แตกฉานด้านการต่อสู้

แม่แต่อัจฉริยะมากมายหรือแม้แต่ผู้ที่มีกายศักดิ์สิทธิ์ฝึกฝนทั้งชีวิต ก็ไม่อาจเข้าถึงได้ง่ายๆ

ตามตำนาน ตอนที่ ‘ชิงหลง เทียน’ เสียชีวิต เขามีอายุเพียง 15 ปี นั่นก็ทำให้’ชูเฟิง’ตะลึงไม่น้อย แต่เขาที่กลายเป็นจักรพรรดิแห่งทักษะตอนอายุ 15 นี้และที่ทำให้เขาน่ากลัว

หลังจากที่ใช้ความคิด ‘ชูเฟิง’ ก็พลันรู้แจ้งและสามารถเข้าใจความหมายของสุสานจักรพรรดิ

” ทำไมเจ้าถึงตกใจล่ะ ทักษะเร้นลับไม่ต้องสงสัยเลยว่าถูกสร้างขึ้นโดยจักรพรรดิแห่งทักษะ เพราะฉะนั้นเจ้าอย่าได้พลาดไปเด็ดขาด “

” แต่นั้นก็ไม่ได้หมายความว่า มันจะถูกสร้างขึ้นโดย ชิงหลง เทียน นอกจากนี้ ตำนานก็เป็นแค่ตำนานเท่านั้น มันมีความแตกต่างระหว่างเรื่องจริงกับตำนาน ดังนั้น ต่อให้ทักษะเร้นลับนี้ถูกสร้างโดย ชิงหลง เทียน นั้นก็ไม่ได้หมายความว่าเขาสามารถเป็น จักรพรรดิแห่งทักษะ ตอนอายุ 15 ปี “

” บางทีเขาในตอนนั้นอาจเป็นแค่ชายชราที่กำลังจะจบชีวิตลง เขาจึงได้สร้างสุสานเพื่อฝังตัวเองขึ้นมา “

เขารู้ว่า’ชูเฟิง’อาจจะคิดผิด เทพธิดาจึงเตือนเขา

” งั้นหรอ “

หลังจากที่ได้ฟังการวิเคราะห์ของนาง ‘ชูเฟิง’ ก็พยักหน้าเห็นด้วย ตำนานก็เป็นแค่ตำนานเท่านั้น มันแตกต่างจากความเป็นจริงแต่เขาก็ยอมรับนับถือ ‘ชิงหลง เทียน’ ที่สร้างที่แห่งนี้ขึ้นมา จักรพรรดิแห่งทักษะไม่ใช่ว่าใครจะสามารถเข้าไปได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงจักรพรรดิแห่งทักษะของอาณาจักรทั้ง 9

ในปัจจุบัน ที่สูงสุดมีแค่อาณาจักรวิญญาณสวรรค์เท่านั้น ส่วนจักรพรรดิแห่งทักษะอาจมีอยู่เพียงในตำนาน

” โฮ่กกกกก ~ ~ ~ “

ในตอนนั้นก็มีเสียงคำรามสั่นสะเทือนโลกดังขึ้นมาอีกครั้ง ภายในสุสานทั้งหมดสั่นอย่างรุนแรงราวกับว่าสวรรค์กำลังจะถล่ม

” ทักษะเร้นลับ กำลังจะปรากฏออกมาแสดงให้เจ้าเห็น เจ้าอย่าได้นอนเฉยโดยที่ไม่ทำอะไร ไม่งั้นเจ้าจะพลาดโอกาส “

” ชูเฟิง รีบหลอกล่อให้ผู้เชื่อมต่อโลกวิญญาณมาที่นี่ แล้วฆ่ามันซะ หากเจ้าปล่อยให้ทักษะเร้นลับเลือกเขาเป็นเจ้านาย เจ้าจะพลาดโอกาสครั้งนี้ไป และเจ้าจะมานั่งเสียใจไปตลอดชีวิต “

เทพธิดาเตือนอย่างจริงจังในเวลาเดียวกัน ‘ชูเฟิง’ ก็รู้สึกได้ถึงออร่าในร่างกาย อำนาจพลังวิญญาณที่ทะลักออกมาจากทั่วร่างกาย ตอนนี้ ‘ชูเฟิง’เข้าสู่อาณาจักรแก่นแท้วิญญาณระดับ 1 เห็นได้ชัดว่านางถ่ายโอนพลังของนางให้’ชูเฟิง’

” เห้ยไอ้ตุ๊ดดดด นี้เจ้าไม่ต้องการแหล่งพลังวิญญาณของเจ้าแล้วหรอ ข้าจะเอา มู่หรง เสียวหยุน ไปแล้วน้าา ? “

ในตอนนั้น ‘ชูเฟิง’ ก็ถึงกับเครียดมากขึ้น เขาไม่รู้ว่าจะหลอกล่อ ผู้เชื่อมต่อโลกวิญญาณมาได้ยัง เขาจึงตะโกนออกไปยั่วยุ

* ตุบ ตุบ *

ขณะที่เขาพูดจบ ก็มีร่างวิ่งออกมาจากอุโมงค์อย่างรวดเร็ว เขาคนนั้นคือคนที่สวมชุดคลุมสีเทา แม้ว่าจะมองไม่เห็นใบหน้าของเขาแต่สามารถมองเห็นดวงตาของเขาได้ เขารู้สึกว่าคนๆนั้น โกรธอย่างมาก จิตสังหารก็ส่งออกมาอย่างรุนแรง

” นั้นคือผู้เชื่อมต่อโลกวิญญาณ ชุดเทา ไม่ผิดแน่ ชูเฟิงเจารีบเอาชุดคลุมของเขาออกไม่งั้นกับดักจะรั้งเขาได้ไม่นาน เพื่อที่จะลดความสามารถของเขา เจ้าจำเป็นต้องหาทางถอดชุดคลุมของเขาออก “

เทพธิดาเตือน

* พรึบบบบ *

ในเวลาที่นางกำลังเตือน คนที่สวมชุดเทาก็ไม่พูดอะไรสักคำ เขาพุ่งเข้ามาโจมตี ‘ชูเฟิง’ ในทันที เขายกฝ่ามือขึ้นมาพร้อมกับกระโดดใส่ ‘ชูเฟิง’ อย่างโหดร้าย

เห็นได้ชัดว่าเขาต้องการฆ่า ‘ชูเฟิง’ มากแค่ไหนแต่เมื่อคนๆนั้นก้าวเข้ามาบนลาน ‘ชูเฟิง’ก็เปิดใช้งานกับดัก สัญลักษณ์ที่ถูกลงอักขระไว้เคลื่อนที่และมีแสงพุ่งออกไปทุกทิศทางเพื่อหยุดการเคลื่อนไหวของเขา

ส่วนฝ่ามือที่ปล่อยออกมา ‘ชูเฟิง’ สามารถหลบมันได้ทันในตอนนั้น คนชุดเทาก็ถึงกับตกใจนิดหน่อย เขาไม่คิดว่า ‘ชูเฟิง’ จะเป็นผู้เชื่อมต่อโลกวิญญษรเช่นเดียวกัน อำนาจพลังวิญญาณที่ใช้สร้างกับดักทำให้พลังวิญญาณของเขาถูกผนึก’ชูเฟิง’ ได้โอกาสและขยายมือของเขาออก

ตามที่เทพธิดาสั่ง เขาคว้าชุดคลุมสีเทาของคนๆนั้นออกมาด้วยความเร็วดั่งสายฟ้าเพื่อไม่ให้เขาสามารถตอบโต้ได้ทัน ขณะนั้นฝ่ามือของ ‘ชูเฟิง’ คว้าไปที่หน้าอกเต็มๆ

” นี่มัน . . . . . .  “

ตอนที่ ‘ชูเฟิง’ ใช่ฝ่ามือสัมผัสบริเวณนั้น เขาก็รู้สึกถึงบางอย่างที่ผิดปกติ ใบหน้าของเขาได้แต่กลายเป็นสีแดงเล็กน้อย เพราะในตอนนั้น ไม่เพียงแต่มือขวาที่คว้าเสื้อคลุมสีเทา เขายังคว้าบางอย่างที่นุ่มๆติดขึ้นมาด้วย

” ว๊ายยยย ~~~~~~~ “

เสียงกรีดร้องดังออกมาจนแสบแก้วหู เสียงนั้นไม่เพียงแต่ฟังดูอายุยังน้อย อีกทั้งยังเป็นเสียงของหญิงสาวอีก เมื่อได้ยินเสียงหวานๆเช่นนัน คนๆนี้คงเป็นผู้หญิงไม่ผิดแน่

โปรดติดตามตอนต่อไป . . . . . . . . . . . .

ที่มา:

ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
comments