ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปอย่างไรก็ตาม ‘เอียฮั่น’ในตอนนี้นั้นไม่ได้กังวลเกี่ยวกับบาดแผลเท่าไรนัก เขาคำรามและกระโดดเหวี่ยงค้อนลงไป
‘เนี่ยหลีคาดไม่ถึงว่า’เอียฮั่น’จะบ้าคลั่งเช่นนี้ หลังจากที่ขยับตัวหลบเขายังรู้สึกด้านชาที่มืออยู่เลย ค้อนมังกรเขาทองคำได้ถูกเหวี่ยงอีกครั้งและเกิดเสียงระเบิดดังขึ้น
ทันใดนั้น’เซี่ยวหนิงเอ๋อ’ ‘ลู่เพรียว’ ‘ตูซื่อ’และคนอื่นก็รู้สึกหนาวสันหลังและเป็นห่วง’เนี่ยหลี’
“เนี่ยหลี ระวัง!”
ถ้า’เนี่ยหลี’ถูกโจมตีโดยตรงจากค้อนนั่น ต่อให้’เนี่ยหลี’อยู่ระดับ 5 ดาวเงินถึงไม่ตายก็ต้องบาดเจ็บหนักแน่นอน ‘เอียฮั่น’ไม่ปล่อยไปง่าย ๆ ‘เนี่ยหลี’หมุนตัวหลบค้อนมังกรเขาทองคำผ่านหน้าของเขาไปอย่างเฉียดฉิว เขารู้สึกได้ถึงความรุนแรงผ่านหน้าของเขา
ทันใดนั้น’เนี่ยหลี’ก็เผยประกายตาเยือกเย็น
อาณาเขตแรงโน้มถ่วง!
‘เนี่ยหลี’ได้เพิ่มแรงโน้มถ่วงให้กับ’เอียฮั่น’ถึงสองเท่า ‘เอียฮั่น’ล้มตัวลงกระแทกพื้นดัง ปัง! ก่อให้เกิดฝุ่นฟุ้งกระจายไปทั่ว
‘เอียฮั่น’พยายามที่จะลุกขึ้นและสะบัดศีรษะ แม้ว่าค้อนมังกรเขาทองคำจะมีพลังป้องกันสูงมาก แต่มันก็ไม่อาจรับความแรงระดับนั้นไหว มันได้เกิดรอยแยกจากการตกกระทบพื้น ในขณะนั้น’เนี่ยหลี’ได้ยืนอยู่ห่างราวหนึ่งเมตรจาก’เอียฮั่น’
หลังจากทำความเข้าใจ ‘เนี่ยหลี’ได้เข้าใจถึงทักษะการโจมตีของแพนด้าเขี้ยวอสูรขึ้นไปอีกขั้น เขารวบรวมพลังไปที่หมัดขวาจนก่อเกิดประกายแสงสีขาวประดุจสายฟ้าขึ้น ถึงแม้ว่ามังกรพสุธาเขาทองคำจะมีร่างกายที่แหลมคม แต่บริเวณหน้าท้องของมันนั้นเตียนโล่งทำให้เนี่ยหลีเล็งไปที่จุดนั้น
อัศนีบาตกัมปนาท!
‘เนี่ยหลี’เหวี่ยงหมัดโจมตีมังกรพสุธาเขาทองคำอย่างไร้ความปราณีตรงเข้าบริเวณชายโครง
ปัง! บังเกิดเสียงกระดูกแตกหัก
ด้วยความพลังระดับนี้ทำให้’เอียฮั่น’ตัวลอยขึ้นฟ้าและล่วงหล่นกระทบพื้นดังลั่น
แม้ว่า’เนี่ยหลี’และ’เอียฮั่น’จะมีความต่างกันมากมาย แต่ทุกครั้งที่’เนี่ยหลี’เคลื่อนตัวหลบนั้นกล่าวได้ว่าลื่นไหลประดุจสายน้ำ ‘เนี่ยหลี’มีความสามารถมองหาตำแหน่งโจมตีได้ยอดเยี่ยม เมื่อไหรก็ตามที่เขาใช้ทักษะโจมตีนั่นหมายถึงช่วงเวลาที่ก่อเกิดผลลัพธ์มากที่สุด ยิ่งไปกว่านั้นตำแหน่งที่อัสนีบาตกัมปนาทปะทะนั้นคือจุดอ่อนของมังกรพสุธาเขาทองคำอีกด้วย!
ตั้งแต่ที่การต่อสู้เริ่มขึ้น ‘เนี่ยหลี’ตระหนักได้ถึงความสามารถของทักษะโจมตีและจุดอ่อนของ’เอียฮั่น’ แม้ว่า’เอียฮั่น’จะรวมร่าง แต่จุดอ่อนเหล่านั้นก็ยังคงไม่หายไปไหน ความสามารถของ’เอียฮั่น’นั้นห่างชั้นกับ’เนี่ยหลี’ยิ่งนัก
กระดูกซี่โครงของ’เอียฮั่น’ถึงกับร้าวและแสดงออกซึ่งอาการเจ็บปวดบนใบหน้าอันบิดเบี้ยว ‘เอียฮั่น’เอามือกุมซี่โครงไว้และจ้องไปทาง’เนี่ยหลี’ประดุจมองสัตว์ร้าย
“ท่านสู้ข้าไม่ได้หรอก ยอมแพ้เถอะ”
‘เนี่ยหลี’กล่าวพร้อมสายตามองไปที่’เอียฮั่น’
ผู้คนที่ดูอยู่ถึงกับมึนงง พวกเขาแสดงสีหน้าอันแปลกใจออกมา พวกเขารู้ว่าความแข็งแกร่งของ’เนี่ยหลี’นั้นห่างชั้นกับ’เอียฮั่น’ แต่ทำไมกลายเป็น’เอียฮั่น’นั้นอ่อนแอกว่า’เนี่ยหลี’ไปได้? แม้ว่าเขาจะรวมร่างแล้วก็ยังถูกจัดการโดยหมัดเพียงหมัดเดียวเท่านั้น
นี่มันเกิดอะไรขึ้นกัน?‘เซี่ยวหนิงเอ๋อ’ ‘ลู่เพรียว’ ‘ตู่ซื่อ’และคนอื่นที่อยู่กับ’เนี่ยหลี’มานานยังไม่อาจคาดคิดว่า’เนี่ยหลี’จะสามารถเอาชนะ’เอียฮั่น’ได้
‘เนี่ยหลี’ใช้อาณาเขตแรงโน้มถ่วงตั้งแต่ที่คู่ต่อสู้ยังไม่พร้อม เมื่อคู่ต่อสู้ขยับตัวลำบาก ผลจึงบังเกิดทำให้เขาเหวี่ยงหมัดเข้าโจมตีที่จุดอ่อนได้
แม้ว่าคู่ต่อสู้จะมีเทคนิคการต่อสู้ที่เหนือกว่า’เนี่ยหลี’ แต่’เนี่ยหลี’ก็ได้จู่โจมเข้าในจุดที่ป้องกันยากที่สุด นอกจากนี้’เอียฮั่น’ก็ไม่เคยมีประสบการณ์รับมือกับอาณาเขตแรงโน้มถ่วง
‘เซี่ยวหนิงเอ่อ’ ‘ลู่เพรียว’ ‘ตู่ซื่อ’และคนอื่น ๆ ได้ข้อมูลใหม่ที่ส่งผลต่อความสามารถทางการต่อสู้ของพวกเขา
‘เอียฮั่น’เงยหน้าขึ้นและมองไปที่’เนี่ยหลี’ด้วยดวงตาสีแดงเลือด ในใจของเขาเต็มไปด้วยความแค้นและความรู้สึกที่ไม่อาจยอมรับได้ที่พ่ายแพ้ต่อ’เนี่ยหลี’ มันเป็นที่ชัดเจนว่าพลังของเขานั้นมีความสามารถเหนือกว่าคู่ต่อสู้ ตลอดมาเขาเป็นอัจฉริยะหมายเลขหนึ่งของเมืองกลอรี่
ทำไม?
ทำไมเข้าถึงได้แพ้?
‘เอียฮั่น’กำหมัดแน่น เล็บของเขาแทบจะจิกเข้าไปในผิวหนัง ความรู้สึกคับข้องใจเด่นชัดขึ้นในใจของเขา เจ้า’เนี่ยหลี่’มันแย่งตำแหน่งว่าที่เจ้าเมืองไปจากเขา เขาไม่หวังอะไรอื่นนอกจากการสังหาร’เนี่ยหลี’
“เนี่ยหลี เจ้าอย่าเพิ่งได้ใจเร็วนัก ถ้าแค้นนี้ไม่ได้ชำระ ข้า เอียฮั่นจะไม่ขอเป็นมนุษย์อีกต่อไป”
ดวงตาของ’เอียฮั่น’เต็มไปด้วยเยือกเย็นพร้อมจ้องไปที่’เนี่ยหลี’
‘เนี่ยหลี’นั้นเข้าใจได้ถึงความคับแค้นใจของ’เอียฮั่น’ คนเจ้าเล่ห์เช่น’เอียฮั่น’นั้นเมื่อหายดีจะต้องกลับมาล้างแค้นแน่นอน ‘เนี่ยหลี’เข้าใจ’เอียจืออวิน’มากขึ้นว่าทำไมเธอไม่เคยพูดถึง’เอียฮั่น’เลย
ในชาติก่อนของเขา ตัวตนของ’เอียฮั่น’นั้นไม่เคยโผล่ออกมาให้เห็นเลย นอกจากนี้ตัวเขาก็ไม่มีคุณสมบัติที่จะเป็นเจ้าเมืองอีกด้วย
แม้ว่าพรสวรรค์ของ’เอียฮั่น’จะเป็นที่ชื่นชอบของ’เอียเซิ่ง’ แต่ก็ไม่สามารถทำให้เขาได้รับการยอมรับจากผู้อาวุโสของตระกูลวายุเหมันต์นอกจากนี้ถ้า’เอียฮั่น’พ่ายแพ้ เขาก็จะกลับมาแก้แค้นพร้อมความแค้น
‘เนี่ยหลี’มองต่ำไปยัง’เอียฮั่น’ รอบตัวของเขาปล่อยจิตสังหารออกมา จิตสังหารนั้นแผ่กระจายจนทำให้อุณหภูมิลดลง
“เอียฮั่น ข้าไม่สนว่าในใจของท่านจะคิดยังไง ถ้าท่านนิ่งเฉยไม่ทำอะไร ท่านจะยังมีโอกาสที่จะรอดชีวิต แต่ถ้าท่านต้องการความตายข้าก็ไม่ปฏิเสธที่จะมอบมันให้หรอกนะ คนบางคนก็ไม่มีค่าพอที่จะเป็นคู่ต่อสู้ และข้าไม่เคยมองท่านเป็นคู่ต่อสู้ เพราะว่าท่านนั้นไม่คู่ควร”
ในมุมมองของ’เนี่ยหลี’มีเพียงแค่จักรพรรดิแห่งปราชญ์เท่านั้นที่คู่ควรจะเป็นคู่ต่อสู้ของเขา มันไม่สำคัญว่าเขาจะตั้งตนเป็นศัตรูต่อ’เอียฮั่น’หรือตระกูลศักดิ์สิทธิ์ พวกมันนั้นล้วนไม่คู่ควร
‘เนี่ยหลี’ใช้สายตาดุจคมมีดทะลวงเข้าไปในจิตใจของเขา ‘เอียฮั่น’รู้สึกถึงความเยือกเย็นอันสยดสยองทำให้เขานั้นรู้สึกพ่ายแพ้และยอมศิโรราบ เพียงแต่ผ่านไปช่วงเวลาหนึ่งความแค้นในใจของเขาก็ปะทุขึ้นอีกครั้ง
ตำแหน่งเจ้าเมืองที่เขาปรารถนามาหลายปี เขาจะปล่อยให้มันหลุดมือไปเช่นนั้นหรือ?
‘เอียฮั่น’ตวัดสายตาไปที่’เนี่ยหลี’ เขากุมอกไว้และจากไปดุจหมาป่าเดียวดาย แผ่นหลังของเขานั้นช่างดูอ้างว้าง ผู้คนที่มุงดูต่างแยกออกเป็นทางให้’เอียฮั่น’จากไป
มองไปที่แผ่นหลังของ’เอียฮั่น’ ‘เนี่ยหลี’รู้ว่า’เอียฮั่น’นั้นไม่ปล่อยไปทั้งอย่างนี้แน่ แต่’เนี่ยหลี’ก็ทำอะไรต่อหน้าฝูงชนจำนวนมากเช่นนี้ไม่ได้ ยังไงก็ตามแม้ว่า’เอียฮั่น’จะยอมแพ้และจากไปอย่างสงบ ‘เนี่ยหลี’ก็จะตั้งตนเป็นศัตรูของเขาต่อไปอย่างแน่นอน
แม้ว่าถ้า’เอียฮั่น’จะมีความตั้งใจกระทำเรื่องชั่วช้าบางอย่าง ‘เนี่ยหลี’ก็จะใช้พลังทั้งหมดทำให้’เอียฮั่น’ไม่สามารถกระทำการใด ๆ ได้อีกตลอดชีวิต
นักเรียนที่มุงดูจากสถาบันกล้วยไม้ศักดิ์สิทธิ์ต่างมอง’เอียฮั่น’จากไป และหันหน้ากลับมอง’เนี่ยหลี’ พวกเขารู้สึกหวาดกลัว ‘เอียฮั่น’คือหมายเลขหนึ่งจากอัจฉริยะทั้งหมดของสถาบันกล้วยไม้ศักดิ์สิทธิ์ มีข่าวลือว่าเขาสามารถล้มคู่ต่อสู้ระดับ 2ดาวทองเมื่อตอนที่เขายังอยู่เพียงแค่ระดับ 1ดาวทอง และในตอนนี้ระดับของเขาไปถึง 3ดาวทองแล้ว ‘เอียฮั่น’ก็ยังแพ้
สิ่งที่ทำให้ผู้คนตกใจยิ่งกว่าคือ’เอียฮั่น’อายุถึงยี่สิบปี และ’เนี่ยหลี’อายุเพียงแค่สิบสี่ปี
นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน
เมื่อกี้ อัจฉริยะหมายเลขหนึ่งของเมืองกลอรี่เพิ่งถูกสยบด้วยมือของ’เนี่ยหลี’ นั่นทำให้ชื่อเสียงของ’เนี่ยหลี’ถูกแพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็ว
“ไปกันเถอะ”
‘เนี่ยหลี’ถอนสายตากลับมาและมองไปยัง’เซี่ยวหนิงเอ๋อ’ ‘ลู่เพรียว’ ‘ตู่ชื่อ’และพรรคพวก
แม้ว่า’เซี่ยวหนิงเอ๋อ’ ‘ลู่เพรียว’ ‘ตู่ซื่อ’และคนอื่นจะตกใจที่’เนี่ยหลี’สามารถล้มเอียฮั่นได้ แต่ก็แค่ชั่วครู่เท่านั้น พวกเขาเคยชินเสียแล้วจากการที่’เนี่ยหลี’ทำสิ่งที่ไม่น่าเชื่อให้เป็นไปได้
ท่ามกลางสายตาของผู้คนพวกเขาก็จากไป ที่ป่าของสถาบันกล้วยไม้ศักดิ์สิทธิ์ ‘เอียฮั่น’ใช้พลังของเขาเชื่อมต่อกระดูกที่แตกหัก กัดฟันและใส่ยาลงบนบาดแผล เสียงอันทรงเสน่ห์ดังขึ้น
“ชิ ชิ หนึ่งในอัจฉริยะอันดับหนึ่งของเมืองกลอรี่ ตอนนี้ไม่ต่างอะไรกับสุนัขกำลังเลียแผล น่าสมเพชจริง”
“ใคร?!”
จิตสังหายประกายออกมาผ่านทางสายตาของ’เอียฮั่น’พร้อมมีดคมกริบที่ฝ่ามือ
“ข้าแค่ต้องการช่วยเจ้าเท่านั้น เจ้าไม่ต้องทำท่าน่ากลัวอย่างนั้นก็ได้”
ร่างหนึ่งเคลื่อนตัวออกมาจากด้านข้างของป่า ร่างของเธอนั้นเพรียวบาง และร่างของเธอก็เปล่งประกายอันน่าหวาดหวั่นออกมา คนผู้นี้คืออดีตครูผู้สอนชั้นเรียนนักต่อสู้ฝึกหัด คนที่ถูกขับไล่ออกจากสถาบันโดย’เนี่ยหลี’ ‘เสิ่นซิ่ว’นั่นเอง
มองไปที่’เสิ่นซิ่ว’
‘เอียฮั่น’แค่นเสียงเย็นชา เขาและ’เสิ่นซิ่ว’เคยเป็นเพื่อนรวมชั้นสมัยที่ยังอยู่สถาบันกล้วยไม้ศักดิ์สิทธิ์ ทั้งสองไม่ได้มีความสัมพันธ์ที่ดีอันใดนัก พวกเขาเพียงแค่เคยคุยกันนิดหน่อย ดังนั้น’เอียฮั่น’จึงมีความประทับใจเกี่ยวกับเธออยู่บ้าง
“เธอนั่นเอง ต้องการอะไรกันล่ะ”
‘เอียฮั่น’ส่งเสียงเย็นชา เพราะเสิ่นซิ่วนั้นมีระดับพลังต่างจากเขามากนัก เขาจึงไม่ได้ใส่ใจ’เสิ่นซิ่ว’เท่าไร
มุมปากของ’เสิ่นซิ่ว’ยกยิ้มเพียงนิดและกล่าวว่า
“บุตรบุญธรรมของเจ้าเมือง เจ้าคิดที่จะยกตำแหน่งเจ้าเมืองให้คนอื่นงั้นรึ?”
“ไม่ใช่เรื่องของเจ้า”
‘เอียฮั่น’ตอบเสียงเยือกเย็น
“ชิ ชิ เจ้าช่างเย็นชาเหมือนเคย ข้าไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าเจ้าเด็กเหลือขอเอียจืออวินนั่นมีดีตรงไหน ทำไมเจ้าถึงปล่อยให้นางมาเป็นจุดอ่อนกันได้”
‘เสิ่นซิ่ว’ยิ้มและกล่าวต่อ
“ถ้าข้าจะบอกว่า ข้ามีแผนที่จะนำเจ้ากลับไปนั่งยังตำแหน่งเจ้าเมืองจากเจ้าเด็กเหลือขอเอียจืออวิน เจ้าจะสนใจไหม”
‘เอียฮั่น’กวาดสายตาจ้องมองไปยัง’เสิ่นซิ่ว’ด้วยใบหน้าตื่นตระหนก และกล่าวเสียงเย็น
“ตระกูลศักดิ์สิทธิ์ของเจ้ายังช่วยตัวเองไม่รอด คิดช่วยตัวเองก่อนข้าเถอะ”
“ตระกูลศักดิ์สิทธิ์ดำรงอยู่คู่กับเมืองกลอรี่มานับพันปี พวกเราไม่มีทางล่มจมง่ายดายเพียงนั้น มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่ตระกูลวายุเหมันต์จะกำจัดตระกูลศักดิ์สิทธิ์”
‘เสิ่นซิ่ว’แค่นเสียง
“สำหรับเจ้า เจ้าเป็นแค่บุตรบุญธรรมที่เอียเซิ่งจับมาเลี้ยงเท่านั้น แม้ว่าเจ้าเด็กเนี่ยหลีจะไม่โผล่มา เจ้าก็ไม่มีทางที่จะได้ครอบครองตำแหน่งเจ้าเมืองหรอก ฮ่า ๆ ๆ น่าขำยิ่งนัก”
“เจ้า!”
จิตสังหารที่น่ากลัวได้เปล่งประกายออกมาจากดวงตาของ’เอียฮั่น’ เขาเปรียบดั่งหมาป่าดุร้ายและพุ่งแทงมีดไปยัง’เสิ่นซิ่ว’
จบตอน…
ที่มา :