ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป“ดังนั้นทุกอย่างจึงออกมาเป็นเช่นนี้ นี่เป็นวิธีที่ดีที้สุดที่จะทำให้พวกเรานั้น สามารถรวมตัวกันได้”
เมื่อรู้ว่าทุกอย่างถูกจัดการโดยน้องชายของเขา ‘ชู กู่หยู’ ก็รู้สึกโล่งใจเป็นอย่างมาก เพราะนี่เท่ากับเป็นการพิสูจน์ความสามารถของน้องชายของเขา
เขามีความสุขอย่างมาก เมื่อได้เห็นทุกคนในตระกูลมารวมตัวกันที่นี่ รอยยิ้มแห่งความสุขประดับอยู่บนใบหน้าของทุกคน ราวกับว่าพวกเขาได้ลืมเลือนซึ่งการสูญเสียไปแล้ว
ปัจจุบันนั้นตระกูลชูทุกคนต่างเข้มแข็งขึ้น เพราะพวกเขาต่างก้าวข้ามความเจ็บปวดแห่งการสูญเสียมาได้ จากนี้พวกเขาจะต้องดูแลซึ่งกันและกัน นั่นคือสิ่งที่ ‘ชู กู่หยู’ อยากจะเห็นมากที่สุด
“พี่ชาย กู่หยู ท่านฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว พวกเราต้องให้ท่านช่วยปกป้องพวกเรา”
ชูหยู กล่าวด้วยความยินดี
“ใช่ พวกเราต้องพึ่งพาท่าน และท่านต้องเป็นเสาหลักของพวกเรา”
‘ชูเว่ย’ กล่าวอย่างยิ้มแย้ม
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ‘ชู กู่หยู’ รู้สึกเจ็บปวดใจเป็นที่สุด เขาก้มหน้าลมอย่างสงบนิ่ง เพียงชั่วครู่ เขาก็เงยหน้าขึ้นพร้อมทั้งรอยยิ้มบนใบหน้า และกล่าวออกมาว่า
“ถ้าเป็นเมื่อก่อน แน่นอนว่าข้าสามารถจัดการทุกๆ อย่างไปพร้อมกับพวกเจ้าได้ แต่ในตอนนี้ข้ากลายเป็นคนพิการไปแล้ว และไม่เหลือความแข็งแกร่งใดๆ อีก ดังนั้น ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ข้าจะสามารถปกป้องพวกเจ้าได้เลย แม้แต่จะช่วยพวกเจ้าจัดการอะไรเล็กๆ น้อยๆ ข้าก็ไม่สามารถช่วยพวกเจ้าได้”
“พี่ชายกู่หยู ท่านกล่าวอะไรตลกเช่นนั้น ท่านกลายเป็นพิการอย่างนั้นเหรอ ตอนนี้ท่านกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญขั้นแก่นวิญญาณไปแล้วนะ”
‘ชูซุย’ กล่าวออกมาพร้อมทั้งยิ้มบาง
“ใช่ กู่หยู ท่านอย่าได้พูดเรื่องตลกนี้เลย พวกเราทุกคนรู้เกี่ยวกับมันน่า ฮ่าๆ…”
จากมุมมองของทุกคน พวกเขาเห็นว่า ‘ชู กู่หยู’ กำลังเล่นตลกอยู่
“จะมาทีปาฏิหารย์ใดๆ เกิดขึ้นได้ ที่มันจะทำให้ข้ากลายเป็นผู้เชี่ยวชาญขั้นแก่นวิญญาณ สิ่งที่พวกเจ้าทุกคนกล่าวออกมามันเป็นเรื่องไร้สาระ”
‘ชู กู่หยู’ กล่าวออกมาพร้อมทั้งชี้ไปที่หน้าของทุกคนด้วยความโกรธ เพราะเท่าที่เขารู้ เขานั้นได้กลายเป็นคนพิการที่สมบูรณ์แบบไปแล้ว แต่นี่ ทุกคนกลับบอกว่าเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญขั้นแก่นวิญญาณ นั่นมันเท่ากับว่าทุกคนกำลังเยาะเย้ยเขาอยู่
“พี่ชายกู่หยู ท่าน…….”
เมื่อเห็นเช่นนั้น ‘ชูซุย’ กล่าวออกไปได้เพียงเท่านั้น เพราะนางก็ไม่รู้จะทำอย่างไร เห็นได้ชัดเลยว่า ‘ชู กู่หยู’ กำลังโกรธอย่างแท้จริง
นอกจากนี้ สมาชิกทุกคนต่างเก็บรอยยิ้มก่อนหน้านี้ของทุกคนไป และความกลัวปรากฏอยู่บนใบหน้าของทุกคน พวกเขาต่างสับสนกับสิ่งที่เกิดขึ้น
‘ชูหยู’ เป็นคนแรกที่ตอบสนอง นางยิ้มบางๆ ไปที่ ‘ชู กู่หยู’ พร้อมทั้งกล่าวว่า
“ พี่ชายกู่หยู พวกเรารู้ว่าท่านได้พบกับความมหัศจรรย์เมื่อท่านฟื้นขึ้นมา ชูเฟิง ได้บอกไว้ว่า หากท่านฟื้นขึ้น และทำใจให้สงบ ทุกๆ อย่างจะดีขึ้นเอง”
“ตอนนี้ ท่านเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับ 1 ขั้นแก่นวิญญาณ เมื่อสองวันก่อนท่านฝันร้าย และพลังวิญญาณขั้นแก่นแท้ก็แผ่กระจายออกมาจากตัวท่าน ทุกคนสามารถรู้สึกได้ แต่หากว่าท่านไม่เชื่อ ท่านสามารถตรวจสอบร่างกายของท่านเองได้ในตอนนี้”
“ใช่ กู่หยู วันนั้นพวกเราเกือบจะตายเพราะแรงกดดันที่แผ่ออกมาจากตัวของท่าน”
‘ชู หงเฟย’ และคนอื่นๆ ต่างกล่าวสนับสนุน
เขามองใบหน้าของทุกคนที่แสดงออกถึงความจริงจัง แม้ว่าเขาจะยังสับสนอย่างมาก แต่เมื่อเขาลองตรวจสอบร่างกายของเขาเอง ใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว มันเป็นใบหน้าที่เขาไม่อาจแสดงความตกใจออกมาได้หมด
ทันราวกับการพลิกพื้นดินและแผ่นฟ้า ในตอนนี้จุดตันเถียนที่เคยถูกแทงของเขาไม่มีสิ่งใดผิดปกติ มันสมบูรณ์ และแตกต่างจากสิ่งที่เขาเข้าใจก่อนหน้านี้ ภายในตันเถียนของเขาอัดแน่นไปด้วยพลังวิญญาณมากมาย และมันก็แพร่กระจายไปทั่วร่างกายของเขา
ออร่าพลังนั้นอยู่เหนือกว่าขั้นห้วงวิญญาณ และขั้นกำเนิดวิญญาณ มันเป็นพลังของขั้นแก่นวิญญาณ ในตอนนี้เขากลายเป็นผู้เชี่นยวชาญขั้นแก่นวิญญาณโดยแท้
‘ชู กู่หยู’ รู้สึกราวกับอยู่ในความฝัน ร่างกายของเขาสั่นสะท้านด้วยความตื่นเต้น มันเป็นสิ่งที่น่าเหลือเชื่อ เพราะเขาถูกทำลายการบ่มเพาะพลังของเขาไปแล้ว แต่ตอนนี้เขากลับเป็นผู้เชี่ยวชาญขั้นแก่นวิญญาณ
*****วืบบบบบ*****
เพื่อยืนยันร่างกายของเขา ‘ชู กู่หยู’ ลุกขึ้นจากเตียง และกระแทกเท้าของเขาลงที่พื้น จากนั้นเขาก็ทะยานตัวเองออกมาข้างนอก รวดเร็วราวกับสายฟ้า ท่ามกลางความตื่นตกใจของทุกคน แต่ใบหน้าของพวกเขาก็แสดงออกถึงความยินดี
ในทันที ‘ชู กู่หยู’ ออกมายืนที่ลาน เขาสะบัดมือและเท้าของเขา พร้อมทั้งบีบอัดพลังวิญญาณขั้นแก่นวิญญาณ และชกขึ้นไปในท้องฟ้า พลันพลังวิญญาณก็อัดแน่นรวมตัวกันเป็นกำปั้นขนาดใหญ่พุ่งขึ้นไป
“ข้า…..ข้าเป็นผู้เชี่ยวชาญขั้นแก่นวิญญาณ นี่มันไม่ใช่ความฝัน”
หลังจากยืนยันความแข็งแกร่งของเขาเอง เขาก็เกิดความสงสัย นอกจากการบ่มเพาะพลังของเขาจะกลับและยังสูงมากกว่าเก่า ขาของเขาที่เคยหักตอนนี้มันกลับอยู่ในสภาพที่ดีพร้อม อีกทั้งยังคล่องแคล่วมากกว่าเก่า
“พี่ชายกู่หยู ตอนนี้ท่านได้กลายเป็นผู้เชี่ยวชาญขั้นแก่นวิญญาณอย่างแท้จริงแล้ว”
‘ชูเยว่’ กล่าวอย่สงตื่นเต้น
ในขณะเดียวกันทุกคนของรุ่นแสดงความยินดีออกมาบนใบหน้า เมื่อก่อนนั้น ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในตระกูลชู คือ ‘ชู หยวนป้า’ ซึ่งมีระดับพลังเพียงระดับ 1 ขั้นกำเนิดวิญญาณเท่านั้น แต่ในตอนนี้ มีผู้เชี่ยวชาญระดับ 1 ขั้นแก่นวิญญาณปร่กฏตัวขึ้นมาในตระกูลของพวกเขา อีกทั้งยังอยู่ในรุ่นเดียวกันกับพวกเขา ดังนั้นพวกเขาจึงรู้สึกยินดีเป็นอย่างมาก
ไม่ใช่เพียงแค่ ‘ชู กู่หยู’ เท่านั้นที่แข็งแกร่ง แต่ยังมี ‘ชูเฟิง’ ที่การบ่มเพาะพลังของเขานั้นค่อนข้างน่ากลัว ดังนั้นตระกูลชูตอนนี้ จึงเหนือกว่าตระกูลชูในอดีตที่ผ่านมา
‘ชูเยว่’ บอกกับ ‘ชู กู่หยู’ ให้เข้าไปยังที่พัก นางจะเล่าทุกอย่างให้ฟัง ‘ชูเฟิง’ กล่าวว่า จะมีปาฏิหารย์เกิดขึ้นกับ ‘ชู กู่หยู’ แต่นั้นตอนนั้น ‘ชู กู่หยู’ ยังคงหลับไหล และไม่ได้สติ
อย่างไรก็ตาม ‘ชูเฟิง’ ต้องรักษาเขาให้หาย เพราะ ‘ชู กู่หยู’ นั้นเป็นผู้เชี่ยวชาญขั้นแก่นวิญญาณ อีกทั้งในตอนนี้จะต้องขึ้นเป็นเสาหลักของตระกูลชู
ในทันทีที่ ‘ชู กู่หยู’ ได้ฟังดังนั้นเขาก็คาดเดาได้ทันที แต่มันเป็นเรื่องที่ค่อนข้างน่าเหลือเชื่อ การที่ขาทั่งสองข้างของเขาถูกรักษาจนหาย และการบ่มเพาะพลังของเขาฟื้นกลับมาอีกทั้งยังแข็งแกร่งขึ้นอีกนั้น ทั้งหมดย่อมได้รับการช่วยเหลือจาก ‘ชูเฟิง’
“ชูเยว่ ข้าอยากรู้รายละเอียดเกี่ยวกับที่ ชูเฟิง ให้พวกเจ้าออกจากสำนัก และมารวมตัวกันที่นี่”
‘ชู กู่หยู’ ถามขึ้น
เขาเข้าใจถึงกลุ่มรุ่นใหม่เป็นอย่างดี เขารู้ว่าพวกเขาจะไม่เชิ่อฟังใดๆ กับ ‘ชูเฟิง’ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพวกเขาต้องสูญเสียบุคคลภายในตระกูลของพวกเขา อีกทั้งหลังจากนั้นพวกเขาจะต้องเกลียดชัง ‘ชูเฟิง’ ลึกเข้าไปในจิตใจของพวกเขา
แต่ในตอนนี้ พวกเขามารวมตัวกันที่นี่ และยังดูมีความสุขมากกว่าในอดีตที่ผ่านมา และในอนาคตก็เต็มไปด้วยความหวัง พวกเขาไม่ได้แสดงความเกลียดชังใดๆ ต่อ ‘ชูเฟิง’ ออกมา
อีกทั้งพวกเขายังดูให้ความเคารพต่อ ‘ชูเฟิง’ ถึงแม้พวกเขาจะไม่ได้พูดออกมาก็ตาม นั่นแสดงว่า ‘ชูเฟิง’ จะต้องทำอะไรบางอย่างกับพวกเขา
“ที่ข้าสงสัยคือ……ชูเฟิง ใช้ความแข็งแกร่งของเขาบีบบังคับพวกเจ้าให้ทำตามเขาหรือเปล่า”
“แน่นอนว่าเขาแข็งแกร่งมาก แต่เขาก็ไม่ได้ใช้มันเพื่อบีบบังคับพวกเรา เขาเพียงแต่บอกว่าเขาค้นพบแหล่งทรัพยากรมากมาย ที่จะช่วยในการบ่มเพาะพลังวิญญาณของพวกเรา เขาจะกระจายทรัพยากรเหล่านั้นให้แก่พวกเราในทุกๆ เดือน และในตอนนี้ท่านก็คือเสาหลักของตระกูลชู ของพวกเรา”
‘ชูเยว่’ กล่าวพร้อมยิ้มบางขณะที่นางส่งถุงจักรวาลให้แก่ ‘ชู กู่หยู’
เมื่อเขารับถุงจักรวาลนั้นมา เขาก็รู้สึกแปลกใจ ถึงแม้ทรัพยากรจะสามารถช่วยเหลือคนในตระกูลได้ แต่มันจะต้องมากมายขนาดไหนกัน ถึงจะเพียงพอสำหรับทุกๆ คน
“สวรรค์……!!”
หลังจากที่เขาตรวจสอบภายในถุงจักรวาล ใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนแปลไปอย่างมาก เมื่อเขาตรวจสอบมันอย่างละเอียด
เขาพบว่า ภายในถุงจักรวาลนั้นมีทั้งยาขั้นกำเนิดวิญญาณนับหมื่น และยังมีลูกแก้วขั้นกำเนิดวิญญาณอีกนับพัน อีกทั้งยามียาขั้นแก่นแท้วิญญาณปะปนอยู่ในนั้นอีกมากมาย เมื่อเห็นเช่นนั้น เขาก็ตกตะลึงเป็นอย่างมาก เพราะเขาไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยว่า ตระกูลของเขาจะได้ครอบครองทรัพยากรที่มากมายเช่นนี้
ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในตอนนี้ ‘ชู กู่หยู’ ทำได้เพียงส่ายศรีษะ และระบายลมหายใจออกมาด้วยความผ่อนคลาย พร้อมทั้งกล่าวออกมาว่า
“นี่แสดงว่าน้องชายของข้าเติบโตขึ้นมากจริงๆ”
แปลโดยคุณ#
นึกว่าจะกลายเป็นคนพิการจริงๆไปซะแล้ว . . . .
หายสงสาร ชู กู่ยู่ กันแล้วสินะ . . . .
งั้นไปว่ากันต่อที่งานประลองกันเลย . . . . . .
ที่มา: